ภาพจาก
http://www.unigang.com/Article/1008
ผู้พันซาดิสม์ บทนำ
http://pantip.com/topic/35817141
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 1
http://pantip.com/topic/35823819
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 2
http://pantip.com/topic/35839188
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 3
http://pantip.com/topic/35866122
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 4
http://pantip.com/topic/35872272
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 5
http://pantip.com/topic/35882609
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 6
ไม่น่าเชื่อว่าการที่พลโดนทรมานองคชาติอย่างซาดิสม์จะทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ
การแสดงว่าเพื่อนๆยอมรับในตัวเขาค่อยๆแสดงออกมาเรื่อยๆ
โดยเริ่มจากคนที่มากินเข้าเช้ากับเขาที่โรงอาหารส่วนตัวของพวกทหารและครูฝึก
ตอนแรกก็มีแค่ไอ้หน้าโหดกับไอ้หน้าเหี้ยม ต่อมาก็มีไอ้ล่ำ ไอ้หน้าบาก ไอ้หน้าแหลม
ตามมาติดๆก็คือไอ้หน้าเหลี่ยม ไอ้หน้าหัก และไอ้ผอม
คนสุดท้ายที่เข้ามาใจกลุ่มก็คือไอ้หล่อ ถึงจะดูรู้ว่าไอ้หล่อยังไม่ค่อยชอบขี้หน้าพลเท่าไหร่
แต่มันก็ดีขึ้นมาก
ส่วนพลเองก็มีฉายาที่ไอ้พวกนี้เรียกกันว่า “ฝักข้าวโพด” ซึ่งเป็นฉายาที่พลไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
แต่ก็โอเคเพราะมันทำให้พลเป็นที่ยอมรับ พลเองก็ไม่เข้าใจว่า
ทำไมการที่เขาโดนทรมานที่องคชาติอย่างโหดเหี้ยมและทนได้
จึงกลายเป็นที่ยอมรับในกลุ่ม
อาจเป็นได้ว่าไอ้พวกนี้ไม่เคยโดนทรมานแบบนั้น
พอใครสักคนโดนและทนได้ คนนั้นจึงกลางเป็นฮีโร่
ผู้ชายด้วยกันเท่านั้นที่รู้ว่าการโดนน้ำตาเทียนหยดลงไปที่จุดสำคัญ
จนองคชาติคล้ายฝักข้าวโพดมันจะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน
พลนึกไม่ถึงเลยว่าความซาดิสม์ของผู้พันจะทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในกลุ่มของครูฝึกทหารด้วยกันเอง
บางทีประเทศทมิฬก็มักจะมีอะไรที่แปลกๆแบบนี้ให้เห็นกันบ้าง
ความสนิทกันมากขึ้นของพลกับเหล่าครูฝึกทำให้ไอ้หน้าโหดพาทุกคนไปกินเหล้าที่ท้ายค่าย
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในค่าย พลไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะมาเจอบรรยากาศแบบนี้
มันเป็นบรรยากาศที่มากไปด้วยมิตรภาพ และพอเหล้าเข้าปาก เบาะแสสำคัญบางอย่างมันก็จะคลายตัวออกมาเอง
“เสียดายรบพิเศษอีกคนนะ มันก็อึดไม่ต่างจากมืงเลย”
ไอ้หน้าบากหลุดมาก่อน พลเดาได้ทันทีว่ามันต้องพูดถึงพจน์
ตอนนั้น พลอยากจะถามคำถามมากมาย แต่เขาต้องเบรกตัวเองไว้
การได้ยินประโยคแค่นั้นแล้วถามอะไรต่างๆมากมาย มันน่าสงสัยเกินไป
พลไม่กล้าเสี่ยงพูดอะไรออกมา ตอนนี้บรรยากาศก็ดีขึ้นมาก
พลคิดว่าเขาได้เปรียบในสถานการณ์แบบนี้ไปเต็มๆ
พลต้องเตือนสติตัวเองว่า ถึงจะสนิทกับพวกครูฝึกด้วยกัน
แต่ต้องไม่ลืมว่าอย่างน้อยหนึ่งคนในนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพจน์
พลต้องจำเรื่องราวเหล่านี้ให้ขึ้นใจ
เมื่อสถานการณ์ต่างๆทำให้พลได้เปรียบ เขาจึงต้องประคับประคองความได้เปรียบนี้ไปให้ได้
ถึงจะไม่ได้เปรียบมากขึ้น แต่ก็อย่าทำให้สิ่งที่ได้มาต้องสูญเสียไป
พลรออยู่นานมาก แต่ไม่มีใครพูดอะไรถึงพจน์เลย นอกจากประโยคนั้น
“เสียดายรบพิเศษอีกคนนะ มันก็อึดไม่ต่างจากมืงเลย”
ประโยคนี้ทำให้พลพอจะคาดได้ว่าพจน์ก็น่าจะเจออะไรโหดๆจากผู้พันเหมือนกัน
และความโหดนั้นทำให้พจน์ก็น่าจะเป็นที่ยอมรับของพวกเพื่อนๆด้วย
แล้วถ้าบรรยากาศมันดีขนาดนั้น แล้วสาเหตุใดที่ทำให้พจน์ถูกรุมกระทืบจากคนนับสิบ
อย่างโหดเหี้ยมจนถึงแก่ชีวิต พลไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
มันต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ แต่ตอนนี้พลยังคิดไม่ออก
หลังจากวันที่พวกเขากินเหล้าด้วยกันทำให้พวกเขาสนิทกันมาก
การสนิทกันทำให้ผู้พันไม่พอใจ จนมีวันหนึ่งผู้พันได้เรียกแถวครูฝึกทหารทุกนาย
ครูฝึกทหารทั้ง 10 คนจึงมาเข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง
ทหารที่ผู้พันสั่ง ได้มาบอกครูฝึกทุกคนว่าผู้พันจะตรวจแถวตอนสามโมงเย็น
ทำให้ทุกคนมาเข้าแถวตามนั้น แต่จะเกือบหกโมงเย็นอยู่แล้ว ผู้พันก็ยังไม่ลงมา
จนประมาณหกโมงครึ่ง ผู้พันถึงลงมา พลคิดว่าผู้พันน่าจะตั้งใจปล่อยให้พวกเขายืนตากแดดอยู่ตรงนั้น
เมื่อผู้พันเดินลงมา เขาก็เดินตรวจแถวโดยเดินจากด้านหน้าแถว การเดินของเขาค่อนข้างช้า
จนทำให้ครูฝึกแต่ละคนเริ่มกลัวๆว่าพวกเขาจะโดนอะไรกันบ้าง
ไม่นานนัก พลได้ยินเสียงฟาดหน้าอกอย่างแรงแบบดังมากๆ
แต่ไม่แน่ใจว่าใครโดน
อีกสักพักพลก็ได้ยินเหมือนมีคนโดนถีบท้องจนล้มลงไปนอนหงาย
แล้วคนนั้นก็ลุกขึ้นมายืนในแถวเหมือนเดิม
ไม่มีเสียงออกมาจากปากผู้พัน พลเองก็ต้องยืนตรง ไม่สามารถจะหันหน้าหันหลังได้
ตอนนี้พลรู้สึกว่าผู้พันกำลังเดินตรวจแถวจากด้านหลัง
ผู้พันค่อยๆเดินช้าๆ พลได้ยินเสียงเหมือนว่ามีคนโดนฟาดหลังหรือไม่ก็ทุบหลังอย่างรุนแรง
เสียงฝีเท้าของผู้พันดัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังเขา
แล้วพลก็โดยทุบหลังอย่างรุนแรงสองครั้ง พลรู้สึกเจ็บหลังอย่างแรง แต่ทนได้
ผู้พันเดินเลยเขาไป พลได้ยินเสียงมีคนโดนทุบหลังอีก
อีกสักพัก ผู้พันเดินออกมายืนข้างหน้าโดยมีระยะห่างทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นผู้พันได้หมด
“กูเห็นพวกมืงสนิทกันมากขึ้น ผู้ชายสมัยก่อนถ้าสนิทกันจริงต้องแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน”
ผู้พันหยุดนิดนึงก่อนจะพูดว่า
“ถอดเครื่องแบบของพวกมืงออกให้หมด”
พลกับครูฝึกทุกคนถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ผู้พันพาพวกครูฝึกเดินไปที่โรงอาบน้ำรวม
พอทุกคนเดินไปถึงโรงอาบน้ำรวม ทุกคนตกใจมากเพราะในโรงอาบน้ำเต็มไปด้วยน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆหลายก้อน
“พวกมืงกระโดดลงไป”
ครูฝึกทหารทุกนายกระโดดลงไปในน้ำ ทุกคนรู้สึกว่าน้ำมันเย็นจัดมาก
เย็นจนไม่เคยเจอมาก่อน ขนาดพลเองที่เป็นรบพิเศษก็ยังรู้สึกว่าน้ำมันเย็นจัดมาก
แต่ผู้พันยังไม่พอแค่นั้น เขาหันไปหาพวกทหารที่ไม่ได้เป็นครูฝึก
“พวกมืงไปเอาน้ำแข็งมาอีก ขนมาเยอะๆ”
ผู้พันสั่งให้เทน้ำแข็งลงไปอีกจนน้ำเย็นจัดมาก
“ทุกคน ดำน้ำลงไป”
พอพลดำน้ำลงไป มันเจ็บเหมือนมีเข็มนับร้อยมาแทงทั่งร่างกาย
พลคิดว่าหลายๆคนคงทรมานเหมือนๆกัน
หลายคนเกือบจะหนาวตายแล้ว แต่ผู้พันยังไม่ยอมหยุด
“เฮ้ยพวกมืง ไปเอาน้ำแข็งมาอีก”
โปรดติดตามตอนต่อไป
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 6
ภาพจาก http://www.unigang.com/Article/1008
ผู้พันซาดิสม์ บทนำ http://pantip.com/topic/35817141
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 1 http://pantip.com/topic/35823819
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 2 http://pantip.com/topic/35839188
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 3 http://pantip.com/topic/35866122
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 4 http://pantip.com/topic/35872272
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 5 http://pantip.com/topic/35882609
ผู้พันซาดิสม์ บทที่ 6
ไม่น่าเชื่อว่าการที่พลโดนทรมานองคชาติอย่างซาดิสม์จะทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ
การแสดงว่าเพื่อนๆยอมรับในตัวเขาค่อยๆแสดงออกมาเรื่อยๆ
โดยเริ่มจากคนที่มากินเข้าเช้ากับเขาที่โรงอาหารส่วนตัวของพวกทหารและครูฝึก
ตอนแรกก็มีแค่ไอ้หน้าโหดกับไอ้หน้าเหี้ยม ต่อมาก็มีไอ้ล่ำ ไอ้หน้าบาก ไอ้หน้าแหลม
ตามมาติดๆก็คือไอ้หน้าเหลี่ยม ไอ้หน้าหัก และไอ้ผอม
คนสุดท้ายที่เข้ามาใจกลุ่มก็คือไอ้หล่อ ถึงจะดูรู้ว่าไอ้หล่อยังไม่ค่อยชอบขี้หน้าพลเท่าไหร่
แต่มันก็ดีขึ้นมาก
ส่วนพลเองก็มีฉายาที่ไอ้พวกนี้เรียกกันว่า “ฝักข้าวโพด” ซึ่งเป็นฉายาที่พลไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
แต่ก็โอเคเพราะมันทำให้พลเป็นที่ยอมรับ พลเองก็ไม่เข้าใจว่า
ทำไมการที่เขาโดนทรมานที่องคชาติอย่างโหดเหี้ยมและทนได้
จึงกลายเป็นที่ยอมรับในกลุ่ม
อาจเป็นได้ว่าไอ้พวกนี้ไม่เคยโดนทรมานแบบนั้น
พอใครสักคนโดนและทนได้ คนนั้นจึงกลางเป็นฮีโร่
ผู้ชายด้วยกันเท่านั้นที่รู้ว่าการโดนน้ำตาเทียนหยดลงไปที่จุดสำคัญ
จนองคชาติคล้ายฝักข้าวโพดมันจะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน
พลนึกไม่ถึงเลยว่าความซาดิสม์ของผู้พันจะทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในกลุ่มของครูฝึกทหารด้วยกันเอง
บางทีประเทศทมิฬก็มักจะมีอะไรที่แปลกๆแบบนี้ให้เห็นกันบ้าง
ความสนิทกันมากขึ้นของพลกับเหล่าครูฝึกทำให้ไอ้หน้าโหดพาทุกคนไปกินเหล้าที่ท้ายค่าย
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในค่าย พลไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะมาเจอบรรยากาศแบบนี้
มันเป็นบรรยากาศที่มากไปด้วยมิตรภาพ และพอเหล้าเข้าปาก เบาะแสสำคัญบางอย่างมันก็จะคลายตัวออกมาเอง
“เสียดายรบพิเศษอีกคนนะ มันก็อึดไม่ต่างจากมืงเลย”
ไอ้หน้าบากหลุดมาก่อน พลเดาได้ทันทีว่ามันต้องพูดถึงพจน์
ตอนนั้น พลอยากจะถามคำถามมากมาย แต่เขาต้องเบรกตัวเองไว้
การได้ยินประโยคแค่นั้นแล้วถามอะไรต่างๆมากมาย มันน่าสงสัยเกินไป
พลไม่กล้าเสี่ยงพูดอะไรออกมา ตอนนี้บรรยากาศก็ดีขึ้นมาก
พลคิดว่าเขาได้เปรียบในสถานการณ์แบบนี้ไปเต็มๆ
พลต้องเตือนสติตัวเองว่า ถึงจะสนิทกับพวกครูฝึกด้วยกัน
แต่ต้องไม่ลืมว่าอย่างน้อยหนึ่งคนในนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพจน์
พลต้องจำเรื่องราวเหล่านี้ให้ขึ้นใจ
เมื่อสถานการณ์ต่างๆทำให้พลได้เปรียบ เขาจึงต้องประคับประคองความได้เปรียบนี้ไปให้ได้
ถึงจะไม่ได้เปรียบมากขึ้น แต่ก็อย่าทำให้สิ่งที่ได้มาต้องสูญเสียไป
พลรออยู่นานมาก แต่ไม่มีใครพูดอะไรถึงพจน์เลย นอกจากประโยคนั้น
“เสียดายรบพิเศษอีกคนนะ มันก็อึดไม่ต่างจากมืงเลย”
ประโยคนี้ทำให้พลพอจะคาดได้ว่าพจน์ก็น่าจะเจออะไรโหดๆจากผู้พันเหมือนกัน
และความโหดนั้นทำให้พจน์ก็น่าจะเป็นที่ยอมรับของพวกเพื่อนๆด้วย
แล้วถ้าบรรยากาศมันดีขนาดนั้น แล้วสาเหตุใดที่ทำให้พจน์ถูกรุมกระทืบจากคนนับสิบ
อย่างโหดเหี้ยมจนถึงแก่ชีวิต พลไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
มันต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ แต่ตอนนี้พลยังคิดไม่ออก
หลังจากวันที่พวกเขากินเหล้าด้วยกันทำให้พวกเขาสนิทกันมาก
การสนิทกันทำให้ผู้พันไม่พอใจ จนมีวันหนึ่งผู้พันได้เรียกแถวครูฝึกทหารทุกนาย
ครูฝึกทหารทั้ง 10 คนจึงมาเข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง
ทหารที่ผู้พันสั่ง ได้มาบอกครูฝึกทุกคนว่าผู้พันจะตรวจแถวตอนสามโมงเย็น
ทำให้ทุกคนมาเข้าแถวตามนั้น แต่จะเกือบหกโมงเย็นอยู่แล้ว ผู้พันก็ยังไม่ลงมา
จนประมาณหกโมงครึ่ง ผู้พันถึงลงมา พลคิดว่าผู้พันน่าจะตั้งใจปล่อยให้พวกเขายืนตากแดดอยู่ตรงนั้น
เมื่อผู้พันเดินลงมา เขาก็เดินตรวจแถวโดยเดินจากด้านหน้าแถว การเดินของเขาค่อนข้างช้า
จนทำให้ครูฝึกแต่ละคนเริ่มกลัวๆว่าพวกเขาจะโดนอะไรกันบ้าง
ไม่นานนัก พลได้ยินเสียงฟาดหน้าอกอย่างแรงแบบดังมากๆ
แต่ไม่แน่ใจว่าใครโดน
อีกสักพักพลก็ได้ยินเหมือนมีคนโดนถีบท้องจนล้มลงไปนอนหงาย
แล้วคนนั้นก็ลุกขึ้นมายืนในแถวเหมือนเดิม
ไม่มีเสียงออกมาจากปากผู้พัน พลเองก็ต้องยืนตรง ไม่สามารถจะหันหน้าหันหลังได้
ตอนนี้พลรู้สึกว่าผู้พันกำลังเดินตรวจแถวจากด้านหลัง
ผู้พันค่อยๆเดินช้าๆ พลได้ยินเสียงเหมือนว่ามีคนโดนฟาดหลังหรือไม่ก็ทุบหลังอย่างรุนแรง
เสียงฝีเท้าของผู้พันดัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังเขา
แล้วพลก็โดยทุบหลังอย่างรุนแรงสองครั้ง พลรู้สึกเจ็บหลังอย่างแรง แต่ทนได้
ผู้พันเดินเลยเขาไป พลได้ยินเสียงมีคนโดนทุบหลังอีก
อีกสักพัก ผู้พันเดินออกมายืนข้างหน้าโดยมีระยะห่างทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นผู้พันได้หมด
“กูเห็นพวกมืงสนิทกันมากขึ้น ผู้ชายสมัยก่อนถ้าสนิทกันจริงต้องแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน”
ผู้พันหยุดนิดนึงก่อนจะพูดว่า
“ถอดเครื่องแบบของพวกมืงออกให้หมด”
พลกับครูฝึกทุกคนถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ผู้พันพาพวกครูฝึกเดินไปที่โรงอาบน้ำรวม
พอทุกคนเดินไปถึงโรงอาบน้ำรวม ทุกคนตกใจมากเพราะในโรงอาบน้ำเต็มไปด้วยน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆหลายก้อน
“พวกมืงกระโดดลงไป”
ครูฝึกทหารทุกนายกระโดดลงไปในน้ำ ทุกคนรู้สึกว่าน้ำมันเย็นจัดมาก
เย็นจนไม่เคยเจอมาก่อน ขนาดพลเองที่เป็นรบพิเศษก็ยังรู้สึกว่าน้ำมันเย็นจัดมาก
แต่ผู้พันยังไม่พอแค่นั้น เขาหันไปหาพวกทหารที่ไม่ได้เป็นครูฝึก
“พวกมืงไปเอาน้ำแข็งมาอีก ขนมาเยอะๆ”
ผู้พันสั่งให้เทน้ำแข็งลงไปอีกจนน้ำเย็นจัดมาก
“ทุกคน ดำน้ำลงไป”
พอพลดำน้ำลงไป มันเจ็บเหมือนมีเข็มนับร้อยมาแทงทั่งร่างกาย
พลคิดว่าหลายๆคนคงทรมานเหมือนๆกัน
หลายคนเกือบจะหนาวตายแล้ว แต่ผู้พันยังไม่ยอมหยุด
“เฮ้ยพวกมืง ไปเอาน้ำแข็งมาอีก”
โปรดติดตามตอนต่อไป