'ทนายน็อต' ยกตัวอย่างเทียบว่า ถ้านำมือถือของนักข่าวไปปาทิ้งแล้วหนี จะโกรธมั้ย ถ้าไม่โกรธขอเอามือถือมาปาเดี๋ยวนี้เลย
พระพุทธองค์ทรงแสดงสภาพของคนโกรธไว้ว่า
“คนโกรธย่อมมีผิวพรรณทราม ย่อมนอนเป็นทุกข์ ได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว กลับปฏิบัติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ทำปาณาติบาตด้วยกายและด้วยวาจา ย่อมถึงความเสื่อมทรัพย์ ผู้มัวเมาด้วยความโกรธ ย่อมถึงความไม่มียศ ญาติ มิตร สหาย ย่อมหลีกเว้นคนโกรธเสียห่างไกล คนโกรธย่อมไม่รู้จักความเจริญ ทำจิตให้กำเริบ ภัยที่เกิดมาจากภายในนั้น คนโกรธย่อมไม่รู้สึก คนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ ไม่เห็นธรรม ความโกรธย่อมครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมีในขณะนั้น คนโกรธย่อมก่อกรรมที่ทำได้ยาก เหมือนทำได้ง่าย ภายหลังเมื่อหายโกรธแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ คนโกรธย่อมแสดงความเก้อยากก่อน เหมือนไฟแสดงควันก่อน ในกาลใดความโกรธเกิดขึ้น ในกาลนั้น คนโกรธย่อมไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ และไม่มีความเคารพ คนที่มีความโกรธครอบงำย่อมไม่มีความสว่างแม้แต่น้อย”
คนโกรธฆ่าบิดาก็ได้ ฆ่ามารดาของตนก็ได้ ฆ่าพระขีณาสพก็ได้ ฆ่าปุถุชนก็ได้
'ทนายน็อต' ยกตัวอย่างเทียบว่า ถ้านำมือถือของนักข่าวไปปาทิ้งแล้วหนี จะโกรธมั้ย ถ้าไม่โกรธขอเอามือถือมาปาเดี๋ยวนี้เลย
พระพุทธองค์ทรงแสดงสภาพของคนโกรธไว้ว่า
“คนโกรธย่อมมีผิวพรรณทราม ย่อมนอนเป็นทุกข์ ได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว กลับปฏิบัติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ทำปาณาติบาตด้วยกายและด้วยวาจา ย่อมถึงความเสื่อมทรัพย์ ผู้มัวเมาด้วยความโกรธ ย่อมถึงความไม่มียศ ญาติ มิตร สหาย ย่อมหลีกเว้นคนโกรธเสียห่างไกล คนโกรธย่อมไม่รู้จักความเจริญ ทำจิตให้กำเริบ ภัยที่เกิดมาจากภายในนั้น คนโกรธย่อมไม่รู้สึก คนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ ไม่เห็นธรรม ความโกรธย่อมครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมีในขณะนั้น คนโกรธย่อมก่อกรรมที่ทำได้ยาก เหมือนทำได้ง่าย ภายหลังเมื่อหายโกรธแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ คนโกรธย่อมแสดงความเก้อยากก่อน เหมือนไฟแสดงควันก่อน ในกาลใดความโกรธเกิดขึ้น ในกาลนั้น คนโกรธย่อมไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ และไม่มีความเคารพ คนที่มีความโกรธครอบงำย่อมไม่มีความสว่างแม้แต่น้อย”