“บี” มาติกา ดีใจกระแสโซเชียลแรงให้การต้อนรับ“สายโลหิต” อีกครั้ง เผยละครทำให้ได้เรียนรู้ และซาบซึ้งประวัติศาสตร์
เรียกว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างถล่มทลายในโลกโซเชียล สำหรับละครเรื่อง “สายโลหิต” เมื่อปี 2538 ที่ทางช่อง 7 สี ได้นำมารีรันอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าเวลาจะผ่านมาแล้ว 21 ปี แต่ความคลาสสิกของละครเรื่องนี้ยังอยู่ในใจของทุกคน โดยเฉพาะตัวละครที่ได้รับกระแสตอบรับดีในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้น “หนุ่ม” ศรราม เทพพิทักษ์ ในบท “ขุนไกร” และบท “ดาวเรือง” ตอนเด็กที่นำแสดงโดย “บี” มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ ที่ชาวโซเชียลต่างชื่นชมในความน่ารักของ “ดาวเรือง” ที่บีได้แสดงไว้ในวัยเด็ก แถมยังนำภาพของเธอตอนเป็นดาวเรืองมาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบันของเธอ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง วันนี้ “คม ชัด ลึก” เลยขอเปิดใจสาวบี ถึงกระแสตอบรับจากโลกโซเชียลว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอเผยให้ฟังดังนี้
กระแสตอบรับดีมากกับความน่ารักของ “ดาวเรือง”
บี : "รู้สึกยินดี และดีใจนะที่แฟนๆ ยังให้การต้อนรับอยู่ ขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสได้เล่นละครเรื่องนี้ อย่างที่บีได้เขียนไปในอินสตาแกรม ตอนแรกบีคิดว่าการเล่นละครเรื่องนี้ เป็นภาระของเด็กคนหนึ่งเฉยๆ แต่พอถึงย้อนเวลากลับไป พอโตขึ้นมา ทำให้เราได้ซาบซึ้งถึงประวัติศาสตร์ไทย ให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรม ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราได้มากยิ่งขึ้น แล้วอีกอย่างหนึ่ง คืออยากจะขอบคุณผู้ใหญ่ช่อง 7 คืออย่างที่เขียนไปในไอจีว่า คือเราเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ในละครเรื่องนี้ ทำให้เราได้มีส่วนในละครเรื่องนี้"
เห็นตัวเองตอนเด็กแสดงละครเป็นอย่างไรบ้าง
บี : "รู้สึกเขิน คือความทรงจำตอนนั้นอาจจะจำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเราเด็กมาก 8-9 ขวบเอง (กระแสโซเชียลดีแบบนี้ คนใกล้ตัวหรือคนรอบข้างว่ายังไงบ้าง) มีคนเข้ามาทักททายมากขึ้น ทักว่าอ้าว...เล่นละครเรื่องนี้เหรอ แล้วก็มีคนมาโพสต์ในอินสตาแกรม เข้ามาทักทาย เข้ามาชื่นชม ก็อยากขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมดาวเรืองตอนเด็กด้วย"
ชาวโซเชียลเอารูปดาวเรืองตอนเด็กกับบีปัจจุบันมาเปรียบเทียบกัน อีกทั้งชื่นชมว่าน่ารักไม่เปลี่ยน
บี : "อุ๊ย...รู้สึกดีใจ ขอบคุณมาก ยินดีมากที่ทุกคนให้การต้อนรับละครรีรันกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง (ทางช่องแจ้งก่อนมั้ยว่าจะนำละคร สายโลหิต มารีรันอีกครั้ง) บีก็ทราบช่วงที่มีการโปรโมททางทีวี แล้วพี่ชายก็มาบออกว่าเขาจะเอา สายโลหิต กลับมาฉายใหม่นะ บีก็อ๋อๆ เราก็ดีใจด้วย แต่ก็มีนอยด์นิดๆ เขินจังเลย เพราะตอนนั้นเรายังเด็กมาก จะเป็นยังไงเนี่ย (หัวเราะ) เพราะเราเป็นคนขี้เขินอยู่แล้วด้วย"
ในแง่ของการแสดงหลายคนชื่นชมเช่นกันว่าเล่นได้เก่ง น่ารัก พูดจาฉะฉาน
บี : "จริงๆ แล้วเป็นผลงานที่ทางผู้กำกับ ทีมงานดาราวิดีโอเอง ที่ท่องบทให้บีฟังและอธิบาย แล้วสื่อให้บีเข้าใจ พี่ๆ นักแสดงทุกท่านในตอนนั้น ที่ไม่ว่าบีจะงอแงอะไรก็ตาม เอ็นดูบี และหวังดีให้เล่นละครเรื่องนี้ได้ผ่านมาดีที่สุด ถามว่าตอนนั้นถามว่ายากมั้ย เอาตรงๆ ก็คือยากเหมือนกันนะ สำหรับเด็กคนนหนึ่งที่เล่น แต่เราเข้าใจยังไง รู้สึกยังไงก็พูดออกไปแบบนั้น หมายถึงพูดตามที่เราเข้าใจในตัวละคร"
กระแสตอบรับในโซเชียลตอบรับดีมาก แต่สวนกระแสกับเรตติ้งที่ได้ไม่มากนัก
บี : "อันนี้บีไม่ทราบเลย จริงๆ บีว่านักแสดงทุกท่านที่ได้เล่นละครเรื่องนี้ และได้มีโอกาสกลับมารีรันในปีนี้ ไม่มีใครมาโฟกัสที่ตัวเรตติ้งเท่าไหร่ บีไม่อยากให้โฟกัสตรงนี้ อยากให้ดูที่ตัวผลงาน ให้ได้เรียนรู้ ให้ซาบซึ้งประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะมีหลายช็อตหลายตอน ที่ทำให้เรียนรู้ถึงการรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ไทย คือในช่วงเวลานี้ หลายๆ คนกำลังอยู่ในช่วงเศร้าโศกเสียใจ พอละครเรื่องนี้กลับมาทำให้พวกเราคนไทยทุกคนยิ่งรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่สามารถปกป้อง แล้วก็สามารถทำให้ประเทศไทยเป็นเอกราช แล้วก็ยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ แล้วที่สำคัญ คือในช่วงนี้ในความรู้สึกส่วนตัวบีเอง พอดูเรื่องนี้ ยิ่งทำให้เราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรารู้สึกโชคดี ดีใจขนาดไหน ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย และที่สำคัญเราได้อยู่ในรัชกาลที่ 9 ด้วย คือพอเราดูแล้วยิ่งฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น"
ได้คุยกับ “หนุ่ม” ศรราม เทพพิทักษ์ ไหม พอละครออกอากาศอีกครั้ง
บี : "วันก่อนพี่หนุ่มโทรมาจากอเมริกา ถามว่าได้ดูละครมั้ย บีก็บอกว่าได้ดู พี่เขาก็บอกว่าเขาอยู่อเมริกา อยู่ซานฟรานซิสโก เลยถามกลับไปว่าพี่ได้ดูมั้ย เขาก็บอกว่าได้ดูเหมือนกัน เขาก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง บีเลยบอกว่าเห็นมั้ย มีคนชมเยอะเลยนะ ว่าอายุ 40 กว่ายังไงก็ยังหล่อเหมือนเดิม โอปป้านี่ชิดซ้ายไปเลยนะ เขาก็หัวเราะใหญ่เลย"
กับนักแสดงรุ่นพี่ “กบ” สุวนันท์ คงยิ่ง ได้คุยกันไหม
บี : "ได้คุยกันผ่านทางอินสตาแกรม เพราะพี่กบแท็กรูปมา พี่กบบอกว่าตอนเด็กๆ ยังอุ้มได้ ตอนนี้พี่อุ้มน้องไม่ไหวแล้ว (หัวเราะ) บีคิดว่าละคร สายโลหิต ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวภูมิศาสตร์ไทยด้วยนะ ว่าในสมัยอยุธยา มีวัดอะไรบ้าง ตลาดแต่ละตลาดมีชื่อตลาดอะไร แล้วขายอะไร แล้วมีภูมิศาสตร์เกี่ยวกับพวกป้อมพนัญเชิงคืออะไร มุมนี้คืออะไร มุมนี่เป็นอะไร"
เครดิต
http://www.komchadluek.net/news/ent/249294
เปิดใจ“ดาวเรือง”ตอนเด็กละคร‘สายโลหิต’หลังโซเชียลชมอื้อ
“บี” มาติกา ดีใจกระแสโซเชียลแรงให้การต้อนรับ“สายโลหิต” อีกครั้ง เผยละครทำให้ได้เรียนรู้ และซาบซึ้งประวัติศาสตร์
เรียกว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างถล่มทลายในโลกโซเชียล สำหรับละครเรื่อง “สายโลหิต” เมื่อปี 2538 ที่ทางช่อง 7 สี ได้นำมารีรันอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าเวลาจะผ่านมาแล้ว 21 ปี แต่ความคลาสสิกของละครเรื่องนี้ยังอยู่ในใจของทุกคน โดยเฉพาะตัวละครที่ได้รับกระแสตอบรับดีในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้น “หนุ่ม” ศรราม เทพพิทักษ์ ในบท “ขุนไกร” และบท “ดาวเรือง” ตอนเด็กที่นำแสดงโดย “บี” มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ ที่ชาวโซเชียลต่างชื่นชมในความน่ารักของ “ดาวเรือง” ที่บีได้แสดงไว้ในวัยเด็ก แถมยังนำภาพของเธอตอนเป็นดาวเรืองมาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบันของเธอ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง วันนี้ “คม ชัด ลึก” เลยขอเปิดใจสาวบี ถึงกระแสตอบรับจากโลกโซเชียลว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอเผยให้ฟังดังนี้
กระแสตอบรับดีมากกับความน่ารักของ “ดาวเรือง”
บี : "รู้สึกยินดี และดีใจนะที่แฟนๆ ยังให้การต้อนรับอยู่ ขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสได้เล่นละครเรื่องนี้ อย่างที่บีได้เขียนไปในอินสตาแกรม ตอนแรกบีคิดว่าการเล่นละครเรื่องนี้ เป็นภาระของเด็กคนหนึ่งเฉยๆ แต่พอถึงย้อนเวลากลับไป พอโตขึ้นมา ทำให้เราได้ซาบซึ้งถึงประวัติศาสตร์ไทย ให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรม ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราได้มากยิ่งขึ้น แล้วอีกอย่างหนึ่ง คืออยากจะขอบคุณผู้ใหญ่ช่อง 7 คืออย่างที่เขียนไปในไอจีว่า คือเราเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ในละครเรื่องนี้ ทำให้เราได้มีส่วนในละครเรื่องนี้"
เห็นตัวเองตอนเด็กแสดงละครเป็นอย่างไรบ้าง
บี : "รู้สึกเขิน คือความทรงจำตอนนั้นอาจจะจำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเราเด็กมาก 8-9 ขวบเอง (กระแสโซเชียลดีแบบนี้ คนใกล้ตัวหรือคนรอบข้างว่ายังไงบ้าง) มีคนเข้ามาทักททายมากขึ้น ทักว่าอ้าว...เล่นละครเรื่องนี้เหรอ แล้วก็มีคนมาโพสต์ในอินสตาแกรม เข้ามาทักทาย เข้ามาชื่นชม ก็อยากขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมดาวเรืองตอนเด็กด้วย"
ชาวโซเชียลเอารูปดาวเรืองตอนเด็กกับบีปัจจุบันมาเปรียบเทียบกัน อีกทั้งชื่นชมว่าน่ารักไม่เปลี่ยน
บี : "อุ๊ย...รู้สึกดีใจ ขอบคุณมาก ยินดีมากที่ทุกคนให้การต้อนรับละครรีรันกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง (ทางช่องแจ้งก่อนมั้ยว่าจะนำละคร สายโลหิต มารีรันอีกครั้ง) บีก็ทราบช่วงที่มีการโปรโมททางทีวี แล้วพี่ชายก็มาบออกว่าเขาจะเอา สายโลหิต กลับมาฉายใหม่นะ บีก็อ๋อๆ เราก็ดีใจด้วย แต่ก็มีนอยด์นิดๆ เขินจังเลย เพราะตอนนั้นเรายังเด็กมาก จะเป็นยังไงเนี่ย (หัวเราะ) เพราะเราเป็นคนขี้เขินอยู่แล้วด้วย"
ในแง่ของการแสดงหลายคนชื่นชมเช่นกันว่าเล่นได้เก่ง น่ารัก พูดจาฉะฉาน
บี : "จริงๆ แล้วเป็นผลงานที่ทางผู้กำกับ ทีมงานดาราวิดีโอเอง ที่ท่องบทให้บีฟังและอธิบาย แล้วสื่อให้บีเข้าใจ พี่ๆ นักแสดงทุกท่านในตอนนั้น ที่ไม่ว่าบีจะงอแงอะไรก็ตาม เอ็นดูบี และหวังดีให้เล่นละครเรื่องนี้ได้ผ่านมาดีที่สุด ถามว่าตอนนั้นถามว่ายากมั้ย เอาตรงๆ ก็คือยากเหมือนกันนะ สำหรับเด็กคนนหนึ่งที่เล่น แต่เราเข้าใจยังไง รู้สึกยังไงก็พูดออกไปแบบนั้น หมายถึงพูดตามที่เราเข้าใจในตัวละคร"
กระแสตอบรับในโซเชียลตอบรับดีมาก แต่สวนกระแสกับเรตติ้งที่ได้ไม่มากนัก
บี : "อันนี้บีไม่ทราบเลย จริงๆ บีว่านักแสดงทุกท่านที่ได้เล่นละครเรื่องนี้ และได้มีโอกาสกลับมารีรันในปีนี้ ไม่มีใครมาโฟกัสที่ตัวเรตติ้งเท่าไหร่ บีไม่อยากให้โฟกัสตรงนี้ อยากให้ดูที่ตัวผลงาน ให้ได้เรียนรู้ ให้ซาบซึ้งประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะมีหลายช็อตหลายตอน ที่ทำให้เรียนรู้ถึงการรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ไทย คือในช่วงเวลานี้ หลายๆ คนกำลังอยู่ในช่วงเศร้าโศกเสียใจ พอละครเรื่องนี้กลับมาทำให้พวกเราคนไทยทุกคนยิ่งรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่สามารถปกป้อง แล้วก็สามารถทำให้ประเทศไทยเป็นเอกราช แล้วก็ยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ แล้วที่สำคัญ คือในช่วงนี้ในความรู้สึกส่วนตัวบีเอง พอดูเรื่องนี้ ยิ่งทำให้เราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรารู้สึกโชคดี ดีใจขนาดไหน ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย และที่สำคัญเราได้อยู่ในรัชกาลที่ 9 ด้วย คือพอเราดูแล้วยิ่งฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น"
ได้คุยกับ “หนุ่ม” ศรราม เทพพิทักษ์ ไหม พอละครออกอากาศอีกครั้ง
บี : "วันก่อนพี่หนุ่มโทรมาจากอเมริกา ถามว่าได้ดูละครมั้ย บีก็บอกว่าได้ดู พี่เขาก็บอกว่าเขาอยู่อเมริกา อยู่ซานฟรานซิสโก เลยถามกลับไปว่าพี่ได้ดูมั้ย เขาก็บอกว่าได้ดูเหมือนกัน เขาก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง บีเลยบอกว่าเห็นมั้ย มีคนชมเยอะเลยนะ ว่าอายุ 40 กว่ายังไงก็ยังหล่อเหมือนเดิม โอปป้านี่ชิดซ้ายไปเลยนะ เขาก็หัวเราะใหญ่เลย"
กับนักแสดงรุ่นพี่ “กบ” สุวนันท์ คงยิ่ง ได้คุยกันไหม
บี : "ได้คุยกันผ่านทางอินสตาแกรม เพราะพี่กบแท็กรูปมา พี่กบบอกว่าตอนเด็กๆ ยังอุ้มได้ ตอนนี้พี่อุ้มน้องไม่ไหวแล้ว (หัวเราะ) บีคิดว่าละคร สายโลหิต ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวภูมิศาสตร์ไทยด้วยนะ ว่าในสมัยอยุธยา มีวัดอะไรบ้าง ตลาดแต่ละตลาดมีชื่อตลาดอะไร แล้วขายอะไร แล้วมีภูมิศาสตร์เกี่ยวกับพวกป้อมพนัญเชิงคืออะไร มุมนี้คืออะไร มุมนี่เป็นอะไร"
เครดิต http://www.komchadluek.net/news/ent/249294