เชื่อไหมครับว่าในจำนวนเงินเท่า ๆ กัน
สมมุติว่า 10,000 บาท เวลาเราเสียมันไป
มันจะมีความรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าความดีใจที่ได้มันมา !!!
เราเรียกสิ่งนี้ว่า Loss aversion ครับ
มีงานวิจัยหลายงานได้ประมาณว่าความเจ็บปวดจากการสูญเสียนั้น
มีขนาดถึงประมาณ 2 เท่ากับ ความสุขจากการได้มาในจำนวนเงินที่เท่ากัน
แปลว่าถ้าเสียเงินไป 10,000 บาท จะเอาความสุขมาชดเชยได้ ก็ต้องได้เงินมา 20,000 บาท ทีเดียว !!!
คำว่า Loss aversion มีที่มาจาก 2 กูรู คนสำคัญ ในเรื่องความลำเอียงในการตัดสินใจ ได้แก่
Amos Tversky และ Daniel Kahneman
คนทั่วไปมีลักษณะของการกลัวความสูญเสียนี่แหละครับ
ที่เป็นที่มา ที่คนทั่วไปไม่กล้าเสี่ยง เพราะถ้าไม่เสี่ยง
ก็จะไม่มีทางเสีย แต่ถ้าเสี่ยง มันมีโอกาสเสียขึ้น
ถ้าสมมุติว่าโอกาสได้พอ ๆ กับโอกาสเสีย
คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้า
เพราะเวลาเสียมันเจ็บปวดกว่านี่เอง !
สังเกตไหมครับเวลาเล่นหุ้น เมื่อเสียเงินไป เรามักจะเจ็บใจและมักจะพยายามเอาคืน
ทั้ง ๆ ที่เงินจำนวนนั้นเมื่อวันก่อนเราก็ได้มาเหมือนกัน เราก็ไม่เห็นจะดีใจอะไรมากมาย
ก่อนที่เราจะหน้ามืดตามัว ลองไตร่ตรองดูสักนิดนะครับว่า
เรามีลักษณะนี้อยู่หรือเปล่าครับ
ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับความลำเอียงในการตัดสินใจได้ที่
https://www.facebook.com/DataAnalysisforDecisionMaking/
ความลำเอียงในการตัดสินใจลงทุน: “เสีย” มันเจ็บปวดมากกว่า “ได้” (Loss aversion)
สมมุติว่า 10,000 บาท เวลาเราเสียมันไป
มันจะมีความรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าความดีใจที่ได้มันมา !!!
เราเรียกสิ่งนี้ว่า Loss aversion ครับ
มีงานวิจัยหลายงานได้ประมาณว่าความเจ็บปวดจากการสูญเสียนั้น
มีขนาดถึงประมาณ 2 เท่ากับ ความสุขจากการได้มาในจำนวนเงินที่เท่ากัน
แปลว่าถ้าเสียเงินไป 10,000 บาท จะเอาความสุขมาชดเชยได้ ก็ต้องได้เงินมา 20,000 บาท ทีเดียว !!!
คำว่า Loss aversion มีที่มาจาก 2 กูรู คนสำคัญ ในเรื่องความลำเอียงในการตัดสินใจ ได้แก่
Amos Tversky และ Daniel Kahneman
คนทั่วไปมีลักษณะของการกลัวความสูญเสียนี่แหละครับ
ที่เป็นที่มา ที่คนทั่วไปไม่กล้าเสี่ยง เพราะถ้าไม่เสี่ยง
ก็จะไม่มีทางเสีย แต่ถ้าเสี่ยง มันมีโอกาสเสียขึ้น
ถ้าสมมุติว่าโอกาสได้พอ ๆ กับโอกาสเสีย
คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้า
เพราะเวลาเสียมันเจ็บปวดกว่านี่เอง !
สังเกตไหมครับเวลาเล่นหุ้น เมื่อเสียเงินไป เรามักจะเจ็บใจและมักจะพยายามเอาคืน
ทั้ง ๆ ที่เงินจำนวนนั้นเมื่อวันก่อนเราก็ได้มาเหมือนกัน เราก็ไม่เห็นจะดีใจอะไรมากมาย
ก่อนที่เราจะหน้ามืดตามัว ลองไตร่ตรองดูสักนิดนะครับว่า
เรามีลักษณะนี้อยู่หรือเปล่าครับ
ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับความลำเอียงในการตัดสินใจได้ที่ https://www.facebook.com/DataAnalysisforDecisionMaking/