Osaka -2016- "โอซาก้า เกียวโต อริมะออนเซน โกเบ มิโน๊ะ" งบอยู่ที่ประมาณ 25,000 - 50,000 บาท


             สวัสดีคร้าบวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรกในชีวิต ซึ่งโอซาก้าก็เป็นที่ที่ผมใผ่ฝันมาตั้งแต่เด็กว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต ประกอบกับช่วงนั้นมีตั๋วโปรของสายการบิน Malaysia airline ไปโอซาก้าพอดีก็เลยได้เวลาที่จะไปทำตามความฝันตัวเองสักที นี่เป็นครั้งแรกที่เขียนรีวิวนะครับถ้ามีอะไรผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

            และแล้วพวกผมทั้งหมด 7 ชีวิตก็มาถึงสนามบินเป็นที่เรียบร้อย เราจะเดินทางไปกับ Malaysia airline เที่ยวบิน MH775 เดินทางจากกรุงเทพ ไป กัวลาลัมเปอร์ และ MH 52 ต่อไปยังโอซาก้า ออกเดินทางจากกรุงเทพ ประมาณ 18.40 น ถึงโอซาก้าประมาณ 7 โมงเช้าแล้วเราก็เที่ยวกันต่อเลย

             จากกรุงเทพไปกัวลาลัมเปอร์ เราเดินจะทางกับเจ้าตัวเล็กนี่ครับ ( 737-800 Dreamliner  )


            หลายคนคิดว่าเอ้ยบินกับสายการบินนี้จะดีหรอ ตอนแรกก็คิดเหมือนกันแต่ก็เออมันน่าจะโอเคแหละเลยจองไปประกอบกับพี่ๆอีก 6 คนในทริปจองไปก่อนแล้วด้วยผมมาแยกจองไปคนเดียวทีหลัง ส่วนตัวสำหรับการบริการของสายการบินนี้ถือว่าโอเคเลยทีเดียวติดอยู่แค่ที่เดียวคือเรื่องข้อมูลของผู้โดยสารกับเว็บค่อนข้างจะไม่ค่อยเวิคเท่าไหร่นัก ของผมจองไฟลท์นี้ไว้ข้ามปีเลยครับ แต่พอก่อนจะบินประมานเดือนนึง ผมเข้าไปเช๊คบุ๊กกิ้ง ปรากฏว่าไฟลท์ขากลับหายไปไฟลท์นึง ปกติขากลับจะเป็น KIX-KUL-BKK แต่ดันเหลือแค่ KIX-KULแทน เลยต้องทำการเมล์ไปหาสายการบินกับโทรเข้าสำนักงาน ซึ่งสารการบินนี้ติดต่อค่อนข้างยากเลยทีเดียว


            สำหรับอาหารบนเครื่องขาไปจากกรุงเทพ มีให้เลือก 2 ตัวเลือกด้วยกันแต่พอดีพวกผมนั่งกันแถวหลังๆ เลยหมดตัวเลือกไปโดยปริยาย555 (สายการบินนี้ถ้าอยากระบุที่นั่งจะต้องเสียเงินเพิ่มนะครับ กับอีกวิธีคือทำเว็บเชคอินก่อน 48 ชั่วโมงแต่ว่าที่นั่งก็เหลือน้อยมากๆแล้ว)

และแล้วเราก็มาถึงกัวลาลัมเปอร์แล้วครับผมมมม (แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายมือนะครับจะเห็น ตึก petronas tower พอดีกำลังสวยเลย)
ตอนเครื่องลงเวลาประมาณ 22.10 ได้ เหลือเวลาเปลี่ยนเครื่องประมาณ 40นาทีครับ เวลาบอดดิ้งไฟล์ไปญี่ปุ่นคือ 22.50 ชั่วโมงครับแต่ว่าเครื่องที่ไปญี่ปุ่น ล่าช้าเลยเปลี่ยนเวลาจากออกเดินทาง 23.50 เป็น 00.50 แทน เลยมีเวลาเดินเล่นดิวตี้ฟรีที่มาเลกันสักพักนึงส่วนใหญ่ของที่ขายจะเป็นขนม พวกช๊อกโกแล๊ตนะครับมีหลายร้านเลย เวลาบอดดิ้งของที่นี้จะเร็วกกว่าเวลาขึ้นเครื่องชั่วโมงนึงนะครับต้องเผื่อเวลาดีๆ (สำหรับการเปลี่ยนเครื่องจะต้องนั่งรถไฟจากตึกที่เครื่องจากกรุงเทพจอด มาอีกตึกนึงที่เรียกว่า  satellite building นะคับ )

            เดินเล่นจนเหนื่อยก็มานั่งรอหน้าเกตกันครับเจ้าเครื่องบินที่จะพาเราไป ญี่ปุ่นก็มาพอดีเครื่องจะลำใหญ่กว่าไฟลท์ที่แล้วนะครับ ( a330-300 )
บนเครื่องจะมี หมอน และ ผ้าห่ม ให้ทุกที่นั่งนะครับ


            พอเครื่องขึ้นมาได้สักพักก็เริ่มแจกของว่างครับมี 2 ตัวเลือกด้วยกัน เป็นไก่กับเห็ด ความรู้สึกเหมือนขนมปังแน่นๆหน่อยข้างในก็เป็นไส้ที่เลือกมาเป็นไก่ครับ รสชาติก็จะออกแนวไก่ผัดพริกอะไรประมาณนั้นอะคับแต่รสไม่จัดเท่าไหร่ เครื่องดื่นบนเครื่องก็มี ไวน์ เบียร์ โค้ก 7up น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล (อันนี้อร่อยขอไปหลายแก้วเลย 55) น้ำเปล่า ประมานนี้ครับ พอทานเสร็จไฟในห้องก็ปรับลงให้ผู้โดยสารได้นอนพักผ่อนกัน ส่วนใครที่ยังไม่อยากนอนไม่ง่วง เค้ามีอินไฟลท์แอนเตอร์เทนเม้น เป็นหนัง เพลง หรือไม่ก็ ช๊อปปิ้ง เล่นเกมต่างๆได้ครับ


            ก่อนเครื่องลงประมาน 2 ชั่วโมงเค้าจะเริ่มปลุกมาทานอาหารเช้ากันครับ มี 2 ตัวเลือกเช่นเดิม เป็นไก่เทริยากิ กับออมเล็ต คับผมเลือกเป็นไก่เทริยากิ รสชาติดีเลยทีเดียวครับ



หลังจากทานอาหารเสร็จ เค้าก็เริ่มเดินแจกใบ ตม ของญี่ปุ่นครับทุกคนจะได้คนละ 1 ใบ ส่วนใบศุลกากรเค้าจะแจกเป็นกลุ่มครับ กลุ่มนึงใช้ 1 ใบ (ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับลืม 55) ครั้งนี้ที่ไปคือพาสปอตขาวเลยครับไปต่างประเทศเองครั้งแรก เตรียมเอกสารไปพอสมควร มีตั๋วเครื่องบินขากลับ ใบจองที่พัก ใบประกันการเดินทาง ประมาณนี้ครับ ตอนกรอกใบ ตม เขียนให้ครับถ้วนนะครับจะได้ไม่มีปัญหา

              และแล้วเราก็ถึงโอซาก้ากันแล้ววววว เวลาประมาณ 7.10 ผ่าน ตม แบบชิวๆคนน้อยมาก ตม ไม่ถามอะไรเลยครับ แต่พอตอนไปรับกระเป๋านี่สิ สภาพแต่ละใบแบบว่าสภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็ไม่มาก ดีที่ของผมเป็นผ้าเสียทรงนิดหน่อยแต่ของพี่ที่ไปด้วยกันแตกแล้วก็บุบหลายจุดเลย แต่ดีที่ทำประกันไว้เลยไม่ค่อยกังวนเท่าไหร่ 5555


วันนี้ไว้เท่านี้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะมาต่อที่เหลือนะคร้าบ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่