สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวร้านอาหารบุฟเฟต์มื้อกลางวันที่ราคาไม่แพงมาก เพิ่งมาเปิดใหม่แถวบ้านเราได้ไม่กี่สัปดาห์นี่เอง
แทบจะเดินไปทานได้สบายๆ ก็เลยต้องลองดูซะหน่อย ขอออกตัวก่อนว่าเรารีวิวไม่ค่อยเก่ง และไปทานมาเมื่อประมาณต้นเดือนพ.ย.
ซึ่งก็ผ่านมาพอสมควรแล้ว ตอนนี้รายการอาหารอาจจะเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อยนะคะ
ร้านนี้อยู่บนถนนเชียงใหม่-สันเก่าแพงสายเก่า ก่อนถึงบ่อสร้างนิดเดียว ติดกับตลาดอุ๊ยทาพอดี ถ้ามองทางซ้ายมือก่อนถึงตลาด
จะเห็นป้ายร้านใหญ่ๆเลยค่ะ พอเข้าไปก็เจอเจอหน้าร้านตกแต่งแบบลานนา กับลานโล่งๆหน้าร้าน ซึ่งเราสอบถามดูแล้ว
เห็นว่าในอนาคตจะมีการแสดงพื้นเมืองพร้อมกับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำด้วย แต่ตอนที่เราไปมีแค่ช่วงกลางวัน 11-14 น.เท่านั้นค่ะ
พอไปถึงก็ถอดรองเท้าไว้ที่แร็ควางรองเท้า แล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ก็จะเจอไลน์อาหารค่ะ
มีน้องๆพนักงานเสิร์ฟมาต้อนรับ พาไปนั่งที่โต๊ะ โต๊ะของร้านนี้นั่งสบาย ลมโกรกเย็นดี และไม่ร้อน
เหมาะจะนั่งคุยงานกันช่วงกลางวันแบบสบายๆ โต๊ะไม่ติดกันมากไป เราค่อนข้างชอบเลย
ทีนี้ก็ออกมาสำรวจอาหารกันบ้างค่ะ ที่เห็นก่อนเลยก็คือ ซุ้มเครื่องดื่ม ซึ่งก็มีเครื่องดื่มตามมาตรฐาน
น้ำเปล่า ชา กาแฟ และมีน้ำอัญชัญกับน้ำเชื่อมและน้ำแข็งวางเอาไว้ให้ด้วย
ต่อมาก็มาดูไลน์อาหารค่ะ ไฮไลท์ที่เราตั้งใจมาทานวันนี้คือข้าวซอย ซึ่งเป็นข้าวซอยไก่
ซึ่งเมื่อตักมาชิมแล้ว เราให้ผ่านค่ะ รสชาติกลางๆไม่มากไม่น้อยไป ไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติก็ทานได้
ที่สำคัญคือตักได้เรื่อยๆเพราะมันเป็นบุฟเฟ่ต์ เสร็จเราล่ะทีนี้
ส่วนอาหารจานเบาๆอย่างอื่นก็มีสลัดผัก ปอเปี๊ยะผัก กับขนมปังและเนยค่ะ น้ำสลัดอร่อยดี มี 3 แบบ
คือสลัดครีมธรรมดา ทาวเซิ่นด์ไอน์แลนด์ แล้วอีกอย่างน่าจะเป็นฮันนี่เลม่อน เพราะเราไม่ได้ตักมา
ส่วนผักก็สดใช้ได้ค่ะ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน
เฟรนช์ฟรายส์เหี่ยวไปนิดนึง แต่เราว่าจะไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะมันไม่ใช่อาหารเหนืออยู่แล้วนิ
เรานั่งได้สักพัก เริ่มมีทัวร์จีนมาลงค่ะ เราเลยรีบๆถ่ายไลน์อาหารก่อน กลัวจะเละตุ้มเป๊ะ
อาหารทุกอย่างรสชาติกลางๆ คือกลางจริงๆ เราชอบทานเค็มเลยต้องหนักน้ำปลาหน่อย
เมนูก็กลางๆแบบร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วไป จะมีพิเศษคือน้ำพริกอ่อง กับหลนเต้าเจี้ยว
แล้วก็มีข้าวผัดกระเทียมที่ถูกใจเรามาก แต่ไม่ได้ถ่ายมาเพราะมีคนตักอยู่ ถ่ายไม่ทันจริงๆค่ะ

น้ำพริกอ่อง กับหลนเต้าเจี้ยว
นักท่องเที่ยวจีนเริ่มเข้ามาเรื่อยๆ แต่ผิดคาดค่ะ ไม่ยักเจี๊ยวจ๊าวโวยวายอย่างที่คิดไว้
บรรดาอาเฮียอาเจ้เดินเข้ามาอย่างเป็นค่อนข้างเป็นระเบียบ มีเสียงดังนิดหน่อยตอนแรกๆ
พอนั่งโต๊ะก็ลุกมาตักข้าวกันปกติ ตักอาหารไม่กระจุยด้วย อันนี้ขอชมเลย
เราคงโชคดีที่มาเจอกรุ๊ปดีๆ ตอนเรานั่งทานอยู่ มีทัวร์เข้ามาสองกรุ๊ป น่ารักทั้งสองกรุ๊ปเลยค่ะ
ที่แปลกก็คือ เราคิดว่าจะมีขนมจีนแบบทางเหนือ แต่ที่นี่มีเมนูสปาเกตตีแทน
ซึ่งก็อร่อยดี แต่เราว่ามันไม่ใช่อาหารเหนือเท่าไหร่ ถ้าใครอยากทานแบบได้อารมณ์คล้ายๆขนมจีนน้ำเงี้ยว
ก็ลองเอาเส้นสปาเกตตีมาราดน้ำพริกอ่องแทนดูได้นะคะ เราว่าน่าจะคล้ายอยู่
แต่ในภาพนี้คือซอสที่เค้าวางไว้คู่กันค่ะ ก็ผ่านอีกเหมือนกัน รสชาติกลางๆ ไม่โดดเด่นมาก
พออิ่มก็มาดูขนมกันบ้างค่ะ มีขนมหวานประมาณรวมมิตรให้ตักเอง แล้วก็ผลไม้
มีมะพร้าวอ่อนแช่เย็นด้วย แต่เราไม่ได้สั่งค่ะ ทานแต่ผลไม้กับขนมหวาน
เรานั่งทานไปคุยไปเล่นไปเรื่อยๆ ก็ใกล้ๆบ่ายสอง ร้านใกล้ปิดเลยเรียกเก็บเงิน
ค่าเสียหายหัวละ 200 บาท ไปทานสองคนก็สี่ร้อยถ้วนค่ะ ไม่มีบวกอะไรเพิ่ม
สรุปคือ อาหารทุกอย่างรสชาติกลางๆ ทานได้ทุกคน สถานที่กว้างขวาง มีที่จอดรถ
บรรยากาศดี ลมโกรกสบายตลอดเวลา นั่งได้ตั้งแต่ 11-14 น. ไม่จำกัดเวลา
สำหรับเราทานแค่ข้าวซอยก็คุ้มแล้วค่ะ เพราะเราเป็นข้าวซอยมอนสเตอร์ กินได้ไม่รู้จักอิ่ม อิอิ...
เมื่อคิดถึงราคาหัวละ 200 บาทแล้ว เราว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยสำหรับคนที่อยากหาร้านนั่งช่วงเที่ยงๆ
เพื่อคุยงานกันหรือรับแขกจากต่างเมือง อาหารเหมาะสมกับราคา
น้องๆพนักงานก็น่ารัก ดูแลไม่จ่อติดมาก และไม่ห่างไกลมาก
คือมองไปเมื่อไหร่ ก็มีน้องๆเดินมาหาทันที ไม่ต้องโบกมือเรียกค่ะ
หากจะถามถึงข้อที่เราอยากติ ก็คืออาหารรสกลางไปหน่อยนี่ล่ะค่ะ
แล้วก็มีอาหารเหนือน้อยไปหน่อย ถ้ามีขนมจีน ข้าวกั๊นจิ๊น แกงแค
หรือแกงฮังเล อะไรประมาณนี้ก็จะสมกับที่เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารเหนือยิ่งขึ้น
ถ้ามีโอกาสเราก็อยากไปลองชิมใหม่ในอนาคต ว่ามีอะไรเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงบ้างมั้ย
อย่างที่บอกคือมันใกล้บ้านเรามาก และร้านเพิ่งเปิด เลยไปง่ายหน่อย
ตอนเดินลงมาเห็นป้ายติดหน้าห้องด้านล่างว่า Little Kitchen Thai Cookery School
เลยแว๊บเข้าไปดูหน่อย ปรากฏว่าเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารไทยสำหรับชาวต่างขาติ
ซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิด เลยแอบถ่ายรูปมาเก็บไว้นิดหน่อย เตาทำอาหารเค้าน่ารักดี
ว่าจะเอาไว้เป็นไอเดียทำไว้ในครัวที่บ้านบ้าง
วันนี้ก็ขอจบรีวิวไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วย
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึงตรงนี้ค่ะ
[CR] รีวีบุฟเฟ่ต์อาหารเหนือและข้าวซอยที่ "เรือนลดา" บ่อสร้าง เชียงใหม่
แทบจะเดินไปทานได้สบายๆ ก็เลยต้องลองดูซะหน่อย ขอออกตัวก่อนว่าเรารีวิวไม่ค่อยเก่ง และไปทานมาเมื่อประมาณต้นเดือนพ.ย.
ซึ่งก็ผ่านมาพอสมควรแล้ว ตอนนี้รายการอาหารอาจจะเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อยนะคะ
ร้านนี้อยู่บนถนนเชียงใหม่-สันเก่าแพงสายเก่า ก่อนถึงบ่อสร้างนิดเดียว ติดกับตลาดอุ๊ยทาพอดี ถ้ามองทางซ้ายมือก่อนถึงตลาด
จะเห็นป้ายร้านใหญ่ๆเลยค่ะ พอเข้าไปก็เจอเจอหน้าร้านตกแต่งแบบลานนา กับลานโล่งๆหน้าร้าน ซึ่งเราสอบถามดูแล้ว
เห็นว่าในอนาคตจะมีการแสดงพื้นเมืองพร้อมกับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำด้วย แต่ตอนที่เราไปมีแค่ช่วงกลางวัน 11-14 น.เท่านั้นค่ะ
พอไปถึงก็ถอดรองเท้าไว้ที่แร็ควางรองเท้า แล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ก็จะเจอไลน์อาหารค่ะ
มีน้องๆพนักงานเสิร์ฟมาต้อนรับ พาไปนั่งที่โต๊ะ โต๊ะของร้านนี้นั่งสบาย ลมโกรกเย็นดี และไม่ร้อน
เหมาะจะนั่งคุยงานกันช่วงกลางวันแบบสบายๆ โต๊ะไม่ติดกันมากไป เราค่อนข้างชอบเลย
ทีนี้ก็ออกมาสำรวจอาหารกันบ้างค่ะ ที่เห็นก่อนเลยก็คือ ซุ้มเครื่องดื่ม ซึ่งก็มีเครื่องดื่มตามมาตรฐาน
น้ำเปล่า ชา กาแฟ และมีน้ำอัญชัญกับน้ำเชื่อมและน้ำแข็งวางเอาไว้ให้ด้วย
ต่อมาก็มาดูไลน์อาหารค่ะ ไฮไลท์ที่เราตั้งใจมาทานวันนี้คือข้าวซอย ซึ่งเป็นข้าวซอยไก่
ซึ่งเมื่อตักมาชิมแล้ว เราให้ผ่านค่ะ รสชาติกลางๆไม่มากไม่น้อยไป ไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติก็ทานได้
ที่สำคัญคือตักได้เรื่อยๆเพราะมันเป็นบุฟเฟ่ต์ เสร็จเราล่ะทีนี้
ส่วนอาหารจานเบาๆอย่างอื่นก็มีสลัดผัก ปอเปี๊ยะผัก กับขนมปังและเนยค่ะ น้ำสลัดอร่อยดี มี 3 แบบ
คือสลัดครีมธรรมดา ทาวเซิ่นด์ไอน์แลนด์ แล้วอีกอย่างน่าจะเป็นฮันนี่เลม่อน เพราะเราไม่ได้ตักมา
ส่วนผักก็สดใช้ได้ค่ะ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน
เฟรนช์ฟรายส์เหี่ยวไปนิดนึง แต่เราว่าจะไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะมันไม่ใช่อาหารเหนืออยู่แล้วนิ
เรานั่งได้สักพัก เริ่มมีทัวร์จีนมาลงค่ะ เราเลยรีบๆถ่ายไลน์อาหารก่อน กลัวจะเละตุ้มเป๊ะ
อาหารทุกอย่างรสชาติกลางๆ คือกลางจริงๆ เราชอบทานเค็มเลยต้องหนักน้ำปลาหน่อย
เมนูก็กลางๆแบบร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วไป จะมีพิเศษคือน้ำพริกอ่อง กับหลนเต้าเจี้ยว
แล้วก็มีข้าวผัดกระเทียมที่ถูกใจเรามาก แต่ไม่ได้ถ่ายมาเพราะมีคนตักอยู่ ถ่ายไม่ทันจริงๆค่ะ
น้ำพริกอ่อง กับหลนเต้าเจี้ยว
นักท่องเที่ยวจีนเริ่มเข้ามาเรื่อยๆ แต่ผิดคาดค่ะ ไม่ยักเจี๊ยวจ๊าวโวยวายอย่างที่คิดไว้
บรรดาอาเฮียอาเจ้เดินเข้ามาอย่างเป็นค่อนข้างเป็นระเบียบ มีเสียงดังนิดหน่อยตอนแรกๆ
พอนั่งโต๊ะก็ลุกมาตักข้าวกันปกติ ตักอาหารไม่กระจุยด้วย อันนี้ขอชมเลย
เราคงโชคดีที่มาเจอกรุ๊ปดีๆ ตอนเรานั่งทานอยู่ มีทัวร์เข้ามาสองกรุ๊ป น่ารักทั้งสองกรุ๊ปเลยค่ะ
ที่แปลกก็คือ เราคิดว่าจะมีขนมจีนแบบทางเหนือ แต่ที่นี่มีเมนูสปาเกตตีแทน
ซึ่งก็อร่อยดี แต่เราว่ามันไม่ใช่อาหารเหนือเท่าไหร่ ถ้าใครอยากทานแบบได้อารมณ์คล้ายๆขนมจีนน้ำเงี้ยว
ก็ลองเอาเส้นสปาเกตตีมาราดน้ำพริกอ่องแทนดูได้นะคะ เราว่าน่าจะคล้ายอยู่
แต่ในภาพนี้คือซอสที่เค้าวางไว้คู่กันค่ะ ก็ผ่านอีกเหมือนกัน รสชาติกลางๆ ไม่โดดเด่นมาก
พออิ่มก็มาดูขนมกันบ้างค่ะ มีขนมหวานประมาณรวมมิตรให้ตักเอง แล้วก็ผลไม้
มีมะพร้าวอ่อนแช่เย็นด้วย แต่เราไม่ได้สั่งค่ะ ทานแต่ผลไม้กับขนมหวาน
เรานั่งทานไปคุยไปเล่นไปเรื่อยๆ ก็ใกล้ๆบ่ายสอง ร้านใกล้ปิดเลยเรียกเก็บเงิน
ค่าเสียหายหัวละ 200 บาท ไปทานสองคนก็สี่ร้อยถ้วนค่ะ ไม่มีบวกอะไรเพิ่ม
สรุปคือ อาหารทุกอย่างรสชาติกลางๆ ทานได้ทุกคน สถานที่กว้างขวาง มีที่จอดรถ
บรรยากาศดี ลมโกรกสบายตลอดเวลา นั่งได้ตั้งแต่ 11-14 น. ไม่จำกัดเวลา
สำหรับเราทานแค่ข้าวซอยก็คุ้มแล้วค่ะ เพราะเราเป็นข้าวซอยมอนสเตอร์ กินได้ไม่รู้จักอิ่ม อิอิ...
เมื่อคิดถึงราคาหัวละ 200 บาทแล้ว เราว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยสำหรับคนที่อยากหาร้านนั่งช่วงเที่ยงๆ
เพื่อคุยงานกันหรือรับแขกจากต่างเมือง อาหารเหมาะสมกับราคา
น้องๆพนักงานก็น่ารัก ดูแลไม่จ่อติดมาก และไม่ห่างไกลมาก
คือมองไปเมื่อไหร่ ก็มีน้องๆเดินมาหาทันที ไม่ต้องโบกมือเรียกค่ะ
หากจะถามถึงข้อที่เราอยากติ ก็คืออาหารรสกลางไปหน่อยนี่ล่ะค่ะ
แล้วก็มีอาหารเหนือน้อยไปหน่อย ถ้ามีขนมจีน ข้าวกั๊นจิ๊น แกงแค
หรือแกงฮังเล อะไรประมาณนี้ก็จะสมกับที่เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารเหนือยิ่งขึ้น
ถ้ามีโอกาสเราก็อยากไปลองชิมใหม่ในอนาคต ว่ามีอะไรเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงบ้างมั้ย
อย่างที่บอกคือมันใกล้บ้านเรามาก และร้านเพิ่งเปิด เลยไปง่ายหน่อย
ตอนเดินลงมาเห็นป้ายติดหน้าห้องด้านล่างว่า Little Kitchen Thai Cookery School
เลยแว๊บเข้าไปดูหน่อย ปรากฏว่าเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารไทยสำหรับชาวต่างขาติ
ซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิด เลยแอบถ่ายรูปมาเก็บไว้นิดหน่อย เตาทำอาหารเค้าน่ารักดี
ว่าจะเอาไว้เป็นไอเดียทำไว้ในครัวที่บ้านบ้าง
วันนี้ก็ขอจบรีวิวไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วย
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึงตรงนี้ค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น