ฤา??จะจ้องทำลายพระชราภาพ รูปหนึ่งโดยไม่สนอะไรเลย แม้แต่ความถูกต้อง

(bintang)ศาลปกครอง เท่านั้นที่พอจะช่วยได้

ทนายเห็นว่า การที่ กสทช.รีบดำเนินการตามคำขอของ ดีเอสไอ ในการปิดสถานี DMC นั้น เป็นการกระทำที่ใช้อำนาจเกินเลย

สถานีธรรมะ ทีเผยแผ่ศาสนา ไม่เคยข้องเกี่ยวกับการเมือง   อะไรที่เกิดกับวัด กับหลวงพ่อ สถานีก็แทบไม่เคยเสนอข่าว  เสนอข่าวเกี่ยวกับธรรมะเป็นหลัก

การเรียกคนเข้าวัดฟังธรรม เป็นเรื่องที่ ดีเอสไอ  เอาไปคิดเองว่า เป็นการระดมคนมาขัดขวางการทำงานของ ดีเอสไอ

จริงๆการระดมคนสามารถทำได้หลายวิธี  แม้จะไม่ได้อยู่หน้าจอโทรทัศน์ เช่นเฟซ ไลน์ ซึ่งมีอยู่ในมือของประชาชนเกือบทุกคน

อะไรและทำไม ผู้มีอำนาจในประเทศไม่ห้ามเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ให้ใช้หลักปกครองมากกว่าใช้หลักกฏหมาย

เราเป็นชาวพุทธด้วยกัน ค่อยๆเจรจากันจะไม่ดีกว่าหรือ  หลวงพ่อเป็นพระผู้ใหญ่ อายุ ๗๒ ปี ถือว่าชราแถมอาพาธด้วย  แต่ทำไมทางรัฐจึงเอากฏหมายมาใช้อย่างเคร่งครัด  ทนายก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ศึกนี้แม้ฝ่ายรัฐจะเป็นฝ่ายชนะ เอาตัวหลวงพ่อมาสึกหรือเข้าคุกได้ นั้นไม่ใช่ชัยชนะของฝ่ายรัฐนะครับ   ชัยชนะของฝ่ายรัฐต้องมาจาการทำให้คนเชื่อถือ ศรัทธา ไม่ใช้ถูกมองว่าใช้อำนาจจนเกินเลย ทำให้เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะเรื่องศาสนาด้วย เป็นเรื่องบอบบางมาก

เราคนไทยมีศาสนาพุทธเป็นหลัก  ถ้าหลวงพ่อถูกกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์ล้มล้างศาสนา นั้นซิ คือความชอบธรรมที่ฝ่ายรัฐต้องเข้าไปดำเนินการ ขั้นเด็ดขาด

แต่นี้คดีที่ถูกกล่าวหา ก็เห็นๆกันว่า เป็นคดีอะไร ความผิดก็ไม่ชัดเจน แถมเงินก็ได้รับกลับคืนไปหมดแล้ว  คดีน่าจะจบ กลับไม่จบ รัฐทุ่มกำลังทุกอย่าง เพื่อจับตัวหลวงพ่อให้ได้   อะไรจะขนาดนั้นครับ

ไม่สงสารพระชราฯ ก็สงสารความรู้สึกของชาวพุทธส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่สงสารชาวพุทธ ก็สงสารศาสนาพุทธของเราบ้างครับ

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องยืนยงคงอยู่คู่ประเทศไทย  คำว่าศาสนาตามความหมายนี้  คือ ศาสนาพุทธนะครับ  ไม่ใช่ศาสนาอื่นใด

หรือว่ารัฐต้องการเปลี่ยนคำว่า ศาสนา ไม่ใช่ศาสนาพุทธอีกต่อไป

ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล ทนายผู้พิทักษ์ศาสนา
พุธ ๗ ธค ๕๙   ๑๘.๕๖ น.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่