27/10/2016 สวัสดีเพื่อนทุกคน รีวิวครั้งแรกของเรา กับการแบกเป้ไปเที่ยวญี่ปุ่น เขียนแผนการเที่ยวกับน้องสาว เลือกสถานที่เที่ยวเอง เปลี่ยนแผนหลายรอบมาก 5555
ขอบคุณเพื่อนๆใน pantip และ กูรูทุกท่าน ที่ให้ข้อมูล รีวิวข้อมูล การเที่ยวญี่ปุ่น จนทำให้เป็นเรื่องไม่ยากจนเกินไปหากเรา ตัดสินใจ จะเดินทาง เที่ยวด้วยตัวเอง


เราวางแผน จะเที่ยวด้วย JR Tokyo Wide Pass 3 day เที่ยวโตเกียว และ เมืองรอบในเขต Kansai คิดกันอยู่หลายเดือน ก่อนจะสรุป เมืองที่จะไปเที่ยว ให้ครอบคลุมกับ JR ที่ซื้อด้วย คือ 1 Fujisan Kawaguchiko , 2 Nikko , 3 Kamakura+Yokohama เที่ยวไปกลับ วันเดียว ไม่ย้ายโรงแรม (ที่ไม่ย้ายโรงแรม เพราะเรายังไม่เก่งเรื่องการเดินทาง อีกอย่างคิดว่าเสียเวลาเที่ยวด้วยอ่ะ)
ส่วนที่เลือก เที่ยวด้วย ตั๋ว JR นี้ เพราะ
1. เราอยากนั่งรถไฟ Fujikyu ที่แต่งรถน่ารัก
2. เราอยากลองนั่ง Shinkansan
3. เราเดินทางในโตเกียว และเมืองรอบโตเกียว ด้วย รถไฟ JR ฟรี ทั้ง 3 วัน
4. เราคิดว่า นั่งรถไฟมันสะดวก งีบหลับเอาแรง เอาของไปกินระหว่างเดินทางได้ รถไฟบางขบวนมีห้องน้ำคอยบริการ
JR Tokyo Wide Pass มีอายุ 3 วัน 10,000 เยน (ต้องใช้ 3วันต่อเนื่องกันนะ) สามารถซื้อได้ที่ JR Office Tikcet สถานีใหญ่ๆ จะมีตั๋วนี้ขาย เช่น Ueno Shinjuku Tokyo เป็นต้น เมื่อลงเครื่องที่สนามบิน Narita Terminal2 หลังจากได้กระเป๋า แล้ว เดินออกจากประตูทางออก ลงไปใต้ดินตาม สัญญลักษณ์รถไฟ ตรงไปที่ ออฟฟิศ JR ขอซื้อตั๋วนี้ ได้เลยค่ะ
จากนั้น เราก็ขอให้ เจ้าหน้าที่ JR ช่วย reserved ที่นั่งให้ เพื่อเตรียมเดินทาง พรุ่งนี้เช้า ถ้าเขียนแผน กำหนดเวลาเดินทางชัดเจน
เช่น เราพัก ที่ Akihabara เตรียมออกเดินทาง กี่โมง ก็บอกเขาให้ ออกตั๋ว ตามนี้
และ ก็จะได้ตั๋ว เป็นกระดาษ แม่เหล็กแบบนี้
รถไฟญี่ปุ่น ตรงเวลามาก สายไม่เกิน 1-2 นาที เพราะฉะนั้น ต้องเผื่อเวลา ตอนเปลี่ยนขบวนด้วยนะ
เรา นั่ง JR Chuo/Shobu Line จาก Akihabara มาถึง Shinjuku ต้องการเปลี่ยนเป็น รถไฟสาย AZUSA มันอยู่ที่ Track No.10 (Hyperdia ช่วยได้เยอะเลย) รีบเดินๆๆเลย
ในรถไฟ้ Ltd. Exp AZUSA นั่งสบาย
นั่งรถไฟ กินไป หลับไป ประมาณเกือบ ชั่วโมง ไปลงสถานี Otsuki
ที่สถานี Otsuki ตารางรถไฟ้ JR บอกไว้ด้วย การเปลี่ยนรถไฟ ไม่วุ่นวาย เหมือนในเมืองค่ะ เป็นสถานีเล็กๆ
แล้วกะเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ้ท้องดิน Fujikyu Railway รถไฟ้น่ารัก (สมความตั้งใจ) ไปลงสถานีสุดท้ายเลยค่ะ Kawaguchiko
สถานีรถไฟ ของ Fujukyu มีไม่เยอะค่ะ เมื่อรถไฟวิ่งไปถึง สถานี Mr.Fuji (ถ้าจำไม่ผิด) จะมีการสับราง แล้วเหมือนวิ่งย้อนกลับ แต่มันวิ่งย้อนไปคนละเส้นที่มาค่ะ ไม่ต้องงง เราจะลงป้ายสุดท้าย ที่ Kawa เลยค่ะ
การเที่ยวใน ฟูจิ เราต้องซื้อตั๋ว เหมา 2 วัน เป็นพาสที่นั่งบัสรอบทะเลสาบ Kawaguchiko โดยขึ้นได้ไม่จำกัด มีอายุ 2 วัน Kawaguchiko saiko sightseeing bus ราคาจะอยู่ที่ 1200 เยน
หรือ ไปจ่ายเงินที่คนขับได้ค่ะ
เสร็จแล้ว กะเริ่มเดินทางกันเลยค่ะ เราเลือกไปป้ายไกลสุดก่อน แล้วค่อยๆไล่มาเรื่อยๆค่ะ
...ป้าย 21-22 ป้ายนี้ จะเป็นฟูจิซังแบบ Full View กระแทกตากระแทกใจ ฝุดๆ คือเราจะ เห็น ฟูจิซังแบบตั้งตะหง่านเต็มตาเต็มอารมณ์ที่สุดได้ในป้ายนี้ Natural Living Center เราสามารถเดินชมสวนดูดอกไม้ ตามฤดูกาล จุดนี้ จะมีแปลงดอกไม้เปลี่ยนตลอด
และ รอบๆบริเวณนี้ จะมีร้านของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านไอศรีมซอฟท์ครีม ลองชิมดูค่ะ ตอนนี้บ้านเราก็เริ่มนำมาขาย บ้างแล้ว
อย่าลืม ทานไอศครีม ที่นี่กันนา
...ป้าย 18 เป็นป้ายที่เดินเล่น เรียบทะเลสาป เราจะเห็น ฟูจิ อีกมุมหนึ่ง สวยงามไม่แพ้ จุดอื่น
ป้าย 17 Music Forest เดินถึงกันได้ทั้ง สองป้าย สบายๆ ค่ะ (แต่เราไม่ได้เข้าหมู่บ้านกล่องดนตรีนะ)
ป้าย 16 บอกเลยมันฟิน แต่หากว่าเป็นฤดูหนาว ลานสนามหญ้าตรงนี้จะเป็นลานหิมะ และมีการปั้นหิมะเป็นรูปต่างๆ ให้ท่านได้ทัศนาอีกด้วย เพลินแบบนี้ ฟินแบบนี้
ป้าย 10 ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ชมวิวฟูจิ มุมสูง แต่ช่วงบ่ายเมฆบัง เรามองไม่เห็นฟูจิซัง ชมวิวไปพลางๆ ละกันค่ะ
กระเช้า สามาระเข้าได้ ประมาณ 20 คน
ข้างบนมีร้านของที่ระลึก ร้านของกิน
หากท่านซื้อพาสที่รวมกับกระเช้านี้อยู่ด้วยก็จัดไปอย่าให้เสียของ สัญลักษณ์กระต่ายน้อย และ ระฆังรูปหัวใจ ก็ต้องกดมาซักสองสามภาพ
พอลงจากระเช้า เราก็เดินเล่น เลียบทะเลสาบ
ป้าย Lake Kawa วิวรอบๆสวย อากาศดี ใครซื้อพาส แบบปั่นจักรยานน้ำมาด้วย อย่าลืมใช้สิทธิ์ ด้วยนะ
...ป้าย 7 สวนสมุนไพร ท่านใดที่มีจิตใจรักในพืชพันธุ์สมุนไพรต่างๆ ก็อย่าได้พลาดแวะชม และละลายทรัพย์กันได้นะคะ .. (สมุนไพรไทยเราแจ่มกว่าเยอะค่ะ) อันนี้เราไม่ได้เข้าแวะชมค่ะ เพราะมีแผนจะไปต่อ ที่ เจดีย์แดง 5 ชั้น Chureito Pagoda ก่อนกลับ เลยนั่งรถบัสกลับมาที่ สถานีรถไฟ Kawaguchiko ก่อนจะมืด
http://pantip.com/topic/35815848 ไปชมเจดีย์แดง วัดพลัง การไต่เขากันหน่อย
[CR] Day1 : ใบไม้เปลี่ยนสี ไปชมวิว Fujisan ที่ Kawaguchiko
ขอบคุณเพื่อนๆใน pantip และ กูรูทุกท่าน ที่ให้ข้อมูล รีวิวข้อมูล การเที่ยวญี่ปุ่น จนทำให้เป็นเรื่องไม่ยากจนเกินไปหากเรา ตัดสินใจ จะเดินทาง เที่ยวด้วยตัวเอง
เราวางแผน จะเที่ยวด้วย JR Tokyo Wide Pass 3 day เที่ยวโตเกียว และ เมืองรอบในเขต Kansai คิดกันอยู่หลายเดือน ก่อนจะสรุป เมืองที่จะไปเที่ยว ให้ครอบคลุมกับ JR ที่ซื้อด้วย คือ 1 Fujisan Kawaguchiko , 2 Nikko , 3 Kamakura+Yokohama เที่ยวไปกลับ วันเดียว ไม่ย้ายโรงแรม (ที่ไม่ย้ายโรงแรม เพราะเรายังไม่เก่งเรื่องการเดินทาง อีกอย่างคิดว่าเสียเวลาเที่ยวด้วยอ่ะ)
ส่วนที่เลือก เที่ยวด้วย ตั๋ว JR นี้ เพราะ
1. เราอยากนั่งรถไฟ Fujikyu ที่แต่งรถน่ารัก
2. เราอยากลองนั่ง Shinkansan
3. เราเดินทางในโตเกียว และเมืองรอบโตเกียว ด้วย รถไฟ JR ฟรี ทั้ง 3 วัน
4. เราคิดว่า นั่งรถไฟมันสะดวก งีบหลับเอาแรง เอาของไปกินระหว่างเดินทางได้ รถไฟบางขบวนมีห้องน้ำคอยบริการ
JR Tokyo Wide Pass มีอายุ 3 วัน 10,000 เยน (ต้องใช้ 3วันต่อเนื่องกันนะ) สามารถซื้อได้ที่ JR Office Tikcet สถานีใหญ่ๆ จะมีตั๋วนี้ขาย เช่น Ueno Shinjuku Tokyo เป็นต้น เมื่อลงเครื่องที่สนามบิน Narita Terminal2 หลังจากได้กระเป๋า แล้ว เดินออกจากประตูทางออก ลงไปใต้ดินตาม สัญญลักษณ์รถไฟ ตรงไปที่ ออฟฟิศ JR ขอซื้อตั๋วนี้ ได้เลยค่ะ
จากนั้น เราก็ขอให้ เจ้าหน้าที่ JR ช่วย reserved ที่นั่งให้ เพื่อเตรียมเดินทาง พรุ่งนี้เช้า ถ้าเขียนแผน กำหนดเวลาเดินทางชัดเจน
เช่น เราพัก ที่ Akihabara เตรียมออกเดินทาง กี่โมง ก็บอกเขาให้ ออกตั๋ว ตามนี้
และ ก็จะได้ตั๋ว เป็นกระดาษ แม่เหล็กแบบนี้
รถไฟญี่ปุ่น ตรงเวลามาก สายไม่เกิน 1-2 นาที เพราะฉะนั้น ต้องเผื่อเวลา ตอนเปลี่ยนขบวนด้วยนะ
เรา นั่ง JR Chuo/Shobu Line จาก Akihabara มาถึง Shinjuku ต้องการเปลี่ยนเป็น รถไฟสาย AZUSA มันอยู่ที่ Track No.10 (Hyperdia ช่วยได้เยอะเลย) รีบเดินๆๆเลย
ในรถไฟ้ Ltd. Exp AZUSA นั่งสบาย
นั่งรถไฟ กินไป หลับไป ประมาณเกือบ ชั่วโมง ไปลงสถานี Otsuki
ที่สถานี Otsuki ตารางรถไฟ้ JR บอกไว้ด้วย การเปลี่ยนรถไฟ ไม่วุ่นวาย เหมือนในเมืองค่ะ เป็นสถานีเล็กๆ
แล้วกะเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ้ท้องดิน Fujikyu Railway รถไฟ้น่ารัก (สมความตั้งใจ) ไปลงสถานีสุดท้ายเลยค่ะ Kawaguchiko
สถานีรถไฟ ของ Fujukyu มีไม่เยอะค่ะ เมื่อรถไฟวิ่งไปถึง สถานี Mr.Fuji (ถ้าจำไม่ผิด) จะมีการสับราง แล้วเหมือนวิ่งย้อนกลับ แต่มันวิ่งย้อนไปคนละเส้นที่มาค่ะ ไม่ต้องงง เราจะลงป้ายสุดท้าย ที่ Kawa เลยค่ะ
การเที่ยวใน ฟูจิ เราต้องซื้อตั๋ว เหมา 2 วัน เป็นพาสที่นั่งบัสรอบทะเลสาบ Kawaguchiko โดยขึ้นได้ไม่จำกัด มีอายุ 2 วัน Kawaguchiko saiko sightseeing bus ราคาจะอยู่ที่ 1200 เยน
หรือ ไปจ่ายเงินที่คนขับได้ค่ะ
เสร็จแล้ว กะเริ่มเดินทางกันเลยค่ะ เราเลือกไปป้ายไกลสุดก่อน แล้วค่อยๆไล่มาเรื่อยๆค่ะ
...ป้าย 21-22 ป้ายนี้ จะเป็นฟูจิซังแบบ Full View กระแทกตากระแทกใจ ฝุดๆ คือเราจะ เห็น ฟูจิซังแบบตั้งตะหง่านเต็มตาเต็มอารมณ์ที่สุดได้ในป้ายนี้ Natural Living Center เราสามารถเดินชมสวนดูดอกไม้ ตามฤดูกาล จุดนี้ จะมีแปลงดอกไม้เปลี่ยนตลอด
และ รอบๆบริเวณนี้ จะมีร้านของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านไอศรีมซอฟท์ครีม ลองชิมดูค่ะ ตอนนี้บ้านเราก็เริ่มนำมาขาย บ้างแล้ว
อย่าลืม ทานไอศครีม ที่นี่กันนา
...ป้าย 18 เป็นป้ายที่เดินเล่น เรียบทะเลสาป เราจะเห็น ฟูจิ อีกมุมหนึ่ง สวยงามไม่แพ้ จุดอื่น
ป้าย 17 Music Forest เดินถึงกันได้ทั้ง สองป้าย สบายๆ ค่ะ (แต่เราไม่ได้เข้าหมู่บ้านกล่องดนตรีนะ)
ป้าย 16 บอกเลยมันฟิน แต่หากว่าเป็นฤดูหนาว ลานสนามหญ้าตรงนี้จะเป็นลานหิมะ และมีการปั้นหิมะเป็นรูปต่างๆ ให้ท่านได้ทัศนาอีกด้วย เพลินแบบนี้ ฟินแบบนี้
ป้าย 10 ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ชมวิวฟูจิ มุมสูง แต่ช่วงบ่ายเมฆบัง เรามองไม่เห็นฟูจิซัง ชมวิวไปพลางๆ ละกันค่ะ
กระเช้า สามาระเข้าได้ ประมาณ 20 คน
ข้างบนมีร้านของที่ระลึก ร้านของกิน
หากท่านซื้อพาสที่รวมกับกระเช้านี้อยู่ด้วยก็จัดไปอย่าให้เสียของ สัญลักษณ์กระต่ายน้อย และ ระฆังรูปหัวใจ ก็ต้องกดมาซักสองสามภาพ
พอลงจากระเช้า เราก็เดินเล่น เลียบทะเลสาบ
ป้าย Lake Kawa วิวรอบๆสวย อากาศดี ใครซื้อพาส แบบปั่นจักรยานน้ำมาด้วย อย่าลืมใช้สิทธิ์ ด้วยนะ
...ป้าย 7 สวนสมุนไพร ท่านใดที่มีจิตใจรักในพืชพันธุ์สมุนไพรต่างๆ ก็อย่าได้พลาดแวะชม และละลายทรัพย์กันได้นะคะ .. (สมุนไพรไทยเราแจ่มกว่าเยอะค่ะ) อันนี้เราไม่ได้เข้าแวะชมค่ะ เพราะมีแผนจะไปต่อ ที่ เจดีย์แดง 5 ชั้น Chureito Pagoda ก่อนกลับ เลยนั่งรถบัสกลับมาที่ สถานีรถไฟ Kawaguchiko ก่อนจะมืด
http://pantip.com/topic/35815848 ไปชมเจดีย์แดง วัดพลัง การไต่เขากันหน่อย