สงสัยมานานแล้วค่ะ เวลาเห็นคนโกหกแฟน หรือภรรยาว่าซื้อของสะสม (หรือของใช้ gadget แพงๆ) มาในราคาถูกกว่าราคาจริงสิบเท่า (บางคนตัดศูนย์ด้านหลังทิ้งไปสองตัวเลยก็มี) ไปหาถุงพลาสติกมาใส่เพื่อจะได้เอาเข้าบ้านได้อะไรแบบนี้ ถ้าชอบมากจริงๆ ทำไมไม่คุยกับเค้าล่ะคะว่าอยากได้มาก มีคุณค่าทางจิตใจ อยากได้ อะไรก็ว่าไป คือเราคิดว่าถ้าแยกกระเป๋าเงินกันของที่ซื้อมายังไงมันก็เป็นของคุณอยู่แล้วนี่นา
แล้วถ้าใช้กระเป๋าเดียวกันหรือเอาเงินครอบครัวมาใช้ก็ยิ่งควรต้องบอกไม่ใช่เหรอคะ แบบผู้หญิงเค้าอาจจะคิดว่าเก็บหรือออมไว้กรณีฉุกเฉิน ถ้าอยู่ดีๆ เงินหายไปแล้วมีเรื่องต้องใช้นี่ก็ผิดแผนเลยนะคะ
วันนี้เจอสองสามกระทู้ที่มาแชร์ว่าโกหกภรรยาไว้แล้วโดนจับได้ ทำยังไงดี เราเลยสงสัยว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ ใช่มั้ยคะ อย่างบางคนก็แชร์เล่นๆ แต่คนโดนว่าก็จะเป็นฝ่ายผู้หญิงว่าทีตัวเองซื้อเครื่องสำอางค์/เสื้อผ้าแพงๆ ยังซื้อได้ แล้วฝ่ายผู้ชายก็จะได้รับการสนับสนุนว่าเงินตัวเอง ของสะสม มีคุณค่าทางจิตใจ ซื้อไปเลย อย่าให้ผู้หญิงมาทำแบบนี้นะ ฯลฯ เราว่าจริงๆ มันไม่ควรมีตั้งแต่การโกหกกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ ถ้าอยู่ด้วยกันก็น่าจะคุยกันด้วยเหตุผลได้สิ เราว่าถ้าคนนึงไม่สามารถยอมรับได้ว่าอีกฝ่ายชอบอะไรแล้วหาจุดตกลงร่วมกันไม่ได้ก็น่าจะอยู่ด้วยกันยากแล้วล่ะ
เราเห็นด้วยนะคะเรื่องที่บอกว่าของสะสมมีคุณค่าทางจิตใจ ถ้าใครมายุ่งกับของสะสมเราก็ไม่ยอมเหมือนกัน ยิ่งถ้าเค้ารับไม่ได้มากๆ แบบห้ามซื้อเลยหรือไม่เห็นคุณค่า จะเอาไปโยนทิ้งหรือบริจาคโดยไม่ฟังเหตุผลเราก็คงรับไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่เราไม่คิดว่าเราจะต้องโกหกว่าเราได้มายังไงหรือราคาเท่าไหร่ เรารู้สึกว่ามันเป็นการลดคุณค่าของสิ่งนั้นลงไปด้วย อีกอย่างเราว่าเรื่องแบบนี้มันน่าจะตกลงกันได้ไม่ใช่เหรอคะ แบบลดความถี่ในการซื้อ หรือมีข้อตกลงว่าถ้าจะซื้อต้องจำกัดวงเงินหรือจำนวนหรืออะไรก็ว่าไป คนซื้อก็มีเหตุผลจะซื้อ คนห้ามก็มีเหตุผลจะห้ามเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม เราว่าคุณผู้หญิงก็น่าจะเปิดใจยอมรับความชอบของผู้ชายเหมือนกันนะคะ ลองนึกถึงว่าถ้าเป็นตัวเองอยากได้บ้างก็ต้องพยายามซื้อให้ได้แหละ
แต่ถ้าอะไรที่มากไปเราว่าไม่ว่าจะฝ่ายไหนทำก็คงจะไม่ดีทั้งคู่ อยากให้ตกลงกันให้ได้นะคะ
ปล. จขกท. เป็นผู้หญิงปกติชอบซื้อเครื่องสำอาง สะสมกันดั้มและของเล่นเครือ Hot toys กับ Groove ค่ะ
ทำไมคุณผู้ชายไม่บอกแฟนไปตรงๆ ตั้งแต่แรกล่ะคะว่าของสะสมตัวเองมีค่าขนาดไหน
แล้วถ้าใช้กระเป๋าเดียวกันหรือเอาเงินครอบครัวมาใช้ก็ยิ่งควรต้องบอกไม่ใช่เหรอคะ แบบผู้หญิงเค้าอาจจะคิดว่าเก็บหรือออมไว้กรณีฉุกเฉิน ถ้าอยู่ดีๆ เงินหายไปแล้วมีเรื่องต้องใช้นี่ก็ผิดแผนเลยนะคะ
วันนี้เจอสองสามกระทู้ที่มาแชร์ว่าโกหกภรรยาไว้แล้วโดนจับได้ ทำยังไงดี เราเลยสงสัยว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ ใช่มั้ยคะ อย่างบางคนก็แชร์เล่นๆ แต่คนโดนว่าก็จะเป็นฝ่ายผู้หญิงว่าทีตัวเองซื้อเครื่องสำอางค์/เสื้อผ้าแพงๆ ยังซื้อได้ แล้วฝ่ายผู้ชายก็จะได้รับการสนับสนุนว่าเงินตัวเอง ของสะสม มีคุณค่าทางจิตใจ ซื้อไปเลย อย่าให้ผู้หญิงมาทำแบบนี้นะ ฯลฯ เราว่าจริงๆ มันไม่ควรมีตั้งแต่การโกหกกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ ถ้าอยู่ด้วยกันก็น่าจะคุยกันด้วยเหตุผลได้สิ เราว่าถ้าคนนึงไม่สามารถยอมรับได้ว่าอีกฝ่ายชอบอะไรแล้วหาจุดตกลงร่วมกันไม่ได้ก็น่าจะอยู่ด้วยกันยากแล้วล่ะ
เราเห็นด้วยนะคะเรื่องที่บอกว่าของสะสมมีคุณค่าทางจิตใจ ถ้าใครมายุ่งกับของสะสมเราก็ไม่ยอมเหมือนกัน ยิ่งถ้าเค้ารับไม่ได้มากๆ แบบห้ามซื้อเลยหรือไม่เห็นคุณค่า จะเอาไปโยนทิ้งหรือบริจาคโดยไม่ฟังเหตุผลเราก็คงรับไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่เราไม่คิดว่าเราจะต้องโกหกว่าเราได้มายังไงหรือราคาเท่าไหร่ เรารู้สึกว่ามันเป็นการลดคุณค่าของสิ่งนั้นลงไปด้วย อีกอย่างเราว่าเรื่องแบบนี้มันน่าจะตกลงกันได้ไม่ใช่เหรอคะ แบบลดความถี่ในการซื้อ หรือมีข้อตกลงว่าถ้าจะซื้อต้องจำกัดวงเงินหรือจำนวนหรืออะไรก็ว่าไป คนซื้อก็มีเหตุผลจะซื้อ คนห้ามก็มีเหตุผลจะห้ามเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม เราว่าคุณผู้หญิงก็น่าจะเปิดใจยอมรับความชอบของผู้ชายเหมือนกันนะคะ ลองนึกถึงว่าถ้าเป็นตัวเองอยากได้บ้างก็ต้องพยายามซื้อให้ได้แหละ
แต่ถ้าอะไรที่มากไปเราว่าไม่ว่าจะฝ่ายไหนทำก็คงจะไม่ดีทั้งคู่ อยากให้ตกลงกันให้ได้นะคะ
ปล. จขกท. เป็นผู้หญิงปกติชอบซื้อเครื่องสำอาง สะสมกันดั้มและของเล่นเครือ Hot toys กับ Groove ค่ะ