ดิฉันเป็นผู้ให้เช่า ให้ผู้เช่าเปิดสถานกวดวิชาเล็กๆ และต้นปี 58 ผู้เช่ากู้เงินดิฉันรวมทั้งหมด 80000 แต่ผู้เช่าก็ไม่ชำระเมื่อถึงกำหนดจนบัดนี้ และขอไม่ให้คิดดอกเบี้ย เพราะ ผู้เช่าบอกว่าจะไม่ค้างชำระค่าเช่าอีก แต่พอปิดเทอมผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า มีค. เมษ พค. รวม 60000 บาท ผู้เช่าขอความเห็นใจบอกว่าเด็กมาเรียนพิเศษน้อยและบอกว่ากำลังทำเรื่องกู้เงินอยู่เพื่อนำเงินมาชำระหนี้และจ่ายค่าเช่า ซึ่งผู้เช่าก็แสดงหลักฐานการกู้ แต่กู้กี่ครั้งก็ไม่เคยผ่าน ซึ่งตอนนั้นที่ดิฉันยังไม่บอกเลิกเช่า เพราะหวังว่า ผู้เช่าจะกู้ผ่านและนำเงินมาคืน อีกอย่าง ถ้าบอกเลิกเช่าไป เกรงว่า จะทวงเงินกันลำบากขึ้น จึ่งให้เช่าต่อไป ทั้งๆที่ค้างชำระค่าเช่า และทั้งๆที่เปิดเทอมแล้ว ก็ยังจ่ายค่าเช่าไม่ตามกำหนดสักเดือน และ กย. ตค. ที่ผ่านมา ก็ยังค้างค่าเช่าอยู่เพิ่มอีก เงินประกันหักไป ก็ยังไม่พอค่าเช่าที่ค้างชำระค่ะ
ถ้าให้เช่าต่อไป เพื่อจะได้เห็นหน้ากัน ทวงค่าเช่าและทวงเงินกู้กัน แต่ยิ่งเช่าต่อไป พอปิดเทอมก็จะค้างค่าเช่าทุกครั้ง หนี้ยิ่งพอกพูนขึ้น
หรือ บอกเลิกเช่า ก็เกรงว่า จะตามตัวผู้เช่ายาก แต่ขนาดเห็นหน้ากันทุกวัน เค้าก็บอกว่าไม่มี (เข้าลักษณะ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย) แต่ตอนนี้เค้าก็บอกว่า กำลังทำเรื่องกู้อยู่ อีกอย่างตอนนี้รถไม่ติดปัญหาแล้ว (เมื่อก่อนผู้เช่าขายดาวน์รถไปโดยไม่เปลี่ยนชื่อ แต่คนซื้อดาวน์ไปไม่จ่ายค่างวดทำให้ผู้เช่าเสียเครดิต แต่ตอนนี้รถไม่ใช่ชื่อของผู้เช่าแล้ว ) ผู้เช่าเลยบอกว่า เครดิตดีแล้วน่าจะกู้ผ่าน ซึ่งตอนนี้ดิฉันก็รอจนจะสิ้นเดือน พ.ย.แล้ว ค่าเช่าค้างชำระจะกลายเป็น 60000 แล้ว
ขอคำปรึกษาและขอความคิดเห็น ดังนี้ค่ะ
1 ดิฉันต้องเร่งตัดสินใจ ระหว่าง จะให้เช่า หรือ ไม่ให้เช่า ค่ะ
เพราะสัญญาเช่าจะหมด 1 มีนา 60 นี้ ถ้าดิฉันจะบอกเลิกสัญญาเช่า ต้องบอกเลิกเช่า 1 ธค. นี้ เพื่อเป็นไปตามสัญญาเช่าที่ระบุว่าต้องบอกก่อน 3 เดือน
2 หากผู้เช่าอ้างเหตุ ไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ยึด เงินเดือนก็น้อย รถยังผ่อนอยุ่ บ้านก็อาศัยพ่อตาอยุ่ อยากทราบว่าถ้าพึ่งอำนาจศาล ท่านจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน และหากผู้เช่าไม่จ่ายเงินตามกำหนด ศาลจะมีขั้นตอนอย่างไรต่อไปกับผู้เช่า
3 ดิฉันควรพึ่งอำนวจศาล หรือ ประนีประนอมกันเอง
หากประนีประนอมกันเอง ดิฉันกังวลตรงที่ ผู้เช่าจะผิดนัดชำระเหมือนที่เคยเป็นอีก หากผู้เช่าบอกไม่มีจะให้ ดิฉันก็ไม่สามารถทำอะไร หรือ ยึดอะไร ผู้เช่าได้เลย เผลอๆหายหน้าไปเลยหากบอกเลิกเช่า และหากพึ่งอำนาจศาลช่วยก็ต้องยอมรับว่าจะเสียเวลาและเสียเงิน
แต่อย่างไหนน่าจะเป็นทางเลือกดีกว่ากันคะ
4 หากดิฉันทวงเงินและทวงค่าเช่า แล้วผู้เช่าบอกว่า กำลังกู้อยู่ ให้รอเวลาหน่อย ดิฉันจะตอบกลับไปอย่างไรดี
ผู้เช่าเป็นลูกหนี้เงินกู้ของดิฉัน และ ทุกปิดเทอมจะค้างชำระค่าเช่า จะให้เช่าต่อ หรือ บอกเลิกเช่า ดีคะ
ถ้าให้เช่าต่อไป เพื่อจะได้เห็นหน้ากัน ทวงค่าเช่าและทวงเงินกู้กัน แต่ยิ่งเช่าต่อไป พอปิดเทอมก็จะค้างค่าเช่าทุกครั้ง หนี้ยิ่งพอกพูนขึ้น
หรือ บอกเลิกเช่า ก็เกรงว่า จะตามตัวผู้เช่ายาก แต่ขนาดเห็นหน้ากันทุกวัน เค้าก็บอกว่าไม่มี (เข้าลักษณะ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย) แต่ตอนนี้เค้าก็บอกว่า กำลังทำเรื่องกู้อยู่ อีกอย่างตอนนี้รถไม่ติดปัญหาแล้ว (เมื่อก่อนผู้เช่าขายดาวน์รถไปโดยไม่เปลี่ยนชื่อ แต่คนซื้อดาวน์ไปไม่จ่ายค่างวดทำให้ผู้เช่าเสียเครดิต แต่ตอนนี้รถไม่ใช่ชื่อของผู้เช่าแล้ว ) ผู้เช่าเลยบอกว่า เครดิตดีแล้วน่าจะกู้ผ่าน ซึ่งตอนนี้ดิฉันก็รอจนจะสิ้นเดือน พ.ย.แล้ว ค่าเช่าค้างชำระจะกลายเป็น 60000 แล้ว
ขอคำปรึกษาและขอความคิดเห็น ดังนี้ค่ะ
1 ดิฉันต้องเร่งตัดสินใจ ระหว่าง จะให้เช่า หรือ ไม่ให้เช่า ค่ะ
เพราะสัญญาเช่าจะหมด 1 มีนา 60 นี้ ถ้าดิฉันจะบอกเลิกสัญญาเช่า ต้องบอกเลิกเช่า 1 ธค. นี้ เพื่อเป็นไปตามสัญญาเช่าที่ระบุว่าต้องบอกก่อน 3 เดือน
2 หากผู้เช่าอ้างเหตุ ไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ยึด เงินเดือนก็น้อย รถยังผ่อนอยุ่ บ้านก็อาศัยพ่อตาอยุ่ อยากทราบว่าถ้าพึ่งอำนาจศาล ท่านจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน และหากผู้เช่าไม่จ่ายเงินตามกำหนด ศาลจะมีขั้นตอนอย่างไรต่อไปกับผู้เช่า
3 ดิฉันควรพึ่งอำนวจศาล หรือ ประนีประนอมกันเอง
หากประนีประนอมกันเอง ดิฉันกังวลตรงที่ ผู้เช่าจะผิดนัดชำระเหมือนที่เคยเป็นอีก หากผู้เช่าบอกไม่มีจะให้ ดิฉันก็ไม่สามารถทำอะไร หรือ ยึดอะไร ผู้เช่าได้เลย เผลอๆหายหน้าไปเลยหากบอกเลิกเช่า และหากพึ่งอำนาจศาลช่วยก็ต้องยอมรับว่าจะเสียเวลาและเสียเงิน
แต่อย่างไหนน่าจะเป็นทางเลือกดีกว่ากันคะ
4 หากดิฉันทวงเงินและทวงค่าเช่า แล้วผู้เช่าบอกว่า กำลังกู้อยู่ ให้รอเวลาหน่อย ดิฉันจะตอบกลับไปอย่างไรดี