โดนพ่อของลูก ขอค่าเลี้ยงดูบุตร

พอดีอยากรบกวนผู้รู้ในเรื่องคดีครอบครัวค่ะ เพราะถูกพ่อของลูกบอกว่าเค้าจะขอค่าเลี้ยงดูลูกจากเรา  เรื่องมีอยู่ว่าเรากับอดีตสามีจดทะเบียนสมรสด้วยกันเมื่อปี 2547 และเมื่อปี 2550 เราได้จดทะเบียนหย่ากันด้วยเรื่องของภาษี (ตอนที่หย่ายังรักกันดีอยู่ค่ะ) โดยทางเจ้าหน้าที่ถามว่าลูกอยู่ในการปกครองของใคร ซึ่งทั้งสองคนแจ้งว่าอยู่ในความปกครองของมารดา  แล้วเมื่อปลายปี 2551 เราได้ตัดสินใจแยกทางกัน โดยเราได้เอาลูกไปอยู่ด้วยหาที่อยู่ใหม่และ ประกอบกับลูกอายุได้สามขวบ จึงได้พาไปสมัครเรียนอนุบาลแถวบ้านคุณตา โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินเก็บของแม่แต่เพียงผู้เดียว และเริ่มหางานทำ ซึ่งเมื่อได้งานทำเรากว่าจะเลิกงานก็กลับบ้านเย็น คุณตาก็ไม่สามารถช่วยรับส่งลูกได้บ่อยพอ   ทางพ่อของลูกจึงเสนอว่าเขาจะช่วยดูลูกให้ เพราะเขาทำงานเป็นหัวหน้าเข้างานสายเลิกงานไวได้ ซึ่งต่างจากเรา และเพื่อสิ่งที่ดีของลูก จึงให้ลูกย้ายไปอยู่กับพ่อเมื่อตอน อ.1 เทอม 2 และมีตกลงกันว่าเราจะช่วยจ่ายค่าเทอมลูกคนละครึ่ง และลูกอยู่กับพ่อจันทร์-ศุกร์  อยู่กับแม่ คืนวันศุกร์-เช้าวันจันทร์ โดยทางเราจ่ายเงินค่าเทอมลูกครึ่งหนึ่งตลอดมาจนถึงลูกอยู่ ป. 1 (ระหว่างนั้น เวลาลูกอยู่กับเรา เราพาลูกไปเรียนพิเศษกิจกรรมต่างๆ เช่น เทควันโด้ ดนตรี เราเป็นคนจ่ายทั้งหมด ซึ่งเคยแหย่ถามพ่อเค้า  เค้าตอบว่าลูกอยู่กับแม่เสาร์-อาทิตย์ แล้วแม่อยากพาไปเรียนเอง แม่ต้องออก ---นึกในใจอ้าว!! พูดแบบนี้ลูกอยู่กับเขาจ.-ศ = พ่อต้องจ่ายป่าววะเนี่ย???--- แต่ช่างมันเหอะ  และมามีปัญหาเมื่อลูกจะขึ้น ป.2 พ่อเขาได้งานใหม่ที่ธนาคารใหญ่ เป็นผจก.สาขา แล้วที่ทำงานเค้ามีสวัสดิการเงินช่วยเหลือค่าเล่าเรียนบุตร ปรากฎว่าเขาไปทำเรื่องและทาง HR แจ้งว่าต้องมีหลักฐานว่าพ่อเป็นผู้เลี้ยงดู  เค้าเลยติดต่อมาเรื่องเอกสาร เราก็ไม่รู้เรื่องเลยติดต่อไปสอบถามข้อมูลที่เขต และเดินเรื่องไปคัดข้อตกลงท้ายหย่า ปรากฎว่าอำนาจสิทธิการปกครองเป็นของมารดาแต่เพียงผู้เดียว พอเขารู้เรื่องทำให้เขาไม่สามารถเบิกสวัสดิการในส่วนนี้ได้ ก็เลยโมโหและบอกว่า เราต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรให้เขาด้วยซ้ำ เพราะเขาเลี้ยงลูกมากกว่าเรา เราก็เหวอเลย...โห พอเสียผลประโยชน์ก็มาโวยวายกับเรา ทั้งที่หน้าที่การงานในตอนนั้นเขาดีกว่าเราตั้งเยอะ เงินเดือนเราตอนนั้น 2 หมื่นบาท มีค่าเช่าบ้านและหนี้สินที่ต้องจ่ายจากการแยกทางออกมา (ตอนนั้นมีเงินติดตัว 50,000 จ่ายค่าโรงเรียนลูกเกือบ 3 หมื่น ค่าเช่าบ้านอีก กว่าจะหางานได้ก็ปาไปสามเดือนแล้ว)  เอาวะ  เลยลองถามคนโน้นคนนี้ดูว่าเราต้องจ่ายไหม  ก็มีหลายท่านบอกว่าจริงๆต้องทำเรื่องตกลงกันเปลี่ยนแปลงท้ายหย่าให้ชัดเจนว่าใครจ่ายเท่าไหร่อย่างไรบ้าง โดยให้ทางศาลเป้นผู้แนะนำ  (แต่ทุกคนที่เราปรึกษา ก็ได้แต่ถอนใจแล้วถามว่า เขาเป็นผู้ชายป่าวเนี่ย) พอทางพ่อเรารู้เรื่องแกก็โมโห ว่าผช.บ้าไรวะ มาเรียกร้องแบบนี้กับผญ. ของงแกขึ้นเลยไม่ให้เราจ่ายค่าเทอมลูกอีกต่อไป  ซึ่งเราก็แจ้งเขานะคะ ว่าให้ไปตกลงที่ศาลเลยจะได้ชัดเจน  เขาก็ไม่ยอมไป บ่ายเบี่ยงโน่นี่นั่น  ว่าไปศาลสงสารลูกนั้นนี่   จนผ่านมาตอนนี้ลูกอยู่ ป.6 แล้ว และตลอดมาเวลาวันหยุดเทศกาลต่างๆ เราจะไปรับลูกที่บ้านเค้าและไปส่งลูกเองทุกครั้งมีเพียงไม่กี่ครั้งที่เค้ามาส่งลูกที่บ้านเรา ลูกอยากเรียนทำกิจกรรมอะไร ไม่ว่าดนตรี อูคูเลเล่ อิเล็คโทน Inline sketch เราสนับสนุนลูกหมด โดยเราออกค่าใช้จ่ายเอง ลูกไม่สบายหากอยู่กับเรา เราก็พาไป ระหว่างทางที่ผ่านมาเขงคงโกรธเรื่องคชจ.ที่เราไม่จ่าย  เลยบอกลูกว่าแม่ไม่ช่วยจ่ายค่าเทอมเลย ให้พ่อหาจ่ายคนเดียว  ให้ลูกมาทวงเงินเราบ้าง  ส่งใบเสร็จมาให้เราบ้าง ซึ่งเราโมโหที่เรื่องแบบนี้ทำไมให้ลูกมาทวง กลายเป็นว่าลูกมองว่าแม่ไม่ดี  จนมีวันหนึ่งที่เรานัดไปทานข้าวกันในวันเกิดลูกตอนลูก 9 ขวบ ขากลับรถติดมากรอแท๊กซี่นาน เราเลยอาสาขับรถไปส่งให้ที่บ้านเขาเพราะสงสารลูก (รถที่ขับเป็นรถสวัสดิการของบริษัทฯเราเอง) ระหว่างรถิด  เขาก็บอกลูกว่า หนูถามแม่ซิ เรื่องที่เราคุยกัน  ลูกก็แบบอ้ำอึ้ง เราเลยถามว่ามีอะไร พูดออกมา  "ลูกก็เลยพูดมาว่า แม่ทำไมแม่ไม่จ่ายค่าเทอมหนูบ้างเลย ให้พ่อจ่ายคนเดียวเอง" อื้อหือ อารมณ์นั้นแบบอยากจะแปลงร่างเป็นนางมารเลย  แต่เราต้องสงบไว้ เลยตอบกลับแบบนิ่งไปว่า " ที่แม่ไม่ได้จ่ายเงินค่าเทอมหนูเลย เพราะว่า แม่เป็นแค่พนักงานธรรมดาคนหนึ่ง เงินเดือนไม่เยอะ ไม่ได้ทำงานอยู่บริษัทฯ ใหญ่โตและ แม่เห็นว่าคุณพ่อที่เป็นคนเก่ง เป็นหัวหน้าครอบครัว และที่สำคัญทำงานตำแหน่งใหญ่กว่าแม่ตั้งเยอะ มีลูกน้องเป็นร้อย เรื่องค่าเทอมของลูกสาวคนเดียวคงไม่ได้ทำให้พ่อเดือดร้อนเท่าไหร่ใช่ไหมคะ คุณพ่อคนเก่ง???" และก็จบบทสนทนาเรื่องนั้น (ตอนนั้นเขาตำแหน่ง Asistant Vice Presidenc แล้วนะ เงินเดือนเป็นแสน) ไปแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราจะโดนหาเรื่องตลอด เวลาที่รับลูกมาอยู่กับเรา บางครั้งเรามีงานด่วน ฝากลูกไว้กับคุณตา 2 ชม. พอเขารู้เรื่องมาด่าเราใหญ่ว่าหากเลี้ยงลูกไม่ได้ไม่ต้องเอาไป  ไรว้าาาาาลูกอยู่กับคุณตาไม่ได้อยู่กับใคร แต่เขาบางทีเอาลูกทิ้งไว้กับแฟนใหม่ เราไม่เคยระรานหรือว่าด่าเค้าเลยนะ เพราะเราถือว่าให้เกียรติกัน ในเวลาที่ต่างคนต่างดูแลลูกเราถือว่าวางใจและไม่ยุ่มย่าม  แต่เขากับมาเยอะกับเรา ลูกสอบได้คะแนนไม่ดี ก็แม่มันไม่รู้จักสอนลูก เอาแต่พาลูกไปเที่ยว (คือแนวคิดเรา เราอยากให้ลูกสนุนกับชีวิต อยากลองอะไรได้ลอง ค้นหาสิ่งที่ชอบเพราะเรารู้ว่าอยู่กับเขาลูกจะรู้สึกกดกัน เป็นระเบียบ ซึ่งเราก็ได้ปลอบใจและอธิบายว่าพ่อเขาเป็นแบบไหน หวังดีอย่างไรคือไม่ได้บอกให้เกลียด) ลูกฟันผุเพราะแม่มันไม่ใส่ใจ ลูกเอาหนังสือการตูนอ่านในห้องน้ำก็ได้นิสัยแย่ๆมาจากบ้านแม่ คือลูกอยู่กับเค้า 5 วันอยู่กับเรา 2 วันนิสัยที่ไม่ดีเอามาจากบ้านแม่หมด เฮ้อ...เซ็ง แม่เอาแต่สอนสิ่งที่ไม่ดี แต่พ่อซื้อไอแพคเป็นของขวัญให้ลูก แม่ซื้ออิเลคโทนและ รองเท้ากับคอร์สเรียนสเก๊ตให้ กับโดนว่าว่าให้ลูกเรียนสิ่งที่ไม่สามารถเอาไปต่อยอดในอนาคตได้ เป็นนักีฬาแบบนี้จะหาเงินได้เหรอ แต่ไอแพคช่วยให้เขาหาข้อมูล ดูเรื่องหุ้น เพราะพ่อจะสอนว่ามีเงินจะดีกว่า ให้คบเพื่อนที่มีประโยชน์กับเรา  เฮ้อ..งต้องคอยอธิบายลูกทุกครั้งว่าอย่าเห็นแก่เงิน จงเห็นแก่คนอื่นและมีน้ใจด้วย แต่ทุกครั้งเราจะเป็นคนเจอความผิดปกติดของลูกเป็นคนแรก ไม่ว่าลูกสายตาสั้น ไปงานผู้ปกครอง รู้จักเพื่อนของลูก แต่เค้าจะไม่สนใจ ซึ่งลูกมักจะโทรหาแม่ร้องไห้ว่าไม่อยากอยู่กับพ่อ  ล่าสุดส่งใบเสร็จค่าเทอมมาให้ทางไลน์ เราถามว่าเพื่อทราบหรือเพื่อดำเนินการ  คงกวน....เขาค่ะ เลยโทรมาด่าเลย  เราก็บอกว่าเอางี้ไปลูกโตแล้วเราไปทำบันทึกตกลงเลยไหมที่ศาล เอาให้เคลียร์ซึ่งหากเราไม่จ่ายตามตกลงกัน คุณก็สามารถฟ้องเราได้ ก็ไม่เอาโน่นนี่

เลยอยากถามผู้รู้ค่ะ  ว่า
1.เค้าสามารถฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูย้อนหลังได้ไหม หากเราไม่ทำบันทึกข้อตกลงกัน
2. หากเราเอาเงินฝากให้ลูกทุกเดือนในบัญชีชื่อลูก หากอนาคตเค้าฟ้องร้องว่าเราไม่ดูแล เราามารถนำสิ่งนี้ยืนยันความรับผิดชอบได้ไหม
3. เราสามารถฟ้องให้ลูกมาอยู่กับเราได้ไหม เพราะลูกเริ่มโตเป็นสาว เราอยากจะดูแลเค้าเอง เพราะตอนนี้พร้อมที่จะดูแลเค้า
4. จะทำอย่างไรให้เค้ายอมไปคุยตกลงที่ศาลเพื่อความชัดเจนไปเลย

รบกวนด้วยนะคะ  เหนื่อยใจมากตอนนี้