ยักยอกทรัพย์ แต่จะเอามาคืน แบบนี้สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้รึเปล่าครับ

ผมคงโง่เองคัรบ ที่ให้ความสำคัญกับคำว่าเพื่อนมากเกินไป

แต่เหตุการณ์มันผ่านไปแล้วครับ ต่อไปคงต้องหาทางแก้เอา

เพื่อนคนนึงยืมเงินไปจำนวนหนึ่งครับ หลังจากที่ผมไม่ให้แล้ว (บอกว่าไม่มีให้แล้ว)  ระหว่างนั้น เขาโดนพักงาน จึงขอยืมของใช้ (ของเล่น) ไปใช้ในระหว่างโดนพักงาน

ถัดจากนั้น พยายามส่งรายละเอียดบางอย่างมาเป็นเกี่ยวกับเรื่องเงินและเงื่อนไขของงานของเขา ซึ่งผมก็สรุปได้ว่าจะมาดูท่าทีผมเพื่อขอยืมเงินเพิ่มอีกนั่นแหละ

ผมเอะใจเลยถามเพื่อนๆคนอื่นๆ เลยได้ความว่าเขาเหลวไหลเรื่องเงิน คงเอาเงินไปเปย์ผู้หญิง และของที่ผมให้ยืมไป คงจำนำไปแล้วนั่นแหละ

ผมบอกให้เขาเอาของมาคืน ทวงอยู่พักใหญ่ๆก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด จนมาสารภาพว่าจำนำไปแล้วจริงๆ

ผมเลยเริ่มจี้ให้รีบเอามาคืน ก็ยังคงบ่ายเบี่ยง ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ และพยายามหนีหน้าผม

ผมเลยวางแผนกับเพื่อนว่าจะหางานให้เขา เป็นงาน Messenger ส่งเอกสาร โดยให้ไปรับของ ณ สถานที่หนึ่ง แต่จริงๆแล้วผมรอเขาอยู่ที่นั่น

เมื่อเจอหน้ากัน ผมก็มีการบันทึกเสียงเอาไว้ ว่าเขานำไปจำนำจริงๆ และก็บังคับให้เขาเซ็นสัญญากู้ยืม ทั้งเงิน และสิ่งของ

เขาขอเวลาเอาของมาคืนในวันที่เขาจะได้รับเงินค่าเช่าบ้าน (เขามีบ้านให้คนเช่า) แต่ผมบอกว่าผมไม่รอจนถึงวันนั้น ผมเชื่อว่ากับเงินไม่กี่พันบาทที่เขาจำนำของๆผมไป เขาสามารถหาได้ โดยการกู้ยืมคนอื่นมาไถ่ของผมคืน (ญาติ พี่น้อง) ผมจึงยื่นคำขาดให้เขานำมาคืนผมในวันที่ผมกำหนด
ผมจึงใส่วันที่ยืม และระยะเวลากู้ยืมให้สอดคล้องกับวันที่ผมกำหนด

แต่เขากลับไม่ดิ้นรน และเลือกที่จะรอจนได้รับเงินค่าเช่าบ้าน ถึงเอามาไถ่ของผมคืน

เมื่อผมเห็นว่าเขาไม่สามารถคืนของผมได้ภายในวันที่กำหนด ผมเลยไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน แต่ตำรวจก็ไม่ดำเนินการใดๆให้

เมื่อถึงกำหนดที่เขาได้รับค่าเช่าบ้าน เขาก็ไปไถ่ของผมคืน และจะเอามาให้ผม แต่ผมปฏิเสธที่จะรับของคืน เพราะตอนนี้ ด้วยโทสะ ผมอยากให้เขารับโทษคดียักยอกทรัพย์ และคดีอื่นๆให้หนักที่สุด

ติดตรงที่ ตำรวจำไม่ดำเนินการใดๆให้ แบบนี้ผมควรจะทำยังไงดีครับ

ตอนนี้ผมมีสัญญากู้ยืมเงิน และกู้ยืมของ

แยกคดีกันนะครับ กู้ยืมของ แล้วเอาไปจำนำ = ยักยอกทรัพย์ เป็นคดีอาญา แต่ยอมความได้
ส่วนยืมเงิน = คดีแพ่ง ตำรวจไม่ยุ่ง ไม่สน

ผมเกรงว่าถ้าผมรับของคืนมา ตำรวจจะบีบให้ผมยอมความ และจะทำให้ผมชวดเงินก้อนนั้นไปด้วย

ผมควรจะทำยังไงดี ถึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ

ของมูลค่า 4 พัน ตามเป็นเดือน เงินก้อนนั้นเขาจะผ่อนคืนผมอีกเป็นปี ผมว่าผมได้ชวดอีกแน่ครับ

เคสแบบนี้ ถ้ามีเส้นสายภายในกับตำรวจ เร่งให้จี้ได้ ตำรวจคงเร่งทำงานให้ครับ แต่เคสนี้ ไม่มีใครยุ่งเลย เพราะแต่ละคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย..... นี่แหละครับทำให้ผมเห็นว่าชีวิตผมคงลงทุนกับเพื่อนเยอะไป แค่โทรศัพท์หาตำรวจที่รู้จักกันไม่กี่นาที ยังไม่มีใครอยากจะสอดมือเข้ามายุ่ง

ต่อไปคงต้องเอาเวลาที่จะใช้กับเพื่อน ไปใช้กับคนอื่นที่จะมีประโยชน์กับการใช้ชีวิตมากกว่าเพื่อนแทนแล้วล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่