ค่าเงินริงกิตมาเลย์ ห่วยจริงๆ คนไทยไม่อยากรับเงินมาเลย์? ทั้งที่มาเลย์ ดูดีกว่าไทย เพราะอะไร ?

ค่าเงินริงกิตมาเลย์วิกฤตหนักรอบ 30 ปี ร้านค้าส่งภาคใต้ไทย เริ่มปฎิเสธไม่รับแล้ว

ผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างจากวิกฤติค่าเงินริงกิตมาเลเซียตกต่ำ

จากกรณีที่เงินริงกิตมาเลเซียตกต่ำอย่างหนักในรอบ30ปี โดยค่าเงินปัจจุบัน 1ริงกิตแลกเงินไทยได้ประมาณ 8บาท และบางวันตกลงไปเหลือ7.5บาทนั้น ล่าสุดได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกทั้งระบบ จากค่าเงินริงกิตตกต่ำ ผู้ประกอบการรายย่อย และรายใหญ่บางส่วนเริ่มปฏิเสธการรับเงินริงกิตของมาเลเซีย เนื่องจากไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงจากค่าเงินมาเลเซียที่ยังไม่มีเสถียรภาพและยังไม่มีแนวโน้มที่จะกระเตื้องขึ้นในเร็ววันนี้

โดยนายสุรพล พูลสวัสดิ์ ร้านพี่อ๊อด สามแยกร่มไทร ระบุว่า ค่าเงินริงกิตตกต่ำทำให้ทางร้านต้องหักเงินลูกค้าในกรณีนำเงินริงกิตมาจ่ายค่าสินค้าโดยคิดในอัตรา1 ริงกิตเท่ากับ7บาทเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงกรณีเงินริงกิตตกต่ำกว่าเดิม นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันร้านค้าส่งในพื้นที่ ได้ปฏิเสธที่จะรับเงินริงกิต ซึ่งหากต้องการไปซื้อสินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายภายในร้านก็จะต้องแลกเป็นเงินบาทไทยไปซื้อเท่านั้น

ด้านนางโสภิดา กาญจนเพ็ญ ร้านพี่สาวค้าข้าวสาร กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาประกอบกับค่าเงินริงกิตตกต่ำ ทำให้ลูกค้าชาวมาเลเซียหายไปมากกว่าร้อยละ80 ทั้งที่ชาวมาเลเซียนิยมบริโภคข้าวสารเก่าของไทยมากกว่าข้าวสารที่จำหน่ายอยู่ภายในประเทศ ทำให้การค้าเป็นไปอย่างเงียบเหงาแม้จะเป็นช่วงวันศุกร์และวันเสาร์ที่โดยปกติจะมีชาวมาเลเซียเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นแม้จะมีความเสี่ยงต่อค่าเงินริงกิตที่เก็บเอาไว้แต่เพื่อรักษาลูกค้าขาประจำ ทางร้านจึงจำเป็นต้องคิดอัตราซื้อขายตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ทำให้ค่าเงินริงกิตที่ลูกค้านำมาซื้อข้าวสารจึงแปรผันตามอัตราแลกเปลี่ยนจริง พร้อมยอมรับว่าเศรษฐกิจการค้าชายแดนน่าเป็นห่วง เพราะส่วนใหญ่ร้านค้าและธุรกิจเกือบทั้งระบบในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก พึ่งพาการจับจ่ายซื้อสินค้าของชาวมาเลเซียเป็นหลัก ตอนนี้จึงได้แต่ทำใจและภาวนาให้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศมาเลเซียฟื้นตัวโดยเร็ว

95

ขณะที่นายอุเทน ทิพรัตน์ ร้านอุเทนการค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีลูกค้าขาประจำเป็นชาวมาเลเซีย กล่าวว่า ช่วงนี้ถือว่าบรรยากาศการค้าอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก ค่าเงินริงกิตตกต่ำทำให้ชาวมาเลเซียไม่เข้ามาในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกเลย สินค้าที่เคยสั่งเป็นจำนวนมาก ก็ลดปริมาณลงและซื้อเท่าที่จำเป็นทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการปรับตัวในห้วงนี้เน้นใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น และพยายามรักษาลูกค้าประจำเอาไว้ เพื่อที่จะได้มีทุนหมุนเวียนในการจำหน่ายสินค้าต่อไปได้

http://www.matichon.co.th/news/379075

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
มาเลย์มีหลายๆอย่างดีกว่าไทย ถึงแม้ขนาดเศรษฐกิจจะเล็กกว่าไทยก็ตาม

ประเทศเค้ารายได้ต่อหัวต่อคนก็สูงกว่าไทย เป็นประเทศในอาเซียนประเทศเดียว(ไม่นับสิงคโปร์)ที่ใกล้เคียงที่จะขึ้นเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แผนยุทธศาสตร์ของประเทศนี้เค้าพูดถึงการตั้งเป้าการก้าวขึ้นเป็นประเทศพัฒนาแล้วให้ได้

การศึกษาก็ไปไกลกว่าไทย

คอรัปชั่นก็น้อยกว่าไทย

การคมนาคมก็ดีกว่าไทย ในกัวลาลัมเปอร์ ระบบขนส่งมวลชน พวกรถไฟฟ้า รถเมล์ ก็เป็นระบบระเบียบกว่ากรุงเทพ ผังเมืองก็วางดีกว่า

กังลาลัมเปอร์มีอุโมงผันน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่เรียกว่าสมาร์ท มี ทั้งหมด 3 ชั้น 2ชั้นเอาไว้ให้รถวิ่ง 1ชั้นไว้ระบายน้ำ แต่เมื่อมีน้ำมากๆก็สามารถปิดชั้นที่รถวิ่ง เพื่อระบายน้ำได้ เมืองมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่ดีกว่ากรุงเทพ

รถไฟจากภาคเหนือลงจนถึงภาคใต้ เค้าใช้ระบบไฟฟ้าวิ่ง จำรูป เปรียบเทียบรถไฟได้ไหม ที่รถไฟไทยไปจอดที่สถานีในมาเลเชีย แล้วจอดคู่กับรถไฟมาเลย์ รถไฟเราเหมือนหลุดมาจากอดีต (เมื่อก่อนมาเลย์เคยมาดูงาน ระบบรางในไทย แต่ตอนนี้ก็ไปไกลกว่าไทย)

มาเลเซีย มีถนนมอเตอร์เวย์ วิ่งจากภาคเหนือลงถึงใต้ ทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตก ประเทศไทยมีแค่กรุงเทพถึงพัทยา และอยุธยา (ในขณะนี้)

หนังสือเดินทางสัญชาติมาเลเซีย สามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นๆได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า ร้อยกว่าประเทศ รวมทั้งหลายๆประเทศในยุโรปด้วย (ถ้าจำไม่ผิด รวมทั้งอังกฤษด้วย) แต่หนังสือเดินทางไทยเราสามารถเข้าประเทศอื่น โดยไม่ต้องขอวีซ่า มีเพียงแค่หยิบมือ

ปล.ไม่อยากจะเปรียบเทียบประเทศไทยกับประเทศอื่นนะ แต่ตอบคำถามคนที่หลายคนถามว่า มาเลย์มีดีกว่าไทยตรงไหน?

ปล2. คำถามที่เจ้าของกระทู้ถาม ผมไม่กล้าตอบนะครับ เพราะพอรู้แบบคร่าวๆเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่