แฉมิจฉาชีพ หลอกขายทองคำแท่งหน่วยเป็นตัน ไม่มีทอง ไม่มีของ ไม่มีตัวตน

สวัสดีค่ะ วันนี้เราขอจะมาแฉกระบวนการหลอกขายทองคำค่ะ เหยื่อจะเป็นพวกร้านทอง หรือนักธุรกิจที่อยากเกร็งกำไรทองคำ
ก่อนอื่นเลยเราต้องออกตัวก่อนว่าที่เรารู้เรื่องนี้เพราะเราเคยแต่งงานกับคนที่ที่บ้านเค้าทำอาชีพนี้ เราเห็นการกระทำของพวกเค้าทั้งหมด
แต่ตอนนั้นเราไม่แน่ใจว่าพวกเค้าทำอะไรกันแน่ เพราะเค้าไม่ให้เราทราบอะไรเกี่ยวกับงานของเค้ากะแม่เค้าเลย
จนกระทั่งหย่ากัน.... มีคู่กรณีเค้าติดต่อมาหาเราเพื่อขอข้อมูลจากเรา ซึ่งเราก้ไม่ทราบอะไรเยอะหรอกค่ะ เพราะเราก้โดนเค้าหลอกมาอีกทีเหมือนกัน
อดีตสามีเราเป็นทหารอากาศอยู่กองบินติดชายทะเลแห่งหนึ่ง ยศ พออ. ตอนคบหากัน เค้าแนะนำเราว่า พ่อเค้าเปนนายพลอยู่ประเทศเวียดนาม เป็นคนเวียดนาม
เราก้แอบคิดนะว่า เก่งจังเลยเนอะพูดไทยชัดมากๆเลย แต่ก้สงสัย เพราะดูจากหุ่น จากมาดแล้ว ไม่น่าเป็นทหารได้ เพราะเค้าตัวเล็กๆเองค่ะ ไม่สูงมาก สูงประมาน 160 ตัวก้ผอมๆ แถมบุคลิกภาพก้แปลกๆ ขี้โวยวาย ติดเหล้า เหมือนลุงขี้เมาแถวบ้าน แต่เราก้ไม่คิดรังเกียจหรือจับผิดอะไรนะ ก้ต้องให้ความเคารพเพราะเปนพ่อแฟน ไม่อยากจะมานั่งจับผิดเล็กๆน้อยๆ ส่วนตัวแม่เค้า ก้ให้คนอื่นเรียกแทนตัวเองว่าคุนนาย เค้าก้บอกว่าแม่เค้าเปนนายหน้าขายทองคำแท่ง ซึ่งพ่อนายพลเป็นคนนำทองคำแท่งมาให้จากคลังเก็บทองที่เวียดนาม นี่คือธุรกิจของเค้าที่เรารู้ตอนแรก นี่คือสิ่งที่เค้าบอกกับเรา.....
แต่ในขณะที่เราอยู่ที่บ้านหลังนั้น เราก้พบพฤติกรรมแปลกๆ หลายๆ อย่าง เช่น แม่เค้าทำตัวแปลกๆ หลบๆซ่อนๆ ไม่เปิดเผยตัว ไม่ค่อยอยู่บ้านจะออกไปคุยงานที่กรุงเทพ หรือตจว. อยู่บ่อยๆ โดยมีน้าสาวและญาติอีกคนที่มีแฟนเป็นตำรวจอยู่โรงพักจังหวัดที่มีส้มโอหวาน ที่ร่วมกระบวนการกันด้วย และเราได้ยินเค้าคุยโทรสับแอบอ้างถึงในวัง ถึงพลเอกประยุทธ ถึงพลเอกประวิตร อยู่บ่อยๆ ซึ่งเราก้แปลกใจว่าโอ้โห เค้ารู้จักกะคนใหญ่คนโตขนาดนี้เลยหรอ....??? ถ้าเค้ารู้จักคนใหญ่คนโตขนาดนี้ทำไมไม่ให้พวกเค้าช่วยดันยศให้ลูกชายล่ะ...อันนี้เราสงสัยเล่นๆนะตอนนั้น แต่ก้ไม่ได้อะไร เพราะเราไม่ค่อยเชื่ออยู่แล้วอ่ะ แต่เราไม่อยากขัดอะไร เพราะเปนคนในครอบครัวกันแล้ว ก้เลยตามเลยเค้าอยากทำอะไรก้ทำ อยากเป้นอะไรก้เป้น อยากพูดอะไรก้พูด เราไม่ได้เปนคนคิดเล็กคิดน้อยอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างที่เราสงสัยคือ เค้าบอกว่าพ่อเค้าเป็นคนเวียดนาม เราไม่เคยได้ยินพ่อเค้าพูดภาษาเวียดนาม หรือหลุดสำเนียงเวียดนามออกมาเลย อาหารการกิน วัฒนธรรมก้ไม่ใช่ เพราะตอนเราอยู่เมืองนอกเรามีรูมเมทเปนคนเวียดนาม อยู่กันมา 1 ปี เค้าก้ทำกับข้าวให้เรากินทุกวัน เราก้พอรู้ว่าคนเวียดนามทานอาหารแนวไหน แต่กะพ่อเค้านี่คือแบบทานแต่ อาหารอีสานแท้ๆเลยคร้า เราก้เลยสงสัยละ แต่ก้เฉยๆไว้ จบเรื่องครอบครัว.
มาต่อเรื่องกระบวนการของพวกเค้ากันค่ะ...... เราได้ข้อมูลมาจากคู่กรณีของเค้าสองสามท่าน ถึงกระบวนการที่พวกเค้าหลอก คือ...
1.เค้าจำทำทีมาเสนอขายทองคำแท่งให้กับร้านทอง หรือ นักธุรกิจที่มีทุนทรัพย์ โดยให้ลูกชายที่เป็นทหารเข้าไปคุยเปิดเรื่องก่อนสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ แต่หลังๆมาเค้ารู้ตัวว่าลูกชายจะดดนเล่นงาน เลยไม่ให้ลูกออกหน้าแล้วค่ะ เค้าจะเข้าไปคุยเอง ในนามคุณนายท่านนายพลใหญ่แห่งเวียดนาม เค้าจะคุยว่าทางเค้ามีคลังเก็บทองอยู่ที่เวียดนาม มีทองคำเป็นตันๆ จะเอามาแบ่งขายให้ในราคาถูก กิโลกรัมละเท่าไหร่ๆ อันนี้เราไม่ทราบ เค้าจะพูดหว่านล้อม โน้มน้าว ให้คนเชื่อว่าเค้ามีทองอย่าางงั้นอย่างงี้ มีรูปมาโชว์ ซึ่งเราก้ไม่รุ้ว่าเค้าเอารูปมาจากไหน แต่เอาเป็นว่าตลอดเวลาที่เราอยู่ที่บ้านเค้าเราไม่เคยเห็นทองอะไรทั้งนั้น คิดดูนะคะว่าถ้าเปนคนที่มีจริงๆอย่างน้อยที่บ้านก้ต้องมีบ้างสิ่ นี่เราไม่เคยเห็นอะไรในรูปเลย เราเลยไม่เชื่อว่าพวกเค้ามีจริงๆ
2.พอเข้าไปเจรจาดูแล้วว่าเหยื่อมีกำลังซื้อเค้าก้จะให้เหยื่อจ่ายค่าขนส่ง ค่ามัดจำทองคำ มูลค่าเท่าไหร่ก้ว่ากันไป ขั้นต่ำๆก้ต้องมี 1ล้าน ถึง 5ล้านบาท เพราะเค้าอ้างว่า ในการขนส่งทองคำต้องใช้ทหารมากมายหลายกองร้อย ในการขนถ่ายทอง ต้องจ่ายค่าผ่านทางให้กับทหารตำรวจ ค่าเปิดทาง บางเจ้าถูกนัดให้วางเงินที่โรงพักส้มโอหวาน เนื่องจากแฟนของญาติเปนตำรวจอยู่ที่นั่นซึ่งรู้เหนเปนใจกันด้วยเช่นกัน ทำให้เหยื่อเชื่อใจและไว้วางใจ
3.พอได้เงินแล้ว ทางคุณนายก้จะนัดลูกค้ารับของตามโรงแรมในเขตปริมณฑล โดยมีลูกชายที่เป็นทหารอากาศและเจ้านายของลูกชาย รวมถึงเพื่อนร่วมงานบางคนมาร่วมด้วย สร้างสถานการณ์ต่างๆ ว่าทองโดนปล้นบ้างอะไรบ้าง โดนทหารตำรวจดักเอาทองไปบ้าง ในวังให้เข้าไปพบบ้าง ทำให้เอาทองออกมาไม่ได้ โดยแสดงสถานการณ์ให้เหยื่อเห็น แล้วขอยกเลิกการส่งของครั้งนี้ไป
4.หลังจากที่แสดงเหตุการณ์ว่าส่งของแล้วมีปัญหา พอเหยื่อโทรมาตามของ เค้าก้จะบ่ายเบี่ยงอ้างโน้นนี่ อ้างใครต่อใคร แต่เค้าไม่ปิดเครื่อง ไม่เปลี่ยนเบอร์ ไม่หนีหายนะคะ คือก้ยังทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้เหยื่อตายใจว่าไม่ได้หนี ไม่ได้หายนะ แต่อ้างดน่นอ้างนี่ตลอด ขอผลัดบ้าง ขอเลื่อนบ้าง บ่ายเบี่ยงอย่างงั้นอย่างงี้
5.เมื่อเหยื่อรู้ตัวว่าไม่ได้ของแน่ๆแล้ว เหยื่อขู่จะทำการฟ้องร้องต่อศาล ทางนั้นเค้าก้ท้าทายให้แจ้งความเลย ฟ้องเลย ยังไงเค้าก้ไม่คืน เค้ายอมติดคุก เค้าก้บอกเหยื่อไปอย่างนั้น ล่าสุดก้ขึ้นศาลที่รัชดา แต่เรายังไม่ทราบผลการตัดสินของศาล ซึ่งเราจะไปขอข้อมูลจากศาลเร็วๆนี้ ได้ผลยังไงจะมาแจ้งอีกทีนะคะ
สรุปคือ...... หลอกเอาเงินมัดจำค่ะ ไม่มีทองให้ค่ะ ไม่มีคุณนาย ไม่มีนายพล!!!!1
หลังจากหย่า เราไปหาข้อมูลมา ได้ข้อมูลว่า นายพลไม่ได้เปนพ่อของทหารอากาศคนนั้น เปนแค่พ่อเลี้ยงเท่านั้น ซึ่งเค้าไม่เคยบอกเราเลยโกหกหลอกลวงเรามาตลอด เค้าไม่เคยพูดถึงพ่อแท้ๆของเค้าเลย ปิดบังเรากันทั้งบ้าน เราไปสืบได้ความมาว่า นายพลอะไรเนี่ยไม่ได้เปนนายพลเวียดนามอะไรหรอก พื้นเพเปนคนอุบล เมื่อ 9 ปีที่แล้วโดนคดีฉ้อโกง หมดอายุความปีหน้านี้ คือยังมีหมายจับอยู่เลย ส่วนตำแหน่งคุณนายของคุนหญิงแม่นั้น.....ก้นโนทั้งเพค่ะ แต่งตั้งกันเอง แต่เที่ยวบอกคนในหมู่บ้านว่าตัวองเปนคุณนาย ให้คนในหมู่บ้านเรียกตัวเองว่าคุณนาย ตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ความจริงกันหมดแล้ว นางก้เลยกลับไปอยู่บ้านนั้นไม่ได้แล้ว เหลือก้แต่ลูกชายที่ยังต้องสู้หน้ากะชาวบ้านต่อไป
ตอนนี้คนเหล่านี้ก้กำลังถูกฟ้อง รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ตอนนี้ที่เรารู้ๆคือ มีคู่กรณีอย่างน้อย 3 ท่าน และยังมีเหยื่อรายปัจจุบันเปนเจ้าของร้านทอง ชื่อคุณสาโรจน์ กะ คุณแหว๋ว ที่ล่าสุดวางเงินไปเมื่อวันที่ 13/8/16 เราทราบเพราะทางนั้นถ่ายรูปเงินมาอวดเราค่ะ คงหวังว่าเราจะตาดต จะเสียดายพวกเค้า บอกเลยค่ะว่าเราไม่เสียดายเลยที่หลุดออกมาจากครอบครัวคุณ เรารู้สึกว่าเป็ญบุญของเรามากกว่าที่หลุดพ้นจากคนแบบพวกคุณมาได้โดยเร้ว คนที่ไม่รู้จักเกรงกลัวต่อบาป ไม่มีศีลธรรม ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี หลอกลวงผู้อื่น ทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเพื่อควมสบายของตัวเอง แบบนี้มันไม่น่าภูมิใจหรอกนะคะ ทางบ้านเราไม่ได้สอนมาแบบนี้ ตอนนี้ก้สงสารแต่ลูกของเราที่ต้องอยู่กะพวกเค้า เราจะเอาลูกเราคืนมาให้เร็วที่สุด

ขบวนการต้มตุ๋น แจ้งว่ามีทองคำนวนมากๆ(เป็นตัน) ต้องการจะขายในราคาถูกกว่าท้องตลาด ให้ช่วยหาลูกค้าให้ โดยจะได้ค่านายหน้าเป็นการตอบแทน

ข้อสังเกตุคือ ...

1.กันออกห่างจากตัว กลุ่มนี้มักจะอ้างว่าเป็นทองที่ไม่สามารถเปิดเผยแหล่งที่มาได้ เพราะเจ้าของทองเป็นคนระดับสูง(มากๆๆ) หรือ อาจกังวลเรื่องความปลอดภัย หรือ แกล้งทำเป็นรำคาญเวลาถามถึงแหล่งที่มาและอ้างว่าถ้าไม่ซื้อจริงก็ไม่ควรรู้เพราะเค้าถูกหลอกถามมาเยอะแล้ว

2.สถานที่เก็บทอง จะไม่ยอมบอกว่าทองถูกเก็บไว้ที่ไหน อย่างไร(ทำทีเป็นต้องระมัดระวังความปลอดภัย หรือกลัวถูกปล้น)

3.แสดงบัญชี/ล็อกเงิน จะต้องทำเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย แล้วให้ผู้ซื้อแสดงบัญชีว่ามีเงินจริง จากนั้นจะให้ทำเรื่องล็อกเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อการซื้อขายครั้งนี้

4.ราคา จะถูกกว่าทองตลาดมากเช่น ในขณะที่ราคาทองในตลาดโลกราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,700,000 บาท แต่เค้าจะขายเพียง 1,300,000 บาท เท่านั้น โดยอ้างว่าเป็นการซื้อล๊อตใหญ่จึงสามารถลดได้ หรือข้ออ้างอื่นๆ อีกมากมาย

5.จำนวน จะแจ้งว่ามีจำนวนทองมาก และจะต้องขายเป็นแพ็ค เช่น แพ็คละ 50ตัน (50ตัน เท่ากับ 50,000กิโลกรัม ---> หรือคิดเป็นนำหนักบาท 3,280,000บาททองคำ ---> หรือคิดเป็นมูลค่า 84,788,000,000 ล้านบาท ---> เป็นไปได้หรือ???) ทั้งที่ในประเทศไทยมีนำเข้าทองคำ ตลอดทั้งปี รวมแล้วเพียง 150 - 290 ตัน เท่านั้น แต่พวกนั้นอ้างว่ามีทองมากถึง 1,000 - 5,000ตัน ที่ต้องการจะขาย (ลองพิจารณาถึงความเป็นไปได้)

6.ลักษณะขบวนการ จะอ้างว่าเจ้าของเป็นผู้ใหญ่(มากๆๆ) ไม่สามารถมาติดต่อได้ด้วยตนเอง แต่จะหาผู้แทนที่เป็นนายหน้า(อาจถูกหลอกมาอีกต่อหนึ่ง) เป็นผู้มีชื่อเสียง หรือมีฐานะทางสังคมดี เช่น ทหารระดับนายพล ข้าราชการระดับสูง นักการเมือง หรือแม้กระทั่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของแพทย์ส่วนพระองค์ (ตำแหน่งอ้างบ้าง จริงบ้าง) เพื่อมาหานายหน้าต่ออีกทอดหนึ่ง ทำให้ดูว่ามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

7.สรุป ที่ผ่านมาไม่เคยมีการติดต่อครั้งไหนสำเร็จแม้แต่รายเดียว ซึ่งสมาคมฯ ขอเรียนว่ากลุ่มนี้คือ18มงกุฎ เพราะในความเป็นจริง ทองคำสามารถขายที่ร้านทองได้อยู่แล้ว และได้ราคาตามท้องตลาดอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องลดราคาถึงกิโลกรัมละ 3-4 แสนบาท อย่างที่กล่าวอ้าง เพราะหากลดราคาลง 3-4 แสนบาท ต่อ1กิโลกรัม ใน1แพ็ค(50ตัน) เค้าจะขาดทุนกำไรไปถึง 20,000 - 40,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ในความเป็นจริงแล้วใครจะยอม???
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่