ถ้าไม่มีคนสร้างคอม ก็จะไม่มีสิ่งอื่นๆตามมาทั้งหมด
คิดไปถึงเทคโนโลยีอื่นๆก็เช่นเดียวกัน
แต่ทำไมนักวิทยาศาสตร์ได้เงินน้อยจัง แถมไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่
แต่ทำไมทีเด็กอายุ 15 16 มาร้องเพลงลงยูทูป สักพักดัง ไปออกเทป
ไปเข้าค่ายเพลง สักพัก มีเงินมากมาย เป็นล้านๆบาท
ดูจะไม่ค่อยยุติธรรมกับอาชีพนักวิทย์เท่าใดนัก
เงินก็น้อย งานก็หนัก ต้องทุ่มเทศึกษาใช้เวลามาก
คนก็ไม่รู้จัก โดนประโยคว่า ถึงจะเงินน้อยแต่ก็ได้ทำงานที่ตัวเองรัก
อ้าว พวกร้องเพลงอัดคลิปลงยูทูปเขาก็รักการร้องเพลง ยังได้เป็นล้านๆ เลย
คิดไปถึงเทคโนโลยีอื่นๆก็เช่นเดียวกัน ไปสังเกตสิ คนคิดค้นที่เป็นพนักงาน
จนท ในห้องแลป ได้เงินไม่เยอะหรอก
คนที่ได้เยอะคือ เจ้าของบริษัท รัฐบาลเก็บภาษีได้มาก หรือคนที่เอาเทคโนโลยีนั้นไปประยุกต์ใช้
ส่วนคนที่ทำงานจริงๆ คิดค้นจริงได้เงินนิดเดียว มันยุติธรรมไหม?
นักวิทย์ได้รางวัลโนเบลต้องปั่นจักรยานไปสอนนักศึกษาอ่ะ คิดดู
พวกนี้เขาสร้างทฤษฎี ให้คนในแลปไปสร้างประยุกต์ใช้สร้างสิ่งต่างๆ และคนที่เหลืออื่นๆเอาไปทำเงินมากมาย
ทำไมนักวิทย์คนสร้างคอมทำงานในแลปได้เดือนละ50k B แต่เด็กอายุ 15 ร้องเพลงลงยูทูปได้เป็นล้านๆบาท ไม่ยุติธรรมเลย?
คิดไปถึงเทคโนโลยีอื่นๆก็เช่นเดียวกัน
แต่ทำไมนักวิทยาศาสตร์ได้เงินน้อยจัง แถมไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่
แต่ทำไมทีเด็กอายุ 15 16 มาร้องเพลงลงยูทูป สักพักดัง ไปออกเทป
ไปเข้าค่ายเพลง สักพัก มีเงินมากมาย เป็นล้านๆบาท
ดูจะไม่ค่อยยุติธรรมกับอาชีพนักวิทย์เท่าใดนัก
เงินก็น้อย งานก็หนัก ต้องทุ่มเทศึกษาใช้เวลามาก
คนก็ไม่รู้จัก โดนประโยคว่า ถึงจะเงินน้อยแต่ก็ได้ทำงานที่ตัวเองรัก
อ้าว พวกร้องเพลงอัดคลิปลงยูทูปเขาก็รักการร้องเพลง ยังได้เป็นล้านๆ เลย
คิดไปถึงเทคโนโลยีอื่นๆก็เช่นเดียวกัน ไปสังเกตสิ คนคิดค้นที่เป็นพนักงาน
จนท ในห้องแลป ได้เงินไม่เยอะหรอก
คนที่ได้เยอะคือ เจ้าของบริษัท รัฐบาลเก็บภาษีได้มาก หรือคนที่เอาเทคโนโลยีนั้นไปประยุกต์ใช้
ส่วนคนที่ทำงานจริงๆ คิดค้นจริงได้เงินนิดเดียว มันยุติธรรมไหม?
นักวิทย์ได้รางวัลโนเบลต้องปั่นจักรยานไปสอนนักศึกษาอ่ะ คิดดู
พวกนี้เขาสร้างทฤษฎี ให้คนในแลปไปสร้างประยุกต์ใช้สร้างสิ่งต่างๆ และคนที่เหลืออื่นๆเอาไปทำเงินมากมาย