สวัสดีค่ะ

มารีวิววันที่ 3 ต่อค่ะ
แผนการเที่ยว
Day 1 26 ต.ค. 59 BKK - OSAKA เข้าดูได้ที่กระทู้นี้เลยค่ะ
http://pantip.com/topic/35799028
Day 2 27 ต.ค. 59 USJ เข้าดูได้ที่กระทู้นี้เลยค่ะ
http://pantip.com/topic/35813419
Day 3 28 ต.ค. 59 กิน Endo sushi - ปราสาท Himeji - ปราสาท OSAKA คือกระทู้นี้เองค่ะ
Day 4 29 ต.ค. 59 Kyoto เข้าดูได้ที่กระทู้นี้เลยค่ะ
http://pantip.com/topic/35831102
Day 5 30 ต.ค. 59 Kawaguchiko
http://pantip.com/profile/417130
Day 6 31 ต.ค. 59 Tokyo - Tokyo One Piece Tower - Akihabara
Day 7 1 พ.ย. 59 Tokyo - Akihabara - Shibuya - Harajuku
Day 8 2 พ.ย. 59 Narita - BKK
Day 3 วางแผนว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปกิน Endo sushi จะได้รอคิวไม่นาน แต่ไม่เป็นไปตามแผนค่ะ ตื่นสาย เลยกว่าจะไปถึงร้าน

การเดินทางก็เข้าเวป hyperdia วางแผนมาตั้งแต่ที่ไทยค่ะ ตามนี้เลย

ออกทางออก Exit 3 แล้วเดินไปตลาดปลาโอซาก้า (Chuo Oroshi-uri Ichiba) เจอกลุ่มคนไทยเดินสวนออกมาตามทาง แสดงว่าเขากินเสร็จกันแล้วซินะ

วันนี้อากาศหนาวเย็นมากค่ะ พอเข้าใกล้ตลาด มีคนแถวนั้นเห็นเราเดินมุ่งหน้ามาหาอะไรสักอย่าง เขาเลยพูดว่า Endo sushi?? เราก็ Yes เขาเลยชี้ทางไปให้ เลยเดินเข้าไปถูกทาง ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ถ้าหันหน้าเข้าตลาด เห็นคนต่อคิวก็ใช่เลย

คิวยาวแล้ว มาถึงประมาณ 8.30 น. อยากลองของอร่อยต้องอดทนรอท่ามกลางอากาศหนาวๆข้างนอกนี้ซินะ

หน้าตลาดปลา

เริ่มหิวแล้วเลยเอาขนมมากินรอ พุดดิ้งนี้ก็อร่อย

มีคนไทยมากินเยอะเลย คนต่างชาติก็เยอะ แล้วก็มีคนมารอต่อคิวเรื่อยๆ รอประมาณชั่วโมงนึงก็ได้เข้าไปในร้าน ภายในร้านก็เล็กๆ ลองนับเก้าอี้ดูมีประมาณ 20 ที่ มีโต๊ะนั่งกิน 3 โต๊ะ นั่งแบบใกล้ชิดกันมาก เราได้นั่งโต๊ะกับคนไทยอีกคู่นั่งตรงข้ามกันเลย แล้วก็มีที่นั่งตรงเคาเตอร์อีกประมาณ 8 ที่ ได้เห็นการปั้นซูชิแบบใกล้ชิด คู่คนไทยข้างหน้าเราขอย้ายไปนั่งตรงเคาเตอร์แต่ พนง.ไม่ให้ไป เขาจัดให้แล้วคงกลัววุ่นวายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาล่ะมั่ง
ภายในมีรูปมีลายเซ็นติดไว้เยอะแยะเลย มีรูปนาวิน ต้าร์ ด้วย มีโปรโมทสาขาที่ไทยด้วย อยู่ทองหล่อ

มีน้ำชาเขียวร้อนแก้หนาวมาเสริฟ กับเมนูมี 4 เซตให้เลือก เราเลือกคนละเซต เอาเซต 3 กับ 4 เซต 1 กับ 2 มีบางอย่างที่ไม่กิน แล้วก็ซุปมิโสะ

มาแล้ว เซต 3

เซต 4

ซอสใช้แปรงทาเอา มีขิงดองให้กินเป็นเครื่องเคียง

ได้เวลากินแล้ว แล้วมันก็หมดอย่างรวดเร็วเลย ยังอิ่มไม่มากเลยสั่งเพิ่มอีก 1 เซต เอาเซต 4 เหมือนเดิม มันอร่อยมากกกกกกก ไม่คาวเลย เห็นรูปแล้วก็อยากกลับไปกินอีก อร่อยดี ต้องลองนะคะ

ค่าอาหารมื้อนี้หมดไป 3,720.- เยน ใช้เวลากินไม่นานประมาณ 20 นาที ก็รีบออกมาเดินทางไปปราสาท Himeji ต่อกัน
ออกเดินทางไปปราสาท Himeji

NODA(JR) - OSAKA

รถไฟมาแล้ว

รถ snoopy น่ารักเชียว
เรื่องการต่อรถไฟ เวลาที่เราไปถึงสถานีที่ต้องไปต่อรถไฟอีกสายเพื่อไปต่อ มักจะไม่ทันตามเวลาที่ hyperdia บอกเลย เพราะเราไม่รู้ว่าต้องไปทางไหนยังไง เหมือนต้องไปเริ่มดูแผนที่ใหม่ (บางสายเชื่อมกัน บางสายไม่เชื่อมกัน) ขนาดคนญี่ปุ่นเองยังต้องวิ่งไปเพื่อไปต่อรถไฟให้ทัน แต่เราไม่รู้ทางเลยไม่ทันแน่นอน เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องกังวลเวลาตามที่ hyperdia บอก (ตอนแรกเราเป็นคนวางแผนมาต้องตรงเวลาตามนั้นเป๊ะๆซิเอาเข้าจริงทำไม่ได้เลยต้องปรับเปลี่ยน ณ ตอนนั้นตลอดๆ) เราอาจจะไปช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่ไปให้ถูกทางก็พอ
การจะไป himeji ต้องไปต่อรถไฟที่สถานี osaka สถานีนี้ใหญ่มาก กว่าเราจะหาว่าต้องไปขึ้นตรงไหนเจอ ต้องเสิร์ซ hyperdia ใหม่ตามเวลา ณ ปัจจุบัน ส่วนใหญ่แฟนเป็นคนทำ ดูทั้ง google ทั้ง hyperdia เลย เรามีหน้าที่ตามไปแค่นั้น พาไปเลยดูเองไม่รู้เรื่อง 555 เดี๋ยวพาหลง

เดินทางประมาณ 76 นาที ก็ถึงสถานี Himeji ออกมาจากสถานีก็จะมองเห็นตัวปราสาทอยู่ไกลๆ

เดินประมาณ 15 นาที ก็ถึงแล้วหน้าทางเข้าปราสาท

ซื้อตั๋วเข้าชม 1,000.- เยน

ปราสาททำจากไม้ทั้งหมดเลย ไม้ใหญ่มากด้วย ตอนเข้าไปต้องถอดรองเท้าใส่ถุงแล้วถือหิ้วไปด้วย

วิวด้านบนเห็นถนนที่เราเดินมาด้วย

ตัวปราสาทสีขาวดูสวยสะอาดตา

จะมีกลุ่มนักเรียนอนุบาลตัวเล็กๆมาเที่ยวด้วย คุณครูพามา น่ารักๆทั้งนั้น ร้องตะโกะว่านินจา นินจา บ๊าย บาย นินจา เด็กๆ คงคิดว่ามีนินจาอยู่ที่ปราสาทนี่ซินะ คุณครูคงไม่ได้พาเข้าไปข้างในแค่พาเด็กๆมาดูข้างนอก เพราะน่าจะขึ้นไปลำบาก

บ่อน้ำหน้าปราสาท มีเรื่องเล่าว่ามีวิญญาณหญิงสาวอยู่ที่นี่

ปราสาทนี้ ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" มีดอกเบญจมาศมาจัดแสดงด้วย ดอกใหญ่หลากหลายสีสวยงาม

ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง ก็เดินทางกลับโอซาก้า ถนนที่เดินกลับไปสถานี himeji มีร้านขายของฝาก ของกินอยู่ตามทาง กลัวเสียเวลาเลยซื้อของกินที่ 7-11 นั่งกินไปบนรถไฟ

ถึงแล้วกำลังเดินไปปราสาทโอซาก้า ใช้ google map นำทาง

ปราสาทใหญ่อลังการ

หน้าทางขึ้นปราสาท ซื้อตั๋วเข้าก่อน 600.- เยน

เข้าไปรอขึ้นลิฟท์ไปชั้น 6 แล้วขึ้นบันไดไปอีก 2 ชั้นเป็น ชั้นบนสุด ครอบลายไม้ไว้ด้วยกันลาย

รูปนี้ถ่ายเอง ไม่อยากให้เห็นตาข่าย แต่ก็กลัวมือถือตก

ให้แฟนถ่ายให้ ok เลย ไม่ติดตาข่าย ชมวิวใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้วเป็นสีอ่อนๆ

ปราสาทโอซาก้าเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ มีความทันสมัย มีบันทึกประวัติเรื่องราวต่างๆให้ศึกษา ต่างจากปราสาทฮิเมจิที่มีความเก่าแก่กว่า ดูเป็นปราสาทจริงๆ ทำจากไม้หมด ให้ความรู้สีกแตกต่าง ส่วนตัวชอบปราสาทฮิเมจิมากกว่า

อยู่จนถึงเวลาปิดหกโมงเย็น มีร้านของกินด้วยด้านหน้า เลยกินไอติมกันอร่อยดี

Time Capsule 100 ปีข้างหน้าจากปี 2513 ถึงจะเปิดดู ก็คงเป็นปี 2613

เข้ามาอีกทางนึง อยากกลับอีกทาง เลยต้องหาทางกลับใหม่ ไปหาของกินแถวชินไซบาชิ เดินเล่น shopping

ถึงแถวชินไซบาชิก็ค่ำแล้ว เดิน shopping เข้าร้าน ไดโซะ ร้าน มัทสึโมโตะ คิโยชิ
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง โอซาก้า-เกียวโต-คาวากูจิโกะ-โตเกียว
แผนการเที่ยว
Day 1 26 ต.ค. 59 BKK - OSAKA เข้าดูได้ที่กระทู้นี้เลยค่ะ http://pantip.com/topic/35799028
Day 2 27 ต.ค. 59 USJ เข้าดูได้ที่กระทู้นี้เลยค่ะ http://pantip.com/topic/35813419
Day 3 28 ต.ค. 59 กิน Endo sushi - ปราสาท Himeji - ปราสาท OSAKA คือกระทู้นี้เองค่ะ
Day 4 29 ต.ค. 59 Kyoto เข้าดูได้ที่กระทู้นี้เลยค่ะ http://pantip.com/topic/35831102
Day 5 30 ต.ค. 59 Kawaguchiko http://pantip.com/profile/417130
Day 6 31 ต.ค. 59 Tokyo - Tokyo One Piece Tower - Akihabara
Day 7 1 พ.ย. 59 Tokyo - Akihabara - Shibuya - Harajuku
Day 8 2 พ.ย. 59 Narita - BKK
Day 3 วางแผนว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปกิน Endo sushi จะได้รอคิวไม่นาน แต่ไม่เป็นไปตามแผนค่ะ ตื่นสาย เลยกว่าจะไปถึงร้าน
การเดินทางก็เข้าเวป hyperdia วางแผนมาตั้งแต่ที่ไทยค่ะ ตามนี้เลย
ออกทางออก Exit 3 แล้วเดินไปตลาดปลาโอซาก้า (Chuo Oroshi-uri Ichiba) เจอกลุ่มคนไทยเดินสวนออกมาตามทาง แสดงว่าเขากินเสร็จกันแล้วซินะ
วันนี้อากาศหนาวเย็นมากค่ะ พอเข้าใกล้ตลาด มีคนแถวนั้นเห็นเราเดินมุ่งหน้ามาหาอะไรสักอย่าง เขาเลยพูดว่า Endo sushi?? เราก็ Yes เขาเลยชี้ทางไปให้ เลยเดินเข้าไปถูกทาง ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ถ้าหันหน้าเข้าตลาด เห็นคนต่อคิวก็ใช่เลย
คิวยาวแล้ว มาถึงประมาณ 8.30 น. อยากลองของอร่อยต้องอดทนรอท่ามกลางอากาศหนาวๆข้างนอกนี้ซินะ
หน้าตลาดปลา
เริ่มหิวแล้วเลยเอาขนมมากินรอ พุดดิ้งนี้ก็อร่อย
มีคนไทยมากินเยอะเลย คนต่างชาติก็เยอะ แล้วก็มีคนมารอต่อคิวเรื่อยๆ รอประมาณชั่วโมงนึงก็ได้เข้าไปในร้าน ภายในร้านก็เล็กๆ ลองนับเก้าอี้ดูมีประมาณ 20 ที่ มีโต๊ะนั่งกิน 3 โต๊ะ นั่งแบบใกล้ชิดกันมาก เราได้นั่งโต๊ะกับคนไทยอีกคู่นั่งตรงข้ามกันเลย แล้วก็มีที่นั่งตรงเคาเตอร์อีกประมาณ 8 ที่ ได้เห็นการปั้นซูชิแบบใกล้ชิด คู่คนไทยข้างหน้าเราขอย้ายไปนั่งตรงเคาเตอร์แต่ พนง.ไม่ให้ไป เขาจัดให้แล้วคงกลัววุ่นวายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาล่ะมั่ง
ภายในมีรูปมีลายเซ็นติดไว้เยอะแยะเลย มีรูปนาวิน ต้าร์ ด้วย มีโปรโมทสาขาที่ไทยด้วย อยู่ทองหล่อ
มีน้ำชาเขียวร้อนแก้หนาวมาเสริฟ กับเมนูมี 4 เซตให้เลือก เราเลือกคนละเซต เอาเซต 3 กับ 4 เซต 1 กับ 2 มีบางอย่างที่ไม่กิน แล้วก็ซุปมิโสะ
มาแล้ว เซต 3
เซต 4
ซอสใช้แปรงทาเอา มีขิงดองให้กินเป็นเครื่องเคียง
ได้เวลากินแล้ว แล้วมันก็หมดอย่างรวดเร็วเลย ยังอิ่มไม่มากเลยสั่งเพิ่มอีก 1 เซต เอาเซต 4 เหมือนเดิม มันอร่อยมากกกกกกก ไม่คาวเลย เห็นรูปแล้วก็อยากกลับไปกินอีก อร่อยดี ต้องลองนะคะ
ค่าอาหารมื้อนี้หมดไป 3,720.- เยน ใช้เวลากินไม่นานประมาณ 20 นาที ก็รีบออกมาเดินทางไปปราสาท Himeji ต่อกัน
ออกเดินทางไปปราสาท Himeji
NODA(JR) - OSAKA
รถไฟมาแล้ว
รถ snoopy น่ารักเชียว
เรื่องการต่อรถไฟ เวลาที่เราไปถึงสถานีที่ต้องไปต่อรถไฟอีกสายเพื่อไปต่อ มักจะไม่ทันตามเวลาที่ hyperdia บอกเลย เพราะเราไม่รู้ว่าต้องไปทางไหนยังไง เหมือนต้องไปเริ่มดูแผนที่ใหม่ (บางสายเชื่อมกัน บางสายไม่เชื่อมกัน) ขนาดคนญี่ปุ่นเองยังต้องวิ่งไปเพื่อไปต่อรถไฟให้ทัน แต่เราไม่รู้ทางเลยไม่ทันแน่นอน เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องกังวลเวลาตามที่ hyperdia บอก (ตอนแรกเราเป็นคนวางแผนมาต้องตรงเวลาตามนั้นเป๊ะๆซิเอาเข้าจริงทำไม่ได้เลยต้องปรับเปลี่ยน ณ ตอนนั้นตลอดๆ) เราอาจจะไปช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่ไปให้ถูกทางก็พอ
การจะไป himeji ต้องไปต่อรถไฟที่สถานี osaka สถานีนี้ใหญ่มาก กว่าเราจะหาว่าต้องไปขึ้นตรงไหนเจอ ต้องเสิร์ซ hyperdia ใหม่ตามเวลา ณ ปัจจุบัน ส่วนใหญ่แฟนเป็นคนทำ ดูทั้ง google ทั้ง hyperdia เลย เรามีหน้าที่ตามไปแค่นั้น พาไปเลยดูเองไม่รู้เรื่อง 555 เดี๋ยวพาหลง
เดินทางประมาณ 76 นาที ก็ถึงสถานี Himeji ออกมาจากสถานีก็จะมองเห็นตัวปราสาทอยู่ไกลๆ
เดินประมาณ 15 นาที ก็ถึงแล้วหน้าทางเข้าปราสาท
ซื้อตั๋วเข้าชม 1,000.- เยน
ปราสาททำจากไม้ทั้งหมดเลย ไม้ใหญ่มากด้วย ตอนเข้าไปต้องถอดรองเท้าใส่ถุงแล้วถือหิ้วไปด้วย
วิวด้านบนเห็นถนนที่เราเดินมาด้วย
ตัวปราสาทสีขาวดูสวยสะอาดตา
จะมีกลุ่มนักเรียนอนุบาลตัวเล็กๆมาเที่ยวด้วย คุณครูพามา น่ารักๆทั้งนั้น ร้องตะโกะว่านินจา นินจา บ๊าย บาย นินจา เด็กๆ คงคิดว่ามีนินจาอยู่ที่ปราสาทนี่ซินะ คุณครูคงไม่ได้พาเข้าไปข้างในแค่พาเด็กๆมาดูข้างนอก เพราะน่าจะขึ้นไปลำบาก
บ่อน้ำหน้าปราสาท มีเรื่องเล่าว่ามีวิญญาณหญิงสาวอยู่ที่นี่
ปราสาทนี้ ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" มีดอกเบญจมาศมาจัดแสดงด้วย ดอกใหญ่หลากหลายสีสวยงาม
ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง ก็เดินทางกลับโอซาก้า ถนนที่เดินกลับไปสถานี himeji มีร้านขายของฝาก ของกินอยู่ตามทาง กลัวเสียเวลาเลยซื้อของกินที่ 7-11 นั่งกินไปบนรถไฟ
ถึงแล้วกำลังเดินไปปราสาทโอซาก้า ใช้ google map นำทาง
ปราสาทใหญ่อลังการ
หน้าทางขึ้นปราสาท ซื้อตั๋วเข้าก่อน 600.- เยน
เข้าไปรอขึ้นลิฟท์ไปชั้น 6 แล้วขึ้นบันไดไปอีก 2 ชั้นเป็น ชั้นบนสุด ครอบลายไม้ไว้ด้วยกันลาย
รูปนี้ถ่ายเอง ไม่อยากให้เห็นตาข่าย แต่ก็กลัวมือถือตก
ให้แฟนถ่ายให้ ok เลย ไม่ติดตาข่าย ชมวิวใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้วเป็นสีอ่อนๆ
ปราสาทโอซาก้าเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ มีความทันสมัย มีบันทึกประวัติเรื่องราวต่างๆให้ศึกษา ต่างจากปราสาทฮิเมจิที่มีความเก่าแก่กว่า ดูเป็นปราสาทจริงๆ ทำจากไม้หมด ให้ความรู้สีกแตกต่าง ส่วนตัวชอบปราสาทฮิเมจิมากกว่า
อยู่จนถึงเวลาปิดหกโมงเย็น มีร้านของกินด้วยด้านหน้า เลยกินไอติมกันอร่อยดี
Time Capsule 100 ปีข้างหน้าจากปี 2513 ถึงจะเปิดดู ก็คงเป็นปี 2613
เข้ามาอีกทางนึง อยากกลับอีกทาง เลยต้องหาทางกลับใหม่ ไปหาของกินแถวชินไซบาชิ เดินเล่น shopping
ถึงแถวชินไซบาชิก็ค่ำแล้ว เดิน shopping เข้าร้าน ไดโซะ ร้าน มัทสึโมโตะ คิโยชิ