"ล้างบางทัวร์ศูนย์เหรียญ" นักท่องเที่ยวจีน "ลดฮวบ90%" โรงแรมดัมพ์ราคาฝ่าวิกฤต

updated: 14 พ.ย. 2559 เวลา 13:01:21 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


ประธานชมรมโรงแรมเมืองพัทยาผวากวาดล้างทัวร์ศูนย์เหรียญกระทบธุรกิจโรงแรมหนัก เผย 2 เดือนสุดท้าย นักท่องเที่ยวจีนหายวับ 90% ร้านอาหาร ที่เที่ยว โชว์พัทยา รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ เชื่อซึมยาวถึงตรุษจีน ชี้มาตรการเฉียบขาดไม่ส่งผลดี ด้านทิฟฟานี่โชว์รับเดือนตุลาวูบหนักสุด 30% ขณะที่แอตต้าเร่งแจงข้อมูลนักท่องเที่ยว หวั่นกระทบยาว

รร.พัทยาหงอยแขกเข้าพัก 15%

นายสุวัฒน์ แพภิรมย์รัตน์ ประธานชมรมโรงแรมเมืองพัทยา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากปฏิบัติการกวาดล้างทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้พัทยามีจำนวนห้องพักมากถึง 150,000 ห้อง ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะโรงแรมที่ไม่ได้อยู่ในทำเลยอดนิยม ในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน นักท่องเที่ยวจีนหายไป 30-40% เดือนตุลาคมหายไป 70-80% เดือนพฤศจิกายนคาดว่าจะถึง 90% ขณะที่ฝรั่งต่างชาติหายไปอีก 5-10%

"ปกติไฮซีซั่นมีอัตรานักท่องเที่ยวเข้าพัก 90% ตอนนี้เหลือเพียง 10-15% เท่านั้น แถมยังต้องลดราคาลง สำหรับโรงแรม 4 ดาว ปกติราคาขายห้องละ 1,300-1,500 บาท แต่ตอนนี้เหลือ 800-900 บาท ส่วน 3 ดาว จากราคา 900-1,000 บาท ตอนนี้เหลือ 700-800 บาท ขณะนี้เอกชนเริ่มต่อรองขอผ่อนผันดอกเบี้ยกับธนาคารแล้ว มองว่าภาพรวมพัทยาไม่น่าจะกระเตื้องในเร็ว ๆ นี้ จนถึงตรุษจีนก็ไม่น่าจะดี"

นายสุวัฒน์กล่าวว่า ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่บอกว่า หลังจากจับทัวร์ศูนย์เหรียญเป็นผลดี ดูจากตัวเลข 10 เดือน นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 15% หากเป็นคนนอกวงการโรงแรมก็ต้องบอกว่าดี แต่ลองเทียบเดือนต่อเดือน จะเห็นตัวเลขที่น่าตกใจ คือ 8 เดือนแรกนักท่องเที่ยวพัทยาดีจริง แต่หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวหายไป 90% ทำให้ทุกส่วนของท่องเที่ยวพัทยากระทบหมด โรงแรมต้องให้พนักงานหยุดงานคนละ 7-10 วัน หรือโชว์โคลอสเซียม จากเดิมโชว์วันละ 5 รอบ รอบหนึ่งคนเข้า 1,000 คน ตอนนี้ลดรอบ และเหลือแขกรอบละ 200 คนเท่านั้น

"ทัวร์ศูนย์เหรียญต้องได้รับการแก้ไข แต่การกำจัดทันทีไม่ใช่ทางออก รัฐบาลต้องหาทางแก้ไขให้ตรงจุด ในส่วนตลาดออนไลน์ยอมรับดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยระบบขนส่งมวลชนของไทยเรายังไม่ดี ยกตัวอย่าง หากต้องเหมาแท็กซี่มาพัทยา แล้วยังต้องเหมาไปสถานที่เที่ยวต่าง ๆ วันหนึ่งค่ารถเป็นหมื่นบาท ถามว่าตลาดนักท่องเที่ยว FIT จะโตได้อย่างไร มองว่าการแก้ไขควรจะทำคู่ขนานกันไป"

ทิฟฟานี่โชว์หันจับตลาด FIT

ด้าน น.ส.อลิสา พันธุศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จำกัด กล่าวว่า ยอมรับว่าเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวลดลงมากถึง 30% แต่ยังพอรับได้ เนื่องจากทิฟฟานี่ปรับการตลาดสู้ทัวร์ศูนย์เหรียญมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้า FIT มากกว่า 50% ส่วนมากเป็นลูกค้าจีน ยุโรป ออสเตรเลีย เกาหลี อาหรับ อินเดีย และไทย แต่ยอมรับว่าลูกค้ากรุ๊ปทัวร์หายไป อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเกิดจากการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญเท่านั้น เพราะยังมีปัจจัยอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ หรือบรรยากาศการแสดงความไว้อาลัย

"หากมองภาพรวมการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญก็ถือว่ากระทบแรง โดยเฉพาะโรงแรมที่เกิดขึ้นมากเพื่อรองรับกลุ่มศูนย์เหรียญในช่วง 2-3 ปีมานี้ แต่มองว่าถ้าการกระทบครั้งนี้ทำให้ภาคท่องเที่ยวเกิดการเรียนรู้ชัดเจน นักลงทุนเองรู้ว่าควรลงทุนอะไร แบบไหน เพื่อเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวก็ยินดีจะอดทน เพียงแต่อยากให้รัฐบาลสื่อสารกับผู้ประกอบการให้ชัดเจนถึงทิศทาง และสื่อสารกับทัวร์จีนให้ได้ว่าจะปกป้อง หรือสนับสนุนอย่างไรเมื่อทำถูกกฎหมาย เพราะตอนนี้หลายบริษัทก็ยังไม่เข้าใจว่าโดนจับข้อหาอั้งยี่คืออะไร อย่างไรก็ตามหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมโดยเร็ว"


อ่าวพัทยา - แม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเมืองพัทยา คือชายหาดที่ปัจจุบันยังได้รับความนิยมอย่างสูงโดยเฉพาะทัวร์จีน แต่วันนี้กลับเงียบเหงาลงไป พ่อค้าแม่ค้ากล่าวตรงกันว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปอย่างเห็นได้ชัด

แอตต้าเร่งแจงนักท่องเที่ยว

นายสมชาย ชมระกา อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า จากคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาไทยปี 2559 มีจำนวน 8-10 ล้านคน แต่หลังการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ คาดว่านักท่องเที่ยวน่าจะหายไปแล้วสัก 40% ในช่วงกลางเดือนธันวาคมอาจต้องเดินทางไปชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกันถึงการจัดระเบียบดังกล่าวว่าเป็นเรื่องดีต่อนักท่องเที่ยวเอง เพราะตอนนี้เริ่มมีสัญญาณแล้วว่ามีการขายทัวร์ไปที่ฟิลิปปินส์ และบาหลีมากขึ้น จากเที่ยวบินเพิ่มเท่าตัว จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจเร่งด่วน มิเช่นนั้นอาจส่งผลระยะยาวกับการท่องเที่ยวไทย

นอกจากจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญแล้ว ยังมองว่าภาครัฐต้องเข้าควบคุมร้านจำหน่ายสินค้าที่คนจีนหันมาเปิดเองแล้วนำสินค้ามาจากจีน ประเด็นสำคัญคือไม่มีคุณภาพมาขายให้นักท่องเที่ยว อาทิ หมอนยางพารา หรือผ้าไหม เป็นต้น ซึ่งปัญหานี้หากภาครัฐไม่เร่งเข้าควบคุมคาดว่าจะส่งผลกระทบเสียรายได้จากตลาดจีนไป 30-40% จากรายได้ทั้งหมด 4 แสนล้านบาท ผู้ประกอบการจะนำเงินกลับประเทศ คิดเป็นมูลค่าปีละกว่า 1 แสนล้านบาททีเดียว

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1479103332

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
คนที่ด่ารัฐบาลว่าโง่ที่กำจัดทัวร์ 0 เหรียญนี่

ไม่ทราบว่าเอาอะไรคิด  วิสัยทัศน์นี้แคบมาก

ไปดูผลเสียต่อประเทศไทยของทัวร์นรกนี่ก่อนค่อยพิมพ์

สนับสนุนรัฐบาล ปราบทัวร์ 0 เหรียญอย่างเต็มที่ เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน
ความคิดเห็นที่ 15
เราเห็นที่ภูเก็ต สมัยก่อน รัสเซียเยอะมาก (ตอนนี้น้อยลง)ต่อมา พี่ จีน และ เกาหลี เอาเท่าที่รู้

เครื่องบิน มาตรงของเขา
รถบาส ของเขา
โรงแรม ของเขา
ที่ขายของฝาก ของเขา
ร้านผลไม้ ของเขา
ร้านอาหาร ของเขา
เรือ ของเขา
มัคคุเทศก์ ของเขา

มาใช้ทะเลบ้านเรา
มาทิ้งขยะบ้านเรา
มากินของบ้านเรา
มาอี้ บ้านเรา
เสียค่าจ้าง ไทยน้อยนิด หนักไปทางพี่พม่า
มาเอาสถานที่เราใช้ประโยชน์ ทิ้งขนะเรี่ยราด
ความคิดเห็นที่ 3
ดีแล้ว   กำจัดให้หมด
ความคิดเห็นที่ 11
คนทำผิดกฏหมาย โดนปราบปรามก็ถูกแล้วนี่
คิดแต่จะขายของเล็กๆน้อยๆ ประเทศเสียหายแค่ไหนไม่สน
คนที่ได้ผลประโยชน์ก็กลุ่มเล็กๆ แค่ไม่มีทัวร์ผิดกฏหมายแค่นี้
ประเทศก็คงไม่แย่หรอกนะ
ตลกความคิดพวกที่หนุนทัวร์ผิดกฏหมายนี่จริงๆ
ทำไมไม่หนุนให้ขายยาเสพติดเลยล่ะ ประเทศจะได้ร่ำรวย55
ความคิดเห็นที่ 17

ได้ไม่เต็มเม็ด แถมสูญเสียบางส่วน ข้อดีคือให้ธรรมชาติได้พักตัวบาง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่