สวัสดีครับชาว Pantip.com ทุกท่าน
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ใกล้หน้าหนาวเข้ามาทุกที
หลายๆคนก็คงจะหาทริปไปเที่ยวสักที่หนึ่ง ถูกไหมครับ?
ผมมีที่ที่หนึ่งที่ทุกคนคงคิดว่า โหย ไปบ่อยแล้ว มันซ้ำแล้ว มาให้ชมกัน
นั่นคือจังหวัด "เชียงใหม่" นั่นเอง
แต่ทริปที่ผมไปนี้ เหมือนเป็นการเปิดโลก 5555555
เนื่องจากไม่เคยไปเที่ยวแนวนี้มาก่อน
ทริปที่ผมไปมานั้น คือ
เชียงใหม่ - บ้านต้นไม้ - เชียงดาว - บ้านป่าบงเปียง
เราไปดูกันดีกว่าาา
วันแรกของเราเริ่มต้นจากกรุงเทพ ด้วยไฟลท์บินของคุณสิงโตครับ
ที่เลือกเพราะว่ามีโหลดกระเป๋าด้วย ฮ่าาๆ
ตอนแรกคิดว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่ในตัวเมืองไง
ผมเลยขนสกินแคร์มาแน่นเลย กระเป๋าหนักมาก เกือบสิบสองโลฯแหนะ!
ทีนี้เราก็บินไฟลท์ดึกครับ ไปถึงที่โน่นก็เกือบๆเที่ยงคืนแล้ว
เราก็ไปกินไก่ทอดเที่ยงคืนกัน ไม่ถ่ายรูปแล้วกันนะครับ เพราะว่ามันเกร่อแล้ว
วันถัดไป เราตื่นกันตั้งแต่หกโมงเช้า เพราะเราจะไป NANA Jungle!
หลายคนคงสงสัยว่า เอ๊ นานาจังเกิ้ลคืออะไร
คำตอบคือ มันเป็นตลาดนัดเบเกอรี่ที่อยู่ในป่าครับ ฮ่าๆ
ตามจริงแล้วก็ไม่เชิงป่าเสียทีเดียว แต่บรรยากาศเหมือนป่าเลยครับ
วันนั้นจำได้ว่าตอนเช้ามืดฝนตก ภาพบรรยากาศก็เลยอาจจะชื้นๆนิดนึงครับ
โดยรอบจะคล้ายๆกับตลาดนัดขนาดเล็ก มีร้านรวงขายอาหารกินเล่นประปราย แต่สิ่งที่เราสนใจก็คือเบเกอรี่อบใหม่ที่มีเฉพาะวันเสาร์เท่านั้นครับ
เขาจะแจกคิวมา เปิดเป็นรอบๆ รอบละ 30 นาที คิวละ 20-30 คนเท่านั้นเองครับ ถ้าจำไม่ผิดนะ
ผมได้คิวรอบที่ 2 ครับผม
และนี่คือหน้าตาของเบเกอรี่ ฮืออ อยากกินอีก
ครัวซองส์อัลมอนด์อร่อยมากเลยอะ กรีดร้องมาก
นั่งกินแพ้บ
ตาเยิ้มไปหน่อย นอนดึกตื่นเช้า ฮ่าาๆ
เอาบรรยากาศไปป
คนเยอะมากเลยครับ
พอหลังจากนั้นเราก็ขับรถมุ่งหน้าสู่เชียงดาว และบ้านต้นไม้กัน
บ้านต้นไม้ หลายคนก็คงเคยได้ยินกันนะครับ มีรีวิวเยอะมาก
แต่อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสจริงๆ มันเจ๋งมาก และชีวิตต่อนยอนมากๆครับ
ที่นั่นมีน้ำ มีไฟฟ้าให้ตามปกติ แต่ไม่มีไวไฟ ไม่มีสามจี สี่จี
ถือว่าเป็นการตัดขาดจากโลกภายนอกเลยครับ
ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องเส้นทาง เนื่องจากมีพี่ชายขับรถพาไป ดูแต่ข้างทางอย่างเดียวเลยครับ แหะๆ
เราขับกันไป รู้สึกว่าเขาจะเรียกว่าแม่แมะนะครับ
เรามาดูหน้าตาของบ้านต้นไม้กัน
มองไปทางใดก็มีแต่สีเขียว
นี่ก็เขียว
และนี่คือหน้าตาของที่พัก
ตกเย็นพวกเราก็ลงจากเขาไปเดินเล่นในทุ่งนาแถวเชียงดาวครับ เนื่องจากพี่ชายมีแพลนอยากซื้อที่แถวนี้
ผมเลยถ่ายรูปมา เพราะมันสวยจริงๆ
ตอนพระอาทิตย์ตกนี่แทบหยุดหายใจ ภาพบรรยายไม่หมดครับ
Lemme take a selfie!
วันนี้ก็จบลงครับ จบลงด้วยการกินข้าวเย็นที่บ้านต้นไม้
อาหารก็เป็นอาหารง่ายๆครับ ไข่เจียว ต้มยำไก่น้ำใส
แต่ที่อยากแนะนำให้ทุกคนต้องสั่ง คือ ยำยอดชา
เค้าเอายอดใบชามายำกับปลากระป๋อง
เด็ดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อร่อยแบบ โอ้วโหววววว
ต้องลองครับ
วันถัดไปเราก็ไปกันที่บ้านป่าบงเปียงครับ มุ่งหน้าไปที่นั่นกันตั้งแต่ช่วงสายๆ
เพราะว่ากลัวว่ามันมืดแล้วจะอันตราย เพราะต้องขับขึ้นเขาไป
เราขึ้นเขาไปทางดอยอินทนนท์ครับ ตอนแรกว่าจะแวะที่จุดสูงสุดแดนสยาม แต่ว่าไม่ทันเพราะตอนนั้นเริ่มบ่ายแก่ๆแล้ว
แล้วอีกอย่างฝนก็ตกด้วยครับ เราเลยมุ่งหน้าสู่บ้านป่าบงเปียงเลย
จริงๆทางขึ้นมีสองทางครับ ทางแรกใกล้กว่าแต่ทางโหดกว่า ทางที่สองอ้อมสามสิบกิโล แต่ทางแบ๊วๆใสๆมากครับ
เราเลือกทางแรก เพราะว่าอยากให้ถึงไวไวเนอะ
แล้วเรามาดูสภาพทางกันค่ะคุณกิตติคะ
คือแค่เห็นทางก็น้ำตานองอาบสองแก้มแล้วอะครับ ไม่ไหวจริงๆ
ข้างหน้าเราคือกลุ่มไบค์เกอร์หลายคันที่อยากมาสัมผัสธรรมชาติที่บ้านป่าบงเปียงเหมือนกันกับเรา
เขาเห็นว่ามีรถกระบะคันหนึ่งขึ้นเนินไม่ได้เพราะติดโคลน เขาจึงช่วยคันนั้นกันก่อน สุดท้ายก็ผ่านไปได้ครับ
พวกพี่ๆเขาก็ช่วยกันเข็นรถของเขาเองขึ้นไปเหมือนกัน กว่าจะขึ้นไปได้ก็ทุลักทุเลครับ
ทีนี้พอมาถึงคันของพวกผมบ้าง ปรากฏว่า
ว่า
ว่า
ติดเหมือนกันจ้าาาาาาาา ความซวยบังเกิด น้องจะร้องไห้
แต่สุดท้ายเหมือนมีเทวดามาโปรด
พวกพี่ๆไบค์เกอร์เค้ามาช่วยกันครับ!
ปลาบปลื้มมาก สุดท้ายรถเราก็ผ่านไปได้
เลยอ้อมแอ้มแจกไลน์ไปคนนึง (ล้อเล่น)
และนี่คือภาพที่ได้เห็นครั้งแรกครับ
ความเหนื่อยที่มีหายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ
สักพักเราก็มาถึงที่พักซึ่งเป็นกระต๊อบ เป็นเพิง
ไม่มีไฟฟ้าจ้าาาาา แต่มีอินเทอร์เน็ตสามจี สี่จีก็มี
มีน้ำประปาครับ แต่หนาวมาก
กรีดผิวววววววว อาบน้ำทีแทบกรี๊ด
และนี่คือวิวจากห้องน้ำครับ
ตอนเย็นก็ไปหาที่ถ่ายรูปกัน ก็เลยได้รูปสองรูปนี้มาครับ
และก็อันนี้
ที่นี่จะมีบริการอาหารง่ายๆครับ เช่น แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ข้าวสวย
มียำปลากระป๋อง ฟักทองผัดไข่ แล้วก็แกงจืดไข่น้ำ
รสชาติปานกลาง กินได้ครับ
เขาจะเอาใส่ปิ่นโตมาให้เรากินกัน
ตอนเช้าตื่นขึ้นมา อากาศดีมากครับ เห็นหมอกเต็มเลยแต่ไม่ได้ถ่ายมา
เพราะว่ากล้องไอโฟนมันมองไม่ค่อยชัดครับ ได้มาแค่ภาพนี้
แล้วเราก็ลงจากเขาด้วยเส้นทางที่สองที่ผมบอกไป อ้อมมมมไปอีก อ้อมยิ่งกว่าอ้อมสุนิสา
อ้อมมมมมมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สุดท้ายเราก็ลงมาถึง แล้วก็เข้าเมืองเชียงใหม่ ถึงช่วงบ่ายๆ เราก็มีเวลาต่อนยอนไปจนถึงสองทุ่ม
ทีนี้ก็ไม่มีอะไรทำ เลยไปขอพรที่วัดพระธาตุดอยคำครับ
ก็เลยได้รูปนี้มา
และแล้ว ก็หมดเวลาสนุกแล้วซี
ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้ว กลับเมืองกรุงที่แสนวุ่นวาย
นึกแล้วก็ยังอยากไปอีกเลยครับ แต่ช่วงปีใหม่ต้องทำงาน เสียใจสุดๆ
ใครมีทริปอะไรอยากโชว์บอกมาได้นะ
ต้นเดือนหน้าผมจะไปบางปะกง ใกล้ๆเนี่ยละ เดี๋ยวจะถ่ายรูปมาอวด
วันนี้ต้องขอตัวก่อนครับ จะตีสี่ครึ่งแล้ว ง่วงฝุดๆ
บ๊ายบายครับบบ
ปอม.
[CR] :D หนาวแล้ว ไปเชียงใหม่กันเถอะ! ทริปตะลุยบ้านต้นไม้ บ้านป่าบงเปียง และอื่นๆ*
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ใกล้หน้าหนาวเข้ามาทุกที
หลายๆคนก็คงจะหาทริปไปเที่ยวสักที่หนึ่ง ถูกไหมครับ?
ผมมีที่ที่หนึ่งที่ทุกคนคงคิดว่า โหย ไปบ่อยแล้ว มันซ้ำแล้ว มาให้ชมกัน
นั่นคือจังหวัด "เชียงใหม่" นั่นเอง
แต่ทริปที่ผมไปนี้ เหมือนเป็นการเปิดโลก 5555555
เนื่องจากไม่เคยไปเที่ยวแนวนี้มาก่อน
ทริปที่ผมไปมานั้น คือ
เชียงใหม่ - บ้านต้นไม้ - เชียงดาว - บ้านป่าบงเปียง
เราไปดูกันดีกว่าาา
วันแรกของเราเริ่มต้นจากกรุงเทพ ด้วยไฟลท์บินของคุณสิงโตครับ
ที่เลือกเพราะว่ามีโหลดกระเป๋าด้วย ฮ่าาๆ
ตอนแรกคิดว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่ในตัวเมืองไง
ผมเลยขนสกินแคร์มาแน่นเลย กระเป๋าหนักมาก เกือบสิบสองโลฯแหนะ!
ทีนี้เราก็บินไฟลท์ดึกครับ ไปถึงที่โน่นก็เกือบๆเที่ยงคืนแล้ว
เราก็ไปกินไก่ทอดเที่ยงคืนกัน ไม่ถ่ายรูปแล้วกันนะครับ เพราะว่ามันเกร่อแล้ว
วันถัดไป เราตื่นกันตั้งแต่หกโมงเช้า เพราะเราจะไป NANA Jungle!
หลายคนคงสงสัยว่า เอ๊ นานาจังเกิ้ลคืออะไร
คำตอบคือ มันเป็นตลาดนัดเบเกอรี่ที่อยู่ในป่าครับ ฮ่าๆ
ตามจริงแล้วก็ไม่เชิงป่าเสียทีเดียว แต่บรรยากาศเหมือนป่าเลยครับ
วันนั้นจำได้ว่าตอนเช้ามืดฝนตก ภาพบรรยากาศก็เลยอาจจะชื้นๆนิดนึงครับ
โดยรอบจะคล้ายๆกับตลาดนัดขนาดเล็ก มีร้านรวงขายอาหารกินเล่นประปราย แต่สิ่งที่เราสนใจก็คือเบเกอรี่อบใหม่ที่มีเฉพาะวันเสาร์เท่านั้นครับ
เขาจะแจกคิวมา เปิดเป็นรอบๆ รอบละ 30 นาที คิวละ 20-30 คนเท่านั้นเองครับ ถ้าจำไม่ผิดนะ
ผมได้คิวรอบที่ 2 ครับผม
และนี่คือหน้าตาของเบเกอรี่ ฮืออ อยากกินอีก
ครัวซองส์อัลมอนด์อร่อยมากเลยอะ กรีดร้องมาก
นั่งกินแพ้บ
ตาเยิ้มไปหน่อย นอนดึกตื่นเช้า ฮ่าาๆ
เอาบรรยากาศไปป
คนเยอะมากเลยครับ
พอหลังจากนั้นเราก็ขับรถมุ่งหน้าสู่เชียงดาว และบ้านต้นไม้กัน
บ้านต้นไม้ หลายคนก็คงเคยได้ยินกันนะครับ มีรีวิวเยอะมาก
แต่อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสจริงๆ มันเจ๋งมาก และชีวิตต่อนยอนมากๆครับ
ที่นั่นมีน้ำ มีไฟฟ้าให้ตามปกติ แต่ไม่มีไวไฟ ไม่มีสามจี สี่จี
ถือว่าเป็นการตัดขาดจากโลกภายนอกเลยครับ
ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องเส้นทาง เนื่องจากมีพี่ชายขับรถพาไป ดูแต่ข้างทางอย่างเดียวเลยครับ แหะๆ
เราขับกันไป รู้สึกว่าเขาจะเรียกว่าแม่แมะนะครับ
เรามาดูหน้าตาของบ้านต้นไม้กัน
มองไปทางใดก็มีแต่สีเขียว
นี่ก็เขียว
และนี่คือหน้าตาของที่พัก
ตกเย็นพวกเราก็ลงจากเขาไปเดินเล่นในทุ่งนาแถวเชียงดาวครับ เนื่องจากพี่ชายมีแพลนอยากซื้อที่แถวนี้
ผมเลยถ่ายรูปมา เพราะมันสวยจริงๆ
ตอนพระอาทิตย์ตกนี่แทบหยุดหายใจ ภาพบรรยายไม่หมดครับ
Lemme take a selfie!
วันนี้ก็จบลงครับ จบลงด้วยการกินข้าวเย็นที่บ้านต้นไม้
อาหารก็เป็นอาหารง่ายๆครับ ไข่เจียว ต้มยำไก่น้ำใส
แต่ที่อยากแนะนำให้ทุกคนต้องสั่ง คือ ยำยอดชา
เค้าเอายอดใบชามายำกับปลากระป๋อง
เด็ดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อร่อยแบบ โอ้วโหววววว
ต้องลองครับ
วันถัดไปเราก็ไปกันที่บ้านป่าบงเปียงครับ มุ่งหน้าไปที่นั่นกันตั้งแต่ช่วงสายๆ
เพราะว่ากลัวว่ามันมืดแล้วจะอันตราย เพราะต้องขับขึ้นเขาไป
เราขึ้นเขาไปทางดอยอินทนนท์ครับ ตอนแรกว่าจะแวะที่จุดสูงสุดแดนสยาม แต่ว่าไม่ทันเพราะตอนนั้นเริ่มบ่ายแก่ๆแล้ว
แล้วอีกอย่างฝนก็ตกด้วยครับ เราเลยมุ่งหน้าสู่บ้านป่าบงเปียงเลย
จริงๆทางขึ้นมีสองทางครับ ทางแรกใกล้กว่าแต่ทางโหดกว่า ทางที่สองอ้อมสามสิบกิโล แต่ทางแบ๊วๆใสๆมากครับ
เราเลือกทางแรก เพราะว่าอยากให้ถึงไวไวเนอะ
แล้วเรามาดูสภาพทางกันค่ะคุณกิตติคะ
คือแค่เห็นทางก็น้ำตานองอาบสองแก้มแล้วอะครับ ไม่ไหวจริงๆ
ข้างหน้าเราคือกลุ่มไบค์เกอร์หลายคันที่อยากมาสัมผัสธรรมชาติที่บ้านป่าบงเปียงเหมือนกันกับเรา
เขาเห็นว่ามีรถกระบะคันหนึ่งขึ้นเนินไม่ได้เพราะติดโคลน เขาจึงช่วยคันนั้นกันก่อน สุดท้ายก็ผ่านไปได้ครับ
พวกพี่ๆเขาก็ช่วยกันเข็นรถของเขาเองขึ้นไปเหมือนกัน กว่าจะขึ้นไปได้ก็ทุลักทุเลครับ
ทีนี้พอมาถึงคันของพวกผมบ้าง ปรากฏว่า
ว่า
ว่า
ติดเหมือนกันจ้าาาาาาาา ความซวยบังเกิด น้องจะร้องไห้
แต่สุดท้ายเหมือนมีเทวดามาโปรด
พวกพี่ๆไบค์เกอร์เค้ามาช่วยกันครับ!
ปลาบปลื้มมาก สุดท้ายรถเราก็ผ่านไปได้
เลยอ้อมแอ้มแจกไลน์ไปคนนึง (ล้อเล่น)
และนี่คือภาพที่ได้เห็นครั้งแรกครับ
ความเหนื่อยที่มีหายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ
สักพักเราก็มาถึงที่พักซึ่งเป็นกระต๊อบ เป็นเพิง
ไม่มีไฟฟ้าจ้าาาาา แต่มีอินเทอร์เน็ตสามจี สี่จีก็มี
มีน้ำประปาครับ แต่หนาวมาก
กรีดผิวววววววว อาบน้ำทีแทบกรี๊ด
และนี่คือวิวจากห้องน้ำครับ
ตอนเย็นก็ไปหาที่ถ่ายรูปกัน ก็เลยได้รูปสองรูปนี้มาครับ
และก็อันนี้
ที่นี่จะมีบริการอาหารง่ายๆครับ เช่น แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ข้าวสวย
มียำปลากระป๋อง ฟักทองผัดไข่ แล้วก็แกงจืดไข่น้ำ
รสชาติปานกลาง กินได้ครับ
เขาจะเอาใส่ปิ่นโตมาให้เรากินกัน
ตอนเช้าตื่นขึ้นมา อากาศดีมากครับ เห็นหมอกเต็มเลยแต่ไม่ได้ถ่ายมา
เพราะว่ากล้องไอโฟนมันมองไม่ค่อยชัดครับ ได้มาแค่ภาพนี้
แล้วเราก็ลงจากเขาด้วยเส้นทางที่สองที่ผมบอกไป อ้อมมมมไปอีก อ้อมยิ่งกว่าอ้อมสุนิสา
อ้อมมมมมมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สุดท้ายเราก็ลงมาถึง แล้วก็เข้าเมืองเชียงใหม่ ถึงช่วงบ่ายๆ เราก็มีเวลาต่อนยอนไปจนถึงสองทุ่ม
ทีนี้ก็ไม่มีอะไรทำ เลยไปขอพรที่วัดพระธาตุดอยคำครับ
ก็เลยได้รูปนี้มา
และแล้ว ก็หมดเวลาสนุกแล้วซี
ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้ว กลับเมืองกรุงที่แสนวุ่นวาย
นึกแล้วก็ยังอยากไปอีกเลยครับ แต่ช่วงปีใหม่ต้องทำงาน เสียใจสุดๆ
ใครมีทริปอะไรอยากโชว์บอกมาได้นะ
ต้นเดือนหน้าผมจะไปบางปะกง ใกล้ๆเนี่ยละ เดี๋ยวจะถ่ายรูปมาอวด
วันนี้ต้องขอตัวก่อนครับ จะตีสี่ครึ่งแล้ว ง่วงฝุดๆ
บ๊ายบายครับบบ
ปอม.