**** อินทรีเเดง รีเทิร์น ----->>>> ผู้ค้นพบคำตอบ.......คลองคอดกระ ***** ( by : อินทรีเเดง รีเทิร์น )

กระทู้สนทนา
เเต่ก่อนต้องยกเครดิต สำหรับบทความดีๆ ให้กับ ---------->>>>>  สมาชิก    _K_F_C_

จากในกระทู้นี้ของ อินทรีเเดง รีเทิร์น (ผู้ค้นพบคำตอบ คลองคอดกระ )     http://pantip.com/topic/35776218



จริงๆ  Concept ของมันคืออะไรที่จะขุดคลองตัดแผ่นดิน ...???

หลายครั้งที่เกิดการสัมมนาเกี่ยวกับการพยายามขุดคลองนี้ตั้งแต่สมัยเมื่อซัก 40 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน หลายครั้งยังมุ่งเป้าไปที่ "การขนส่งทางเรือเพียงอย่างเดียว" ...ทั้งๆ ที่ในทาง Logistics มันมีเรื่องของ Multi-mode และตั้งต้นหลายการถกเถียงเริ่มต้นถูกด้วยเรื่องของ "เวลา" ...แต่คุยไปคุยมาปลายดันมาออกที่พยายาม "สร้างเส้นทางให้เรือวิ่ง" ...

ทั้งๆ ที่ตัวปัญหาจริงๆ คือ "เวลาในการขนส่งสิ่งค้า" ซึ่งมันมีองค์ประกอบหลายอย่างมากที่จะทำให้สินค้าเคลื่อนจากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่งที่ไม่ใช่แค่ "Mode การขนส่ง" ... บางสัมมนาที่ข้าเจ้าเคยไปฟัง เคยไปดูงาน เค้าเข้าถึงประเด็นจริงๆ ...แต่จบที่ "ผลประโยชน์ไม่ลงตัว" มากกว่าแก้ไขปัญหาตั้งต้นในเรื่องของ "เวลาในการขนส่ง"

ในขณะที่สิงคโปร์เป็นจุดบริหารสินค้าขนส่งทางเรือครบวงจรอันดับ 1 ของโลกไปแล้ว ... เค้าทำได้ด้วยอะไร ..ทำเลงั้นเหรอ? หรือเพราะมันเป็น "เรือ" ...

เราต้องขุดอย่างเดียวด้วยหรือ ...ในความเป็นจริง เราสู้ที่ "เวลาในการผ่านสินค้าระหว่างฝั่งทะเล" เห็นช้างขี้ได้ก้อนใหญ่ ทำไมสัตว์อื่นต้องเบ่งขี้ "ทีเดียว" ให้ได้เท่าช้าง ...

- นับเฉพาะเวลาการขนส่ง เราไม่จะเป็นต้องให้เป็น Mode ทางเรือเพียงอย่างเดียวเพื่อทะลุ 2 ฝั่ง ...มันยังมี Mode ราง ถนน หรือถ้ามันรีบจริงๆ ก็ยังส่งขึ้นเครื่องได้ ...สุดท้าย "เวลา" จะเป็นตัวกำหนดให้เราสร้าง Mode การขนส่ง "ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด" ให้สั้นและคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์เมื่อเทียบกับการถ่ายสินค้าที่สิงคโปร์ ...ถ้าสามารถสร้างทางด่วนใน Mode อื่นทดแทนเวลาขนส่งทางน้ำที่ให้ขนาดการขนส่งโดยรวมต่อเทียวเมื่อเทียบจำนวนเท่ากันได้ มันก็อาจจะประหยัดกว่าที่จะลงทุนขุด หรือทำสะพานน้ำเพื่อเน้นการขนส่งทางเรือเพียงอย่างเดียว เมื่อมองกลับมาที่ศักยภาพในการลงทุนและก่อนสร้างของบ้านเรา ...สุดท้ายเป้าหมายคือเมื่อสินค้าขนส่งไม่ว่าจะ Mode ใดเพื่อข้าม 2 อ่าว ต้องทำเวลาให้คุ้มค่าในทางเศรษฐศาสตร์กว่าอ้อมไปท่าที่สิงคโปร์ ...

แต่ ...มันยังไม่จบ ...

- สิงคโปร์ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องเป็นทำเลที่เหมาะสม ...แต่ขึ้นชื่อเรื่อง "การบริหารการจัดการ" ... ตรงนี้เป็นอีกจุดตายที่เรามีทั้งความได้เปรียบและเสียเปรียบพร้อมกัน ...เราได้เปรียบเรื่องทรัพยากรพื้นที่สำหรับคลังสินค้า Buffer เรามีพาหนะรองรับการขนส่งทดแทนเยอะ ...แต่เราเสียเปรียบเรื่องการพัฒนาความสามารถในการบริหารการจัดการ ...เรายังบริหารเวลาสู้ไม่ได้ เทคโนโลยีบริหารข้อมูล บริหารการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าท่าเรือที่ยังต้องเป็นภาระของเอกชน ศักยภาพคน ...แต่เรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ข้าเจ้ามองว่าพวกนี้มันมาทันกันได้จากการลงทุนของเอกชน ...ติดตรงที่ "ความน่าดึงดูดนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐดีแค่ไหนที่จะให้เอกชนมาลงทุนให้ดีกว่าสิงคโปร์" ... เรื่องธุรกรรมธุรการต่างๆ ที่ต้องทำให้ "เวลา" ทั้งกระบวนการที่จะเอาไปบวกกับเวลาในการขนส่งที่กล่าวมาข้างบนแล้ว "ได้ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์มากกว่าท่าเรือที่สิงคโปร์" ...

.... สุดท้าย คนส่วนมากที่ไม่ได้อยู่ในวงการหรือไม่เคยได้คลุกคลีจริงๆ อาจจะมองที่ภูมิศาสตร์ทางกายภาพ บางคนมองที่วิธีการ ...แต่ส่วนมากก็ยังคงลืมสิ่งที่ตัวเองนึกในใจเอาไว้ตั้งแต่แรกก่อนคิดต่อไปเกี่ยวกับ "ทำยังไงให้การขนส่งที่เร็วกว่าการต้องไปผ่านที่ท่าเรือสิงคโปร์" ...

ทางนั้นเขาถึงไม่กลัวเราจะขุดคลองอะไรเลย ...เพราะ ต่อให้เราขุดได้จริงๆ ...มันก็ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริงของปัญหาทางด้าน Logistics ...อาจจะมองเราด้วยซ้ำว่า "เมื่อไหร่จะช่วยอั๊วระบายคิวเรือซักที" ...เค้าแทบไม่สนเลยว่าเราจะเป็นคู่แข่งเพราะถ้าเราทำได้ก็ไม่รู้จะเป็นคู่แข่งกันไปทำไมในเมื่อประเทศเค้าต้องพึ่งพาเรื่องอื่นๆ ในสิ่งที่เค้าไม่มีในบ้านเรา ...จะแข่งกันทำไมในเมื่ออยู่ในภูมิภาพเดียวกัน ประชาคมเดียวกัน (...และจะแข่งขันต่อสู้กันทำไมในเมื่อ "ครอบงำ" มันทำได้ง่ายและถูกกว่าเยอะ") ...ปัญหาทาง Logistics ไม่ได้เริ่มจาก "วิธีอะไร" ...แต่เริ่มจาก "จะลดเวลาได้อย่างไร" ...

เอาจริงๆ นะ ... เค้าเริ่มพัฒนากันมาได้พักใหญ่ๆ แล้วหละ แต่ที่ยังสู้ไม่ได้คือ การบริหารการจัดการที่ยังทำได้ไม่ดีพอเท่าท่าเรือชั้นนำใหญ่ๆ เค้าทำได้ เราไม่จำเป็นต้องแข่งกันสิงคโปร์ เอาแค่ทำให้มีรายได้ภาษีระวางเรือกับสร้างงานเพิ่มขึ้นได้จนคุณภาพชีวิตคนทางใต้ดีขึ้นมากๆ ก็ดีแล้ว ...ถ้ามัวคุยกันแค่เรื่องพยายามจะขี้ทีเดียวให้ได้ก้อนเท่าช้าง กว่าจะทำได้คงต้องแข่งกับทีมชาติไทยไปบอลโลกหละ ...สู้ขี้บ่อยๆ แล้วเอามากองรวมกันก็ได้ ...ของสิงคโปร์เค้าเลยแค่คำว่า "ท่าเรือ" ไปไกลแล้ว ...เกาะทั้งเกาะเค้ากลายเป็น "ตลาด" ไปแล้ว เค้าไม่ใช่แค่ถ่ายสินค้าอย่างเดียว เค้าค้าขายตกลงเจรจา จบ และโอนเงินกันที่นั้นไปเลย ..เราได้เปรียบกว่าไม่ใช่เรื่องสินค้าข้ามจากอ่าวขวาไปอ่าวซ้าย ...แต่เราดันทะลึ่งมีพื้นดินลากยาวไปยังจีนได้เลย ...ถ้าเข้าใจโปรเจครถไฟความเร็วสูงสมัย อ.ชัชชาติ คุมโปรเจค จะรู้เลยว่าเราได้เปรียบจริงในทางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจการขนส่งในภูมิภาคนี้มหาศาลแค่ไหน ...

"ถ้าเราเข้าใจความสำคัญของ เวลา กันจริงๆ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่