หลายคนคงมีความฝันกันใช่ไหมคะ
เหมียวก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบดื่มกาแฟและค็อกเทลมากจึงมีความฝันว่าอยากมีร้านกาแฟเล็กๆ
ที่ขายทั้งอาหารทานเล่น กาแฟ และมีบาร์ค็อกเทล เป็นของตัวเองซักร้าน
แต่บังเอิญมีเหตุให้ต้องซื้อบ้านก่อนที่จะได้ทำร้าน บ้านเป็นทาวน์โฮมหัวมุมพอดี มองไปมองมา มันน่าจะเป็นอะไรได้มากกว่าบ้าน ในโครงการบ้านเหมียวถือว่ามาอยู่เฟสแรกๆเลย ข้างบ้านเขาก็ทำเป็นร้านขายของชำ เหมียวจึงปิ้งไอเดีย.......
"บ้านเราก็เป็น Coffee Shop ได้นี่"
โชคดีที่เหมียวจบสถาปัตย์มา แต่ไม่ได้ทำงานสายนี้เลย บ้านหลังนี้เหมียวจึงถือโอกาสปัดฝุ่นตำราที่เคยร่ำเรียนมา
เขียนแบบ ออกแบบ วัดพื้นที่ทุกส่วนของบ้านที่คิดจะต่อเติมเพิ่มเองทั้งหมด
ทาวน์โฮมส่วนมากจะต่อเติมด้านหลังบ้านให้เป็นส่วนห้องครัวกันใช่ไหมคะ แต่เมื่อเหมียวจะทำส่วนนึงของบ้านให้เป็น
coffee shop จึงต้องยกครัวมาไว้ต่อกับห้องรับแขกเลย เป็นครัวในบ้านแบบสมบูรณ์ครบเซท
จากในภาพตรงประตูกระจกบานเลื่อนชั้นล่าง เข้ามาจะพบกับส่วนรับแขก และมองตรงเข้าไปจะเป็นส่วนที่ต่อเติมเองให้เป็นครัวค่ะ
ซึ่ง 2 ส่วนนี้จะเป็นส่วนของร้าน
โดยทั้งสองส่วนนี้เหมียวทาสีเทาค่ะ เป็นความชอบส่วนตัว^^ลงมือทาสีเองกับแฟนเลยค่ะ อยากให้ออกมาดูแนวLoft จริงๆอยากจะLoft
ทั้งบ้านแต่กลัวผู้ใหญ่จะรับไม่ได้ 555 เลยขอไว้แค่ส่วนครัวกับรับแขก (ในภาพส่วนที่กำลังทาคือห้องครัวค่ะ)
ทาสีเรียบร้อยก็มาเริ่มทำครัวกันค่ะ
(ภาพนี้เป็นเคาน์เตอร์ครัวเมื่อมองมาจากทางห้องรับแขก)
เคาน์เตอร์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ เจาะช่องลงเตาฝัง กับวางซิ้งค์
ส่วนตอนปูนเปือยขัดมันเคาน์เตอร์ ให้ช่างทำให้ แต่ต้องคอยบอกช่างว่าทำยังไง
เพราะลุงแกทำไม่เป็น ออกมาก็สวยเป็นที่น่าพอใจเลยค่ะ
เตาแก๊สแบบฝัง กับเครื่องดูดควัน เลือกเป็นรุ่นสีขาวของลัคกี้เฟลม (เตาฝัง รุ่นLGS-913W, เครื่องดูดควัน รุ่นRG-911T(W)) มาเป็นชุดคู่กันเลยค่ะซื้อเป็นคู่ได้ราคาถูกกว่าด้วย ตอนแรกว่าจะเอาสีดำ แต่มันจะกลืนไปทั้งครัว เพราะสีผนังก็เทาแล้ว
กลัวเหมือนกันว่าจะทำความสะอาดยาก แต่แฟนดูข้อมูลมา สีขาวมันเคลือบอยู่ใต้ผิวกระจก
เวลาทำความสะอาดก็เช็ดธรรมดาได้เหมือนเตาหน้ากระจกทั่วไป ส่วนเครื่องดูดควันกำลังดูดโอเคเลยค่ะ ทำครัวในบ้านน่าจะหายห่วง
ส่วนซิ้งค์เลือกขนาดใหญ่หน่อยค่ะ เพราะต้องรองรับทั้งเครื่องปั่น แก้วชง หลายอย่าง
เดินระบบไฟก็ออกมาเป็นบาร์ในฝันแล้วค่ะ (ไฟไปได้มจากIkea)^^
ติดชั้นวางขวดโหลและอุปกรณ์ต่างๆ
เหมียวตั้งใจนำครัวเข้ามาไว้ในบ้านเลยต้องหาข้อมูลในการทำส่วนนี้ให้ดีๆ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
เลยออกแบบให้ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวเปิดโล่ง ไม่ก่อทึบหรือเอาประตูมาปิดกั้น เพื่อเวลาวางถังแก๊ส อากาศถ่ายเทได้สะดวก
เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน แล้วแก๊สจะทำงานได้ดีขึ้น ไม่เปลืองแก๊สด้วยค่ะ
เตาแก๊ส เครื่องดูดควัน ใช้ลัคกี้เฟลมเพราะที่บ้านยี่ห้อนี้ใช้มาตั้งแต่เหมียวเด็กๆ คุณภาพดี ทนเลยแหละ
ทุกวันนี้เตาเก่าก็ยังไม่พัง แล้วยิ่งตอนนี้นำเตาเข้ามาในตัวบ้านและบ้านมีเด็กเล็กด้วย เลยไม่อยากเปลี่ยนใจ ใช้อะไรที่เราไว้ใจดีกว่า
ส่วนครัวปูนนั้นยิ่งปิดทึบมันจะคลายความชื้น ทำให้เกิดเชื้อรา ลองสังเกตุกันดูนะคะ ครัวปูนที่ปิดประตู นานๆเวลาเราเปิดจะได้กลิ่นอับๆกันใช่มั้ยคะ ยิ่งตรงอ่างซิ้งค์ยิ่งเพิ่มความชื้นเข้าไปใหญ่เลย เหมียวกับลูกชายเป็นภูมิแพ้ค่ะ อะไรที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้
ก็จะพยายามหลีกเลี่ยง ใต้อ่างล้างจานเหมียวจึงเปิดโล่งให้อากาศถ่ายเทได้เช่นกัน ส่วนกระเบื้องทั้งที่พื้นและ แกรนิตโต้ก็เลือกปูแผ่นใหญ่ๆ เพื่อให้ช่องยาแนวน้อยที่สุด เพราะช่องยาแนวนี่แหละแหล่งเพาะเชื้อราและฝุ่นได้เป็นอย่างดีเลย
และก็เริ่มทยอยซื้ออุปกรณ์ทำร้านเข้ามา เช่น กระดานเมนู เก้าอี้เคาน์เตอร์
เจิมเก้าอี้บาร์คนแรกด้วยลูกค้าตัวน้อย ^^
เริ่มฝึกมือทำอาหารซักหน่อย
ตอนหาข้อมูลเตา ก็กลัวเหมือนกันว่าเตาฝังจะไฟแรงได้ไม่เท่าเตาธรรมดาที่เคยใช้ แต่ผิดคาดค่ะ ทอดปลา ต้มผัดแกงทอดได้สบายมาก
ลองฝีมือกับเมนูออเดิร์ฟง่ายๆที่จะนำมาขายที่ร้าน ทำทีไรเจ้าตัวเล็กฟาดเรียบ
จานนี้ให้ผ่าน ไข่กระทะของโปรด ^^
ส่วนท่านนี้กรรมการอาวุโส คอยดูแลเรื่องเครื่องดื่ม ^^ (ได้เครื่องชงกาแฟมาก็จัดการทดลองเลย แก้วกาแฟสวยๆยังไม่ทันได้ซื้อใช้แก้วน้ำของลูกชาย ช้อนกลางทานข้าวน่าร๊ากกกก)
เครื่องชงกาแฟ เหมียวใช้ของOXYGEN ใช้งานโอเคเลย ถ้าอัดกาแฟเยอะๆ ชงได้2แก้ว/1ครั้ง เหมาะกับร้านเล็กๆเหมือนของบ้านเหมียว
- Set เตาแก๊สแบบฝังและเครื่องดูดควัน อันนี้แฟนไปซื้อ ถ้าจำไม่ผิดเป็นโปรชุดสีขาว ทั้งเตา + เครื่องดูดควัน รวมกันอยู่ที่ประมาณ 24,900 บาท
ส่วนห้องรับแขกกำลังต่อเติมเรื่อยๆติดชั้น ติดทีวีเรียบร้อยค่ะ โซฟายังไม่ได้มาลงเลย แต่เห่อครัวเลยรีบทำรีวิว ^^ จริงๆ ค่อยๆเพิ่มตกแต่งไปเรื่อยๆค่ะ ไม่รีบร้อน แล้วที่คิดไว้ร้านเราจะเปิดแค่วันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้นค่ะ เพราะทั้งเหมียวและแฟนก็ทำงานประจำกันทั้งคู่ โต๊ะก็จะไม่ได้เอามาลงเยอะ เพราะลูกค้าส่วนมากก็คงจะเป็นซื้อกลับไปทานที่บ้านกัน (มีความชิวทั้งเจ้าของร้านและลูกค้า555) ตรงส่วนห้องรับแขกจึงไม่ได้ตกแต่งอะไรมากค่ะ จะมีก็แค่ตู้เจ้ากุ้งเครฟิชน้อย ที่ลองเลี้ยงไว้เพาะพันธุ์และตกแต่ง
การนำร้านมาไว้ในบ้าน ก็แอบหวั่นใจเหมือนกันว่าจะเกิดปัญหาอะไรมั้ย ไว้เปิดร้านอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ เหมียวจะมาอัพเดตนะคะ ^^
ฝากเพื่อนๆที่กำลังอ่านอยู่ "ความฝัน" บางคนอาจจะหลงลืม บางคนปล่อยมันไว้ให้อยู่กับอดีตในวัยเด็กของตัวเอง
เพราะคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอก มันก็แค่ความฝัน ชีวิตจริงยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ
แต่ถ้าหากลองนำฝันมาดัดแปลงกับสิ่งที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน ทำไปพร้อมๆกัน ไม่ต้องให้สำเร็จใหญ่โต แต่แค่ได้ทำในสิ่งอยากทำ
เริ่มทีละเล็กละน้อยไปเรื่อยๆ รู้มั้ยคะว่ามันเป็นสิ่งมีความสุขมากๆเลย
ทำตามความฝันได้ โดยไม่ต้องออกจากงานประจำ เพราะบ้านเป็นได้ทุกอย่าง
เหมียวก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบดื่มกาแฟและค็อกเทลมากจึงมีความฝันว่าอยากมีร้านกาแฟเล็กๆ
ที่ขายทั้งอาหารทานเล่น กาแฟ และมีบาร์ค็อกเทล เป็นของตัวเองซักร้าน
แต่บังเอิญมีเหตุให้ต้องซื้อบ้านก่อนที่จะได้ทำร้าน บ้านเป็นทาวน์โฮมหัวมุมพอดี มองไปมองมา มันน่าจะเป็นอะไรได้มากกว่าบ้าน ในโครงการบ้านเหมียวถือว่ามาอยู่เฟสแรกๆเลย ข้างบ้านเขาก็ทำเป็นร้านขายของชำ เหมียวจึงปิ้งไอเดีย.......
"บ้านเราก็เป็น Coffee Shop ได้นี่"
โชคดีที่เหมียวจบสถาปัตย์มา แต่ไม่ได้ทำงานสายนี้เลย บ้านหลังนี้เหมียวจึงถือโอกาสปัดฝุ่นตำราที่เคยร่ำเรียนมา
เขียนแบบ ออกแบบ วัดพื้นที่ทุกส่วนของบ้านที่คิดจะต่อเติมเพิ่มเองทั้งหมด
ทาวน์โฮมส่วนมากจะต่อเติมด้านหลังบ้านให้เป็นส่วนห้องครัวกันใช่ไหมคะ แต่เมื่อเหมียวจะทำส่วนนึงของบ้านให้เป็น
coffee shop จึงต้องยกครัวมาไว้ต่อกับห้องรับแขกเลย เป็นครัวในบ้านแบบสมบูรณ์ครบเซท
จากในภาพตรงประตูกระจกบานเลื่อนชั้นล่าง เข้ามาจะพบกับส่วนรับแขก และมองตรงเข้าไปจะเป็นส่วนที่ต่อเติมเองให้เป็นครัวค่ะ
ซึ่ง 2 ส่วนนี้จะเป็นส่วนของร้าน
โดยทั้งสองส่วนนี้เหมียวทาสีเทาค่ะ เป็นความชอบส่วนตัว^^ลงมือทาสีเองกับแฟนเลยค่ะ อยากให้ออกมาดูแนวLoft จริงๆอยากจะLoft
ทั้งบ้านแต่กลัวผู้ใหญ่จะรับไม่ได้ 555 เลยขอไว้แค่ส่วนครัวกับรับแขก (ในภาพส่วนที่กำลังทาคือห้องครัวค่ะ)
ทาสีเรียบร้อยก็มาเริ่มทำครัวกันค่ะ
(ภาพนี้เป็นเคาน์เตอร์ครัวเมื่อมองมาจากทางห้องรับแขก)
เคาน์เตอร์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ เจาะช่องลงเตาฝัง กับวางซิ้งค์
ส่วนตอนปูนเปือยขัดมันเคาน์เตอร์ ให้ช่างทำให้ แต่ต้องคอยบอกช่างว่าทำยังไง
เพราะลุงแกทำไม่เป็น ออกมาก็สวยเป็นที่น่าพอใจเลยค่ะ
เตาแก๊สแบบฝัง กับเครื่องดูดควัน เลือกเป็นรุ่นสีขาวของลัคกี้เฟลม (เตาฝัง รุ่นLGS-913W, เครื่องดูดควัน รุ่นRG-911T(W)) มาเป็นชุดคู่กันเลยค่ะซื้อเป็นคู่ได้ราคาถูกกว่าด้วย ตอนแรกว่าจะเอาสีดำ แต่มันจะกลืนไปทั้งครัว เพราะสีผนังก็เทาแล้ว
กลัวเหมือนกันว่าจะทำความสะอาดยาก แต่แฟนดูข้อมูลมา สีขาวมันเคลือบอยู่ใต้ผิวกระจก
เวลาทำความสะอาดก็เช็ดธรรมดาได้เหมือนเตาหน้ากระจกทั่วไป ส่วนเครื่องดูดควันกำลังดูดโอเคเลยค่ะ ทำครัวในบ้านน่าจะหายห่วง
ส่วนซิ้งค์เลือกขนาดใหญ่หน่อยค่ะ เพราะต้องรองรับทั้งเครื่องปั่น แก้วชง หลายอย่าง
เดินระบบไฟก็ออกมาเป็นบาร์ในฝันแล้วค่ะ (ไฟไปได้มจากIkea)^^
ติดชั้นวางขวดโหลและอุปกรณ์ต่างๆ
เหมียวตั้งใจนำครัวเข้ามาไว้ในบ้านเลยต้องหาข้อมูลในการทำส่วนนี้ให้ดีๆ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
เลยออกแบบให้ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวเปิดโล่ง ไม่ก่อทึบหรือเอาประตูมาปิดกั้น เพื่อเวลาวางถังแก๊ส อากาศถ่ายเทได้สะดวก
เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน แล้วแก๊สจะทำงานได้ดีขึ้น ไม่เปลืองแก๊สด้วยค่ะ
เตาแก๊ส เครื่องดูดควัน ใช้ลัคกี้เฟลมเพราะที่บ้านยี่ห้อนี้ใช้มาตั้งแต่เหมียวเด็กๆ คุณภาพดี ทนเลยแหละ
ทุกวันนี้เตาเก่าก็ยังไม่พัง แล้วยิ่งตอนนี้นำเตาเข้ามาในตัวบ้านและบ้านมีเด็กเล็กด้วย เลยไม่อยากเปลี่ยนใจ ใช้อะไรที่เราไว้ใจดีกว่า
ส่วนครัวปูนนั้นยิ่งปิดทึบมันจะคลายความชื้น ทำให้เกิดเชื้อรา ลองสังเกตุกันดูนะคะ ครัวปูนที่ปิดประตู นานๆเวลาเราเปิดจะได้กลิ่นอับๆกันใช่มั้ยคะ ยิ่งตรงอ่างซิ้งค์ยิ่งเพิ่มความชื้นเข้าไปใหญ่เลย เหมียวกับลูกชายเป็นภูมิแพ้ค่ะ อะไรที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้
ก็จะพยายามหลีกเลี่ยง ใต้อ่างล้างจานเหมียวจึงเปิดโล่งให้อากาศถ่ายเทได้เช่นกัน ส่วนกระเบื้องทั้งที่พื้นและ แกรนิตโต้ก็เลือกปูแผ่นใหญ่ๆ เพื่อให้ช่องยาแนวน้อยที่สุด เพราะช่องยาแนวนี่แหละแหล่งเพาะเชื้อราและฝุ่นได้เป็นอย่างดีเลย
และก็เริ่มทยอยซื้ออุปกรณ์ทำร้านเข้ามา เช่น กระดานเมนู เก้าอี้เคาน์เตอร์
เจิมเก้าอี้บาร์คนแรกด้วยลูกค้าตัวน้อย ^^
เริ่มฝึกมือทำอาหารซักหน่อย
ตอนหาข้อมูลเตา ก็กลัวเหมือนกันว่าเตาฝังจะไฟแรงได้ไม่เท่าเตาธรรมดาที่เคยใช้ แต่ผิดคาดค่ะ ทอดปลา ต้มผัดแกงทอดได้สบายมาก
ลองฝีมือกับเมนูออเดิร์ฟง่ายๆที่จะนำมาขายที่ร้าน ทำทีไรเจ้าตัวเล็กฟาดเรียบ
จานนี้ให้ผ่าน ไข่กระทะของโปรด ^^
ส่วนท่านนี้กรรมการอาวุโส คอยดูแลเรื่องเครื่องดื่ม ^^ (ได้เครื่องชงกาแฟมาก็จัดการทดลองเลย แก้วกาแฟสวยๆยังไม่ทันได้ซื้อใช้แก้วน้ำของลูกชาย ช้อนกลางทานข้าวน่าร๊ากกกก)
เครื่องชงกาแฟ เหมียวใช้ของOXYGEN ใช้งานโอเคเลย ถ้าอัดกาแฟเยอะๆ ชงได้2แก้ว/1ครั้ง เหมาะกับร้านเล็กๆเหมือนของบ้านเหมียว
รวมราคาส่วนครัวคร่าวๆแล้ว
- ทำเคาน์เตอร์รูปตัวยู 7 ตารางเมตร และขัดมันเปลือย รวมค่าของ+ค่าแรง 8,000 บาท
เพราะส่วนออกแบบเหมียวดูเอง เลยได้มาในราคาที่ราคาถูกมากกกกกก
- ค่าพร๊อบเครื่องครัว ไม่เกิน 2,000 บาท (บางส่วนขนมาจากบ้านแม่)
- เครื่องชงกาแฟ ไปสอยมาตอนลดราคา 1,500 บาท
- Set เตาแก๊สแบบฝังและเครื่องดูดควัน อันนี้แฟนไปซื้อ ถ้าจำไม่ผิดเป็นโปรชุดสีขาว ทั้งเตา + เครื่องดูดควัน รวมกันอยู่ที่ประมาณ 24,900 บาท
ส่วนห้องรับแขกกำลังต่อเติมเรื่อยๆติดชั้น ติดทีวีเรียบร้อยค่ะ โซฟายังไม่ได้มาลงเลย แต่เห่อครัวเลยรีบทำรีวิว ^^ จริงๆ ค่อยๆเพิ่มตกแต่งไปเรื่อยๆค่ะ ไม่รีบร้อน แล้วที่คิดไว้ร้านเราจะเปิดแค่วันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้นค่ะ เพราะทั้งเหมียวและแฟนก็ทำงานประจำกันทั้งคู่ โต๊ะก็จะไม่ได้เอามาลงเยอะ เพราะลูกค้าส่วนมากก็คงจะเป็นซื้อกลับไปทานที่บ้านกัน (มีความชิวทั้งเจ้าของร้านและลูกค้า555) ตรงส่วนห้องรับแขกจึงไม่ได้ตกแต่งอะไรมากค่ะ จะมีก็แค่ตู้เจ้ากุ้งเครฟิชน้อย ที่ลองเลี้ยงไว้เพาะพันธุ์และตกแต่ง
การนำร้านมาไว้ในบ้าน ก็แอบหวั่นใจเหมือนกันว่าจะเกิดปัญหาอะไรมั้ย ไว้เปิดร้านอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ เหมียวจะมาอัพเดตนะคะ ^^
ฝากเพื่อนๆที่กำลังอ่านอยู่ "ความฝัน" บางคนอาจจะหลงลืม บางคนปล่อยมันไว้ให้อยู่กับอดีตในวัยเด็กของตัวเอง
เพราะคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอก มันก็แค่ความฝัน ชีวิตจริงยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ
แต่ถ้าหากลองนำฝันมาดัดแปลงกับสิ่งที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน ทำไปพร้อมๆกัน ไม่ต้องให้สำเร็จใหญ่โต แต่แค่ได้ทำในสิ่งอยากทำ
เริ่มทีละเล็กละน้อยไปเรื่อยๆ รู้มั้ยคะว่ามันเป็นสิ่งมีความสุขมากๆเลย