สวัสดีค่ะ ชาวพันทิพและมิตรรักชาวบล๊อกแกงค์ทุกท่าน เนื่องจากห่างหายไปหลายปี จะเปิดตัวว่านี่เป็นกระทู้แรกก็ออกจะเขินๆ เพราะจริงๆ ความทรงจำชักจะเลื่อนๆ ทำไปก็งงไป ไม่คุ้นกับระบบใหม่ๆ กฏระเบียบใหม่ๆ เลยต้องรีรออยู่นานกว่าได้เวลามาแบ่งปันความสุขที่เกิดจากแรงบันดาลใจจากการได้ปรับปรุงบ้านหลังนี้ อาจเพราะไม่มีเวลา หลงระเริงกับของเล่นใหม่ จนปาไปเกือบ 2 ปี เพื่อนบล็อกเกอร์เก่าๆ หลายคนคงอาจจะลืมเราไปแล้ว
แต่ไม่เป็นไรในฐานะศิษฐ์เก่าลูกหลานป้าพัน ลองดูกันอีกซักครั้งจะเป็นไรเน๊อะ แต่ครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นการรีวิวที่ฉีกแนวมากเพราะตั้งแต่วนเวียนพลุ๊บโพล่อยู่แถวนี้ก็ยังไม่เคยรีวิวบ้านซักกะที ลองดูนะคะว่าจะหมู่รึจ่า
เริ่มด้วยรูปลำดับความเปลี่ยนแปลงของบ้านเก่าหลังนึงที่ชุบตัวกลายเป็นเกสเฮ้าส์หวานแนววินเทจ ภายในเวลาเกือบ 2 ปี ที่เราจะเล่าให้ฟังในกระทู้นี้นะคะ
และนี่คือความสำเร็จจากความมุ่งมั่น ความพยายาม ที่ต้องแลกมาทั้งน้ำตา เวลา การเสียรู้ให้ช่างทั้งหลาย ทรัพย์สินเงินทองที่ทุ่มเทให้กับบ้านหลังนี้
เอาละค่ะอวดและบ่นพอหอมปากหอมคะ เรามาเริ่มกันดีกว่า
สภาพบ้านเดิมตอนที่ได้มา
เช้าวันหนึ่งบนโต๊ะอาหาร อยู่ๆ แม่ก็บอกเราว่าเดี๋ยวสายๆ จะมีคนมาทำสัญญาขายบ้าน???
แทบช๊อค...ยังไม่พอ ยังไม่พอ หลังจากที่เราไปดูบ้านที่แม่ซื้อมา เรารีบกดโทรศัพท์หาแม่ทันที ถามแม่ว่า "แม่ซื้อบ้านเคยเข้ามาดูข้างในบ้านปะเนี้ยะ" ปลายสายเสียงแม่ "ไม่เคยอะ มันเป็นไงเหรอ" มันเป็นไงก็ดูเอาคร๊าาาาทั่นผู้โชมมมม
1. สภาพภายนอก มองจากถนนเข้าไปนางก็ดูเข้าท่าดีนะคะ ...
ลองสำรวจรอบบ้านกันค่ะ สภาพดูไม่จืดแถมไม่พอกลิ่นไม่โสภาเลย เนื่องจากเจ้าของเก่าตัดที่ดินติดถนนด้านข้างสร้างตึกแถวขาย
แล้วดันต่อท่อน้ำทิ้งของห้องแถวมาทิ้งในที่ดินตัวเอง ที่ตอนนี้เป็นของเราแล้งง่ะ แถมใช้น้ำประปาท่อเดียวกันอีก ยังไม่พอเพราะย่านนี้เป็นตลาดเก่า
ตึกแถวด้านข้างบ้านสร้างมาเกือบ 50 ปี เลยไม่มีระบบท่อรวบรวมน้ำเสีย แล้วมันไปไหนละค่ะ ถ้าไม่ใช่ทิ้งลงหลังตึก(ที่มีซอกเล็กๆ ) ที่ซึมมาที่ดินเราอีก นึกถึงแล้วเพลีย เอาเป็นว่าเราต้องมารับน้ำเสียของอาคารพานิชด้านข้างแล้วไงค่ะ กว่าจะจัดการเสร็จ โดยเฉพาะตึกที่เจ้าของเดิมสร้างขายห้องสุดท้าย ที่เราโง่จ่ายน้ำประปาให้โดยไม่รู้ตัว แล้วดันมีประตูเปิดเข้าออกมาที่เราอีก มหากาพย์เลยเจ้าค่ะ โชคยังเข้าข้างที่อาคารโบราณไม้สักที่เห็นในรูปพอจรรโลงใจเราหน่อย เฮ้อ...
ก่อนตามเราไปดูข้างใน ขอพักอาบน้ำแพล๊บนะคะ ไม่ได้รีวิวนาน ช้าไม่ทันใจคนรีวิวเล้ยยยยย...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่จั่วหัวว่าเป็นฝีมือเด็กเกษตรเพราะ 1. เราจบป.ตรีเกษตร สาขาแมลง ไม่ได้เกี่ยวไรกะการออกแบบเลย 2. ที่ปรึกษาเรื่องการการจัดวาง การเลือก การคำนวณสเปซ ก็เป็นเด็กเกษตร ที่ผันตัวเองไปทำงานด้านตกแต่งภายใน มาเป็น Design Consultant ให้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ บริษัท Design atelier ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทักษะความเชี่ยวชาญของสถาปนิกไม่สำคัญนะคะ สำคัญมากแต่ด้วยเมืองที่เราอยู่ การหาสถาปนิกดีๆ พูดกันรู้เรื่อง ยากกว่าหาทอง เรื่องราว และจั่วหัวเลยเกิดมาด้วยประการฉะนี้แหละค่ะ
[CR] " เรื่องราวของการรีโนเวทบ้านเก่า ให้กลายเป็นเกสเฮ้าส์วินเทจในฝัน แบบไม่ง้ออาคิเทค ใช้ฝีมิอเด็กเกษตรล้วนๆ !!!! "
แต่ไม่เป็นไรในฐานะศิษฐ์เก่าลูกหลานป้าพัน ลองดูกันอีกซักครั้งจะเป็นไรเน๊อะ แต่ครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นการรีวิวที่ฉีกแนวมากเพราะตั้งแต่วนเวียนพลุ๊บโพล่อยู่แถวนี้ก็ยังไม่เคยรีวิวบ้านซักกะที ลองดูนะคะว่าจะหมู่รึจ่า
เริ่มด้วยรูปลำดับความเปลี่ยนแปลงของบ้านเก่าหลังนึงที่ชุบตัวกลายเป็นเกสเฮ้าส์หวานแนววินเทจ ภายในเวลาเกือบ 2 ปี ที่เราจะเล่าให้ฟังในกระทู้นี้นะคะ
และนี่คือความสำเร็จจากความมุ่งมั่น ความพยายาม ที่ต้องแลกมาทั้งน้ำตา เวลา การเสียรู้ให้ช่างทั้งหลาย ทรัพย์สินเงินทองที่ทุ่มเทให้กับบ้านหลังนี้
เอาละค่ะอวดและบ่นพอหอมปากหอมคะ เรามาเริ่มกันดีกว่า
สภาพบ้านเดิมตอนที่ได้มา
เช้าวันหนึ่งบนโต๊ะอาหาร อยู่ๆ แม่ก็บอกเราว่าเดี๋ยวสายๆ จะมีคนมาทำสัญญาขายบ้าน???
แทบช๊อค...ยังไม่พอ ยังไม่พอ หลังจากที่เราไปดูบ้านที่แม่ซื้อมา เรารีบกดโทรศัพท์หาแม่ทันที ถามแม่ว่า "แม่ซื้อบ้านเคยเข้ามาดูข้างในบ้านปะเนี้ยะ" ปลายสายเสียงแม่ "ไม่เคยอะ มันเป็นไงเหรอ" มันเป็นไงก็ดูเอาคร๊าาาาทั่นผู้โชมมมม
1. สภาพภายนอก มองจากถนนเข้าไปนางก็ดูเข้าท่าดีนะคะ ...
ลองสำรวจรอบบ้านกันค่ะ สภาพดูไม่จืดแถมไม่พอกลิ่นไม่โสภาเลย เนื่องจากเจ้าของเก่าตัดที่ดินติดถนนด้านข้างสร้างตึกแถวขาย
แล้วดันต่อท่อน้ำทิ้งของห้องแถวมาทิ้งในที่ดินตัวเอง ที่ตอนนี้เป็นของเราแล้งง่ะ แถมใช้น้ำประปาท่อเดียวกันอีก ยังไม่พอเพราะย่านนี้เป็นตลาดเก่า
ตึกแถวด้านข้างบ้านสร้างมาเกือบ 50 ปี เลยไม่มีระบบท่อรวบรวมน้ำเสีย แล้วมันไปไหนละค่ะ ถ้าไม่ใช่ทิ้งลงหลังตึก(ที่มีซอกเล็กๆ ) ที่ซึมมาที่ดินเราอีก นึกถึงแล้วเพลีย เอาเป็นว่าเราต้องมารับน้ำเสียของอาคารพานิชด้านข้างแล้วไงค่ะ กว่าจะจัดการเสร็จ โดยเฉพาะตึกที่เจ้าของเดิมสร้างขายห้องสุดท้าย ที่เราโง่จ่ายน้ำประปาให้โดยไม่รู้ตัว แล้วดันมีประตูเปิดเข้าออกมาที่เราอีก มหากาพย์เลยเจ้าค่ะ โชคยังเข้าข้างที่อาคารโบราณไม้สักที่เห็นในรูปพอจรรโลงใจเราหน่อย เฮ้อ...
ก่อนตามเราไปดูข้างใน ขอพักอาบน้ำแพล๊บนะคะ ไม่ได้รีวิวนาน ช้าไม่ทันใจคนรีวิวเล้ยยยยย...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น