26-27 /11/2559
ทริปเดินป่าไป 9.2 กิโลเมตร กลับ 9.2 หน่วยพิทักษ์ป่าสลักพระ น้ำตกลำอีซู ตัวล่าง. นอนป่ามากกว่านอนบ้าน ทุกวันนี้ขนจะงอกออกมาเป็นลิงแล้ว
ลำบากแค่ไหนก็ไปถึงสวยมาก ชอบ เส้นทาง เพื่อนร่วมทาง คือ มันดีต่อใจ
คิดถึงนะ คนรักษ์ป่า ขอบคุณ จนท.ทุกๆ คนมากคะ พี่สุชาติ พี่ตุ้ม แฟง ขอบคุณหัวหน้าไพฑูรย์ที่อนุญาตให้เราได้ไปชมธรรมชาตที่สวยงาม (พื้นที่นี้ต้องขออนุญาตเข้าเป็นรายๆ ไป ยังไม่ใช่สถานที่ที่จะพักแรมได้) ติดตามเรื่องราวของพวกเราได้คะ
หน่วยพิทักษ์ป่าหนองรี เป็นหน่วยพิทักษ์ป่าที่อยู่บนสุดทางทิศตะวันออกอยู่ในพื้นที่ของอำเภอบ่อ พลอย สำนักงานของหน่วยพิทักษ์ป่าตั้งอยู่ริมห้วยอีซู มีสถานที่สวยงาม เหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการ และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติลำอีซูตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งนี้
ทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าต้องอนุญาตทางเขตเข้าเป็นกรณีพิเศษ เส้นทางที่เราไปไม่ใช่เส้นทางศึกษาธรรมชาติเราจะเดินเข้าไปที่น้ำตกลำอีซู ทีมของเราประกอบไปด้วย เช เลขามด พี่ติ๋ว(ลุงตะหลิว) สีน้ำ ออย นนท์ คุณใหม่ และเจ้าหน้าที่นำทางอีก 4 คน
อ่านสักนิด เพราะเราคิดว่าน้อยคนมากๆ ที่จะเคยได้ยิน หรือ ได้เข้ามาสัมผัสที่นี่กับสถานที่ที่ชื่อว่าเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ
ป่าเมืองกาญจน์ในอดีต“จังหวัดกาญจนบุรีเคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่า ป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติ แต่หลังสงครามมหาเอเชียบูรพา(พ.ศ. 2484 - 2488) สัตว์ป่าถูกล่าจนเกือบหมดสิ้นไป การล่าสัตว์ส่วนมากไม่ได้ล่าอย่างแบบกีฬา แต่เป็นการล่าแบบล้างผลาญ เช่น การนั่งรถจี๊ปส่องไฟสปอร์ตไลท์ฉายกราดแล้วยิงไม่เลือกว่าเป็นสัตว์ชนิดใด เป็นสัตว์ที่มีประโยชน์หรือไม่ แม้แต่ลิง ค่าง บ่าง ชะนี ซึ่งเป็นสัตว์สวยงามประดับป่าก็ถูกยิงจนแทบไม่เหลือติดป่า กระต่ายป่าซึ่งเคยมีตามท้องทุ่งก็ถูกยิงจนแทบสูญสิ้นนกยูงอันเป็นต้นเสียงของเพลงเขมรไทรโยค ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงพระนิพนธ์ก็ถูกยิงจนแทบไม่มีเหลือ”
เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ เป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าแห่งแรกในประเทศไทย
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี แต่เดิมชาวบ้านรู้จักกันดี เรียกว่า ทุ่งสลักพระ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดอาศัยอยู่อย่างชุกชุม พรานป่าสมัยดั้งเดิม เช่น น้อย อินทนนท์ นพ.บุญส่ง เลขะกุล จะรู้จักป่าสลักพระได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากบทประพันธ์ของท่านเหล่านี้จะมีเรื่องเกี่ยวกับการออกล่าสัตว์ป่าในทุ่งสลักพระ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า ในป่าสลักพระมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อยู่ในเชิงเขาล้อมรอบอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหญ้าและต้นไม้ที่ออกผล เป็นอาหารของสัตว์ป่าอยู่มากมาย เช่น มะขามป้อม ไทร มะกอก สมอ ฯลฯ และยังมีโป่งดินเค็มซึ่งสัตว์ป่าต้องการลงกินเป็นจำนวนมากกว่า 100 โป่ง ทุ่งสลักพระมีพื้นที่ประมาณ 20,000 - 23,000 ไร่ และยังมีทางติดต่อกับทุ่งหญ้ากว้างอีกแห่งหนึ่งมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ เรียกว่า ทุ่งนามอญ ซึ่งสัตว์ป่าสามารถหนีภัยข้ามไปมาได้ในป่าทุ่งสลักพระและยังมีลำห้วยไหลผ่านและมีน้ำตลอดปี ลำห้วยที่สำคัญได้แก่ ห้วยสะด่องหรือห้วยสลักพระ ซึ่งสัตว์ป่าได้อาศัยกินนอกจากนั้นบริเวณติดต่อทุ่งสลักพระกับทุ่งนามอญ และยังมีน้ำตกที่สูงชันและสวยงามอีกด้วย สัตว์ป่าในป่าทุ่งสลักพระถูกรบกวนจากพรานอาชีพและพรานสมัครเล่นมาเป็นเวลาช้านาน สัตว์ป่าซึ่งแต่เดิมมีอยู่มากมายจึงเหลือน้อยลงไป
ต่อมาทางราชการได้จัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และประกาศในราชกิจจานุเบกษาขึ้นเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรก เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2508 มีเนื้อที่ประมาณ 963 ตารางกิโลเมตร หรือ 602,000 ไร่ นับเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2515 ได้มีการเพิกถอนพื้นที่บางส่วนเพื่อประโยชน์ในการให้สัมปทานบัตรเหมืองแร่ เหลือเนื้อที่ประมาณ 936.20 ตารางกิโลเมตร หรือ 585,125 ไร่ วันที่ 11 สิงหาคม 2520 ได้เพิกถอนพื้นที่บางส่วน เพื่อประโยชน์ในการก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ และใช้เป็นที่สำหรับอพยพราษฎรจากบริเวณน้ำท่วม เหลือเนื้อที่ประมาณ 858.55 ตารางกิโลเมตร หรือ 536,594 ไร่ ในปัจจุบัน
[CR] (น้ำตกลำอีซู) หน่วยพิทักษ์ป่าหนองรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี
26-27 /11/2559
ทริปเดินป่าไป 9.2 กิโลเมตร กลับ 9.2 หน่วยพิทักษ์ป่าสลักพระ น้ำตกลำอีซู ตัวล่าง. นอนป่ามากกว่านอนบ้าน ทุกวันนี้ขนจะงอกออกมาเป็นลิงแล้ว ลำบากแค่ไหนก็ไปถึงสวยมาก ชอบ เส้นทาง เพื่อนร่วมทาง คือ มันดีต่อใจ คิดถึงนะ คนรักษ์ป่า ขอบคุณ จนท.ทุกๆ คนมากคะ พี่สุชาติ พี่ตุ้ม แฟง ขอบคุณหัวหน้าไพฑูรย์ที่อนุญาตให้เราได้ไปชมธรรมชาตที่สวยงาม (พื้นที่นี้ต้องขออนุญาตเข้าเป็นรายๆ ไป ยังไม่ใช่สถานที่ที่จะพักแรมได้) ติดตามเรื่องราวของพวกเราได้คะ
หน่วยพิทักษ์ป่าหนองรี เป็นหน่วยพิทักษ์ป่าที่อยู่บนสุดทางทิศตะวันออกอยู่ในพื้นที่ของอำเภอบ่อ พลอย สำนักงานของหน่วยพิทักษ์ป่าตั้งอยู่ริมห้วยอีซู มีสถานที่สวยงาม เหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการ และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติลำอีซูตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งนี้
ทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าต้องอนุญาตทางเขตเข้าเป็นกรณีพิเศษ เส้นทางที่เราไปไม่ใช่เส้นทางศึกษาธรรมชาติเราจะเดินเข้าไปที่น้ำตกลำอีซู ทีมของเราประกอบไปด้วย เช เลขามด พี่ติ๋ว(ลุงตะหลิว) สีน้ำ ออย นนท์ คุณใหม่ และเจ้าหน้าที่นำทางอีก 4 คน
อ่านสักนิด เพราะเราคิดว่าน้อยคนมากๆ ที่จะเคยได้ยิน หรือ ได้เข้ามาสัมผัสที่นี่กับสถานที่ที่ชื่อว่าเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ
ป่าเมืองกาญจน์ในอดีต“จังหวัดกาญจนบุรีเคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่า ป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติ แต่หลังสงครามมหาเอเชียบูรพา(พ.ศ. 2484 - 2488) สัตว์ป่าถูกล่าจนเกือบหมดสิ้นไป การล่าสัตว์ส่วนมากไม่ได้ล่าอย่างแบบกีฬา แต่เป็นการล่าแบบล้างผลาญ เช่น การนั่งรถจี๊ปส่องไฟสปอร์ตไลท์ฉายกราดแล้วยิงไม่เลือกว่าเป็นสัตว์ชนิดใด เป็นสัตว์ที่มีประโยชน์หรือไม่ แม้แต่ลิง ค่าง บ่าง ชะนี ซึ่งเป็นสัตว์สวยงามประดับป่าก็ถูกยิงจนแทบไม่เหลือติดป่า กระต่ายป่าซึ่งเคยมีตามท้องทุ่งก็ถูกยิงจนแทบสูญสิ้นนกยูงอันเป็นต้นเสียงของเพลงเขมรไทรโยค ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงพระนิพนธ์ก็ถูกยิงจนแทบไม่มีเหลือ”
เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ เป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าแห่งแรกในประเทศไทย
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี แต่เดิมชาวบ้านรู้จักกันดี เรียกว่า ทุ่งสลักพระ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดอาศัยอยู่อย่างชุกชุม พรานป่าสมัยดั้งเดิม เช่น น้อย อินทนนท์ นพ.บุญส่ง เลขะกุล จะรู้จักป่าสลักพระได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากบทประพันธ์ของท่านเหล่านี้จะมีเรื่องเกี่ยวกับการออกล่าสัตว์ป่าในทุ่งสลักพระ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า ในป่าสลักพระมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อยู่ในเชิงเขาล้อมรอบอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหญ้าและต้นไม้ที่ออกผล เป็นอาหารของสัตว์ป่าอยู่มากมาย เช่น มะขามป้อม ไทร มะกอก สมอ ฯลฯ และยังมีโป่งดินเค็มซึ่งสัตว์ป่าต้องการลงกินเป็นจำนวนมากกว่า 100 โป่ง ทุ่งสลักพระมีพื้นที่ประมาณ 20,000 - 23,000 ไร่ และยังมีทางติดต่อกับทุ่งหญ้ากว้างอีกแห่งหนึ่งมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ เรียกว่า ทุ่งนามอญ ซึ่งสัตว์ป่าสามารถหนีภัยข้ามไปมาได้ในป่าทุ่งสลักพระและยังมีลำห้วยไหลผ่านและมีน้ำตลอดปี ลำห้วยที่สำคัญได้แก่ ห้วยสะด่องหรือห้วยสลักพระ ซึ่งสัตว์ป่าได้อาศัยกินนอกจากนั้นบริเวณติดต่อทุ่งสลักพระกับทุ่งนามอญ และยังมีน้ำตกที่สูงชันและสวยงามอีกด้วย สัตว์ป่าในป่าทุ่งสลักพระถูกรบกวนจากพรานอาชีพและพรานสมัครเล่นมาเป็นเวลาช้านาน สัตว์ป่าซึ่งแต่เดิมมีอยู่มากมายจึงเหลือน้อยลงไป
ต่อมาทางราชการได้จัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และประกาศในราชกิจจานุเบกษาขึ้นเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรก เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2508 มีเนื้อที่ประมาณ 963 ตารางกิโลเมตร หรือ 602,000 ไร่ นับเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2515 ได้มีการเพิกถอนพื้นที่บางส่วนเพื่อประโยชน์ในการให้สัมปทานบัตรเหมืองแร่ เหลือเนื้อที่ประมาณ 936.20 ตารางกิโลเมตร หรือ 585,125 ไร่ วันที่ 11 สิงหาคม 2520 ได้เพิกถอนพื้นที่บางส่วน เพื่อประโยชน์ในการก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ และใช้เป็นที่สำหรับอพยพราษฎรจากบริเวณน้ำท่วม เหลือเนื้อที่ประมาณ 858.55 ตารางกิโลเมตร หรือ 536,594 ไร่ ในปัจจุบัน