คนที่เค้ารู้อยู่เต็มอกว่าแฟนนอกใจ แต่ต้องทำเป็นไม่รู้ เค้าต้อง strong แค่ไหนกันนะ

เรากับแฟนคบมาเกือบปีครึ่งแล้ว กว่าจะผ่านอะไรมาถึงตอนนี้ ก็เรียกได้ว่าหนักหนาอยู่เหมือนกัน เราเป็นคนที่เริ่มชอบเค้าก่อน ด้วยที่ว่าเค้าเป็นคนพูดจาดี สุภาพเรียบร้อย อาจเป็นเพราะเราไม่ค่อยจะได้เจอคนแบบนี้มากนัก จึงทำให้เราประทับใจเค้าตั้งแต่เริ่มแรก แต่กว่าเราจะรักกันตอนนี้ เราโดนไล่ โดนเกลียด โดนด่ามาเยอะมากกก แต่เราไม่ไปไหน เรายังอยู่ เพราะเรารักเค้ามาก เรายอมทุกอย่าง เค้าเคยถามเราว่า ทำไมไล่แล้วไม่ไปไหน เป็นคนอื่นเค้าโดนด่าโดนไล่ขนาดนี้ ไม่มีใครทนอยู่หรอก เราตอบว่า ก็รักไง

เค้ามักจะเล่าเรื่องแฟนเก่าให้เราฟังบ่อยๆ ว่าแฟนแต่ละคนเป็นคนนิสัยยังไง เลิกกันไปเพราะอะไร ส่วนมากจะเลิกกันเพราะแฟนขี้หึง เพราะเค้าเป็นคนเจ้าชู้ เค้าบอกเราว่า จนมาตัดสินใจรักเรา เพราะเราไม่เหมือนแฟนเก่าที่ผ่านมา เราไม่เหวี่ยง ไม่วีน ไม่โวยวาย นิสัยส่วนตัวเราเป็นคนเรียบร้อย เราไม่ชอบการทะเลาะกัน ไม่ว่ากะใครก็แล้วแต่ หากเราเห็นคนอื่นทะเลาะกัน เรามักจะพูดว่า ทำไมต้องทะเลาะกัน พูดกันดีๆไม่ได้เหรอ หรือแม้แต่หากทะเลาะกับแฟน เราว่าการทะเลาะกัน มันเป็นเรื่องเสียเวลา ชีวิตคนเรามันสั้นนัก ไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน จะมามัวทะเลาะกันทำไม เรามักทำทุกๆวันในปัจจุบันให้ดีที่สุด ให้ทุกๆวันมีความสุข เพราะเราไม่รู้เลยว่าในวินาทีข้างหน้า เราจะเจออะไรบ้าง เราอาจไม่ได้เห็นหน้ากันอีกต่อไปเลยก็ได้ เราคิดแบบนี้

แฟนเราเคยบอกเราว่า เค้าจะไม่ลืมเรา ไม่ทิ้งเราไปไหน เพราะเราคือคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเค้ามาตลอด ผ่านเรื่องเลวร้ายอะไรมา ก็คอยช่วยเหลือกัน ปลอบโยนซึ่งกันและกันมาตลอด เราไม่เคยคิดจะทิ้งเค้าไปไหน ต่อให้เราโดนกระทำด้วยคำพูดจาเจ็บๆ ให้เราเจ็บมากแค่ไหนก็ตาม เราก็ไม่ไปไหน

แรกๆเมื่อก่อนเรายังไปๆมาๆระหว่างบ้านเรา ห้องแฟน เพราะแฟนเราอยู่คนเดียว เราไม่อยู่ด้วยเค้าจะเหงา ด้วยที่ว่าบรรดาแฟนเก่าของเค้าที่ผ่านมา จะอยู่ด้วยกันตลอดไม่เคยห่างกันไปไหน นอกจากเวลาทำงาน เค้าพูดเสมอว่า หากเราอยู่ด้วยกัน เราจะผูกพันกัน ซึ่งเค้าก็อยากให้เราไปอยู่ด้วยตลอด เราก็เลยไปอยู่ด้วยกันกับแฟน แรกๆก็กลับบ้าน สองสามวันที อาทิตย์นึงกลับที อาทิตย์กว่าๆกลับที เริ่มห่างบ้านไปบ้าง จนหลังๆเราป่วยเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆขึ้น เค้าบอกเราว่า อยากให้เราไปอยู่กับเค้าด้วยเลย เค้าจะได้ดูแลเราได้อย่างเต็มที่ อยู่ใกล้ๆกับโรงพยาบาลมีอะไรก็เร็วกว่าอยู่บ้านแน่ๆ แล้วอยู่ที่บ้านก็ไม่มีใครดูเลเราได้ เค้าให้เราเลือก เราก็เลือกเค้า หลังจากออกจากโรงพยาบาล เราก็คุยกับแม่ ว่าแฟนเราบอกว่าแบบนี้ๆ แฟนเราดูแลเราได้ดีจริงๆนะ แม่บอกว่า แม่ไม่เคยว่า จะกลับหรือไม่กลับบ้าน หากเค้ายืนยันว่าจะดูแลเราได้จริงๆ ก็แล้วแต่เรา  เราก็เลยย้ายมาอยู่ห้องแฟน แต่ก็ยังมีบ้างนานๆทีค่อยกลับไปหาแม่ อาทิตย์นึงค้างบ้านแม่สักคืน แบบนี้

หนึ่งในเหตุผลที่บอกแม่ไปด้วยคือ หากย้ายมาอยู่กับแฟน เราจะได้ทำเกษตร ดูแลเห็ด เก็บเห็ดขาย เพราะเกษตรเป็นสิ่งที่แฟนเราใฝ่ฝันอยากทำมานานแล้ว เราหาที่ดินด้วยกัน พอได้ที่ดินเล็กๆผืนนึง ที่เจ้าของให้ใช้ฟรี ไม่คิดค่าเช่า และอยู่ใกล้ที่หอแฟน พวกเราดีใจมาก เริ่มลงมือถางหญ้า ปรับพื้นที่ เพื่อจะปลูกผัก เราช่วยกันสองคน ด้วยมือเราเปล่าๆ กับอุปกรณ์การเกษตรเท่านั้น ไม่มีเครื่องทุ่นแรงใดๆ พร้อมกับซื้อเชื้อเห็ดมา เก็บดอกสดขายที่ออฟฟิศ ขายได้หลักร้อย พวกเราก็ดีใจกันมากแล้ว หากดอกเห็ดที่ไม่สวย เราก็นำมาฉีกตากแดดเพื่อจะส่งเป็นเห็ดตากแห้ง ซื่งได้ราคาดี ก็เคยนั่งฉีกกันเที่ยงคืน ตีหนึ่ง  วางแผนกิจการกันใหญ่โต

แปรรูปเป็นแหนมเห็ด เราก็ทำ  หาสูตรจากอินเตอร์เน็ต ช่วยกันทำ  ตีหนึ่งนั่งมัดแหนมเห็ดกัน ง่วงแค่ไหนก็ทำ เหนื่อยแค่ไหน ก็ไม่ท้อ เพราะเราทำแล้วเรามีความสุข ลองทำแล้วก็ลองขาย แต่ก็ไม่เวิร์คเลยเลิกไป

เพาะเห็ดฟางเอง ซื้อเชื้อเห็ด มาทำเห็ดฟางในตะกร้า นั่งฉีกเชื้อเห็ด สับผักตบชวา ยีก้อนเชื้อเห็ดที่ไม่ใช้แล้ว เห็ดฟางรอบแรกออกมา เราดีใจกันมาก แต่รอบสองเห็ดไม่ออก เพราะฝนตก อากาศเปลี่ยน ผลผลิตไม่ดี ก็เลิกไป

นั่งเพาะเมล็ดผักสลัด เพื่อที่จะปลูกลงในกระถาง ก็ไม่ดีผลดี ก็ไม่ได้ทำ

เราทำงานออฟฟิศกันไปด้วย มีเวลาว่างก็บางเสาร์ วันอาทิตย์ เหนื่อยแค่ไหน เราก็ไม่ท้อ แฟนบอกห้ามพูดว่าเหนื่อย เพราะมันจะทำให้เราเหนื่อย พอเวลาถามกัน ก็ต้องตอบว่า  “ไม่เหนื่อยค่ะ” แต่ความจริงแล้ว โคตรเหนื่อย แต่เป็นการเหนื่อยที่มีความสุข แฟนเราได้ทำในสิ่งที่เค้าชอบ เค้าก็มีความสุข เราได้เห็นแฟนเรามีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย

แฟนเรามีความรู้เรื่องเกษตร เราชอบทำอาหาร นี่คงเป็นอีกผลหนึง ที่เราคบกันได้ดี

จนกระทั่งที่ดินตรงนั้น เจ้าของจะเอาคืนไปให้คนอื่นเช่า ซึ่งมีรายได้แน่นอน  เราต้องย้ายของออกแบบกระทันหันมาก ลางานกันไปช่วนขยของออก สองวันถึงจะเสร็จ


พวกเราก็มองหาที่ดินผืนใหม่ แต่ไม่ได้ง่ายเลย เพราะเรามีข้อกำหนดกันเยอะมาก อยากได้ใกล้บ้าน ทำหลังเลิกงานได้ มีน้ำมีไฟพร้อม ราคาถูก เพื่อที่เราจะได้ลงทุนกันน้อยหน่อย แรกๆที่คบกัน แฟนพาเราตระเวนไปหาที่ดินตามที่ต่างๆมากมาย เราก็ไปด้วย ไปช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจ บางที่ ที่ดินสวย แต่ค่าเช่าแพง เราก็ไม่ไหว บางที่คิดค่าเช่าที่ถูกมาก แต่ปัจจัยอื่นๆ ไม่ไหว ก็ไม่เอา

แฟนถามเราว่า หากได้ที่ดิน เราต้องย้ายหอที่ไปหอใกล้ๆ ย้ายที่ทำงานใหม่ เราจะไปกับเค้าไหม

เราบอกไป เรายอมทิ้งบ้าน ทิ้งครอบครัว ไปเริ่มใหม่ด้วยกัน แต่หากไป ไม่ใช่ไปเลยปุ๊บปั๊บ ต้องดูก่อนว่างานที่ใหม่ ดีกว่าหรือเปล่า หอดีกว่าหรือเปล่า พออยู่กันได้ไหม  ดูปัจจัยอะไรหลายๆอย่างก่อน

จนเราได้ที่ดินจากคุณลุงใจดีคนนึง ขอที่ย้ายจากที่เก่ามา ฝากลุงไว้ ยังไม่ได้ไปเอาคืนเลย รู้สึกผิด หากเราเช่าที่ผืนนี้ ลุงคิดค่าเช่าไม่แพง แต่พอบวกลบคูณหารกับค่าหอใหม่ บางหอมีเก็บค่าที่จอดรถด้วย คิดแล้ว ไม่คุ้ม สู้ไม่ไหว

แฟนเราหางานใหม่ หาที่ดินไปด้วย หาไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะได้ ส่วนเรายังทำงานที่เดิม

แฟนเราเปลี่ยนเป้าหมายแล้ว ในกรุงเทพหาที่ดินยากมาก เลยเบนไปหาที่ต่างจังหวัด ไปเจอที่นึง เราก็ไปดูที่ดินด้วยกัน ที่ดินสวยมากกก เหมาะกับการทำเกษตร เพราะเจ้าของก็ทำเกษตรอยู่แล้ว เค้าไปจอยกันได้ เค้าไม่คิดค่าที่ด้วยซ้ำ

ถ้าเอาที่ตรงนี้ แฟนเราถาม ไปด้วยกันไหม เค้าจะไปหางานใกล้ๆ ทำเกษตรไปด้วย หากดี จะออกจากงานมาทำเกษตรเต็มตัว เราบอกไป ไปไหนเราไปด้วย ลำบากด้วยกันเราไป เราไม่ยอมให้เค้าไปลำบากคนเดียวแน่ๆ แต่หากไปอยากไปหลังปีใหม่นะ เพราะอยากได้โบนัสก่อน แต่สุดท้ายสรุปที่ตรงนี้ เจ้าของที่จริงๆ เค้าไม่ให้เราทำ เพราะเค้าคงเห็นว่า ผลผลิตที่เราทำ คงได้ไม่คุ้มกับที่เค้าจะมาให้เราเช่า เลยยกเลิกไป

เจออีกที่นึง ได้ใกล้บ้านพ่อเราเลย เราดีใจกันมาก เพราะหากได้ที่ดินตรงนี้ ก็จะได้ย้ายมาอยู่บ้านพ่อเรากัน ไม่ต้องเสียค่าเช่าห้องอีก คุยกับเจ้าของที่ดิน ก็โอเค คิดที่จะเริ่มโครงการแล้ว เริ่มย้ายของมาบ้านพ่อ แวะไปดูที่ดินด้วย จนวันนึง เจ้าของที่เริ่มคุยไม่โอเคแล้ว แฟนเราโกรธมาก เพราะเค้าเป็นคนไม่ยอมใคร เราต้องคอยดึงไว้ ทั้งๆที่เราก็ไม่โอเคกับเจ้าของที่เหมือนกัน สรุปตรงนี้ก็ไม่เอา

ระหว่างหาที่ดินไม่ได้ แฟนเราก็หางานไปเรื่อยๆ ได้หลายที่ จนมาเลือกที่ใกล้ๆกับที่เราทำอยู่ ดีเลย ไปกลับด้วยกัน สบาย เช้ามาส่ง เย็นรับกลับบ้าน

เหตุผลนึงที่ย้ายไปอยู่บ้านพ่อ ก็เพราะแมว เจ้าของหอเก่าเริ่มสงสัยเรื่องเลี้ยงแมว เราเลยต้องย้ายออก อีกเหตุผลคือ ประหยัดค่าหอ เพราะช่วงที่แฟนเราตกงาน เราเป็นคนจ่ายค่ารถ ค่าหอให้ก็ร่วมหมื่นแล้ว แน่นอนทุกอย่างที่ใช้กินใช้ซื้อ ในชีวิตประจำวัน เติมน้ำมันรถ อาหารแมว ทรายแมว เป็นเงินเราเอง แต่เราเต็มใจที่จะจ่ายอยู่แล้ว ประมาณสามสี่เดือนได้มั้งกว่าที่แฟนเราจะได้งานใหม่ ลำพังเงินเดือนเราแค่หมื่นกว่าบาท ก็ไม่พออยู่แล้ว  เราไม่เคยบ่นเรื่องเงินให้แฟนเราฟัง  แม้แต่คำเดียว เพราะสำหรับเราคิดว่า เรื่องเงินเรื่องเล็ก มันเป็นของนอกกาย ไม่เป็นไร สักวันเราต้องมีธุรกิจที่เป็นของเราเอง เราจะต้องมีรายได้ที่ดีกว่านี้ ปลดหนี้ได้แน่นอน  เพราะเราไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจไปกับเราด้วย เราคิดแบบนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่