ก่อนอื่นขอโทษก่อนนะคะ เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก ไม่รู้ว่าทำถูกผืดยังไง ขออภัยไว้ก่อนเลย
ที่มาตั้งกระทู้ไม่ได้ต้องการอะไรนอกไปจากการได้ระบาย อะไรก็ได้ ให้มันออกไปจากหัวสมองบ้างอ่ะค่ะ เหนื่อยมาก เครียดมากกกกก
ตอนนี้ดิฉันทำงานราชการอยู่ที่สำนักงานรัฐแห่งหนึ่งใกล้ๆกรุงเทพ
งานของดิฉันคือเกี่ยวกับเงินๆทองๆค่ะ และทำงานเป็นบัดดี้กับพี่ร่วมงานอีกคนที่เป็นข้าราชการ พี่คนนั้นอายุราวๆ40 ได้
ส่วนดิฉันแค่ 30 ซึ่งห่างกันพอสมควร
พี่คนนี้ ขอเรียกพี่ไก่นะคะ พี่ไก่เป็นคนที่มีจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือคนอื่น คิดดี ทำดี เรียกว่าใครได้เป็นเพื่อน/พี่/น้อง/ญาติ กับคนๆนี้คือโชคดีมากค่ะ
ดิฉัน ถ้าในฐานะพี่น้อง ก็รู้สึกยินดีและรัก+เคารพในตัวพี่ไก่มาก แต่ในฐานะเพื่อนร่วมงาน....
สิ่งที่ดิฉันเครียดคือ พี่ไก่เป็นคนที่ทำงานช้ามากกกกกกก ไม่ค่อยละเอียด ขี้หลงขี้ลืม ถ้าเป็นงายยากๆที่พี่เค้าไม่เคยทำหรือทำไม่ได้ พี่เค้าก็จะเลี่ยงไม่ทำ
ซึ่งภาระจะตกอยู่ที่ดิฉันทั้งหมด เข้าใจใช่ไหมคะ งานที่ต้องทำเป็นคู่ พออีกคนทำไม่ได้ อีกคนก็คือต้องทำ เพราะเกิดอะไรขึ้นคือรับผิดชอบร่วมกัน
ซึ่งพี่ไก่เป็นข้าราชการ ที่คนทั้งองค์กรให้ความเคารพ รัก และชื่นชอบในตัวพี่ไก่มาก ดิฉันเรียกว่าเทียบไม่ติด
เวลาคนอื่นมีอะไรให้ช่วย พี่ไก่จะไปช่วยงานคนอื่นก่อนเสมอ แล้วทิ้งงานตัวเองไว้ข้างหลัง ซึ่งงานตรงนี้มันมีกำหนดระยะเวลาในการทำอยู่
เช่น ถ้าไม่ทำให้เสร็จภายในกี่โมงๆ เงินจะไม่ออกตามกำหนด แต่พี่ไก่จะไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลยค่ะ จะคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
และที่ดิฉันบอกค่ะ ถ้าเป็นงานยากๆที่แกไม่เคยทำ พี่ไก่ก็จะเลี่ยงไม่ทำ หรือเก็บไว้ทำหลังสุดโดยไม่ได้สนใจว่าจะต้องรีบไหม จะมีใครรีบใช้เงิน/ข้อมูลหรือไม่ ดังนั้นเวลามีคนมาขอให้ช่วยทำ ด้วยความที่เกรงใจพี่ไก่จะรับงานคนอื่นมาทำทั้งหมด งานไหนยากพี่ไก่จะเก็บไว้ทำทีหลังเลือกทำงานง่ายก่อน ส่วนงานยากถ้าทำไม่ได้ก็จะค้างอยู่ที่พี่ไก่แบบนั้น พี่ไก่แกก็ไม่ได้โยนงานยาก ที่แกไปรับคนอื่นมาให้ดิฉันทำนะคะ แต่แกแค่ไม่ทำงานตัวเอง เพราะเคยถามพี่ไก่ว่า ทำไมไม่ทำงานตัวเองก่อน พี่ไก่บอกว่า งานตัวเองจะทำเมื่อไรก็ได้ งานคนอื่นสำคัญกว่า และอีกอยากก็มีดิฉันช่วยทำ งานเราอยู่กันตั้ง 2 คน แต่คนอื่นเค้าต้องทำกันคนเดียว โดยไม่ได้คิดเลยค่ะว่างานตรงนี้ทำไมต้องมี 2 คน เพราะงานมันหนักมากค่ะ และเป็นงานที่ปัญหาเยอะที่สุดในฝ่าย ต้องเจอปัญหาเฉพาะหน้าตลอด เป็นงานที่มีความเร่งด่วนเกิดขึ้นเสมอ พอมีเรื่องด่วนมาที แกก็ค่อยวางงานคนอื่นมาช่วยดิฉันทำ แต่ด้วยความที่แกทำงานช้ามาก บางครั้งก็เหมือนดิฉันทำงานนั้นคนเดียว และสุดท้ายแกก็ไม่ได้ซักงาน หลายครั้งที่ดิฉันต้องช่วยแกทำงานคนอื่นด้วยซ้ำค่ะ
ดิฉันเป็นคนทำงานเร็วค่ะ เรียกว่าเร็วมาก ไม่ได้จะอวยตัวเองนะคะ แต่เพื่ออธิบายให้คนอ่านเห็นภาพว่า ดิฉันต้องทำงานที่เป็นงานของ 2 คน ด้วยตัวคนเดียว แต่ดิฉันสามารถกลับบ้านในเวลา 4 โมงครึ่งได้โดยที่งานเสร็จ(เสร็จในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ) ในขณะที่พี่ไก่ ถึงจะแค่ทำงานตัวเอง ก็ยังต้องกลับบ้านดึกประจำ นั่นทำให้ใครๆมองว่าดิฉันไม่ช่วยงานพี่ไก่เสมอ แต่หลายครั้งที่แกกลับบ้านดึก นั่นเป็นเพราะแกทำงานคนอื่น เพราะงานของตรงนี้ ดิฉันได้ทำเสร็จหมดแล้วค่ะ
บางคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าอย่างนั้นทำไมดิฉันไม่ขอทำงานนี้คนเดียวไปเลย และให้พี่ไก่ไปอยู่ตรงอื่น นั่นเพราะจริงๆแล้ว งานนี้เป็นงานที่ปัญหาเยอะอย่างที่บอกค่ะ รายละเอียดก็เยอะมากๆ งานที่ดิฉันบอกว่าทำเสร็จใน 4 โมงครึ่ง เป็นงานเบื้องหน้า คืองานประจำที่ต้องทำให้เป็นปัจจุบันทุกวันๆไป แต่ยังมีอีกหลายงานที่ต้องคอยรวบรวม บันทึก เก็บข้อมูล เพื่อใช้ในการตัดสินใจของผู้บริหารด้วย ซึ่งตรงนี้เมื่อมีเวลาดิฉันจึงจะมาทำ หรือไม่ก็ต้องอยู่มืดเพื่อทำให้เสร็จ และก็อีกเคยค่ะ งานเบื้องหลังที่ว่าดิฉันรับผิดชอบคนเดียวทั้งหมด ในขณะที่พี่ไก่รับผิดชอบส่วนเบื้องหน้าร่วมกับดิฉันเท่านั้น และอีกอย่าง งานนี้ถือว่าเป็นงานสำคัญ เป็นหน้าเป็นตาของฝ่ายก็ว่าได้ ผู้ใหญ่จึงต้องการให้คนที่รับผิดชอบส่วนนี้เป็นพี่ไก่ ซึ่งเป็นคนที่คนเกือบทั้งองค์กรยอมรับ
และตอนนี้หัวหน้าบอกดิฉันว่า จะนำงานของพี่อีกคน (ขอเรียกว่าพี่สวย) มาให้เป็นงานตรงดิฉัน ซึ่งให้ผิดชอบร่วมกันกับพี่ไก่ หัวหน้าถามชั้นว่าไหวไหม ดิฉันก็เป็นคนพูดตรงๆกับหัวหน้า ว่าดิฉันคิดว่าจะไม่ไหว เพราะถ้าดิฉันทำ จะไม่มีคนตรวจทานงานนี้ ซึ่งตอนนี้พี่สวยทำจริง แต่ดิฉันก็ยังเรียกรายงานมาตรวจทานอีกครั้งเสมอ แต่ถ้าดิฉันทำเองทั้งหมดจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น
หัวหน้าบอกว่า ไม่ได้ให้ดิฉันทำคนเดียว แต่ให้ทำกับพี่ไก่
พี่ไก่ก็พูดขึ้นมาว่า ให้เอางานที่เกี่ยวกับตรงนี้มาให้ทำทั้งหมดเลยก็ได้ เกรงใจคนอื่นเค้าที่ต้องทำงานของเรา (ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่ว่าคนอื่นทำงานของเรา เพียงแต่เป็นงานที่มีส่วนหนึ่งเกี่ยวกับเรา ซึ่งอีกหลายส่วนก็ไม่เกี่ยวกับเรา พอนึกออกใช่ไหมคะ ถ้าจะเอามาคือต้องเอามาทั้งหมด)
ดิฉันก็หมดปัญญาจะต่อล้อต่อเถียงด้วย ยิ่งพูดมีแต่เสียกับเสีย ดิฉันจึงต้องยอมรับชะตากรรม และก็อย่างที่คิดค่ะ ดิฉันทำงานที่พี่ไก่บอกว่าให้เอามา เพราะเกรงใจคนอื่นทั้งหมดอีกตามเคย เพราะพี่ไก่ลำพังงานประจำที่ทำทุกวันก็ยังไม่เสร็จ ครั้นจะทิ้งงานไว้ให้พี่ไก่ทำแล้วตัวเองกลับบ้าน แค่ทุกวันนี้ก็กลายเป็นคนไม่ช่วยงานพี่ไก่จะแย่แล้ว คนอื่นที่ไม่ได้มาทำงานกับดิฉันไม่มีใครรู้ว่าดิฉันเจออะไรบ้าง พอดิฉันพูดกับพี่ๆคนอื่น ก็เหมือนกับดิฉันว่าร้ายคนดีขององค์กร เข้าใจใช่ไหมคะว่าจะดูเป็นคนที่แย่แค่ไหน
ทุกวันนี้จึงต้องก้มหน้าก้มตาทำงานไป อยู่ดึกบ้าง กลับเร็วบ้างแล้วแต่วาระ
หลายๆคนอ่านอาจจะนึกว่าพี่ไก่เป็นคนยังไง บอกตรงๆตามที่สัมผัสและใกล้ชิดกับพี่ไก่มา คือแกเป็นคนดีจริงๆ ไม่ได้ตลบแตลงแกล้งทำความดีเอาหน้าใดๆ แกเป็นของแกแบบนี้เอง เพียงแต่แกเป็นคนไม่ค่อยคิดถึงผลที่ตามมา คิดอะไรง่ายๆ เห็นแกคนอื่นมากกว่าคนใกล้ตัว กับสามีแกก็เหมือนกัน ใครมายืมเงินแกให้หมด โดยไม่ได้คำนึงว่าเงินตรงนั้นสามีแกหามาลำบากแค่ไหน ลูกก็มีต้องกินต้องใช้ แต่ญาติมาขออะไรก็ให้หมด
เพราะแกเป็นคนดี ดิฉันก็เลยโกรธไม่ลงซักที สุดท้ายก็ต้องช่วยแกเพราะสงสารแก
แต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้นะค ดิฉันก็เป็นคนพูดตรงไปตรงมาเหมือนกัน พอพูดแกก็ไม่เถียงดิฉันซักคำ บางทีเหมือนจะดีขึ้นแต่สุดท้ายก็ทำเหมือนเดิม พูดบ่อยๆคนอื่นก็มองว่าเราเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะ มองว่าเราก้าวร้าวกับข้าราชการ ยิ่งเป็นข้าราชการดีเด่นด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่เลย เอาดิฉันไปนินทากันสนุกปาก เครียดมากค่ะ เหนื่อยด้วย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับฟังอะไรก็ไม้รู้ เรื่องบ้าๆของดิฉันเองแท้ๆ
จะด่าดิฉันว่าไม่มีความอดทน เกี่ยงงาน หรืออะไรก็ตามค่ะ ดิฉันยอมรับค่ะ เพราะมันเหนื่อยจริงๆ เหนื่อยเกินที่จะทน แต่ก็ต้องทนไปค่ะ ขอบคุณนะคะ
เครียดเรื่องคนดีๆที่ทำงานค่ะ
ที่มาตั้งกระทู้ไม่ได้ต้องการอะไรนอกไปจากการได้ระบาย อะไรก็ได้ ให้มันออกไปจากหัวสมองบ้างอ่ะค่ะ เหนื่อยมาก เครียดมากกกกก
ตอนนี้ดิฉันทำงานราชการอยู่ที่สำนักงานรัฐแห่งหนึ่งใกล้ๆกรุงเทพ
งานของดิฉันคือเกี่ยวกับเงินๆทองๆค่ะ และทำงานเป็นบัดดี้กับพี่ร่วมงานอีกคนที่เป็นข้าราชการ พี่คนนั้นอายุราวๆ40 ได้
ส่วนดิฉันแค่ 30 ซึ่งห่างกันพอสมควร
พี่คนนี้ ขอเรียกพี่ไก่นะคะ พี่ไก่เป็นคนที่มีจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือคนอื่น คิดดี ทำดี เรียกว่าใครได้เป็นเพื่อน/พี่/น้อง/ญาติ กับคนๆนี้คือโชคดีมากค่ะ
ดิฉัน ถ้าในฐานะพี่น้อง ก็รู้สึกยินดีและรัก+เคารพในตัวพี่ไก่มาก แต่ในฐานะเพื่อนร่วมงาน....
สิ่งที่ดิฉันเครียดคือ พี่ไก่เป็นคนที่ทำงานช้ามากกกกกกก ไม่ค่อยละเอียด ขี้หลงขี้ลืม ถ้าเป็นงายยากๆที่พี่เค้าไม่เคยทำหรือทำไม่ได้ พี่เค้าก็จะเลี่ยงไม่ทำ
ซึ่งภาระจะตกอยู่ที่ดิฉันทั้งหมด เข้าใจใช่ไหมคะ งานที่ต้องทำเป็นคู่ พออีกคนทำไม่ได้ อีกคนก็คือต้องทำ เพราะเกิดอะไรขึ้นคือรับผิดชอบร่วมกัน
ซึ่งพี่ไก่เป็นข้าราชการ ที่คนทั้งองค์กรให้ความเคารพ รัก และชื่นชอบในตัวพี่ไก่มาก ดิฉันเรียกว่าเทียบไม่ติด
เวลาคนอื่นมีอะไรให้ช่วย พี่ไก่จะไปช่วยงานคนอื่นก่อนเสมอ แล้วทิ้งงานตัวเองไว้ข้างหลัง ซึ่งงานตรงนี้มันมีกำหนดระยะเวลาในการทำอยู่
เช่น ถ้าไม่ทำให้เสร็จภายในกี่โมงๆ เงินจะไม่ออกตามกำหนด แต่พี่ไก่จะไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลยค่ะ จะคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
และที่ดิฉันบอกค่ะ ถ้าเป็นงานยากๆที่แกไม่เคยทำ พี่ไก่ก็จะเลี่ยงไม่ทำ หรือเก็บไว้ทำหลังสุดโดยไม่ได้สนใจว่าจะต้องรีบไหม จะมีใครรีบใช้เงิน/ข้อมูลหรือไม่ ดังนั้นเวลามีคนมาขอให้ช่วยทำ ด้วยความที่เกรงใจพี่ไก่จะรับงานคนอื่นมาทำทั้งหมด งานไหนยากพี่ไก่จะเก็บไว้ทำทีหลังเลือกทำงานง่ายก่อน ส่วนงานยากถ้าทำไม่ได้ก็จะค้างอยู่ที่พี่ไก่แบบนั้น พี่ไก่แกก็ไม่ได้โยนงานยาก ที่แกไปรับคนอื่นมาให้ดิฉันทำนะคะ แต่แกแค่ไม่ทำงานตัวเอง เพราะเคยถามพี่ไก่ว่า ทำไมไม่ทำงานตัวเองก่อน พี่ไก่บอกว่า งานตัวเองจะทำเมื่อไรก็ได้ งานคนอื่นสำคัญกว่า และอีกอยากก็มีดิฉันช่วยทำ งานเราอยู่กันตั้ง 2 คน แต่คนอื่นเค้าต้องทำกันคนเดียว โดยไม่ได้คิดเลยค่ะว่างานตรงนี้ทำไมต้องมี 2 คน เพราะงานมันหนักมากค่ะ และเป็นงานที่ปัญหาเยอะที่สุดในฝ่าย ต้องเจอปัญหาเฉพาะหน้าตลอด เป็นงานที่มีความเร่งด่วนเกิดขึ้นเสมอ พอมีเรื่องด่วนมาที แกก็ค่อยวางงานคนอื่นมาช่วยดิฉันทำ แต่ด้วยความที่แกทำงานช้ามาก บางครั้งก็เหมือนดิฉันทำงานนั้นคนเดียว และสุดท้ายแกก็ไม่ได้ซักงาน หลายครั้งที่ดิฉันต้องช่วยแกทำงานคนอื่นด้วยซ้ำค่ะ
ดิฉันเป็นคนทำงานเร็วค่ะ เรียกว่าเร็วมาก ไม่ได้จะอวยตัวเองนะคะ แต่เพื่ออธิบายให้คนอ่านเห็นภาพว่า ดิฉันต้องทำงานที่เป็นงานของ 2 คน ด้วยตัวคนเดียว แต่ดิฉันสามารถกลับบ้านในเวลา 4 โมงครึ่งได้โดยที่งานเสร็จ(เสร็จในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ) ในขณะที่พี่ไก่ ถึงจะแค่ทำงานตัวเอง ก็ยังต้องกลับบ้านดึกประจำ นั่นทำให้ใครๆมองว่าดิฉันไม่ช่วยงานพี่ไก่เสมอ แต่หลายครั้งที่แกกลับบ้านดึก นั่นเป็นเพราะแกทำงานคนอื่น เพราะงานของตรงนี้ ดิฉันได้ทำเสร็จหมดแล้วค่ะ
บางคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าอย่างนั้นทำไมดิฉันไม่ขอทำงานนี้คนเดียวไปเลย และให้พี่ไก่ไปอยู่ตรงอื่น นั่นเพราะจริงๆแล้ว งานนี้เป็นงานที่ปัญหาเยอะอย่างที่บอกค่ะ รายละเอียดก็เยอะมากๆ งานที่ดิฉันบอกว่าทำเสร็จใน 4 โมงครึ่ง เป็นงานเบื้องหน้า คืองานประจำที่ต้องทำให้เป็นปัจจุบันทุกวันๆไป แต่ยังมีอีกหลายงานที่ต้องคอยรวบรวม บันทึก เก็บข้อมูล เพื่อใช้ในการตัดสินใจของผู้บริหารด้วย ซึ่งตรงนี้เมื่อมีเวลาดิฉันจึงจะมาทำ หรือไม่ก็ต้องอยู่มืดเพื่อทำให้เสร็จ และก็อีกเคยค่ะ งานเบื้องหลังที่ว่าดิฉันรับผิดชอบคนเดียวทั้งหมด ในขณะที่พี่ไก่รับผิดชอบส่วนเบื้องหน้าร่วมกับดิฉันเท่านั้น และอีกอย่าง งานนี้ถือว่าเป็นงานสำคัญ เป็นหน้าเป็นตาของฝ่ายก็ว่าได้ ผู้ใหญ่จึงต้องการให้คนที่รับผิดชอบส่วนนี้เป็นพี่ไก่ ซึ่งเป็นคนที่คนเกือบทั้งองค์กรยอมรับ
และตอนนี้หัวหน้าบอกดิฉันว่า จะนำงานของพี่อีกคน (ขอเรียกว่าพี่สวย) มาให้เป็นงานตรงดิฉัน ซึ่งให้ผิดชอบร่วมกันกับพี่ไก่ หัวหน้าถามชั้นว่าไหวไหม ดิฉันก็เป็นคนพูดตรงๆกับหัวหน้า ว่าดิฉันคิดว่าจะไม่ไหว เพราะถ้าดิฉันทำ จะไม่มีคนตรวจทานงานนี้ ซึ่งตอนนี้พี่สวยทำจริง แต่ดิฉันก็ยังเรียกรายงานมาตรวจทานอีกครั้งเสมอ แต่ถ้าดิฉันทำเองทั้งหมดจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น
หัวหน้าบอกว่า ไม่ได้ให้ดิฉันทำคนเดียว แต่ให้ทำกับพี่ไก่
พี่ไก่ก็พูดขึ้นมาว่า ให้เอางานที่เกี่ยวกับตรงนี้มาให้ทำทั้งหมดเลยก็ได้ เกรงใจคนอื่นเค้าที่ต้องทำงานของเรา (ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่ว่าคนอื่นทำงานของเรา เพียงแต่เป็นงานที่มีส่วนหนึ่งเกี่ยวกับเรา ซึ่งอีกหลายส่วนก็ไม่เกี่ยวกับเรา พอนึกออกใช่ไหมคะ ถ้าจะเอามาคือต้องเอามาทั้งหมด)
ดิฉันก็หมดปัญญาจะต่อล้อต่อเถียงด้วย ยิ่งพูดมีแต่เสียกับเสีย ดิฉันจึงต้องยอมรับชะตากรรม และก็อย่างที่คิดค่ะ ดิฉันทำงานที่พี่ไก่บอกว่าให้เอามา เพราะเกรงใจคนอื่นทั้งหมดอีกตามเคย เพราะพี่ไก่ลำพังงานประจำที่ทำทุกวันก็ยังไม่เสร็จ ครั้นจะทิ้งงานไว้ให้พี่ไก่ทำแล้วตัวเองกลับบ้าน แค่ทุกวันนี้ก็กลายเป็นคนไม่ช่วยงานพี่ไก่จะแย่แล้ว คนอื่นที่ไม่ได้มาทำงานกับดิฉันไม่มีใครรู้ว่าดิฉันเจออะไรบ้าง พอดิฉันพูดกับพี่ๆคนอื่น ก็เหมือนกับดิฉันว่าร้ายคนดีขององค์กร เข้าใจใช่ไหมคะว่าจะดูเป็นคนที่แย่แค่ไหน
ทุกวันนี้จึงต้องก้มหน้าก้มตาทำงานไป อยู่ดึกบ้าง กลับเร็วบ้างแล้วแต่วาระ
หลายๆคนอ่านอาจจะนึกว่าพี่ไก่เป็นคนยังไง บอกตรงๆตามที่สัมผัสและใกล้ชิดกับพี่ไก่มา คือแกเป็นคนดีจริงๆ ไม่ได้ตลบแตลงแกล้งทำความดีเอาหน้าใดๆ แกเป็นของแกแบบนี้เอง เพียงแต่แกเป็นคนไม่ค่อยคิดถึงผลที่ตามมา คิดอะไรง่ายๆ เห็นแกคนอื่นมากกว่าคนใกล้ตัว กับสามีแกก็เหมือนกัน ใครมายืมเงินแกให้หมด โดยไม่ได้คำนึงว่าเงินตรงนั้นสามีแกหามาลำบากแค่ไหน ลูกก็มีต้องกินต้องใช้ แต่ญาติมาขออะไรก็ให้หมด
เพราะแกเป็นคนดี ดิฉันก็เลยโกรธไม่ลงซักที สุดท้ายก็ต้องช่วยแกเพราะสงสารแก
แต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้นะค ดิฉันก็เป็นคนพูดตรงไปตรงมาเหมือนกัน พอพูดแกก็ไม่เถียงดิฉันซักคำ บางทีเหมือนจะดีขึ้นแต่สุดท้ายก็ทำเหมือนเดิม พูดบ่อยๆคนอื่นก็มองว่าเราเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะ มองว่าเราก้าวร้าวกับข้าราชการ ยิ่งเป็นข้าราชการดีเด่นด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่เลย เอาดิฉันไปนินทากันสนุกปาก เครียดมากค่ะ เหนื่อยด้วย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับฟังอะไรก็ไม้รู้ เรื่องบ้าๆของดิฉันเองแท้ๆ
จะด่าดิฉันว่าไม่มีความอดทน เกี่ยงงาน หรืออะไรก็ตามค่ะ ดิฉันยอมรับค่ะ เพราะมันเหนื่อยจริงๆ เหนื่อยเกินที่จะทน แต่ก็ต้องทนไปค่ะ ขอบคุณนะคะ