สำหรับแฟนคลับของค่ายหนังชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นอย่างสตูดิโอจิบลิ สิ่งที่ห้ามพลาดก็คือการได้ไปเยือน Ghibli Museum หนึ่งในผลงานนอกจอภาพยนตร์ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิดูสักครั้ง
ใครที่ไม่ได้เป็นแฟนของค่ายนี้ขออนุญาตแนะนำ ในส่วนของค่า สตูดิโอจิบลิ เป็นค่ายภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ถูกยกให้เป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย มีผลงานที่โด่งดังอย่าง My Neighbor Totoro ที่ต่อมาตัวการ์ตูนโทโทโร่ได้รับความนิยมจนถูกนำมาเป็นมาสค็อตของค่าย แต่ผลงานชิ้นโบว์แดงของค่านี้คือ Spirited Away ที่รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมในปี 2002 (ตัวละครผีไร้หน้าที่ น้องเหมิงเหมิง แต่งไปโรงเรียนจนฮือฮาไปทั่วโลกโซเชี่ยลช่วงฮาโลวีนที่ผ่านมาอยู่ในหนังเรื่องนี้) แถมยังเป็นหนังอนิเมะที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ปัจจุบัน ฮายาโอะ มิยาซากิ ประกาศว่าจิบลิจะพักการทำหนังไปชั่วคราว ผลงานล่าสุดที่ฝากไว้คือ When Marnie Was There ในปี 2014

กลับมาที่ทริปเที่ยว Ghibli Museum กันต่อ การจะมาที่นี่ไม่ใช่จู่ๆก็มาได้เลย เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จำกัดจำนวนผู้เข้าชมแต่ละวัน โดยแบ่งออกเป็น 4 รอบคือ 10:00 , 12:00 , 14:00 และ 16:00 ส่วนตั๋วเข้าชมก็ไม่มีขายหน้างาน ต้องจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์(ตั๋วเต็มเร็วเพราะคนญี่ปุ่นก็ชอบพาเด็กๆมาเที่ยวที่นี่)ผ่านเว็บไซต์ทางการของพิพิธภัณฑ์ ราคาบัตรผู้ใหญ่ 1,000เยน นักเรียนม.ต้น ม.ปลาย 700เยน นักเรียนประถม 400เยน เด็กเล็ก 4ขวบขึ้นไป 100เยน เด็กอายุน้อยกว่า 4 ขวบเข้าฟรี
ผมจองได้รอบสี่โมงเย็น พิพิธภัณฑ์จิบลิ ตั้งอยู่ที่เมืองมิทากะ ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณเกือบชั่วโมง ออกจากสถานีรถไฟฮาราจุกุประมาณบ่าย2โมงกว่าๆ นั่งสาย Chuo มาถึงสถานีมิทากะเกือบๆบ่ายสามโมง จากตอนแรกที่กะว่าจะเดินไป เลยตัดสินใจออกทางประตูทิศใต้ขึ้นรถบัสตรงป้ายรถเมล์ที่มีสัญลักษณ์ของจิบลิแทน ราคาค่าโดยสารคนละ200เยน (รถบัสที่นี่ราคาแพงกว่ารถไฟ) ไม่ถึง10นาทีก็มาถึง Ghibli Museum ถ้าเดินก็เหนื่อยอยู่
รถจอดเลยพิพิธภัณฑ์จิบลินิดหน่อย เดินย้อนไปเจอสวนข้างๆมิวเซียม หลังจากถ่ายรูปเล่นบริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์สักพักก็ได้ยินเสียงเรียกผู้ชมรอบเวลา16.00น. เข้าก่อนเวลานิดหน่อย
แม้จะมีการจัดชมเป็นรอบ แต่ก็ไม่มีพนักงานนำชม เราต้องเดินดูข้างในด้วยตัวเอง ที่นี่มีกฏว่ารอบๆด้านนอกอาคารสามารถถ่ายรูปได้ แต่ด้านในห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด โดยมีพนักงานชุดฟ้ากระจายตัวตามจุดต่างๆคอยจับตาผู้ชมไม่ให้ลั่นชัตเตอร์(แน่นอนว่าก็มีบางคนแอบถ่ายได้อยู่ดี)
ก่อนเข้าชมใครมีของเยอะสามารถเอาไปฝากในล็อกเกอร์ได้ จากนั้นก็เดินชมส่วนต่างๆไล่ตั้งแต่ข้างล่างขึ้นไปขนถึงชั้นดาดฟ้า ไฮไลต์ของด้านในคือการเดินบันไดวนขึ้นจากชั้นหนึ่งมาชั้นสาม ส่วนใหญ่ข้างในจะเป็นการนำเสนอเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ในหลายๆขั้นตอนหลายๆรูปแบบ
ที่นี่เด็กมาได้ ผู้ใหญ่มาดี ผู้เข้าชมแบ่งเป็นคนญี่ปุ่น70% นักท่องเที่ยวต่างชาติ30% แต่ไม่ค่อยมีคนแก่ ด้วยความที่จำกัดจำนวนผู้ชมไม่ให้เต็มเกินไป ใครจะมาดูต้องจองตั๋วล่วงหน้าข้ามเดือน โดยเฉพาะหากตรงกับเสาร์อาทิตย์ เพื่อนผมบอกว่าแม้แต่คนญี่ปุ่นหลายๆคนก็ยังไม่มีโอกาสเข้ามาชมเลย
ส่วนตัวชอบหนังของค่ายนี้อยู่แล้ว ที่นี่จึงเป็นไฮไลต์ของผมในการมาเยือนญี่ปุ่น ช็อปขายของที่ระลึกของที่นี่เป็นไม่กี่จุดในญี่ปุ่นที่ผมเสียเงินให้เยอะมาก
ปิดท้ายด้วยการลงมาชมอนิเมชั่นขนาดสั้นในโรงภาพยนตร์เล็กๆของจิบลิ โดยมีการแจกฟิล์มของหนังในค่ายให้กับผู้ชมทุกคนด้วย หนังที่ผมดูเป็นเรื่องของตายายกับหนู ไม่รู้ว่าตอนนี้เปลี่ยนเรื่องหรือยัง มันสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนได้ดี ปิดท้ายการเข้าชมได้ฟินสุดๆ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณเกือบ2ชั่วโมง ทางออกมีทางเดียวต้องผ่านค่าเฟ่ของจิบลิ เราไม่ได้แวะ ตั้งใจจะเดินกลับสถานีเพราะอากาศเย็นสบาย ถนนก็เงียบสงบ เป็นย่านบ้านคนที่สวยงาม น่าเดิน
ก่อนจากเราไม่ลืมที่จะชักภาพร่วมกับโตโตโร่ที่ประตูหน้า (เนื่องจากเรามารถบัสที่จอดเลยพิพิธภัณฑ์ไปอีกด้าน เลยไม่ได้เจอมาสค็อตประจำค่ายที่อยู่อีกฟาก ถ้าใครเดินมาจะพบเจ้าโทโทโร่ก่อน)
Ghibli Museum มีกฏว่าห้ามถ่ายรูปด้านในอาคารอยากให้ทุกคนช่วยกันเคารพกฏด้วยนะครับ ส่วนการเข้าชมอย่าไปสายเด็ดขาด คนญี่ปุ่นตรงเวลามาก และหากไม่เข้าชมภายใน 30 นาทีนับจากเวลาเริ่มของรอบจะถูกตัดสิทธิ์การเข้าชมทันที
กัปตันฮุก เพจ กินเที่ยว พักผ่อน แบบคนรุ่นใหม่
https://www.facebook.com/Eatplayleave
รีวิว เที่ยว Ghibli Museum พิพิธภัณฑ์อนิเมะสุดน่ารักของค่ายหนังสตูดิโอจิบลิ
สำหรับแฟนคลับของค่ายหนังชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นอย่างสตูดิโอจิบลิ สิ่งที่ห้ามพลาดก็คือการได้ไปเยือน Ghibli Museum หนึ่งในผลงานนอกจอภาพยนตร์ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิดูสักครั้ง
ใครที่ไม่ได้เป็นแฟนของค่ายนี้ขออนุญาตแนะนำ ในส่วนของค่า สตูดิโอจิบลิ เป็นค่ายภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ถูกยกให้เป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย มีผลงานที่โด่งดังอย่าง My Neighbor Totoro ที่ต่อมาตัวการ์ตูนโทโทโร่ได้รับความนิยมจนถูกนำมาเป็นมาสค็อตของค่าย แต่ผลงานชิ้นโบว์แดงของค่านี้คือ Spirited Away ที่รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมในปี 2002 (ตัวละครผีไร้หน้าที่ น้องเหมิงเหมิง แต่งไปโรงเรียนจนฮือฮาไปทั่วโลกโซเชี่ยลช่วงฮาโลวีนที่ผ่านมาอยู่ในหนังเรื่องนี้) แถมยังเป็นหนังอนิเมะที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ปัจจุบัน ฮายาโอะ มิยาซากิ ประกาศว่าจิบลิจะพักการทำหนังไปชั่วคราว ผลงานล่าสุดที่ฝากไว้คือ When Marnie Was There ในปี 2014
กลับมาที่ทริปเที่ยว Ghibli Museum กันต่อ การจะมาที่นี่ไม่ใช่จู่ๆก็มาได้เลย เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จำกัดจำนวนผู้เข้าชมแต่ละวัน โดยแบ่งออกเป็น 4 รอบคือ 10:00 , 12:00 , 14:00 และ 16:00 ส่วนตั๋วเข้าชมก็ไม่มีขายหน้างาน ต้องจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์(ตั๋วเต็มเร็วเพราะคนญี่ปุ่นก็ชอบพาเด็กๆมาเที่ยวที่นี่)ผ่านเว็บไซต์ทางการของพิพิธภัณฑ์ ราคาบัตรผู้ใหญ่ 1,000เยน นักเรียนม.ต้น ม.ปลาย 700เยน นักเรียนประถม 400เยน เด็กเล็ก 4ขวบขึ้นไป 100เยน เด็กอายุน้อยกว่า 4 ขวบเข้าฟรี
ผมจองได้รอบสี่โมงเย็น พิพิธภัณฑ์จิบลิ ตั้งอยู่ที่เมืองมิทากะ ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณเกือบชั่วโมง ออกจากสถานีรถไฟฮาราจุกุประมาณบ่าย2โมงกว่าๆ นั่งสาย Chuo มาถึงสถานีมิทากะเกือบๆบ่ายสามโมง จากตอนแรกที่กะว่าจะเดินไป เลยตัดสินใจออกทางประตูทิศใต้ขึ้นรถบัสตรงป้ายรถเมล์ที่มีสัญลักษณ์ของจิบลิแทน ราคาค่าโดยสารคนละ200เยน (รถบัสที่นี่ราคาแพงกว่ารถไฟ) ไม่ถึง10นาทีก็มาถึง Ghibli Museum ถ้าเดินก็เหนื่อยอยู่
รถจอดเลยพิพิธภัณฑ์จิบลินิดหน่อย เดินย้อนไปเจอสวนข้างๆมิวเซียม หลังจากถ่ายรูปเล่นบริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์สักพักก็ได้ยินเสียงเรียกผู้ชมรอบเวลา16.00น. เข้าก่อนเวลานิดหน่อย
แม้จะมีการจัดชมเป็นรอบ แต่ก็ไม่มีพนักงานนำชม เราต้องเดินดูข้างในด้วยตัวเอง ที่นี่มีกฏว่ารอบๆด้านนอกอาคารสามารถถ่ายรูปได้ แต่ด้านในห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด โดยมีพนักงานชุดฟ้ากระจายตัวตามจุดต่างๆคอยจับตาผู้ชมไม่ให้ลั่นชัตเตอร์(แน่นอนว่าก็มีบางคนแอบถ่ายได้อยู่ดี)
ก่อนเข้าชมใครมีของเยอะสามารถเอาไปฝากในล็อกเกอร์ได้ จากนั้นก็เดินชมส่วนต่างๆไล่ตั้งแต่ข้างล่างขึ้นไปขนถึงชั้นดาดฟ้า ไฮไลต์ของด้านในคือการเดินบันไดวนขึ้นจากชั้นหนึ่งมาชั้นสาม ส่วนใหญ่ข้างในจะเป็นการนำเสนอเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ในหลายๆขั้นตอนหลายๆรูปแบบ
ที่นี่เด็กมาได้ ผู้ใหญ่มาดี ผู้เข้าชมแบ่งเป็นคนญี่ปุ่น70% นักท่องเที่ยวต่างชาติ30% แต่ไม่ค่อยมีคนแก่ ด้วยความที่จำกัดจำนวนผู้ชมไม่ให้เต็มเกินไป ใครจะมาดูต้องจองตั๋วล่วงหน้าข้ามเดือน โดยเฉพาะหากตรงกับเสาร์อาทิตย์ เพื่อนผมบอกว่าแม้แต่คนญี่ปุ่นหลายๆคนก็ยังไม่มีโอกาสเข้ามาชมเลย
ส่วนตัวชอบหนังของค่ายนี้อยู่แล้ว ที่นี่จึงเป็นไฮไลต์ของผมในการมาเยือนญี่ปุ่น ช็อปขายของที่ระลึกของที่นี่เป็นไม่กี่จุดในญี่ปุ่นที่ผมเสียเงินให้เยอะมาก
ปิดท้ายด้วยการลงมาชมอนิเมชั่นขนาดสั้นในโรงภาพยนตร์เล็กๆของจิบลิ โดยมีการแจกฟิล์มของหนังในค่ายให้กับผู้ชมทุกคนด้วย หนังที่ผมดูเป็นเรื่องของตายายกับหนู ไม่รู้ว่าตอนนี้เปลี่ยนเรื่องหรือยัง มันสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนได้ดี ปิดท้ายการเข้าชมได้ฟินสุดๆ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณเกือบ2ชั่วโมง ทางออกมีทางเดียวต้องผ่านค่าเฟ่ของจิบลิ เราไม่ได้แวะ ตั้งใจจะเดินกลับสถานีเพราะอากาศเย็นสบาย ถนนก็เงียบสงบ เป็นย่านบ้านคนที่สวยงาม น่าเดิน
ก่อนจากเราไม่ลืมที่จะชักภาพร่วมกับโตโตโร่ที่ประตูหน้า (เนื่องจากเรามารถบัสที่จอดเลยพิพิธภัณฑ์ไปอีกด้าน เลยไม่ได้เจอมาสค็อตประจำค่ายที่อยู่อีกฟาก ถ้าใครเดินมาจะพบเจ้าโทโทโร่ก่อน)
Ghibli Museum มีกฏว่าห้ามถ่ายรูปด้านในอาคารอยากให้ทุกคนช่วยกันเคารพกฏด้วยนะครับ ส่วนการเข้าชมอย่าไปสายเด็ดขาด คนญี่ปุ่นตรงเวลามาก และหากไม่เข้าชมภายใน 30 นาทีนับจากเวลาเริ่มของรอบจะถูกตัดสิทธิ์การเข้าชมทันที
กัปตันฮุก เพจ กินเที่ยว พักผ่อน แบบคนรุ่นใหม่ https://www.facebook.com/Eatplayleave