นี่เป็นกระทู้ที่สอง หลังจากกระทู้แรกที่เคยโพสไปเกือบปีแล้ว เคยเป็นไหมค่ะ ตอนไปเที่ยวแล้วกลับมาถึงไทยแล้วอยากเขียนรีวิว แบ่งปันให้คนอื่นได้อ่านเผื่อจะเป็นแนวทาง เหมือนที่เราเข้ามาหาข้อมูลในพันทิปกันนี่แหละ แต่เอาเข้าจริงๆ หมดแรง หมดพลัง หมดตัง 55+ กลับมาทำงาน งานยุ่งแล้วก็ผ่านไปเป็นปีๆจนลืม

ที่มาของกระทู้ท่องเที่ยวเมืองดูไบครั้งนี้ เกิดจาก บริษัทของ จขกท เพิ่งจะย้ายมาตั้งฐานที่เมืองดูไบค่ะ แต่ จขกท ยังทำงานที่ประเทศไทยนะคะ แล้วทีนี้ เพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานหลายคน ถูกส่งไปเทรนที่เมืองดูไบค่ะ ซึ่งไม่ค่อยมีคนอยากไปเท่าไหร่ บ้างก็ไม่รู้ว่ามีอะไร จะมีแต่ทะเลทรายหรือเปล่า อาหารจะกินได้ไหม บลาๆๆๆ แต่เนื่องด้วย เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว (บอกแล้วว่าหมดพลัง) ได้มีโอกาสไปเที่ยว เอาจริงๆ ตัว จขกท เอง ก็ไม่ได้มีความฝัน หรือ คลั่งไคล้ หนุ่มอาหรับ หรือ เพ้ออยากจะไปส่ายผ้ากลางทะเลทราย หรือ ขี่อูฐ อะไรเลย ที่มาของทริปนี้ สั้นๆเลย คือ เพื่อนสาวของ จขกท เป็นนางฟ้าอยู่ที่สายการบินอิมิเรตค่ะ หรือพูดง่ายๆ ว่าโดนหลอกล่อให้ไปเที่ยวค่ะ บังเอิญ เชื่อคนง่ายด้วย

เริ่มกันเลยค่ะ ออกตัวก่อนว่า รูปถ่าย อาจจะไม่สวยมาก เพราะถ่ายตามสภาพค่ะ ประมาณว่ายืมกล้องเพื่อนไปแล้วใช้ไม่เป็น และอาจจะมีรูปจากอินเตอร์เน็ตประกอบ เพื่อจะได้เห็นบรรยากศที่ชัดเจน ที่สำคัญ จขกท เน้นไปเที่ยวจริงๆ ก็อาจจะไม่ได้สนใจการถ่ายรูปสักเท่าไหร่ สถานที่บางที่อาจจะไม่สามารถลงรายละเอียดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องเดินทาง เพราะเพื่อนมีรถยนต์ค่ะ นี่บอกเลยว่าโชคดีมากที่ถ่ายรูปแพลนที่เพื่อนสาวทำไว้ให้ (นางละเอียดจริงๆ) ทำให้พอระลึกชาติได้หลายๆเรื่อง
เรื่องแรก ... เรื่องวีซ่า ถามว่าทำยากไหม ไม่อยากเลยค่ะ จ้างเอเจนซี่ทำ ง่ายสุด เขาจะลิสต์รายงานมาเลยว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ที่เน้นๆ คือ เงินในบัญชี ควรจะมี 6 หลักขึ้นนะคะ อย่าง จขกท ไปมา 2 อาทิตย์ มีเงินโชว์ในบัญชีประมาน แสนนิดๆค่ะ
การเดินทาง ... เมื่อ 3 ปีที่แล้ว สายการบินยังไม่มีโปรโมชั่นลดสนั่นเหมือนทุกวันนี้ จขกท ก็อุดหนุนเพื่อนค่ะ บินสายการบินอิมิเรต ล่าสุดเห็น โปรโมชั่น Fly Dubai ไป-กลับ แค่ประมาน 5 - 6 พันบาท ใช้เวลาเดินทางประมาน 5 ชั่วโมง



อย่าลืมนะคะ ทุกครั้งที่เดินทาง เอกสารต้องพร้อม โดยเฉพาะ ตั๋วไป-กลับ ที่พัก ตม. ของดูไบ ก็ขึ้นชื่อในเรื่องความเข้มงวด เพราะมีคนอยากเข้ามาทำงานที่นี่เยอะ แต่ ... ไม่โหดเท่าเกาหลีใต้ค่ะ รับรอง เอกสารครบ หน้าตาเราดูไม่อันตราย ก็ ผ่านคร่าาาา ลุยกันเลยยย



น้อง ลอร่า คือ ยานพาหนะของเราในทริปนี้ รถที่นี่ ขนาดเปิดประทุน ยังราคาถูกกว่า วีออสบ้านเราอีก


ขออนุญาติ เปิดตัวไกด์นำเที่ยวตลอดทั้ง 2 อาทิตย์นี้ค่ะ ทั้งวางแผนเดินทาง จองสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น The must เพราะเพื่อนทำงานที่นี่มา 3 ปีแล้วและ Top ten Night life ที่พลาดไม่ได้ ส่วนเรื่องที่พัก ก็พักบ้านนางฟรี  ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ

ต้องบอกไว้ก่อนว่า ทำไมรีวิวนี้เหมือนเน้นเที่ยวกลางคืนเยอะกว่ากลางวันจัง เหตุผลเพราะ เมืองดูไบอยู่ตะวันออกกลาง แล้วเดือนที่ไปคือเดือน พค- มิย ซึ่งเป็นหน้าร้อนของที่นั้น เวลากลางวัน อากาศ 45 - 50 องศา เป็นอย่างต่ำ ประเทศไทยที่ว่าร้อน ยังเอามาเทียบไม่ได้ ผิวไหม้คงไม่เหมาะ ต้องใช้คำว่า เกือบสุก 555+ ดังนั้นช่วงเวลาที่เราจะเริ่มออกจากบ้านคือ หลัง 5 โมงเย็น พระอาทิตย์ จะตกอีกทีประมานเกือบ 1 ทุ่ม ซึ่งพระอาทิตย์ตกที่นี่สวยทุกวันค่ะ
ระหว่างทาง

ตึกทรงแปลกๆ

โรงแรมดุสิตธานี


หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ขอบอกเลยว่า ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล .....
ลุยๆ คืนแรกที่ดูไบกันค่ะ
ร้านที่ 1 360 degree Dubai อยู่ที่ Jumeirah beach ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ โรงแรม Burj Al Arab


ขออนุญาติลงรูปจาก อินเตอร์เน็ต ว่ามันสวยขนาดไหน

รูปเพื่อนและ จขกท กับบรรยากาศภายในร้านค่ะ

พระอาทิตย์ก็ลาไป นั่งมองมุม โรงแรม Burj Al Arab ที่ปกติเคยเห็นในอินเตอร์เน็ต

บรรยากาศโดยรอบๆร้าน สมชื่อ วิว 360 องศา


นั่งจิบเครื่องดื่ม ชิวๆ กับวิว Burj Khalifa ไกลๆ

เพื่อนและสามี

วิวตอนกลางคืน

ขออนุญาติโพสบรรยากาศปาร์ตี้ของที่นี่จากอินเตอร์เน็ต


บาร์ 360 degree  ถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งของ Night life in Dubai ก็เดาไม่ยากจากวิวและสถานที่ ส่วนเรื่องเครื่องดื่ม ค็อกเทลราคาประมานแก้วละ 5-6 ร้อยบาท

หิวแล้ว ... เพราะเวลาต่างกับประเทศไทย 3 ชั่วโมง ดังนั้น คนที่นี่กว่าจะเริ่มทานข้าวเย็น ก็ประมานเกือบ 2 ทุ่ม ก็ เกือบๆ 5 ทุ่มบ้านเราแล้ว คืนแรกเพื่อนพามาเลี้ยงต้อนรับค่ะ ที่ Meat co ที่ Medinat souk (souk แปลว่า ตลาด) ก็จะคล้ายๆ ตลาดขายของตอนกลางคืนพร้อมร้านอาหาร บรรยากาศดีมากเลยทีเดียว

ขออนุญาติเพิ่มรูปบรรยากาศจากอินเตอร์เน็ต


Meat co เป็นร้านเนื้อวัวนำเข้าจาก South Africa สเต็ก อร่อยมากกกแต่เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปมา ((พลาด) มีแค่รูป เรา 3 คน จากฝีมือเด็กเสริฟ

อิ่มแล้ว ไปต่อกันค่ะ ปาร์ตี้ริมชายหาด (ที่นี่เขาครบจริงๆนะ) และเป็นคืนวันพฤหัสด้วย เพราะคนที่ดูไบจะทำงานวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี ดังนั้น คืนนี้จึงเป็นคืนที่คนจะออกมาปาร์ตี้ รีแลค และอากาศดีแตกต่างจากเวลากลางวันอย่างสิ้นเชิง

ร้านที่ 2 Barasti, Le Meridien Mina Seyahi Beach Resort & Marina ที่นี่ได้รับการแนะนำว่าต้องมาค่ะ

ขอเพิ่มบรรยากาศรูปจากอินเตอร์เน็ตก่อน


ไม่พ้น วิวตึกสูง


คืนแรก ก็จัดหนักแล้วค่ะ มาถึงแล้ว รออะไร ....
สามีเพื่อนเป็นคนสเปนที่ทำงานที่ดูไบค่ะ ก็จะมีแก็งเพื่อนๆที่นี่ตามมาชิลด้วย



สำหรับสาวๆที่อยากมาเที่ยวที่ดูไบ ถามว่า น่ากลัวไหม ถ้าไปเที่ยวกลางคืน เรื่องแรก คือ กฎหมายที่นี่ค่อนข้างเข้มงวด แต่จำนวนประชากรของผู้หญิงที่ดูไบน้อยกว่าผู้ชายแบบเกินครึ่ง ส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวกลางคืนก็เป็นคนต่างชาติที่ทำงานที่ดูไบ หน้าหมวยๆ เอเชียแบบเรา เขาก็จะคิดว่าเป็นคนฟิลิปปินส์ หรือ จีน นอกจากบางคนที่เคยมาเที่ยวประเทศไทยถึงจะรู้จัก ดังนั้น เรื่องมีหนุ่มๆเข้ามาแอ้ว ก็เป็นเรื่องปกติมากค่ะ  แต่ทุกคนก็จะมีมารยาท ถ้าเราไม่คุยหรือ ไม่สนใจ เขาก็จะไม่มาวุ่นวายนะ ที่ง่ายสุดคือ ส่งสามีเพื่อนไปคุยแทนค่ะ ส่วนเราก็สนุกสนานกับเพื่อนไป ฮาๆ

ยังๆๆ คืนแรก ยังไม่จบ เวลาก็เกือบจะเที่ยงคืน แต่อย่างที่บอก คืนวันพฤหัสบดี ทุกคนจะปาร์ตี้กันยาวร้านปิดเกือบ ตี 3 (บอกแล้วเพื่อนแพลนจัดเต็มจริงๆ) อีกเรื่องนึงที่สำคัญ คือ กฎหมายที่นี่เรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล เราสามารถซื้อได้เฉพาะตามร้านแบบนี้ หรือบาร์ในโรงแรมเท่านั้น คนส่วนใหญ่จะดื่มกันจากที่บ้านก่อนค่ะ เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลืองมาก ฮาๆๆ

ร้านสุดท้ายของคืนนี้ค่ะ
XL club Dubai ที่นี่ก็จะมีสาวๆทางโซนรัสเซียเต้นอยู่บนเวที แต่งตัวสวยมาก

Screw Driver คือ คำตอบ



คืนแรกในเมืองดูไบ ยอมรับว่า จขกท ก็จัดเต็มจริงๆ
แต่ ... เพิ่งคืนแรกนะคะ จขกท ยังเหลืออีกเกือบ 2 อาทิตย์ที่เหลือ แต่คืนนี้ขอไปนอนก่อนค่ะ พรุ่งนี้ทำงาน 6 โมงเช้า ถ้าใครกำลังจะอยากจะไปเที่ยวดูไบ สามารถทักทายคอมเม้นกันได้นะคะ สัญญาว่า ถ้ามีเวลาจะมาต่อสถานที่ท่องเที่ยวที่อื่น ทั้งแบบนักท่องเที่ยวและคนที่ทำงานที่นั่น ส่วนคืนนี้ ต้องขอตัวไปนอนก่อนค่ะ