หลังจากที่ผมตัดสินใจหยุดพักการเล่น Pokemon go แต่ยังคงติดตามกระแสสังคมที่เกิดขึ้นภายในเกมมาซักพักจนถึงตอนนี้ก็ประมาณ 2 เดือนได้ ถ้านับรวมเวลาที่ตัวเกมเปิดตัวมาก็น่าจะราวๆ 5 เดือน ซึ่งผมมองจากสภาพปัจจุบันตัวเกมน่าจะเข้าสู่สภาวะ maintenance เต็มตัว (มันคือสภาวะที่ผู้เล่นจะมีแต่ลดลง ซึ่งผู้พัฒนาต้องพยายามออกไอเดียในการรั้งผู้เล่นที่เหลืออยู่ให้คงที่)
ตัวผมเองที่บอกว่าจะหยุดเล่นแต่เอาเข้าจริงการติดตาม การอัพเดตต่างๆ เพื่อมาแชร์ข้อมูลนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่หยิบเอาเกมมาเปิดเล่นบ้างเพื่อให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยที่ผ่านมาการนำเสนอข้อเท็จจริงจากการสืบหาของผมนั้นอาจมีผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ต้องยอมรับว่ามันก็ดูดเอาเวลาชีวิตผมไปกับสิ่งที่ตัวเองไม่ค่อยจะคาดหวังอะไรไปมากพอสมควร
ถึงจุดนี้ผมมานั่งละคิดได้ว่า ณ ตอนนี้ถ้าผมจะหยุดจริงจัง ทางเดียวก็คือการหยุดตามทุกๆ อย่างเกี่ยวกับเกมนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของชีวิตผมเอง และไม่ไปรบกวนพื้นที่กระทู้ต่างๆ ที่ผมเข้าไปเผือก (รวมใน pantip ด้วย หุๆ)
ซึ่งเป้าหมายของผมตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา มันคือการเกาะติดและ นำเสนอสภาพปัจจุบันของตัวเกม ทั้งด้านมืด-ด้านสว่าง ข้อดี ข้อเสีย รวมไปถึงแนวทางที่จะเกิดขึ้นในอนาตค ภายใต้มุมมอง และข้อมูลที่ผมสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งส่วนดีที่ผมพอจะได้บ้างก็น่าจะเป็นความเข้าใจเกี่ยวกับ ความรู้ด้าน software engine ต่างๆ ที่ได้พื้นฐานมาพอสมควรจากที่แทบไม่รู้อะไรเลย ซึ่งก็คงพอจะมองได้ว่าเวลาทีผ่านมาก็ไม่ถึงกับเปล่าประโยชน์อะไรนัก
ส่วนความคาดหวังจริงๆ กับเกมนี้คือสิ่งที่เรียกว่า "สมดุลย์ของเกม" ซึ่งถ้าจะอธิบายภาพรวมง่ายๆ คือในสังคมทั่วไป กฎ 20:80 เป็นสิ่งที่ใช้ได้เสมอนั่นคือ สมมติว่าทั้งโลกมีเงิน 100 บาทกับมี คน 100 คน
จะมีคน 20 คนที่ถือครองเงิน 80 บาทจากทั้งหมดและเป็นผู้กำหนดขับเคลื่อนทิศทางของโลก...โลกเราปัจจุบันมันเป็นแบบนี้ ซึ่งในสังคมเกมผมมองว่าเกมที่ดีมันต้องแตกต่างสิ เพราะคนที่ขับเคลื่อนทิศทางคือผู้พัฒนาเกม พวกเขาควรสร้างเงื่อนไขที่ทำให้คนมากกว่า 80 คน มีความเท่าเทียมกันในการแข่งขันโดยอาจมีซัก 20 คนหรือน้อยกว่าที่เป็นผู้เสียเปรียบ ด้วยระบบเกมที่เปิดโอกาสและยุติธรรม...
ซึ่งผลที่ผ่านมามันอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ก็คงต้องทำใจครับ... และท้ายที่สุด สิ่งที่ผมรับรู้ ณ ตอนนี้ที่พอจะสรุปสถานการณ์ปัจจุบันได้ก็คือสภาพปัจจุบันเกมมันแบ่งออกเป็น 3 ก๊ก (หือ?) ตามระดับความโหดของมอน
1> สายขาวรากหญ้า ทั้งพวกที่เล่นแบบชิวๆ ไม่แคร์อะไร และพวกที่พยายามแล้วแต่สู้ 2 ระดับบนไม่ไหว ซึ่งส่วนใหญ่พวกนี้ไม่เน้นเติมเงินเล่นไปเรื่อยๆ ตามระบบเกมที่มีให้
2> สายขาวระดับสูง และสายมุด พวกนี้ใช้ความพยายามทางใดทางหนึ่งหรือทั้งสองทาง คือเรื่องเวลาการเล่น และการเติมตัง จนระดับความเก่งต่างจากพวกรากหญ้าพอสมควร แต่ทั้งคู่ถ้าวัดเฉพาะความโหดผมถือว่าสูสีกันได้เลย
3> สายดำสนิท พวกนี้เหมือนคนทำธุรกิจนอกกฏหมาย โหดเร็ว โหดมาก ถ้าผู้พัฒนาจัดการสมดุลย์เกมไม่ได้ เขาเหล่านี้จะขึ้นไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดเรื่องความเก่งของเกมได้ไม่ยาก
และ ณ ตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าสายดำดูเหมือนจะได้ความช่วยเหลือจากอดีตคนทำแมพชื่อดัง (รึเปล่าวะ) ซึ่งในกลุ่ม Hacker ของ Pokemon Go ที่ผมรู้จัก ผมยกให้เขาเก่งสุด ซึ่ง Niantic เป็นผู้จัดการจนเรื่องราวลงเอยแบบนี้..และสายดำเหล่านี้จะคงอยู่ต่อไป จนกว่าตัวเกมจะไม่สามารถสร้างผลประโยชน์อะไรให้พวกนี้ได้อีก
ส่วนในด้านผู้พัฒนาเกม อย่างที่ได้บอกไป ณ ตอนนี้เมื่อเกมเข้าสู่ช่วงขาลง การจะไล่แบนให้ user น้อยลงหนักๆ ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ เพราะไม่ว่าจะยังไงเกมนี้ถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วในเรื่องของกำไร.. แต่ในทางกลับกันก็ถือว่าเป็นอีกเกมที่ Niantic เอาชื่อมาทิ้งให้เป็นประวัติศาสตร์ของเกมมือถือที่ถ้าจะออกเกมต่อไป ผู้เล่นหลายๆ คนคงต้องคิดแล้วคิดอีกละทีนี่... ส่วนตัวผมเองลาขาดเลยครับ 555
ขอให้ทุกท่านโชคดี และสนุกกับการเล่นเกม
กระทู้สุดท้ายบอกลา Pokemon GO... Say good bye Niantic
ตัวผมเองที่บอกว่าจะหยุดเล่นแต่เอาเข้าจริงการติดตาม การอัพเดตต่างๆ เพื่อมาแชร์ข้อมูลนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่หยิบเอาเกมมาเปิดเล่นบ้างเพื่อให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยที่ผ่านมาการนำเสนอข้อเท็จจริงจากการสืบหาของผมนั้นอาจมีผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ต้องยอมรับว่ามันก็ดูดเอาเวลาชีวิตผมไปกับสิ่งที่ตัวเองไม่ค่อยจะคาดหวังอะไรไปมากพอสมควร
ถึงจุดนี้ผมมานั่งละคิดได้ว่า ณ ตอนนี้ถ้าผมจะหยุดจริงจัง ทางเดียวก็คือการหยุดตามทุกๆ อย่างเกี่ยวกับเกมนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของชีวิตผมเอง และไม่ไปรบกวนพื้นที่กระทู้ต่างๆ ที่ผมเข้าไปเผือก (รวมใน pantip ด้วย หุๆ)
ซึ่งเป้าหมายของผมตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา มันคือการเกาะติดและ นำเสนอสภาพปัจจุบันของตัวเกม ทั้งด้านมืด-ด้านสว่าง ข้อดี ข้อเสีย รวมไปถึงแนวทางที่จะเกิดขึ้นในอนาตค ภายใต้มุมมอง และข้อมูลที่ผมสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งส่วนดีที่ผมพอจะได้บ้างก็น่าจะเป็นความเข้าใจเกี่ยวกับ ความรู้ด้าน software engine ต่างๆ ที่ได้พื้นฐานมาพอสมควรจากที่แทบไม่รู้อะไรเลย ซึ่งก็คงพอจะมองได้ว่าเวลาทีผ่านมาก็ไม่ถึงกับเปล่าประโยชน์อะไรนัก
ส่วนความคาดหวังจริงๆ กับเกมนี้คือสิ่งที่เรียกว่า "สมดุลย์ของเกม" ซึ่งถ้าจะอธิบายภาพรวมง่ายๆ คือในสังคมทั่วไป กฎ 20:80 เป็นสิ่งที่ใช้ได้เสมอนั่นคือ สมมติว่าทั้งโลกมีเงิน 100 บาทกับมี คน 100 คน
จะมีคน 20 คนที่ถือครองเงิน 80 บาทจากทั้งหมดและเป็นผู้กำหนดขับเคลื่อนทิศทางของโลก...โลกเราปัจจุบันมันเป็นแบบนี้ ซึ่งในสังคมเกมผมมองว่าเกมที่ดีมันต้องแตกต่างสิ เพราะคนที่ขับเคลื่อนทิศทางคือผู้พัฒนาเกม พวกเขาควรสร้างเงื่อนไขที่ทำให้คนมากกว่า 80 คน มีความเท่าเทียมกันในการแข่งขันโดยอาจมีซัก 20 คนหรือน้อยกว่าที่เป็นผู้เสียเปรียบ ด้วยระบบเกมที่เปิดโอกาสและยุติธรรม...
ซึ่งผลที่ผ่านมามันอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ก็คงต้องทำใจครับ... และท้ายที่สุด สิ่งที่ผมรับรู้ ณ ตอนนี้ที่พอจะสรุปสถานการณ์ปัจจุบันได้ก็คือสภาพปัจจุบันเกมมันแบ่งออกเป็น 3 ก๊ก (หือ?) ตามระดับความโหดของมอน
1> สายขาวรากหญ้า ทั้งพวกที่เล่นแบบชิวๆ ไม่แคร์อะไร และพวกที่พยายามแล้วแต่สู้ 2 ระดับบนไม่ไหว ซึ่งส่วนใหญ่พวกนี้ไม่เน้นเติมเงินเล่นไปเรื่อยๆ ตามระบบเกมที่มีให้
2> สายขาวระดับสูง และสายมุด พวกนี้ใช้ความพยายามทางใดทางหนึ่งหรือทั้งสองทาง คือเรื่องเวลาการเล่น และการเติมตัง จนระดับความเก่งต่างจากพวกรากหญ้าพอสมควร แต่ทั้งคู่ถ้าวัดเฉพาะความโหดผมถือว่าสูสีกันได้เลย
3> สายดำสนิท พวกนี้เหมือนคนทำธุรกิจนอกกฏหมาย โหดเร็ว โหดมาก ถ้าผู้พัฒนาจัดการสมดุลย์เกมไม่ได้ เขาเหล่านี้จะขึ้นไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดเรื่องความเก่งของเกมได้ไม่ยาก
และ ณ ตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าสายดำดูเหมือนจะได้ความช่วยเหลือจากอดีตคนทำแมพชื่อดัง (รึเปล่าวะ) ซึ่งในกลุ่ม Hacker ของ Pokemon Go ที่ผมรู้จัก ผมยกให้เขาเก่งสุด ซึ่ง Niantic เป็นผู้จัดการจนเรื่องราวลงเอยแบบนี้..และสายดำเหล่านี้จะคงอยู่ต่อไป จนกว่าตัวเกมจะไม่สามารถสร้างผลประโยชน์อะไรให้พวกนี้ได้อีก
ส่วนในด้านผู้พัฒนาเกม อย่างที่ได้บอกไป ณ ตอนนี้เมื่อเกมเข้าสู่ช่วงขาลง การจะไล่แบนให้ user น้อยลงหนักๆ ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ เพราะไม่ว่าจะยังไงเกมนี้ถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วในเรื่องของกำไร.. แต่ในทางกลับกันก็ถือว่าเป็นอีกเกมที่ Niantic เอาชื่อมาทิ้งให้เป็นประวัติศาสตร์ของเกมมือถือที่ถ้าจะออกเกมต่อไป ผู้เล่นหลายๆ คนคงต้องคิดแล้วคิดอีกละทีนี่... ส่วนตัวผมเองลาขาดเลยครับ 555
ขอให้ทุกท่านโชคดี และสนุกกับการเล่นเกม