[CR] ว่าด้วยเรื่องฟิลเลอร์..

สวัสดีค่ะชื่อจิ๊บนะคะ
เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ คนหนึ่งค่ะ อยากมาเล่าประสบการณ์ความพยายามสวยและตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองได้เจอการทำสวยที่ใช่แล้วค่ะ
จิ๊บเป็นคนหน้าตาธรรมดาๆค่ะ ไม่ได้ขี้เหล่ แต่ไม่ได้สวยเลิศเลอ แต่จิ๊บชอบดูแลตัวเองมีความฝันว่าอยากสวยสุขภาพดี เวลาดูละคร ดูทีวี จิ๊บก็รู้สึกว่า ทำไมดาราสวยสดใสธรรมชาติจังอยากได้แบบนี้บ้าง เราก็ไปเหมาซื้อครีม ซื้ออะไรมาทาอย่างเค้า มันก็ไม่ได้ดั่งใจสักที เค้าว่าอะไรดีก็ทำตามไปหมด
จิ๊บอยากศัลยกรรมนะคะ อยากทำจมูก อยากทำคาง แต่ศึกษาไปเรื่อยๆก็กลัว เพราะจิ๊บเป็นคนออกกำลังกาย มีกิจกรรมมากมายที่ชอบทำ ไอ่เราก็กลัวว่า ทำมาแล้วจะทำกิจกรรมเดิมได้มั๊ยบ้าง ทำมาแล้วมันจะทะลุมั๊ย แล้วอีกอย่าง กระแสความสวยนี่ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆเลย เดี๋ยวจมูกหยดน้ำบ้าง จมูกบาร์บี้บ้าง ซึ่งถ้าเราทำไปเนี่ย ก็ต้องมานั่งกังวล เดี๋ยวถอดเค้า เหลาออก หลังทำก็ต้องพักกันยาวๆ หน้าบวมตาบวม จิ๊บว่ามันยุ่งยากไปนิดนึงค่ะ แล้วจิ๊บคิดว่าอะไรที่มันไม่ใช่ของในร่างกายแล้วเราเอาไปใส่ในร่างกายมันก็จะมีผลเสียในอนาคตแน่นอนน่ากลัวค่ะ อีกอย่างกัวทำไปแล้วไม่เหมาะกับเราคนอื่นดูสวย แต่พอมาอยู่กับเราจะสวยมั๊ยก็ไม่รู้
จนมาวันหนึ่งจิ๊บเห็นข่าวการฉีดฟีลเลอร์ค่ะ ฉีดแล้วตาบอดบ้าง ฉีดแล้วต้องไปขูดออกบ้างจิ๊บเลยสนใจในผลิตถัณฑ์ตัวนี้ค่ะเลยลองเข้าไปอ่านดู ซึ่งจริงๆไอ้ฟีลเลอร์อะไรเนี่ยมันเป็นสารที่อยู่ในร่างกายเราอยู่แล้ว เพียงแต่มันหายไปเรื่อยๆตามกาลเวลาเพราะฉะนั้นมันก็เลยชื่อว่าฟีลเลอร์หรือภาษาไทยเรียกว่าการเติมเต็ม ยิ่งอ่านก็ยิ่งสงสัยค่ะ แล้วทำไมข่าวที่ออกมาถึงดูน่ากลัวได้ทั้งๆที่เราแค่ฉีดสารจากร่างกายเราเพิ่มเติมเอง เจาะข้อมูลลึกๆจริงๆคือ คนฉีดไปฉีดกับหมอเถื่อน ไปฉีดคลินิกถูกๆ ซึ่งคนพวกนี้ชอบผสมสารอื่นลงไป ทำให้มันเน่า และเจอหมอที่ไม่เชี่ยวชาญฉีดไปโดนเส้นเลือดบ้างทำให้ตาบอด จิ๊บเลยหาข้อมูลต่อค่ะ

แต่พอจิ๊บหาข้อมูลไปเรื่อยๆ จิ๊บค่อนข้างอยากฉีดฟีลเลอร์นะ อันดับแรกเลยเพราะเป็นสารที่อยู่ในร่างกายเราอยู่แล้วเราก็แค่เลือกหมอที่ฉีดเป็น หมอที่ไม่เถื่อน คลินิกที่ดี ก็พอ สองค่ะจิ๊บไปอ่านมาว่าฟีลเลอร์เนี่ยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้ด้วยนะคะคือเหมือนเป็นการบำรุงทางอ้อมค่ะ สามค่ะอย่างที่จิ๊บบอกเดี๋ยวนี้เทรนความสวยมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆอ่ะ ไอเจ้าฟีลเลอร์ตัวนี้มันสลายไปตามกาลเวลาเพราะฉะนั้นถ้าเทรนเปลี่ยนจิ๊บก็เปลี่ยนที่ฉีด ไม่ต้องเสียเวลาไม่ต้องเจ็บตัวไปเอาออกค่ะ
หลังจากนั้นจิ๊บก็เริ่มหาคลินิกดีๆค่ะ ถามว่าหวั่นใจมั๊ยกลัวมั๊ยก็นิดนึงนะคะ เพราะเราก็ไม่รุอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เพราะฉะนั้นหมอสำคัญค่ะจิ๊บตั้งใจแล้วว่าจะขอเป็นหมอที่ผ่านการฝึกมาแล้วมีประสบการณ์ และหมอที่มีศิลปะค่ะเพราะมันก็เหมือนงานศิลปะในการปั้นหน้าคนๆนึงขึ้นมาค่ะ หลังจากการค้นหาไปสักพักจิ๊บก็เจอค่ะหมอชื่อ หมออู๋ อรเกษ (ขออนุญาติคุณหมอมาลงแล้วนะคะ) หมอวิเคราะห์หน้าจิ๊บเร็วมาก หมอบอกว่าจิ๊บมีหน้าที่ยาวแต่ไม่มีมิติ ต้องเติมแก้มส้ม(โหนกแก้ม) แล้วฉีดบริเวณแก้ม เพื่อให้ดูแก้มตอบลง (ดีใจมากค่ะประหยัดเวลาประหยัดเงินในการคอนทัวร์หน้าไปอีก) หมอยังบอกอีกว่าหน้ายาวไปนิดต้องปั้นคางขึ้นมาหน่อยจะได้ดูสั้นลงสมส่วนค่ะ เหมือนเป็นการปั้นหน้าใหม่เลยค่ะ แอบถามหมอว่าทำไมไม่ฉีดจมูก หมอบอกว่าจมูกกอันตรายค่ะเส้นเลือดเยอะเสี่ยงตาบอด ตอนแรกจิ๊บกังวลเรื่องคนจะทักว่าไปทำมาเยอะ หมออู๋บอกว่าไม่ต้องห่วงค่ะฟีลเลอร์เป็นอะไรที่สวยธรรมชาติมาก ถ้ามีคนทักหมอจะคืนเงินให้ค่ะ 5555
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม จากการกลัวของเราค่ะ จิ๊บถามคุณหมอตรงๆเลยว่าคุณหมอใช้ฟีลเลอร์ยี่ห้ออะไร (คือจิ๊บกัวเค้าเอาไปผสมซี้ซั้ว) หมออู๋ถือกล่องมาให้ดูเลยค่ะเป็นยี่ห้อ เพอร์เฟคต้าซึ่งจิ๊บได้ทำการค้นคว้ามาบางส่วนทำให้รู้ว่ายี่ห้อนี้ก็ดี ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ดังอยู่ในฝรั่งเศษ หลังจากแปะยาชา จิ๊บจ้องเลยค่ะว่าหมอจะแกะใช้ให้เห็นจริงๆ ไม่ได้แอบเอาแค่กล่องมาให้ (กลัวของไม่ดีจริงๆค่ะ) หมออู๋ก็แกะให้ดู สบายใจแล้วค่ะ
หลังจากนั้นหมออู๋ก็เริ่มลงมือเลยค่ะเริ่มที่แก้มส้ม ไปแก้มตอบ แล้วก็คาง ฉีดไปปั้นไปดูง่ายมากค่ะ หมอบอกว่าเท่าที่ทำมายี่ห้อนี้ปั้นง่ายสุด เป็นธรรมชาติมากสุด (เอาตรงๆไม่รู้ว่าดีจริงมั๊ยเหมือนกันค่ะตื่นเต้นมากอยากเห็นผลลัพธ์)
หลังจากทำเสร็จค่ะ หมอให้ส่องกระจก เราตกใจเลยค่ะ เห้ยยยยยยยยยยยยย เนี่ยแหล่ะคือสิ่งที่จิ๊บต้องการค่ะ ตอบโจทย์มากๆ อย่างที่บอกจิ๊บไม่ได้อยากเป็นคนสวยเทียมดาราค่ะ จิ๊บอยากได้แบบนี้ ธรรมาชาติมีมิติและดูสมส่วนดูมีมิติ แค่เติมส่วนที่เราต้องเติมค่ะ สิ่งสำคัญเลยที่จิ๊บประทับใจคือไม่บวมเลยค่ะ แถมเห็นผลเลย วันรุ่งขึ้นก็ไปทำงานไปออกกำลังกายตามปกติได้เรย

การที่เราชมตัวเองว่าสวย มองในกระจกแล้วรู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้น จิ๊บว่ามันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของผู้หญิงจริงๆนะคะ แต่ถ้าหากมีคนอื่นมาชมด้วยมันก็จะสุขใจยิ่งกว่า (555555555 ไม่ได้เสียตังค์ฟรีแล้วเว่ย) ค่ะ หลังจากนั้นจิ๊บไปเจอเพื่อนบ้าง เจอใครต่อใครก็ทักว่าไปทำอะไรมาสวยขึ้น โดยไม่มีใครรู้เลยค่ะว่าจิ๊บไปทำอะไรมา ไม่มีใครดูออกว่าเป็นฟีลเลอร์รู้แต่ว่าสวยขึ้น ถามแต่ว่าใช้ครีมอะไร (เดี๋ยวทำครีมขายซะนี่ แต่เสียดายไม่มีนมให้โชว์) ประทับใจมากๆตรงที่มันดูเป็นธรรมชาติอย่างที่หมอพูดจริงๆ (อดได้เงินคืนเลย)

ถ้าใครนึกไม่ออกว่าสวยสมส่วนดูเป็นธรรมชาตินี่มันแบบไหนกันนะ ให้ไปดูเรื่องแฟนเดย์ค่ะ นั่นแหล่ะค่ะแบบนางเอกเลย ธรรมชาติไม่แต่งหน้าก็สวยผิวดี (เราไม่ได้บอกว่านางเอกฉีดนะอันนี้เราไม่รู้ เราแค่บอกว่าสวยในลักษณะสดใสเป็นธรรมชาติ)

ตอนนี้ผ่านมา 4 อาทิตย์แล้วค่ะ ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรที่เชิงลบเลย ไม่เบี้ยว ออกกำลังกายแบบไม่กลัว คนทักว่าสวยหน้าดูเด็กลงเหมือนผิวมีน้ำมีนวล ทุกวันนี้ไม่ต้องคอนทัวแล้วค่ะจากที่เคยฝันไว้ว่าอยากแบบตื่นมาแล้วสวยเลย ทำได้แล้วค่ะ เพ้นท์คิ้วนิดติดขนตาปลอมหน่อย โอ้ยยยย เพิ่มเวลานอนได้อีกเยอะค่ะ(ซึ่งดีต่อสุขภาพด้วย) ประทับใจจริงๆค่ะ

รูปนี้เพ้นท์คิ้วที่ร้าน Tingle แถวเซนทรัลชิดลมค่ะ อ.เพ้นท์ได้สวยธรรมชาติมากไม่ดำเกินไป สัดส่วนพอดีกับหน้าแต่ละคน ส่วนขนตาสวยธรรมชาติที่ร้าน claire ขนตาที่เซนทรัลชิดลมอยู่ได้นานมากไม่ดูยาวไปค่ะ

จิ๊บว่าผู้หญิงทุกคนอยากสวยนะคะ สวยไปเถอะค่ะ สวยในแบบที่เราเป็นเรา ไม่ต้องสวยเหมือนใคร เลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเอง จิ๊บบอกเลยค่ะว่าทำพวกนี้ต้องเสียเงินเยอะอยู่แล้ว แต่จิ๊บว่าเสียไปเถอะค่ะเอาความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี
อยากให้ผู้หญิงทุกคนสวยสุขภาพดีในแบบที่ตัวเองเป็นค่ะ ^^
ชื่อสินค้า:   Filler
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่