สวัสดีครับนี่กระทู้แรกของผม อ่านยากหน่อยครับเพิ่งเคยเขียนครั้งแรกแต่ออกมาจากความรู้สึก
ผมมีความรักครับ เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ผมได้รู้จักกับคนคนหนึ่งได้บังเอิญเป็นเพื่อนกัน ตอนแรกผมก็คิดกับเขาแค่เพื่อนเขามีแฟนแล้วด้วยนะ สวยและน่ารักด้วย เขาก็ดูดีนะ ไม่ถึงกับหล่อมาก 10 ให้ 8 ส่วนผมนี้ 10 ให้ 2 เลยนะครับ ดูเถื่อนๆหน่อย ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ผมเป็นผู้ชายนะครับจีบสาวปกติ เตาะคนนั้นคนนี้ไปทั่ว อกหักกับผู้หญิงหลายครั้ง แต่เมื่อมาเจอเพื่อนคนนี้ผมรู้สึกว่าก็โอนะเป็นเพื่อนที่ดี ตลอด 2 ปีมานี้เราทำกิจกรรมร่วมกันตลอดครับทั้งเรียน เล่น ดูหนัง กินข้าว ขี่รถกลางคืนไม่กี่ครั้ง พูดคุยสำหรับผมแทบจะทุกเรื่องเลย แต่สำหรับเขาผมไม่รู้เพราะเขามีแฟนและอยู่กับแฟนครับ แต่หลังมาผมเริ่มที่จะชอบเขาแล้วแต่ไม่เคยมีอารมณ์หวงหรือไม่รู้สึกไม่ดีเมื่อเขาอยู่กับแฟนน่ะ รู้สึกปกติเลย เรื่องราวเมื่อ 2 ปีก่อนมันราบเรียบมากครับเหมือนเป็นเรื่องราวของเพื่อน 2 คนที่ธรรมดาๆ ไม่มีอะไร
แต่เรื่องราวที่อยากจะเล่ามันเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานนี้ครับ ประมาณ 2-3 เดือนที่แล้วที่ผมรู้สึกว่าผมเหงามาก เหนื่อยกับการทำงาน การเรียน หลายๆอย่าง จนผมรู้สึกอุ่นใจหรือสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้กับเขา ผมเลยพยายามอยู่ใกล้มากขึ้นมาโดยตลอดเขาอาจไม่รู้ตัวหรอก และมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อประมาณต้นเดือน ต.ค. ที่ผมเริ่มชวนเขากินในสิ่งที่เขาชอบ ชวนดูหนังในเรื่องที่เขาอยากดู ช่วงนั้นอาจเป็นช่วงที่เราอยู่ใกล้กันมากครับ แต่ผมก็พยายามรู้ตัวเสมอน่ะครับว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ผมก็พยายามปฏิเสธตัวเองตลอดว่าผมยังชอบผู้หญิง จนพักหลังผมรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผมตกใจ เขาทักแชทมาด้วยภาษาต่างดาว : /--คตถๆ/ข-ถช- โวยวายประมาณนี้ ผมก็งงเขาบอกว่าอยากตะโกนอยากระบาย และเขาก็เริ่มเล่าว่าเขาอยากเลิกกับแฟนมันมีปัญหาส่วนตัวที่เข้ากันไม่ได้หลายเหตุผล แต่ผมก็ถามย้ำเสมอว่าจริงๆแล้วมีคนอื่นรึป่าว คุยกับใครคนอื่นหรือป่าว อะไรประมาณนี้เพราะไม่ได้อยากให้เลิกกัน คงเป็นเพราะถ้าเลิกกันผมก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะเปลี่ยนไปรึป่าว การที่เขาไปคบกับคนอื่นจะทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับเขาลดลงมั้ย แต่สุดท้ายเขาก้อเลิกกันครับ
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขามักจะอยู่ข้างนอกคนเดียว ผมก็เป็นห่วงเลยพยายามให้เขามาอยู่ใกล้กับผม ด้วยความเป็นเพื่อนหลายครั้งเขาก็มาอยู่ทำงานด้วยกับผม หลายครั้งที่เราแชทคุยกันต่อเมื่อต่างคนต่างกลับหอพัก มีหลายอย่างที่มันทำให้ใจผมหวั่นไหวเช่นมีครั้งหนึ่งมันบอกว่าอ้าวหลับทิ้งงไปเฉยเหมือนยังอยากคุยต่อ หรือส่งข้อความมา We can make thing right หรือผมถามมันก้อพูดเป็นนัยว่าว่าเราคุยกันผ่านเกมส์ไปแล้วไม่เข้าใจหรอ จนผ่านช่วงนี้ไปเขาเริ่มเป็นปกติครับไม่ได้คิดอะไรกับแฟนละมั้ง ไม่รู้น่ะหรืvอาจแค่ไม่พูด
แต่ผมสิครับที่เปลี่ยนไป ผมเริ่มทำงานไม่ได้ละครับ ถ้าไม่มีเขาอยู่ใกล้ ทำอะไรไม่ค่อยถูกเมื่อได้คุยกัน หลายครั้งมีหลายเรื่องที่เขาทำให้ผมคิดไปเอง เช่นวันหนึ่งเราทำงานด้วยกันจนดึกครับละผมก็ไม่อยากกลับหอเลยบอกว่าจะไปนอนด้วย เขาก็ไม่ยอม ไม่ใช่วันนี้ ไม่นอนวันนี้ ด้วยหลายเหตุผล สุดท้ายผมก็ยอมครับ ไม่ไปก็ได้ และพอกลับผมก็แชทไปขอโทษที่ทำตัวงอแง และบอกว่า
ผม : ดูมีวุฒิภาวะดีนะสมกับที่แก่กว่ากู...ปี
เขา : เออกำลังหาหาแฟนใหม่อายุน้อยกว่า... ปี ผมไปไม่ถูกเลยครับไม่รู้ว่าเขาจงใจหรือไม่ได้คิดอะไร แต่ผมสิคิดไปแล้ว เลยแกล้งลองใจไปว่าไอ้นี้มันคบเด็กอยู่รึป่าว เลยถามไปว่า
ผม : ปี... หรือม... ละ
เขา : ไม่ใช่ถึงกูจะอยู่ปี .... แต่อายุกุไม่ใช่ .... นะ ยิ่งแคบเข้ามาอีกเพราะผมกับมันห่างกัน ... ปีนะพอดี ผมก็บอก
ผม : กูไม่เคยงอแงแบบนี้กับใครเลยนะ
เขา : ไม่เคยทำแล้วกูต้องยอมรับที่ทำเหรอที่อยู่ด้วยเพราะกูรู้สึกโอเครเลยอยู่ด้วย อะไรประมาณนี้แหล่ะ ดอกที่สองปักกลางอกคิดไปอีกไกล อยู่กับกูแล้วโอเคร หมายถึงอยากอยู่หรือรู้สึกเหมือนกูที่อยู่กับแล้วสบายใจ แต่ก็ไม่มีไรเกิดขึ้นผมก็เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ที่จริงน่าจะถามเลยเนาะจะได้เจ็บเร็วขึ้น
พอตกอีกวันวันนี้แหละครับจุดแตกหักของเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อผมรีบสารภาพ ตอนเย็นของวันนั้นผมก็ชวนมันมาอยู่ด้วยปกติแต่วันนี้รู้สึกมันเบื่อๆ เซ็งๆ ไม่อยากอยู่ ผมเลยบอกไปว่าอย่าเพิ่งเบื่อกูนะ ช่วงนี้กูหน่วงๆ ถ้ามีอยู่ก็พอสบายใจหน่อย มันก้อบอกอย่าดราม่าๆ จนถึงเย็นมันก็บอกว่าจะกลับล่ะ ผมก็ยื้อไว้สักพักก็ให้กลับกลับถึงไม่ให้มันก็กลับ
คราวนี้พอมันกลับเท่านั้นแหละความรู้สึกจากไหนไม่รู้ไหลมาเต็มไปหมด ผมเลยแชทไปบอกความจริงครับ จะบอกว่าความจริงมั้ยก็ไม่นะเพราะผมบิดเบือนไปหลายจุดเช่นผมบอกว่าที่ผมเป็นอย่างนี้เพราะอกหักเลยเหงาและพอมีมันอยู่ข้างๆ ก็สบายใจ และบอกไปว่าไม่ได้คิดอะไรแล้วเลยบอก มันก้อคงตกใจแหละ ที่จริงมันอาจรู้มานานแล้วก็ได้ครับคงระแคะระคาย เพราะผมก็ทำอะไรแบบไม่ค่อยปิดบังเต็มที่กลบเหลื่อนไม่หมด มีครั้งหนึ่งที่ผมกับมันถามไถ่เรื่องราวของตนเองบอกข้อดีข้อเสียของกันและกัน อะไรประมาณนี้สงสัยว่ามันอาจจะล้วงความลับว่าผมคิดไรกับมันรึป่าวมั้ง แต่พอหลังจากที่ผมบอกความรู้สึกไปมันก้อพยายามบอกให้ผมพอ ให้ผมดึงสติ
ชัดเจนแล้วครับผมคิดไปเองทั้งหมด
จนประโยคสุดท้ายที่เราคุยกันคือถ้าอยากเป็นเพื่อน พอเรื่องนี้ก่อน ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาทีครับที่ผมรู้สึกหึงหวงเพราะหลังจากที่ผมบอกความรู้สึกไป เราก้อพักคุยกันสักพักครับ ละเสียงคอลเฟสก้อโทรมาเป็นสายของมันผมก็รับและในสายมันเป็นเสียงเงียบครับ และแทรกด้วยเสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ผมเลยแชทไปถามว่าทำไม อยู่ด้วยกันหรอ จะบอกว่าคบกันยู่ก้อบอก ไม่ต้องเปิดให้ได้ยินเสียง สักพักมันก้อตอบว่าแค่เอาของไปให้เฉยๆ ละกลับ ผมยังถามอีกเลยนี้ใช่มั้ยคนที่จะจีบที่ว่าห่างกัน... ปี มันก้อบอกว่าไม่ใช่ 55 ไม่ได้อะไรเลย ผมก็มีเรื่องสงสัยหลายจุดก็ซักไปสุดท้ายมันก้อบอกไม่เชื่อก็เรื่องของ ควาย ด่าผมด้วย ละมันก้อบอกปัดจะไปนอนแล้ว จะไปดุซีรีย์ ผมคงทำให้น่ารำคาญมากเลยเนาะ จนถึงเช้าผมก็ถามว่าจะไปกินข้าวมั้ย มันก้อบอกยังๆ ผมก็ตอบอ่า และก้อทิ้งข้อความไว้จนเดียวนี้ ตอนกลางวันเราไปเจอกันด้วยนะ ด้วยประโยคที่บอกว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม เมื่อคืน มันคงไม่เหมือนเดิมแล้ว ที่จริงเรามีนัดดูหนังกัน เคยคุยกันว่าจะไปกางเต้นท์ดูดาว พักผ่อนบนดอย ด้วยแต่คงไม่มีแล้วหละ
1-2 ปีนี้ผมต้องเสียเพื่อคนนี้ไปจริงๆใช่มั้ย
ผมจะทำอย่างไรต่อไปดี
ผมจะกลับมารักผู้หญิงได้เหมือนเดิมมั้ย
ผมจะวางตัวยังไงเมื่อต้องเจอกันทุกวัน
ลองช่วยผมวิเคราะห์สถานการณ์หน่อยเถอะ
ผมจะกลับไปชอบผู้หญิงอีกได้มั้ย ถ้าเคยรักผู้ชายด้วยกัน
ผมมีความรักครับ เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ผมได้รู้จักกับคนคนหนึ่งได้บังเอิญเป็นเพื่อนกัน ตอนแรกผมก็คิดกับเขาแค่เพื่อนเขามีแฟนแล้วด้วยนะ สวยและน่ารักด้วย เขาก็ดูดีนะ ไม่ถึงกับหล่อมาก 10 ให้ 8 ส่วนผมนี้ 10 ให้ 2 เลยนะครับ ดูเถื่อนๆหน่อย ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ผมเป็นผู้ชายนะครับจีบสาวปกติ เตาะคนนั้นคนนี้ไปทั่ว อกหักกับผู้หญิงหลายครั้ง แต่เมื่อมาเจอเพื่อนคนนี้ผมรู้สึกว่าก็โอนะเป็นเพื่อนที่ดี ตลอด 2 ปีมานี้เราทำกิจกรรมร่วมกันตลอดครับทั้งเรียน เล่น ดูหนัง กินข้าว ขี่รถกลางคืนไม่กี่ครั้ง พูดคุยสำหรับผมแทบจะทุกเรื่องเลย แต่สำหรับเขาผมไม่รู้เพราะเขามีแฟนและอยู่กับแฟนครับ แต่หลังมาผมเริ่มที่จะชอบเขาแล้วแต่ไม่เคยมีอารมณ์หวงหรือไม่รู้สึกไม่ดีเมื่อเขาอยู่กับแฟนน่ะ รู้สึกปกติเลย เรื่องราวเมื่อ 2 ปีก่อนมันราบเรียบมากครับเหมือนเป็นเรื่องราวของเพื่อน 2 คนที่ธรรมดาๆ ไม่มีอะไร
แต่เรื่องราวที่อยากจะเล่ามันเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานนี้ครับ ประมาณ 2-3 เดือนที่แล้วที่ผมรู้สึกว่าผมเหงามาก เหนื่อยกับการทำงาน การเรียน หลายๆอย่าง จนผมรู้สึกอุ่นใจหรือสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้กับเขา ผมเลยพยายามอยู่ใกล้มากขึ้นมาโดยตลอดเขาอาจไม่รู้ตัวหรอก และมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อประมาณต้นเดือน ต.ค. ที่ผมเริ่มชวนเขากินในสิ่งที่เขาชอบ ชวนดูหนังในเรื่องที่เขาอยากดู ช่วงนั้นอาจเป็นช่วงที่เราอยู่ใกล้กันมากครับ แต่ผมก็พยายามรู้ตัวเสมอน่ะครับว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ผมก็พยายามปฏิเสธตัวเองตลอดว่าผมยังชอบผู้หญิง จนพักหลังผมรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผมตกใจ เขาทักแชทมาด้วยภาษาต่างดาว : /--คตถๆ/ข-ถช- โวยวายประมาณนี้ ผมก็งงเขาบอกว่าอยากตะโกนอยากระบาย และเขาก็เริ่มเล่าว่าเขาอยากเลิกกับแฟนมันมีปัญหาส่วนตัวที่เข้ากันไม่ได้หลายเหตุผล แต่ผมก็ถามย้ำเสมอว่าจริงๆแล้วมีคนอื่นรึป่าว คุยกับใครคนอื่นหรือป่าว อะไรประมาณนี้เพราะไม่ได้อยากให้เลิกกัน คงเป็นเพราะถ้าเลิกกันผมก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะเปลี่ยนไปรึป่าว การที่เขาไปคบกับคนอื่นจะทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับเขาลดลงมั้ย แต่สุดท้ายเขาก้อเลิกกันครับ
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขามักจะอยู่ข้างนอกคนเดียว ผมก็เป็นห่วงเลยพยายามให้เขามาอยู่ใกล้กับผม ด้วยความเป็นเพื่อนหลายครั้งเขาก็มาอยู่ทำงานด้วยกับผม หลายครั้งที่เราแชทคุยกันต่อเมื่อต่างคนต่างกลับหอพัก มีหลายอย่างที่มันทำให้ใจผมหวั่นไหวเช่นมีครั้งหนึ่งมันบอกว่าอ้าวหลับทิ้งงไปเฉยเหมือนยังอยากคุยต่อ หรือส่งข้อความมา We can make thing right หรือผมถามมันก้อพูดเป็นนัยว่าว่าเราคุยกันผ่านเกมส์ไปแล้วไม่เข้าใจหรอ จนผ่านช่วงนี้ไปเขาเริ่มเป็นปกติครับไม่ได้คิดอะไรกับแฟนละมั้ง ไม่รู้น่ะหรืvอาจแค่ไม่พูด
แต่ผมสิครับที่เปลี่ยนไป ผมเริ่มทำงานไม่ได้ละครับ ถ้าไม่มีเขาอยู่ใกล้ ทำอะไรไม่ค่อยถูกเมื่อได้คุยกัน หลายครั้งมีหลายเรื่องที่เขาทำให้ผมคิดไปเอง เช่นวันหนึ่งเราทำงานด้วยกันจนดึกครับละผมก็ไม่อยากกลับหอเลยบอกว่าจะไปนอนด้วย เขาก็ไม่ยอม ไม่ใช่วันนี้ ไม่นอนวันนี้ ด้วยหลายเหตุผล สุดท้ายผมก็ยอมครับ ไม่ไปก็ได้ และพอกลับผมก็แชทไปขอโทษที่ทำตัวงอแง และบอกว่า
ผม : ดูมีวุฒิภาวะดีนะสมกับที่แก่กว่ากู...ปี
เขา : เออกำลังหาหาแฟนใหม่อายุน้อยกว่า... ปี ผมไปไม่ถูกเลยครับไม่รู้ว่าเขาจงใจหรือไม่ได้คิดอะไร แต่ผมสิคิดไปแล้ว เลยแกล้งลองใจไปว่าไอ้นี้มันคบเด็กอยู่รึป่าว เลยถามไปว่า
ผม : ปี... หรือม... ละ
เขา : ไม่ใช่ถึงกูจะอยู่ปี .... แต่อายุกุไม่ใช่ .... นะ ยิ่งแคบเข้ามาอีกเพราะผมกับมันห่างกัน ... ปีนะพอดี ผมก็บอก
ผม : กูไม่เคยงอแงแบบนี้กับใครเลยนะ
เขา : ไม่เคยทำแล้วกูต้องยอมรับที่ทำเหรอที่อยู่ด้วยเพราะกูรู้สึกโอเครเลยอยู่ด้วย อะไรประมาณนี้แหล่ะ ดอกที่สองปักกลางอกคิดไปอีกไกล อยู่กับกูแล้วโอเคร หมายถึงอยากอยู่หรือรู้สึกเหมือนกูที่อยู่กับแล้วสบายใจ แต่ก็ไม่มีไรเกิดขึ้นผมก็เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ที่จริงน่าจะถามเลยเนาะจะได้เจ็บเร็วขึ้น
พอตกอีกวันวันนี้แหละครับจุดแตกหักของเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อผมรีบสารภาพ ตอนเย็นของวันนั้นผมก็ชวนมันมาอยู่ด้วยปกติแต่วันนี้รู้สึกมันเบื่อๆ เซ็งๆ ไม่อยากอยู่ ผมเลยบอกไปว่าอย่าเพิ่งเบื่อกูนะ ช่วงนี้กูหน่วงๆ ถ้ามีอยู่ก็พอสบายใจหน่อย มันก้อบอกอย่าดราม่าๆ จนถึงเย็นมันก็บอกว่าจะกลับล่ะ ผมก็ยื้อไว้สักพักก็ให้กลับกลับถึงไม่ให้มันก็กลับ
คราวนี้พอมันกลับเท่านั้นแหละความรู้สึกจากไหนไม่รู้ไหลมาเต็มไปหมด ผมเลยแชทไปบอกความจริงครับ จะบอกว่าความจริงมั้ยก็ไม่นะเพราะผมบิดเบือนไปหลายจุดเช่นผมบอกว่าที่ผมเป็นอย่างนี้เพราะอกหักเลยเหงาและพอมีมันอยู่ข้างๆ ก็สบายใจ และบอกไปว่าไม่ได้คิดอะไรแล้วเลยบอก มันก้อคงตกใจแหละ ที่จริงมันอาจรู้มานานแล้วก็ได้ครับคงระแคะระคาย เพราะผมก็ทำอะไรแบบไม่ค่อยปิดบังเต็มที่กลบเหลื่อนไม่หมด มีครั้งหนึ่งที่ผมกับมันถามไถ่เรื่องราวของตนเองบอกข้อดีข้อเสียของกันและกัน อะไรประมาณนี้สงสัยว่ามันอาจจะล้วงความลับว่าผมคิดไรกับมันรึป่าวมั้ง แต่พอหลังจากที่ผมบอกความรู้สึกไปมันก้อพยายามบอกให้ผมพอ ให้ผมดึงสติ
ชัดเจนแล้วครับผมคิดไปเองทั้งหมด
จนประโยคสุดท้ายที่เราคุยกันคือถ้าอยากเป็นเพื่อน พอเรื่องนี้ก่อน ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาทีครับที่ผมรู้สึกหึงหวงเพราะหลังจากที่ผมบอกความรู้สึกไป เราก้อพักคุยกันสักพักครับ ละเสียงคอลเฟสก้อโทรมาเป็นสายของมันผมก็รับและในสายมันเป็นเสียงเงียบครับ และแทรกด้วยเสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ผมเลยแชทไปถามว่าทำไม อยู่ด้วยกันหรอ จะบอกว่าคบกันยู่ก้อบอก ไม่ต้องเปิดให้ได้ยินเสียง สักพักมันก้อตอบว่าแค่เอาของไปให้เฉยๆ ละกลับ ผมยังถามอีกเลยนี้ใช่มั้ยคนที่จะจีบที่ว่าห่างกัน... ปี มันก้อบอกว่าไม่ใช่ 55 ไม่ได้อะไรเลย ผมก็มีเรื่องสงสัยหลายจุดก็ซักไปสุดท้ายมันก้อบอกไม่เชื่อก็เรื่องของ ควาย ด่าผมด้วย ละมันก้อบอกปัดจะไปนอนแล้ว จะไปดุซีรีย์ ผมคงทำให้น่ารำคาญมากเลยเนาะ จนถึงเช้าผมก็ถามว่าจะไปกินข้าวมั้ย มันก้อบอกยังๆ ผมก็ตอบอ่า และก้อทิ้งข้อความไว้จนเดียวนี้ ตอนกลางวันเราไปเจอกันด้วยนะ ด้วยประโยคที่บอกว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม เมื่อคืน มันคงไม่เหมือนเดิมแล้ว ที่จริงเรามีนัดดูหนังกัน เคยคุยกันว่าจะไปกางเต้นท์ดูดาว พักผ่อนบนดอย ด้วยแต่คงไม่มีแล้วหละ
1-2 ปีนี้ผมต้องเสียเพื่อคนนี้ไปจริงๆใช่มั้ย
ผมจะทำอย่างไรต่อไปดี
ผมจะกลับมารักผู้หญิงได้เหมือนเดิมมั้ย
ผมจะวางตัวยังไงเมื่อต้องเจอกันทุกวัน
ลองช่วยผมวิเคราะห์สถานการณ์หน่อยเถอะ