เนื้อหาในกระทู้ต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นและเรื่องเล่าของฝ่ายเราฝ่ายเดียว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หากมีเรื่องทำให้ใครไม่พอใจต้องขออภัยด้วยนะค่ะ
สาเหตุที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะหาทางจัดการกับคนที่มาจีบไม่ได้สักทีคะ เราอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆในพันทิป จะมากจะน้อยยังไงก็ยินดีรับฟังคะ
(ยาวหน่อยนะค่ะ)
ช่วงปีสุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัย เราถูกเซอร์ไพรส์ในวันวาเลนไทน์จากผู้ชายคณะเดียวกัน เราขอแทนผู้ชายคนนี้ว่าชินนะคะ ไม่เคยคุยกันมาก่อนแต่พอจำชื่อได้ว่าเป็นใคร ด้วยความที่ไม่เคยถูกเซอไพรส์แบบนี้มาก่อนครอบครัวกับเพื่อนเราเลยแนะว่าควรลองคุยกันก่อนยังอย่าเพิ่งไปตกลงเป็นแฟน เราเลยได้ลองคุยกับชินผ่านทางแชทและตัวจริงอยู่ช่วงหนึ่ง คุยกันได้เกือบเดือนเรารู้สึกเลยว่าไม่ชอบการกระทำและนิสัยส่วนตัวของชินมาก แต่เนื่องจากยังเป็นเดือนแรกเราเลือกที่จะไม่ตัดสินใจบุ่มบ่ามลองศึกษาเขาต่อ(เกรงใจและสงสารเขาด้วย) เดือนถัดมา เรารู้สึกลำบากใจทุกครั้งที่คุยทั้งยังตอนคุยรู้สึกไม่มีความสุขเลย ตอนนั้นเป็นตอนที่ตัดสินใจเลิกคุย เราคิดวิธีหลายเรื่องมากเพื่อที่จะเลิกคุยได้โดยที่ไม่ต้องให้เขาเสียใจมาก
1บอกชินอ้อมๆ ว่าไม่อยากคุย แต่เขาไม่เข้าใจหรือเข้าใจแต่แกล้งไม่เข้าใจ
2ต่อมาเราเลยลองบอกชินตรงๆว่าไม่อยากคุยด้วย แต่เขาตื้อไม่หยุดและเริ่มพูดถึงอดีตอย่างนั้นอย่างโน้นจนเรารำคาญเลยต้องยอมคุยต่อเพื่อหาทางอื่น
3ลองขอคุยกับเป็นแค่เพื่อน ตอนแรกชินไม่ยอมเริ่มดราม่า แต่เราคุยต่อรองจนเขารับปากว่าจะยอมเรา ไม่ถึงนาทีสไตล์การพูดจีบของเขาก็มาอีก ตอนนั้นเราเริ่มมีน้ำโหนิดๆ ความรู้สึกสงสารเริ่มหายไป
4เริ่มตอบในแชทน้อยลงเรื่อยๆ บางทีส่งแค่สติกเกอร์ตอบด้วยซ้ำ แต่ชินก็ยังไม่หยุดพิมพ์ส่งมา
5คุยกับเพื่อนเขาว่าเราไม่โอเคกับเขา ซึ่งวิธีนี้ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่เพราะเพื่อนเขาเชียร์ให้คบกัน แต่อย่างน้อยเราว่าเค้าคงต้องได้ยินบ้างเหมือนกัน
6เราหลีกเลี่ยงการเจอหน้าโดยตรง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ไปเจอพอดีก็จะแค่บอกว่าเรายุ่งหรือมีธุระด่วน
ทุกวิธีที่ทำมาเราทำหลายรอบมากแต่ก็ยังไม่สำเร็จ
มาถึงตอนนี้เราขออธิบายการตัดสินใจทั้ง6อย่างของเราก่อน
"การหนีคือทางออก วุฒิภาวะในตอนนั้นมันคิดได้แค่นี้ ชินเป็นผู้ชายที่มีนิสัยดีมากคนนึงเพียงแต่เรา'ไม่ชอบในสิ่งที่เป็นตัวเขา' เราเลยไม่อยากให้เขามาเสียเวลาคุยกับเรา ยิ่งคุยยิ่งทำให้ความรู้สึกไม่ชอบกลายเป็นเกลียดและยิ่งเกลียดเขามากขึ้นทั้งๆที่เขาทำดีกับเราตลอด มันเป็นความรู้สึกที่ผิดมากเลยนะคะ จะให้เราไปคุยกับคนที่ตัวเองไม่ชอบเหมือนให้ความหวังกับตลอดเวลา เราไม่อยากทำอีกแล้ว ถึงทางผู้ชายจะบอกว่าชอบเราแค่ไหนแต่ถ้าอีกฝ่ายเราไม่ชอบตอบความรักระหว่างคนสองคนก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้"
หลังเรียนจบ สุดท้ายเหมือนชินเองจะเริ่มทนกับพฤติกรรมเราไม่ได้ เขาเลยแชทมาเพื่อต้องการให้เราอธิบาย(เขาอยู่ตจว.พอดี) เราก็บอกเขาไปอีกรอบว่า'เราเคยอธิบายไปแล้วว่าไม่ชอบเขา ที่เราทำไปทั้งหมดนี่ยังไม่เข้าใจอีกหรอ' แต่เขาก็ไม่เข้าใจอีก เถียงกันไปเถียงกันมาจนเราเริ่มฟิวขาด พิมพ์ด่าเขาเละเทะ เป็นครั้งแรกที่เกลียดคนที่สุดในชีวิต รังเกียจและไม่แม้แต่อยากจะได้ยินชื่อ สุดท้ายเราก็ตัดบทเลิกคุยปิดทุกช่องทางที่เขาสามารถติดต่อได้ เพราะว่าจบมหาลัยแล้วเลยไม่ได้เจอกันอีกเลย หลังจากนั้นเราก็เข้าไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง เนื่องจากต้องปรับตัวเยอะเราเลยไม่ได้คิดถึงชินอีกเลย
หลายเดือนต่อมา หลังเลิกงานเราไปเดินห้างกับเพื่อนที่ทำงานแล้วดันบ๊ะกับชินพอดี เราหันหน้าหนีไปคุยกับเพื่อนเพื่อทำทีเป็นมองไม่เห็น โชคดีที่ตอนนั้นชินไม่เห็นหรือเราเปลี่นทรงผมใส่แว่นเพิ่มไปชินเลยอาจจะจำไม่ได้
้เกือบอีก1ปีถัดมา จู่ๆชินก็ขับรถโผล่มาที่หน้าทางเข้าอพาทเม้นท์เรา เราตกใจมากเพราะไม่เคยบอกที่อยู่กับเขาเลย เขากลับมาพร้อมกับบอกว่าเขาใจแล้วว่าทำไมเราถึงไม่ชอบเขา เขาเปลี่ยนไปแล้วและอยากขอแก้ตัว เราปฏิเสธเขาไปเหมือนเดิมเพราะเรายังไม่ชอบเขาเหมือนเดิม แต่เขาบอกต่ออีกว่านานแค่ไหนก็จะรอและยื้อยุดไม่ยอมอยู่อย่างนั้น (พฤติกรรมของเขาดูโรคจิตมากกว่าที่จะชอบผู้หญิงที่คุยกันแค่ไม่กี่เดือน) บทสนทนาก็ยังไม่จบ เราเริ่มเหนื่อย ผ่อนอารมณ์กลัวและโกรธลงคุยกับเขาแบบมีสติมากขึ้น โชคดีวันนั้นนัดเพื่อนมาหาที่ห้องเราเลยขอตัวขึ้นไปกับเพื่อน เพื่อแลกให้เขากลับไปแต่โดยดีเรายอมเปิดช่องทางการแชทกับเขาอีกครั้ง เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เราหลอนมาก กลัวจะโดนบุกเข้ามาทำร้ายต่างๆนานา เราเป็นผู้หญิงยังไงก็ไม่มีทางสู้แรงผู้ชายได้ เริ่มระแวงเวลาจะไปไหนมาไหนคนเดียว จะไปห้องน้ำยังต้องลากเพื่อนในออฟฟิศเหมือนตอนมัธยมไปด้วย เราตัดสินใจเปลี่ยนมาอยู่กับพ่อกับแม่แทนพอดีว่าที่บ้านเราจ้างยามไว้เลยรู้สึกปลอดภัยในระดับหนึ่ง เราแชทกับชินน้อยลงและหยุดเงียบไปเลย(อีกครั้ง)
ต่อมาอีกไม่นาน ชินโทรมาทางโทรศัพท์ซึ่งเราบล็อคเบอร์เขาไว้ก่อนหน้านี้ เขาเลยโทรไม่ติด สายเข้าของแต่ละวันในโทรศัพท์เราเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นทุกวันทุกวันจนเราเริ่มสยองและโมโหมากๆ เราไม่คิดว่าแบบนั้นมันคือวิธีของคนที่เปลี่ยนไปแล้วอย่างที่ปากเขาว่า ถึงจะบอกว่าเพราะเราไม่เปิดทางให้เขาเลยแต่วิธีแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ จนกระทั่งอาทิตย์ต่อมาสายเรียกของเจ้าของเบอร์ที่ไม่ได้รับสายมา10สายก็ยังเข้ามา เราขาดสติรับสายและด่าเขาทันที
อ่านมาได้ถึงตรงนี้บางคนคงจะรู้สึกว่าเราแย่มากที่ทำกับผู้ชายแบบนั้น ตรงนี้จะว่าเรื่องนี้ยังไงเรายอม ขนาดตอนนี้เป็นเพื่อนยังไม่เอาเป็นแฟนหรืออะไรคงไม่มีวันเป็นไปได้ แม้ตอนนี้จะมีวุฒิภาวะมากขึ้นแต่ยังแก้ปัญหานี้ไม่ตกเลยคะ(สมองไม่ได้รับการพัฒนาขึ้นเลย)
ความจริงแล้วมียาวกว่านี้แต่กลัวพิมพ์ไปจะรำคาญคะ55555
เพื่อนๆ มีวิธีอะไรที่จะแก้ไขกับปัญหานี้มั้ยคะ
วิธีทำให้ผู้ชายเลิกจีบแบบถาวร
สาเหตุที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะหาทางจัดการกับคนที่มาจีบไม่ได้สักทีคะ เราอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆในพันทิป จะมากจะน้อยยังไงก็ยินดีรับฟังคะ
(ยาวหน่อยนะค่ะ)
ช่วงปีสุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัย เราถูกเซอร์ไพรส์ในวันวาเลนไทน์จากผู้ชายคณะเดียวกัน เราขอแทนผู้ชายคนนี้ว่าชินนะคะ ไม่เคยคุยกันมาก่อนแต่พอจำชื่อได้ว่าเป็นใคร ด้วยความที่ไม่เคยถูกเซอไพรส์แบบนี้มาก่อนครอบครัวกับเพื่อนเราเลยแนะว่าควรลองคุยกันก่อนยังอย่าเพิ่งไปตกลงเป็นแฟน เราเลยได้ลองคุยกับชินผ่านทางแชทและตัวจริงอยู่ช่วงหนึ่ง คุยกันได้เกือบเดือนเรารู้สึกเลยว่าไม่ชอบการกระทำและนิสัยส่วนตัวของชินมาก แต่เนื่องจากยังเป็นเดือนแรกเราเลือกที่จะไม่ตัดสินใจบุ่มบ่ามลองศึกษาเขาต่อ(เกรงใจและสงสารเขาด้วย) เดือนถัดมา เรารู้สึกลำบากใจทุกครั้งที่คุยทั้งยังตอนคุยรู้สึกไม่มีความสุขเลย ตอนนั้นเป็นตอนที่ตัดสินใจเลิกคุย เราคิดวิธีหลายเรื่องมากเพื่อที่จะเลิกคุยได้โดยที่ไม่ต้องให้เขาเสียใจมาก
1บอกชินอ้อมๆ ว่าไม่อยากคุย แต่เขาไม่เข้าใจหรือเข้าใจแต่แกล้งไม่เข้าใจ
2ต่อมาเราเลยลองบอกชินตรงๆว่าไม่อยากคุยด้วย แต่เขาตื้อไม่หยุดและเริ่มพูดถึงอดีตอย่างนั้นอย่างโน้นจนเรารำคาญเลยต้องยอมคุยต่อเพื่อหาทางอื่น
3ลองขอคุยกับเป็นแค่เพื่อน ตอนแรกชินไม่ยอมเริ่มดราม่า แต่เราคุยต่อรองจนเขารับปากว่าจะยอมเรา ไม่ถึงนาทีสไตล์การพูดจีบของเขาก็มาอีก ตอนนั้นเราเริ่มมีน้ำโหนิดๆ ความรู้สึกสงสารเริ่มหายไป
4เริ่มตอบในแชทน้อยลงเรื่อยๆ บางทีส่งแค่สติกเกอร์ตอบด้วยซ้ำ แต่ชินก็ยังไม่หยุดพิมพ์ส่งมา
5คุยกับเพื่อนเขาว่าเราไม่โอเคกับเขา ซึ่งวิธีนี้ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่เพราะเพื่อนเขาเชียร์ให้คบกัน แต่อย่างน้อยเราว่าเค้าคงต้องได้ยินบ้างเหมือนกัน
6เราหลีกเลี่ยงการเจอหน้าโดยตรง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ไปเจอพอดีก็จะแค่บอกว่าเรายุ่งหรือมีธุระด่วน
ทุกวิธีที่ทำมาเราทำหลายรอบมากแต่ก็ยังไม่สำเร็จ
มาถึงตอนนี้เราขออธิบายการตัดสินใจทั้ง6อย่างของเราก่อน
"การหนีคือทางออก วุฒิภาวะในตอนนั้นมันคิดได้แค่นี้ ชินเป็นผู้ชายที่มีนิสัยดีมากคนนึงเพียงแต่เรา'ไม่ชอบในสิ่งที่เป็นตัวเขา' เราเลยไม่อยากให้เขามาเสียเวลาคุยกับเรา ยิ่งคุยยิ่งทำให้ความรู้สึกไม่ชอบกลายเป็นเกลียดและยิ่งเกลียดเขามากขึ้นทั้งๆที่เขาทำดีกับเราตลอด มันเป็นความรู้สึกที่ผิดมากเลยนะคะ จะให้เราไปคุยกับคนที่ตัวเองไม่ชอบเหมือนให้ความหวังกับตลอดเวลา เราไม่อยากทำอีกแล้ว ถึงทางผู้ชายจะบอกว่าชอบเราแค่ไหนแต่ถ้าอีกฝ่ายเราไม่ชอบตอบความรักระหว่างคนสองคนก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้"
หลังเรียนจบ สุดท้ายเหมือนชินเองจะเริ่มทนกับพฤติกรรมเราไม่ได้ เขาเลยแชทมาเพื่อต้องการให้เราอธิบาย(เขาอยู่ตจว.พอดี) เราก็บอกเขาไปอีกรอบว่า'เราเคยอธิบายไปแล้วว่าไม่ชอบเขา ที่เราทำไปทั้งหมดนี่ยังไม่เข้าใจอีกหรอ' แต่เขาก็ไม่เข้าใจอีก เถียงกันไปเถียงกันมาจนเราเริ่มฟิวขาด พิมพ์ด่าเขาเละเทะ เป็นครั้งแรกที่เกลียดคนที่สุดในชีวิต รังเกียจและไม่แม้แต่อยากจะได้ยินชื่อ สุดท้ายเราก็ตัดบทเลิกคุยปิดทุกช่องทางที่เขาสามารถติดต่อได้ เพราะว่าจบมหาลัยแล้วเลยไม่ได้เจอกันอีกเลย หลังจากนั้นเราก็เข้าไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง เนื่องจากต้องปรับตัวเยอะเราเลยไม่ได้คิดถึงชินอีกเลย
หลายเดือนต่อมา หลังเลิกงานเราไปเดินห้างกับเพื่อนที่ทำงานแล้วดันบ๊ะกับชินพอดี เราหันหน้าหนีไปคุยกับเพื่อนเพื่อทำทีเป็นมองไม่เห็น โชคดีที่ตอนนั้นชินไม่เห็นหรือเราเปลี่นทรงผมใส่แว่นเพิ่มไปชินเลยอาจจะจำไม่ได้
้เกือบอีก1ปีถัดมา จู่ๆชินก็ขับรถโผล่มาที่หน้าทางเข้าอพาทเม้นท์เรา เราตกใจมากเพราะไม่เคยบอกที่อยู่กับเขาเลย เขากลับมาพร้อมกับบอกว่าเขาใจแล้วว่าทำไมเราถึงไม่ชอบเขา เขาเปลี่ยนไปแล้วและอยากขอแก้ตัว เราปฏิเสธเขาไปเหมือนเดิมเพราะเรายังไม่ชอบเขาเหมือนเดิม แต่เขาบอกต่ออีกว่านานแค่ไหนก็จะรอและยื้อยุดไม่ยอมอยู่อย่างนั้น (พฤติกรรมของเขาดูโรคจิตมากกว่าที่จะชอบผู้หญิงที่คุยกันแค่ไม่กี่เดือน) บทสนทนาก็ยังไม่จบ เราเริ่มเหนื่อย ผ่อนอารมณ์กลัวและโกรธลงคุยกับเขาแบบมีสติมากขึ้น โชคดีวันนั้นนัดเพื่อนมาหาที่ห้องเราเลยขอตัวขึ้นไปกับเพื่อน เพื่อแลกให้เขากลับไปแต่โดยดีเรายอมเปิดช่องทางการแชทกับเขาอีกครั้ง เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เราหลอนมาก กลัวจะโดนบุกเข้ามาทำร้ายต่างๆนานา เราเป็นผู้หญิงยังไงก็ไม่มีทางสู้แรงผู้ชายได้ เริ่มระแวงเวลาจะไปไหนมาไหนคนเดียว จะไปห้องน้ำยังต้องลากเพื่อนในออฟฟิศเหมือนตอนมัธยมไปด้วย เราตัดสินใจเปลี่ยนมาอยู่กับพ่อกับแม่แทนพอดีว่าที่บ้านเราจ้างยามไว้เลยรู้สึกปลอดภัยในระดับหนึ่ง เราแชทกับชินน้อยลงและหยุดเงียบไปเลย(อีกครั้ง)
ต่อมาอีกไม่นาน ชินโทรมาทางโทรศัพท์ซึ่งเราบล็อคเบอร์เขาไว้ก่อนหน้านี้ เขาเลยโทรไม่ติด สายเข้าของแต่ละวันในโทรศัพท์เราเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นทุกวันทุกวันจนเราเริ่มสยองและโมโหมากๆ เราไม่คิดว่าแบบนั้นมันคือวิธีของคนที่เปลี่ยนไปแล้วอย่างที่ปากเขาว่า ถึงจะบอกว่าเพราะเราไม่เปิดทางให้เขาเลยแต่วิธีแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ จนกระทั่งอาทิตย์ต่อมาสายเรียกของเจ้าของเบอร์ที่ไม่ได้รับสายมา10สายก็ยังเข้ามา เราขาดสติรับสายและด่าเขาทันที
อ่านมาได้ถึงตรงนี้บางคนคงจะรู้สึกว่าเราแย่มากที่ทำกับผู้ชายแบบนั้น ตรงนี้จะว่าเรื่องนี้ยังไงเรายอม ขนาดตอนนี้เป็นเพื่อนยังไม่เอาเป็นแฟนหรืออะไรคงไม่มีวันเป็นไปได้ แม้ตอนนี้จะมีวุฒิภาวะมากขึ้นแต่ยังแก้ปัญหานี้ไม่ตกเลยคะ(สมองไม่ได้รับการพัฒนาขึ้นเลย)
ความจริงแล้วมียาวกว่านี้แต่กลัวพิมพ์ไปจะรำคาญคะ55555
เพื่อนๆ มีวิธีอะไรที่จะแก้ไขกับปัญหานี้มั้ยคะ