Underworld: Blood Wars (ไม่สปอยเนื้อหาสำคัญ)
.
ภาคต่อของภาพยนตร์แอคชั่นสยองขวัญของแฟรนไชส์ชุด Underworld สงครามล่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างเหล่าแวมไพร์และมนุษย์หมาป่าไลเค่น เรื่องราวหลังจากที่เซลีน (Kate Beckinsale) นักฆ่าเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่กำลังสืบหาลูกสาวของตน จนต้องเผชิญหน้ากับผู้นำเผ่าพันธุ์ไลแคนผู้ทรงพลังอีกทั้งต้องยับยั้งสงครามครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่และรุนแรงกว่าเดิม กำกับภาพยนตร์โดย Anna Foerster (Criminal Minds (2009))
.
ภาพยนตร์แอคชั่นสยองขวัญที่ในภาคนี้ดำเนินเรื่องราวมาเป็นภาคที่ 5 และดำเนินเนื้อหาต่อเนื่องจากภาคก่อน Underworld: Awakening (2012) โดยทันที ตัวหนังบอกเล่าเนื้อหาย้อนหลังทั้งหมดตั้งแต่ช่วงต้น ซึ่งผู้ชมที่ไม่เคยชมทั้ง 4 ภาคก่อนหน้านั้นก็สามารถรับรู้เรื่องราวในภาคนี้ได้อย่างไม่เสียอรรถรส การบอกเล่าเนื้อหาในภาคนี้มีความกระฉับกระเฉง รวบรัด ตรงไปตรงมา แต่ก็คงความต่อเนื่องของเนื้อหาและความแปลกใหม่ได้อย่างดี ด้านงานภาพตัวหนังยังคงความดิบเถื่อนและความงดงามภายใต้โทนหนังที่มืดหม่นได้อย่างดีเช่นเคย อีกทั้งฉากแอคชั่นยังคงความบู๊ระห่ำแม้จะมีฉากเท่ห์ๆที่อาจเทียบภาคก่อนๆได้ยาก แต่ Kate Beckinsale หรือเซลีนตัวละครหลักของเรื่องก็ยังพรั่งพรูไปด้วยเสน่ห์ สามารถขับเคลื่อนเรื่องราวได้อย่างน่าติดตาม ก่อนนำเข้าสู่บทสรุปในช่วงท้ายที่ชวนตื่นตาและอาจขยายเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และแปลกใหม่มากขึ้นเข้าไปได้อีกครับ
.
My Score : 7.5/10
[CR] Underworld: Blood Wars (ไม่สปอยเนื้อหาสำคัญ)
.
ภาคต่อของภาพยนตร์แอคชั่นสยองขวัญของแฟรนไชส์ชุด Underworld สงครามล่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างเหล่าแวมไพร์และมนุษย์หมาป่าไลเค่น เรื่องราวหลังจากที่เซลีน (Kate Beckinsale) นักฆ่าเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่กำลังสืบหาลูกสาวของตน จนต้องเผชิญหน้ากับผู้นำเผ่าพันธุ์ไลแคนผู้ทรงพลังอีกทั้งต้องยับยั้งสงครามครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่และรุนแรงกว่าเดิม กำกับภาพยนตร์โดย Anna Foerster (Criminal Minds (2009))
.
ภาพยนตร์แอคชั่นสยองขวัญที่ในภาคนี้ดำเนินเรื่องราวมาเป็นภาคที่ 5 และดำเนินเนื้อหาต่อเนื่องจากภาคก่อน Underworld: Awakening (2012) โดยทันที ตัวหนังบอกเล่าเนื้อหาย้อนหลังทั้งหมดตั้งแต่ช่วงต้น ซึ่งผู้ชมที่ไม่เคยชมทั้ง 4 ภาคก่อนหน้านั้นก็สามารถรับรู้เรื่องราวในภาคนี้ได้อย่างไม่เสียอรรถรส การบอกเล่าเนื้อหาในภาคนี้มีความกระฉับกระเฉง รวบรัด ตรงไปตรงมา แต่ก็คงความต่อเนื่องของเนื้อหาและความแปลกใหม่ได้อย่างดี ด้านงานภาพตัวหนังยังคงความดิบเถื่อนและความงดงามภายใต้โทนหนังที่มืดหม่นได้อย่างดีเช่นเคย อีกทั้งฉากแอคชั่นยังคงความบู๊ระห่ำแม้จะมีฉากเท่ห์ๆที่อาจเทียบภาคก่อนๆได้ยาก แต่ Kate Beckinsale หรือเซลีนตัวละครหลักของเรื่องก็ยังพรั่งพรูไปด้วยเสน่ห์ สามารถขับเคลื่อนเรื่องราวได้อย่างน่าติดตาม ก่อนนำเข้าสู่บทสรุปในช่วงท้ายที่ชวนตื่นตาและอาจขยายเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และแปลกใหม่มากขึ้นเข้าไปได้อีกครับ
.
My Score : 7.5/10