เราอยู่แบบครอบครัวขยาย เพราะมีลูกแฝด และสามีไปทำงานใน กทม.
แค่ลูกร้องแอ๊ะเดียวพวกปู่ย่าตายายต้องกรูกันมาดูตลอด
แค่เราอาบน้ำลูก เด็กมันก็ต้องร้องบ้างไรบ้าง พ่อสามียังต้องมายืนข้างๆ เรา คอยเอามือลูบหัวหลาน โอ๋หลาน แล้วคุยว่าเขาเลี้ยงลูกเขาอาบน้ำไม่ร้องเลย พี่สาวเราเป็นพยาบาลบอกว่าหลานอาบน้ำเย็นได้นะ ร่างกายเขาปรับอุณหภูมิได้แล้ว พ่อแม่สามียังบอกว่าให้อาบน้ำอุ่นเถอะ สงสารหลานจะหนาว จะให้ล้างก้นด้วยน้ำอุ่นด้วยเลยมั้ย ?
เราอยากเลี้ยงลูกนอกเมือง ให้โตกับธรรมชาติ มีพื้นที่ทำกิจกรรม แต่เขาจะให้เลี้ยงในเมือง ไม่อยากให้หลานต้องตื่นแต่เช้ามาก เพื่อไปโรงเรียน คือบ้านห่างจากโรงเรียนประมาณ 30 กม. ต่างจังหวัดขับรถไปก็ไม่เกิน 30 นาทีเองนะ
ดูๆ แล้วจะประคบประหงมกันเวอร์ ยิ่งเป็นหลานสาวคงจะเลี้ยงเป็นไข่ในหินเลยแน่ๆ ซึ่งเราไม่เห็นด้วยกับวิธีการเลี้ยงแบบนี้ เราเชื่อว่ามันไม่เวิร์ค
เราก็รู้ว่าเขารักหลาน จะพูดอะไรตรงๆ ก็เกรงใจ ต้องใช้วิทยายุทธวาทะศิลป์ชักแม่น้ำทั้งห้า แต่เราจะสงสารลูกมากกว่าถ้าโตไปเป็นคุณหนูทำอะไรไม่เป็นน่ะ TT
บ้านไหนเจอแบบนี้บ้างคะ แล้วแก้ปัญหายังไง รบกวนข่วยแบ่งปันคุณแม่มือใหม่ด้วยค่ะ
ปู่ย่าตายาย เป็นอุปสรรคของการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ใจร้ายไหมคะ
แค่ลูกร้องแอ๊ะเดียวพวกปู่ย่าตายายต้องกรูกันมาดูตลอด
แค่เราอาบน้ำลูก เด็กมันก็ต้องร้องบ้างไรบ้าง พ่อสามียังต้องมายืนข้างๆ เรา คอยเอามือลูบหัวหลาน โอ๋หลาน แล้วคุยว่าเขาเลี้ยงลูกเขาอาบน้ำไม่ร้องเลย พี่สาวเราเป็นพยาบาลบอกว่าหลานอาบน้ำเย็นได้นะ ร่างกายเขาปรับอุณหภูมิได้แล้ว พ่อแม่สามียังบอกว่าให้อาบน้ำอุ่นเถอะ สงสารหลานจะหนาว จะให้ล้างก้นด้วยน้ำอุ่นด้วยเลยมั้ย ?
เราอยากเลี้ยงลูกนอกเมือง ให้โตกับธรรมชาติ มีพื้นที่ทำกิจกรรม แต่เขาจะให้เลี้ยงในเมือง ไม่อยากให้หลานต้องตื่นแต่เช้ามาก เพื่อไปโรงเรียน คือบ้านห่างจากโรงเรียนประมาณ 30 กม. ต่างจังหวัดขับรถไปก็ไม่เกิน 30 นาทีเองนะ
ดูๆ แล้วจะประคบประหงมกันเวอร์ ยิ่งเป็นหลานสาวคงจะเลี้ยงเป็นไข่ในหินเลยแน่ๆ ซึ่งเราไม่เห็นด้วยกับวิธีการเลี้ยงแบบนี้ เราเชื่อว่ามันไม่เวิร์ค
เราก็รู้ว่าเขารักหลาน จะพูดอะไรตรงๆ ก็เกรงใจ ต้องใช้วิทยายุทธวาทะศิลป์ชักแม่น้ำทั้งห้า แต่เราจะสงสารลูกมากกว่าถ้าโตไปเป็นคุณหนูทำอะไรไม่เป็นน่ะ TT
บ้านไหนเจอแบบนี้บ้างคะ แล้วแก้ปัญหายังไง รบกวนข่วยแบ่งปันคุณแม่มือใหม่ด้วยค่ะ