คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ในทางกฏหมายก็ดูที่สัญญาเป็นหลัก ว่าตกลงกันอย่างไร
แต่ถ้าพูดถึงเรื่อง คุณธรรมจริยธรรม
ก็ไม่ควรยึดนะครับ
เว้นแต่ว่า บ้านคุณมีคนมาดูหลายคนและต้องการจะซื้อจริง(ตนซื้อจริงไม่ใช่คนแกล้งซื้อหลอก)
และถ้าปรากฏว่าคุณไม่สามารถขายได้เพราะติดสัญญามัดจำอยู่ทำให้เสียประโยชน์ ก็น่าจะคุยกับคนจะซื้อตรงๆ และยิ่งถ้าคนจะซื้อวางมัดจำไว้แล้วแต่ไม่ดำเนินการติดต่อ หรือไม่พยามที่จะกู้ให้ผ่านจริงๆ อันนั้นยึดไปเลย
เพราะสมัยนี้ มันมีหลายกลวิธีในการสกัดคู่แข่ง เช่นว่า ข้างบ้านที่คุณจะขายมีบ้านที่จะขายเหมือนกัน ราคาบ้านคุณถูกกว่า ดีกว่า ส่วนหลังที่จะขายอีกหลัง ไม่สามารถสู้เรื่องของราคา และสภาพบ้านคุณได้เลย คนบางคนที่มันหัวใสมันก็จะหาวิธีที่จะทำให้บ้านคุณไม่สามารถขายได้ก่อน เพราะบ้านที่จะขายได้แต่ละหลังในพื้นที่ ไม่ใช่จะขายได้ง่ายๆ
คนที่มันหัวใสก็จะมาทำสัญญากักเอาไว้ เพื่อที่คนสนใจบ้าน ระแวกนั้น ไม่สามารถซื้อบ้านคุณก่อนได้ ถ้าคนซื้อสนใจอยากได้บ้านแถวนั้นจริงๆ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตัดสินใจ ไม่รอหลังของคุณ ก็ต้อง ซื้ออีกหลัง เพราะไม่รู้ว่า จะได้ของคุณไหม ก็ต้องตัดสินใจเลือกอีกหลังเลย ป้องกันว่า จะไม่ได้ทั้ง2หลัง หากตัดสินใจช้า
ทางทีดี คือทางคอนกรีต(เอ้ยไม่ใช่) คือว่าคุณต้อง สอบถามเรื่อยๆสืบดูจริงว่าคนซื้อจริงไหม ปรกติ กู้ 1-2เดือนนี่ก็นานละครับ คนจะกู้ทั้งที ไม่รอยื่นกูที่ละแบงค์หรอกครับ
หากมีสาเหตุอื่นก็เอามาพิจารณาร่วมอีกที ส่วนการยึดมัดจำ แบบนี้ หากเป็เคสปรกติ คนที่ใจกว้างพอเค้าจะไม่ทำกัน เพราะคนกว่าจะหาเงินมาได้ มันก็ยากคุณน่าจะรู้ และยิ่ง มัดจำ ถึง 30,000 แสดงว่าไม่บ้านราคาแพงเค้าก็คงอยากได้จริงๆ ส่วนมาก คนที่มัดจำเผื่อยึดมัดจำ แต่ 10,000 นะคับส่วนมากที่เคยเจอ หรือ ว่าบ้านนั้นมีการปล่อยเช่าอยู่แล้ว ก็จะคิดตามค่าเช่ารายเดือน กรณีที่ต้องให้คนเช่าออก หรือ เพื่อความสะบายใจทั้ง 2 ฝ่าย
แต่ถ้าพูดถึงเรื่อง คุณธรรมจริยธรรม
ก็ไม่ควรยึดนะครับ
เว้นแต่ว่า บ้านคุณมีคนมาดูหลายคนและต้องการจะซื้อจริง(ตนซื้อจริงไม่ใช่คนแกล้งซื้อหลอก)
และถ้าปรากฏว่าคุณไม่สามารถขายได้เพราะติดสัญญามัดจำอยู่ทำให้เสียประโยชน์ ก็น่าจะคุยกับคนจะซื้อตรงๆ และยิ่งถ้าคนจะซื้อวางมัดจำไว้แล้วแต่ไม่ดำเนินการติดต่อ หรือไม่พยามที่จะกู้ให้ผ่านจริงๆ อันนั้นยึดไปเลย
เพราะสมัยนี้ มันมีหลายกลวิธีในการสกัดคู่แข่ง เช่นว่า ข้างบ้านที่คุณจะขายมีบ้านที่จะขายเหมือนกัน ราคาบ้านคุณถูกกว่า ดีกว่า ส่วนหลังที่จะขายอีกหลัง ไม่สามารถสู้เรื่องของราคา และสภาพบ้านคุณได้เลย คนบางคนที่มันหัวใสมันก็จะหาวิธีที่จะทำให้บ้านคุณไม่สามารถขายได้ก่อน เพราะบ้านที่จะขายได้แต่ละหลังในพื้นที่ ไม่ใช่จะขายได้ง่ายๆ
คนที่มันหัวใสก็จะมาทำสัญญากักเอาไว้ เพื่อที่คนสนใจบ้าน ระแวกนั้น ไม่สามารถซื้อบ้านคุณก่อนได้ ถ้าคนซื้อสนใจอยากได้บ้านแถวนั้นจริงๆ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตัดสินใจ ไม่รอหลังของคุณ ก็ต้อง ซื้ออีกหลัง เพราะไม่รู้ว่า จะได้ของคุณไหม ก็ต้องตัดสินใจเลือกอีกหลังเลย ป้องกันว่า จะไม่ได้ทั้ง2หลัง หากตัดสินใจช้า
ทางทีดี คือทางคอนกรีต(เอ้ยไม่ใช่) คือว่าคุณต้อง สอบถามเรื่อยๆสืบดูจริงว่าคนซื้อจริงไหม ปรกติ กู้ 1-2เดือนนี่ก็นานละครับ คนจะกู้ทั้งที ไม่รอยื่นกูที่ละแบงค์หรอกครับ
หากมีสาเหตุอื่นก็เอามาพิจารณาร่วมอีกที ส่วนการยึดมัดจำ แบบนี้ หากเป็เคสปรกติ คนที่ใจกว้างพอเค้าจะไม่ทำกัน เพราะคนกว่าจะหาเงินมาได้ มันก็ยากคุณน่าจะรู้ และยิ่ง มัดจำ ถึง 30,000 แสดงว่าไม่บ้านราคาแพงเค้าก็คงอยากได้จริงๆ ส่วนมาก คนที่มัดจำเผื่อยึดมัดจำ แต่ 10,000 นะคับส่วนมากที่เคยเจอ หรือ ว่าบ้านนั้นมีการปล่อยเช่าอยู่แล้ว ก็จะคิดตามค่าเช่ารายเดือน กรณีที่ต้องให้คนเช่าออก หรือ เพื่อความสะบายใจทั้ง 2 ฝ่าย
แสดงความคิดเห็น
ลูกค้ามัดจำครั้งแรกกู้ซื้อบ้านผมไม่ผ่าน จะมัดจำใหม่เพื่อขอเวลาเพิ่ม ผมยึดมัดจำก้อนแรกได้ไหมครับ
คำถามคือ มัดจำก้อนแรกนั้น ผมสามารถยึดได้โดยไม่ต้องนำมาหักออกจากเงินที่ซื้อบ้านหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ