เราลืมหวีทิ้งไว้ที่บ้าน เป็นหวีอันโปรดเลย เราทำงานต่างจังหวัด กว่าจะได้กลับบ้านอีกทีคงร่วมเดือน
พอดีแถวที่ทำงานมีงานเกษตรแฟร์ค่ะ เลยตั้งใจว่าจะหาซื้อหวีมาแทนอันเก่า ก็เลือกว่าจะซื้อหวีไม้ดีๆ สักอัน
ก็เดินๆ จนทั่วงานไปเจอร้านนึง เขาขายหวีที่ทำจากไม้ต่างๆ รวมถึงหวีที่ทำจากเขาควายด้วย
คนขายก็บอกสรรพคุณของหวีเขาควายให้ฟัง ดีอย่างโน้น อย่างนี้ แล้วบอกเดี๋ยวนี้หาซื้อยากแล้วนะ
ตอนนั้นเราก็ไม่รู้คิดอะไร ก็ซื้อหวีเขาควายมาอันนึง เป็นหวีสีดำเงา ราคาเกือบสามร้อย ซื้อพร้อมกับหวีไม้ธรรมดามาอันนึง ราคา 90 บาท
ตอนซื้อก็กังวลนะ เพราะเราไม่ทานเนื้อควายเนื้อโคอยู่แล้ว ไปซื้อเขาเขามา จะดีหรือเปล่า...
มาถึงห้องทำงาน ก็แกะหวีเขาควายออกจากซอง ว่าจะเอามาลอง เพราะวันนั้นทั้งวันไม่ได้หวีผมเลย
พอเอาออกจากซองเท่านั้น กลิ่นเหม็นสาบแรงมากกกกก
เหมือนกลิ่นสาบๆ สัตว์เน่าๆ น่ะค่ะ กลิ่นคล้ายๆ จะติดมือเลยค่ะ
เราก็นึกเสียดายเงินเลย อยู่ดีไม่ว่าดี เงินก็ต้องประหยัดดั๊นไปซื้อหวี นอกจากจะแพงแล้ว ยังเหม็นจนหวีผมไม่ได้อีก
เราเลยลองเอาไปล้างด้วยสบู่ค่ะ และแช่น้ำ คิดในใจว่ากลิ่นน่าจะหาย
ปรากฏว่ากลิ่นก็ยังอยู่... เลยตัดใจ จะทิ้งก็เสียดาย เอาเก็บใส่ถุง มัดปากไม่ให้กลิ่นออก แล้วเอากลับห้อง
มาถึงห้องก็ยังลองๆ ดมนะ ยังเหม็นสาบอยู่มาก
ตกกลางคืน เราก็ทำกรรมฐาน (สติปัฏฐานสี่ ตามที่หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวันสอน)
นั่งครบ 1 ชั่วโมง หลังจากกล่าวคำอุทิศส่วนกุศลเสร็จแล้ว เราก็ลองกล่าวให้ควายที่เป็นเจ้าของเขาควาย
"ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็ง แด่ควายผู้เป็นเจ้าของเขาที่นำมาทำหวีที่อยู่ในห้องนี้ ขอให้ควายผู้เป็นเจ้าของเขาที่นำมาทำหวีที่อยู่ในห้องนี้ จงมีความสุข"
นั่งกรรมฐาน 2 หน ก็กล่าวให้สองหน
เสร้จแล้วก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับหวีอีก ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น ไม่คิดจะเอากลับมาใช้
ผ่านไปสามวัน พ่อกับแม่มาเที่ยวงานเกษตรแฟร์ ก็เห็นหวีที่อยู่ในถุง
เราก็เล่าให้แม่ฟังว่าซื้อหวีมาซะแพง ทำจากเขาควาย แต่หวีเหม็นมากกก
แล้วเราก็หยิบหวีออกจากถุง จะเอามาให้พ่อกับแม่ดู
ปรากฏว่า...กลิ่นเหม็นสาปหายหมดแล้ว
หายไปแบบ...ประหนึ่งว่าหวีเล่มนั้นไม่เคยมีกลิ่นมาก่อน
เราเอามาดมแบบชิดจมูก คือไม่มีกลิ่นหลงเหลือเลย
เราแปลกใจมากๆ
ตอนนี้คือ เราสามารถใช้หวีเล่มนั้น เอามาหวีผมได้แล้ว
แต่เราก็ยังคงอุทิศส่วนกุศลให้ควายตัวนั้นอยู่นะ คงสักระยะนึงจึงค่อยหยุด
ลึกๆ เราเชื่อว่าอานิสงส์จากการทำกรรมฐานต้องเกี่ยวข้องกลิ่นเหม็นสาปของหวีที่หายไป
เป็นเรื่องที่อยากเล่าให้ฟัง เราว่ามันแปลกมากสำหรับเรา
ขอบคุณค่ะที่อ่านกันจนจบ ^^
แก้ไขคำสะกดผิดค่ะ
ไม่แน่ใจว่า เหม็นสาบ หรือเหม็นสาป
มีเรื่องแปลกเกี่ยวกับหวีที่ทำจากเขาควายมาเล่าให้ฟังค่ะ
พอดีแถวที่ทำงานมีงานเกษตรแฟร์ค่ะ เลยตั้งใจว่าจะหาซื้อหวีมาแทนอันเก่า ก็เลือกว่าจะซื้อหวีไม้ดีๆ สักอัน
ก็เดินๆ จนทั่วงานไปเจอร้านนึง เขาขายหวีที่ทำจากไม้ต่างๆ รวมถึงหวีที่ทำจากเขาควายด้วย
คนขายก็บอกสรรพคุณของหวีเขาควายให้ฟัง ดีอย่างโน้น อย่างนี้ แล้วบอกเดี๋ยวนี้หาซื้อยากแล้วนะ
ตอนนั้นเราก็ไม่รู้คิดอะไร ก็ซื้อหวีเขาควายมาอันนึง เป็นหวีสีดำเงา ราคาเกือบสามร้อย ซื้อพร้อมกับหวีไม้ธรรมดามาอันนึง ราคา 90 บาท
ตอนซื้อก็กังวลนะ เพราะเราไม่ทานเนื้อควายเนื้อโคอยู่แล้ว ไปซื้อเขาเขามา จะดีหรือเปล่า...
มาถึงห้องทำงาน ก็แกะหวีเขาควายออกจากซอง ว่าจะเอามาลอง เพราะวันนั้นทั้งวันไม่ได้หวีผมเลย
พอเอาออกจากซองเท่านั้น กลิ่นเหม็นสาบแรงมากกกกก
เหมือนกลิ่นสาบๆ สัตว์เน่าๆ น่ะค่ะ กลิ่นคล้ายๆ จะติดมือเลยค่ะ
เราก็นึกเสียดายเงินเลย อยู่ดีไม่ว่าดี เงินก็ต้องประหยัดดั๊นไปซื้อหวี นอกจากจะแพงแล้ว ยังเหม็นจนหวีผมไม่ได้อีก
เราเลยลองเอาไปล้างด้วยสบู่ค่ะ และแช่น้ำ คิดในใจว่ากลิ่นน่าจะหาย
ปรากฏว่ากลิ่นก็ยังอยู่... เลยตัดใจ จะทิ้งก็เสียดาย เอาเก็บใส่ถุง มัดปากไม่ให้กลิ่นออก แล้วเอากลับห้อง
มาถึงห้องก็ยังลองๆ ดมนะ ยังเหม็นสาบอยู่มาก
ตกกลางคืน เราก็ทำกรรมฐาน (สติปัฏฐานสี่ ตามที่หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวันสอน)
นั่งครบ 1 ชั่วโมง หลังจากกล่าวคำอุทิศส่วนกุศลเสร็จแล้ว เราก็ลองกล่าวให้ควายที่เป็นเจ้าของเขาควาย
"ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็ง แด่ควายผู้เป็นเจ้าของเขาที่นำมาทำหวีที่อยู่ในห้องนี้ ขอให้ควายผู้เป็นเจ้าของเขาที่นำมาทำหวีที่อยู่ในห้องนี้ จงมีความสุข"
นั่งกรรมฐาน 2 หน ก็กล่าวให้สองหน
เสร้จแล้วก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับหวีอีก ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น ไม่คิดจะเอากลับมาใช้
ผ่านไปสามวัน พ่อกับแม่มาเที่ยวงานเกษตรแฟร์ ก็เห็นหวีที่อยู่ในถุง
เราก็เล่าให้แม่ฟังว่าซื้อหวีมาซะแพง ทำจากเขาควาย แต่หวีเหม็นมากกก
แล้วเราก็หยิบหวีออกจากถุง จะเอามาให้พ่อกับแม่ดู
ปรากฏว่า...กลิ่นเหม็นสาปหายหมดแล้ว
หายไปแบบ...ประหนึ่งว่าหวีเล่มนั้นไม่เคยมีกลิ่นมาก่อน
เราเอามาดมแบบชิดจมูก คือไม่มีกลิ่นหลงเหลือเลย
เราแปลกใจมากๆ
ตอนนี้คือ เราสามารถใช้หวีเล่มนั้น เอามาหวีผมได้แล้ว
แต่เราก็ยังคงอุทิศส่วนกุศลให้ควายตัวนั้นอยู่นะ คงสักระยะนึงจึงค่อยหยุด
ลึกๆ เราเชื่อว่าอานิสงส์จากการทำกรรมฐานต้องเกี่ยวข้องกลิ่นเหม็นสาปของหวีที่หายไป
เป็นเรื่องที่อยากเล่าให้ฟัง เราว่ามันแปลกมากสำหรับเรา
ขอบคุณค่ะที่อ่านกันจนจบ ^^
แก้ไขคำสะกดผิดค่ะ
ไม่แน่ใจว่า เหม็นสาบ หรือเหม็นสาป