ข่าวจาก: ฐานเศรษกิจ
[img]https://assets.msn.com/staticsb/statics//latest/views/icons/More.svg[/img]
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีงานวันคล้ายวันก่อตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ครบรอบ 49 ปี ว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมพร้อมเดินหน้าผลักดันนโยบายเร่งด่วนเพื่อปฏิรูปองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มุ่งเน้นการยกระดับบริการ ลดมลพิษ และลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน
ทั้งนี้มีแผนสำคัญ คือ การนำรถเมล์ไฟฟ้า (EV) เข้ามาทดแทนรถเมล์ร้อนทั้งหมด พร้อมหาแนวทางให้ผู้โดยสารที่รถโดยสารสีครีม-แดง (รถร้อน) ยังคงจ่ายค่าโดยสาร 8 บาท แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเป็นรถเมล์อีวี
“ยอมรับว่าปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งหารือกับรัฐบาล คือ การจัดการเรื่องค่าโดยสาร เพราะเมื่อยกเลิกรถเมล์ร้อนไปแล้ว ผู้โดยสารที่เคยจ่าย 8 บาท จะต้องเปลี่ยนไปใช้บริการรถแอร์ที่มีราคา 13 - 25 บาท” นายพิพัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ในเบื้องต้นรัฐบาลจะพิจารณามาตรการนี้เพื่อสนับสนุนให้ผู้โดยสารกลุ่มที่เคยใช้รถเมล์ร้อนยังสามารถใช้บริการรถแอร์ EV ได้ในราคา 8 บาทเท่าเดิม โดยไม่ใช้งบประมาณจากภาครัฐ ซึ่งจะต้องหาวิธีดำเนินการ
ส่วนรถปรับอากาศ 1,363 คันที่ให้บริการอยู่ จะมีการพิจารณาปรับลดค่าโดยสารลงจากราคาปัจจุบัน โดยคาดว่ามาตรการลดค่าใช้จ่ายนี้จะเห็นเป็นรูปธรรมและสามารถประกาศให้ประชาชนใช้ได้จริงภายในปีนี้ โดยนโยบายการลดค่าโดยสารจะครอบคลุมถึงรถร่วมบริการเอกชนด้วย
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำและกำชับให้การดำเนินการจัดหาและการเช่ารถเมล์อีวีต้องเป็นไปด้วยความ โปร่งใสที่สุด สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาหรือความล้มเหลวในการจัดซื้อจัดจ้างซ้ำรอยอดีต ขณะนี้ทราบว่าการดำเนินการอยู่ในขั้นตอนของการทำประชาพิจารณ์ร่างทีโออาร์
“ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเดินหน้าเพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการที่ดีขึ้นในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งรายละเอียดแพ็คเกจการลดค่าโดยสารทั้งหมดจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา” นายพิพัฒน์ กล่าว
ปิดตำนานรถร้อน ‘พิพัฒน์’ ลั่นจ่ายค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย นั่งรถเมล์อีวี (EV)