((มาลาริน)) ของดีของไทยได้ชิมหรือยังคะ @^_^@__ตีทะเบียนจีไอข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา ส้มโอทับทิมสยาม มะขามหวาน ในประเทศจีน ^_^

กรมทรัพย์สินทางปัญญา  มีโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ โครงการ 1 จังหวัด 1 จีไอ (Geographical Indication) ซึ่งโครงการนี้ ตั้งเป้าให้ทุกจังหวัดมีสินค้าในท้องถิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 สินค้าภายในปี 2560

จุดเด่นของสินค้าจีไอ คือ การมีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างจากสินค้าชนิดเดียวกันที่ผลิตจากแหล่งอื่น ความพิเศษดังกล่าวส่งผลทำให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นมีมูลค่าสูงขึ้น หรือขายได้มากขึ้น เช่น กาแฟดอยตุง ที่ผลิตจากผลกาแฟสดพันธุ์อราบิก้า ปลูกในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง เทือกเขานางนอน จังหวัดเชียงราย ที่ระดับความสูง 800-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล 

สินค้าจีไอนอกจากจะช่วยทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการพัฒนาสินค้าแบรนด์ไทยให้สามารถแข่งขันได้ท่ามกลางการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และพร้อมขยายตลาดไปยังตลาดโลก รวมทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย

น่ายินดีที่สินค้า 3 ชนิดของเรากำลังจ่อขึ้นทะเบียนจีไอในประเทศจีน  ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา  ส้มโอทับทิมสยาม และมะขามหวานเพชรบูรณ์  

ต้องขอบคุณรัฐบาลยุคลุงตู่นะคะ...นานาขอบคุณ

มาอ่านข่าวกันค่ะ...นานาโอเคนานาโอเคนานาโอเค

พาณิชย์” เดินหน้าขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอในตลาดจีน 3 สินค้า ทั้งข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง และมะขามหวานเพชรบูรณ์ เพื่อยกระดับเป็นสินค้าพรีเมียม หลังผู้บริโภคในตลาดจีนให้ความนิยม ขณะที่จีนเตรียมขอขึ้นทะเบียนจีไอชาและหัตถกรรมในไทย

นายทศพล ทังสุบุตร รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้กรมฯ ได้นำคณะนางไผ๋ เสี่ยวหลิง รองอธิบดีหน่วยงานด้านการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ของจีน ลงพื้นที่ชมกระบวนการผลิตสินค้าจีไอของไทย 3 รายการ ได้แก่ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และมะขามหวานเพชรบูรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการขอขึ้นทะเบียนจีไอสินค้าทั้ง 3 รายการที่ประเทศจีน

สาเหตุที่กรมฯ ผลักดันการขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอ 3 รายการในจีน เนื่องจากส้มโอและมะขามหวานเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในตลาดจีนเป็นอย่างมาก โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมาไทยส่งออกส้มโอไปยังจีนเป็นอันดับ 1 ประมาณสัดส่วน 65% ของการส่งออกส้มโอไทยไปตลาดโลก ซึ่งการส่งออกไปจีนมีมูลค่าประมาณปีละ 170 ล้านบาท ขณะที่ไทยส่งออกมะขามไปจีนเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ มีมูลค่าการส่งออกประมาณปีละ 70 ล้านบาท

“การขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอจะช่วยยกระดับให้สินค้าไทยเป็นสินค้าพรีเมียม และสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน หน่วยงานขึ้นทะเบียนจีไอของจีนจะช่วยเข้ามาดูแลป้องปรามในกรณีที่เกิดการละเมิดหรือปลอมแปลงสินค้าจีไอของไทย ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาสินค้าไทยที่ถูกละเมิดหรือปลอมแปลงในจีน” นายทศพลกล่าว

นายทศพลกล่าวว่า สินค้าจีไอของไทย 3 รายการถือเป็นตัวแทนสินค้าไทยที่น่าจะขยายตลาดได้ดีในจีน โดยมีคุณสมบัติและเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งเป็นผลมาจากแหล่งผลิตตามสภาพภูมิอากาศ หรือปัจจัยแวดล้อมในพื้นที่ โดยส้มโอทับทิมสยามปากพนังเป็นส้มโอที่ปลูกในสภาพพื้นที่ป่าราบลุ่มชายเลน น้ำกร่อย ดินเหนียวเป็นด่างอ่อน เหมาะแก่การปลูกส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามที่มีเนื้อสีชมพูเข้มจนถึงสีแดงคล้ายสีทับทิม รสชาติหวานนุ่ม ผิวผลนิ่มดั่งกำมะหยี่ 

สำหรับมะขามหวานเพชรบูรณ์ เป็นมะขามที่ปลูกในภูมิประเทศเป็นท้องกระทะมีแม่น้ำป่าสักไหลผ่าน ทำให้ดินมีธาตุอาหารฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมค่อนข้างสูง อากาศร้อนในฤดูร้อน หนาวจัดในฤดูหนาว เหมาะสำหรับปลูกมะขามทำให้ได้เป็นมะขามหวานเปลือกสีน้ำตาล เนียน เนื้อหนา เหนียวนุ่ม หวานหอม สีสวยสม่ำเสมอ สาแหรกน้อยไม่แข็งกระด้าง ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ 

ส่วนข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นข้าวที่ปลูกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศเป็นดินร่วนปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ส่งผลให้ข้าวเกิดความเครียดแล้วหลั่งสารหอม ทำให้มีความหอมมากกว่าข้าวหอมมะลิที่ปลูกในพื้นที่อื่น มีเมล็ดข้าวยาวเรียว ข้าวสารมีเมล็ดใสและแกร่ง ข้าวสุกมีความหอมและนุ่ม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจีนกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะยื่นขอขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอของจีนในไทย โดยเบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นสินค้าชาและหัตถกรรม

http://m.manager.co.th/Business/detail/9590000122388

อยากชิมส้มโอทับทิมสยามค่ะ....นานาซื้อของนานาซื้อของนานาซื้อของ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง กระทรวงพาณิชย์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่