วันนี้จะมาบอกข้อดีของการตกงานกันค่ะ
อย่ามัวเครียดกันไปเลยเพื่อนๆ สำหรับคนที่กำลังอยู่ในสถานะนี้
การตกงานมี 2 สถานะ คือตกแบบตั้งใจ และตกแบบไม่ทันตั้งตัว(โดนให้ออกนั่นเอง)
แต่พอรู้ตัวว่าจะตกงานแล้ว สิ่งที่ต้องทำก่อนคือ
1. ตั้งสติ และเข้าเว็บนี้เลยค่ะ
http://empui.doe.go.th/auth/index ไปลงทะเบียนคนว่างงานไว้ก่อน จะได้มีเงินสำรองใช้ เป็นเงินคืนส่วนหนึ่งที่เราโดนหักจากบริษัทให้ประกันสังคมในแต่ละเดือน
2. ค้นห้อง ในห้องมีของมือสองอะไรสภาพใช้งานได้บ้าง ปล่อยขายเลยค่ะ เอามาปัดฝุ่นทำความสะอาดซะหน่อย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ยั้นขวดน้ำพลาสติก นี่แหละรายได้เล็กๆน้อยๆที่อย่ามองข้ามเชียว
3. ลดค่าใช้จ่าย อะไรบ้างที่ดูจะสิ้นเปลือง เช่น ค่าโทรศัพท์ถ้ามีมากกว่า 1 เบอร์ ก็ลดเหลือแค่เบอร์เดียวพอ โปรเสริมที่เคยสมัครก็ยกเลิกซะ อินเตอร์หาใช้ Wifi ฟรี ตามห้างเอาค่ะ (แอร์เย็นด้วย) หรือกาแฟแบรนด์ดังแก้วละเป็นร้อย เปลี่ยนมาอุดหนุนกาแฟแบรนด์ไทยดูค่ะ ถูกกว่าและได้อรรถรสอยู่ไม่น้อย และลดปริมาณการกินลงบ้าง เหลือแค่อาทิตย์ละครั้ง สองครั้งก็พอ
4. กินของอร่อยมื้อใหญ่ซักมื้อ ถือเป็นการให้รางวัลตัวเอง และเป็นการให้กำลังใจ สู้ต่อค่ะ (ดื่มด่ำความฟินนั้นเอาไว้มากๆ และบอกตัวเองว่าฉันจะต้องกลับมากินอีก และจะกลับมาพร้อมความสำเร็จด้วย)
ที่นี้เรามาพูดถึงข้อดี ของการตกงานกันบ้าง
1. ได้เวลาชีวิตคืนมาแล้วววววว หลังจากทุ่มเทสร้างรายได้ให้คนอื่นเค้ารวยมานานจากการเป็นลูกจ้างประจำ ที่นี้แหละเราจะมีเวลาของเราคืน ทั้งให้กับตัวเอง ให้กับครอบครัว
พ่อแม่เรา เป็นกำลังใจสำคัญที่สุด ไปจุลเจือลมหายใจให้ท่านซะ กลับไปนั่งกินข้าวกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา หรือคนที่มีครอบครัวของตัวเองแล้ว ก็ พาลูกเมียไปทำกิจกรรมร่วมกันดูค่ะ (เค้าเหล่านั้นคือกำลังใจชั้นยอด)
2. เมื่อเรามีเวลาเพิ่ม เราก็เอาเวลานี้แหละหาทักษะเพิ่ม ลงคอร์สเรียนเลยค่ะ เริ่มจากคอร์สฟรีไปก่อน เค้าอาจจะกั๊กความรู้อยู่พอสมควร แต่ถือว่าไปเปิดโลก ไปหาเพื่อนใหม่ หรือลงคอร์สแบบเสียเงินไปเลยก็ได้ แต่เลือกที่เราสนใจจริงๆนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะหมดเงินซะก่อน คอร์สแบบเจาะลึกเฉพาะทางอาจมีราคาสูงซักหน่อย แต่อย่าลืมว่าที่เหล่านั้นมีเครือข่ายคุณภาพอยู่เต็มไปหมด หรือจะลงเรียนภาษาเพิ่มก็ยิ่งดีค่ะ
และเดี๋ยวนี้มีคอร์สออนไลน์เยอะมาก ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วย ในกลุ่มเฟสบุ๊คมีเพียบ
3. ออกกำลังกาย อันนี้เด็ดจริง การออกกำลังกายเปลี่ยนคนมาเยอะ ดูได้จากในกระทู้หลายๆอันในพันทิปได้เลย เปลี่ยนจากตือโป๊ยก่ายเป็นเทพบุตรมาเยอะแล้ว หรือบางคนก็กลายร่างจากผีเสื้อสมุทรเป็นนางฟ้าก็มีไม่น้อย สิ่งที่ได้ตามมาอีกอย่างคือความคล่องตัวค่ะ จากที่เคยเฉื่อยชา เนิบช้ามาก่อน จะกลายเป็นคิดไวทำไวขึ้น กล้าตัดสินใจมากขึ้น
4. จิตอาสา เมื่อเราทำเพื่อตัวเองมาเยอะแล้ว แบ่งปันให้คนอื่นบ้างก็ดี เดี๋ยวนี้มีโครงการจิตอาสาเยอะมาก เสิร์ทดูได้จากกูเกิ้ลเลย ถนัดอะไรก็ไปช่วยสิ่งนั้น เช่น ไปออกค่ายอาสา ทำงานฝีมือเพื่อร่วมประมูลหารายได้ หรือลองเสนอตัวเข้าไปช่วยตามมูลนิธิต่างๆ
และข้อสุดท้าย หางานสิคะคุณ
ทุกข้อที่บอกมาทั้งหมดเป็นการสร้างโปรไฟล์ชั้นดีให้กับคุณแล้วค่ะ นี่แหละโปรไฟล์ใหม่ของคุณ เอาไปใส่ในเรซูเม่ได้เลย จริงอยู่ว่าคุณอาจไม่ใช่คนทำงานเก่งมาก แต่เป็นคนเข้าสังคมเป็น อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ดี ดิฉันว่าบริษัทน่าจะกำลังมองหาคนเหล่านี้มากกว่า คนเก่งมากแต่อีโก้จัด ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทเจริญนักหรอก จริงมั๊ย !!
ตกงานซิดี
อย่ามัวเครียดกันไปเลยเพื่อนๆ สำหรับคนที่กำลังอยู่ในสถานะนี้
การตกงานมี 2 สถานะ คือตกแบบตั้งใจ และตกแบบไม่ทันตั้งตัว(โดนให้ออกนั่นเอง)
แต่พอรู้ตัวว่าจะตกงานแล้ว สิ่งที่ต้องทำก่อนคือ
1. ตั้งสติ และเข้าเว็บนี้เลยค่ะ http://empui.doe.go.th/auth/index ไปลงทะเบียนคนว่างงานไว้ก่อน จะได้มีเงินสำรองใช้ เป็นเงินคืนส่วนหนึ่งที่เราโดนหักจากบริษัทให้ประกันสังคมในแต่ละเดือน
2. ค้นห้อง ในห้องมีของมือสองอะไรสภาพใช้งานได้บ้าง ปล่อยขายเลยค่ะ เอามาปัดฝุ่นทำความสะอาดซะหน่อย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ยั้นขวดน้ำพลาสติก นี่แหละรายได้เล็กๆน้อยๆที่อย่ามองข้ามเชียว
3. ลดค่าใช้จ่าย อะไรบ้างที่ดูจะสิ้นเปลือง เช่น ค่าโทรศัพท์ถ้ามีมากกว่า 1 เบอร์ ก็ลดเหลือแค่เบอร์เดียวพอ โปรเสริมที่เคยสมัครก็ยกเลิกซะ อินเตอร์หาใช้ Wifi ฟรี ตามห้างเอาค่ะ (แอร์เย็นด้วย) หรือกาแฟแบรนด์ดังแก้วละเป็นร้อย เปลี่ยนมาอุดหนุนกาแฟแบรนด์ไทยดูค่ะ ถูกกว่าและได้อรรถรสอยู่ไม่น้อย และลดปริมาณการกินลงบ้าง เหลือแค่อาทิตย์ละครั้ง สองครั้งก็พอ
4. กินของอร่อยมื้อใหญ่ซักมื้อ ถือเป็นการให้รางวัลตัวเอง และเป็นการให้กำลังใจ สู้ต่อค่ะ (ดื่มด่ำความฟินนั้นเอาไว้มากๆ และบอกตัวเองว่าฉันจะต้องกลับมากินอีก และจะกลับมาพร้อมความสำเร็จด้วย)
ที่นี้เรามาพูดถึงข้อดี ของการตกงานกันบ้าง
1. ได้เวลาชีวิตคืนมาแล้วววววว หลังจากทุ่มเทสร้างรายได้ให้คนอื่นเค้ารวยมานานจากการเป็นลูกจ้างประจำ ที่นี้แหละเราจะมีเวลาของเราคืน ทั้งให้กับตัวเอง ให้กับครอบครัว
พ่อแม่เรา เป็นกำลังใจสำคัญที่สุด ไปจุลเจือลมหายใจให้ท่านซะ กลับไปนั่งกินข้าวกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา หรือคนที่มีครอบครัวของตัวเองแล้ว ก็ พาลูกเมียไปทำกิจกรรมร่วมกันดูค่ะ (เค้าเหล่านั้นคือกำลังใจชั้นยอด)
2. เมื่อเรามีเวลาเพิ่ม เราก็เอาเวลานี้แหละหาทักษะเพิ่ม ลงคอร์สเรียนเลยค่ะ เริ่มจากคอร์สฟรีไปก่อน เค้าอาจจะกั๊กความรู้อยู่พอสมควร แต่ถือว่าไปเปิดโลก ไปหาเพื่อนใหม่ หรือลงคอร์สแบบเสียเงินไปเลยก็ได้ แต่เลือกที่เราสนใจจริงๆนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะหมดเงินซะก่อน คอร์สแบบเจาะลึกเฉพาะทางอาจมีราคาสูงซักหน่อย แต่อย่าลืมว่าที่เหล่านั้นมีเครือข่ายคุณภาพอยู่เต็มไปหมด หรือจะลงเรียนภาษาเพิ่มก็ยิ่งดีค่ะ
และเดี๋ยวนี้มีคอร์สออนไลน์เยอะมาก ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วย ในกลุ่มเฟสบุ๊คมีเพียบ
3. ออกกำลังกาย อันนี้เด็ดจริง การออกกำลังกายเปลี่ยนคนมาเยอะ ดูได้จากในกระทู้หลายๆอันในพันทิปได้เลย เปลี่ยนจากตือโป๊ยก่ายเป็นเทพบุตรมาเยอะแล้ว หรือบางคนก็กลายร่างจากผีเสื้อสมุทรเป็นนางฟ้าก็มีไม่น้อย สิ่งที่ได้ตามมาอีกอย่างคือความคล่องตัวค่ะ จากที่เคยเฉื่อยชา เนิบช้ามาก่อน จะกลายเป็นคิดไวทำไวขึ้น กล้าตัดสินใจมากขึ้น
4. จิตอาสา เมื่อเราทำเพื่อตัวเองมาเยอะแล้ว แบ่งปันให้คนอื่นบ้างก็ดี เดี๋ยวนี้มีโครงการจิตอาสาเยอะมาก เสิร์ทดูได้จากกูเกิ้ลเลย ถนัดอะไรก็ไปช่วยสิ่งนั้น เช่น ไปออกค่ายอาสา ทำงานฝีมือเพื่อร่วมประมูลหารายได้ หรือลองเสนอตัวเข้าไปช่วยตามมูลนิธิต่างๆ
และข้อสุดท้าย หางานสิคะคุณ
ทุกข้อที่บอกมาทั้งหมดเป็นการสร้างโปรไฟล์ชั้นดีให้กับคุณแล้วค่ะ นี่แหละโปรไฟล์ใหม่ของคุณ เอาไปใส่ในเรซูเม่ได้เลย จริงอยู่ว่าคุณอาจไม่ใช่คนทำงานเก่งมาก แต่เป็นคนเข้าสังคมเป็น อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ดี ดิฉันว่าบริษัทน่าจะกำลังมองหาคนเหล่านี้มากกว่า คนเก่งมากแต่อีโก้จัด ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทเจริญนักหรอก จริงมั๊ย !!