คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
นับเป็นเรื่องที่ ท้าทายชีวิต อยู่ไม่น้อย กับการก้าวไปสู่ความฝันในสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ กับงานเขียน (ซึ่งในอดีตคนสมัยเบบี้บูม เรียกว่านักประพันธ์ไส้แห้ง)
ทำให้ผู้เขียนในขณะนั้น คิดไม่ต่างจาก จขกท. ว่าจะทำอย่างไร ที่จะไปถึงจุดนั้นให้ได้ โดยที่งานประจำก็ยังทำอยู่
ผู้เขียนชอบเขียน นวนิยายเรื่องสั้น เป็นสมัครเล่น (ใจอยากเป็นนักเขียนอาชีพ) แต่ส่วนใหญ่อยู่ในเครือบันลือกรุ๊ป และสำนักพิมพ์อื่น 2-3 แห่ง ได้ลงเป็นครั้งเป็นคราว จนบัดนี้สำนักพิมพ์บางแห่ง ก็ปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วก็มี งานเขียนส่วนใหญ่มีค่าทางจิตใจ บางเรื่องที่เราชอบ ใฝ่ฝัน ให้เขาเอาไปทำละครก็เคยคิด หรือติดโผเอาไปทำรวมเล่ม year book แห่งปี ได้แต่นึก.....
ปัจจุบันผู้เขียน หยุดเขียนไปนานแล้ว เพราะเนื่องจากงานประจำที่ทำอยู่ไม่เอื้ออำนวยให้กับงานเขียนนวนิยาย อย่างที่ จขกท. ว่า ซึ่งต้องใช้เวลา จินตนาการ บวกกับ บรรยากาศ ในระหว่างการเขียน ซึ่งล้วนแต่เป็นอุปสรรคทั้งสิ้น
จขกท.คงต้องใช้ประโยชน์เวลาในวันหยุด อย่างเต็มที่ และสนุกกับงานเขียน กลั่นกรอง หรือไม่ก็ต้องหางานประจำที่มีเวลาว่างมากๆ ซึ่งคงไม่มีที่ไหนหรือบริษัทฯ จ้างให้อยู่ว่างๆ (ผู้เขียนเคยลอวแอบเขียนมาแล้ว ก็ลุ้นๆดี)
แม้ผู้เขียนจะหยุดเขียนไปแล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยลืม ความฝันการเป็นนักเขียน ขอเป็นนักเขียนสมัครเล่นก็ยังดี เพราะ ผลงานเขียนที่ออกมาเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ว่าแล้วคืนนี้จะลองเขียนเรื่องสั้นสักเรื่องหนึ่ง เผื่อจะได้ค่าขนม ค่ากาแฟ
จขกท.สู้ๆ นะครับ อดทนทำทั้งสองอย่างนั่นแหละ เพราะงานหนึ่งช่วยต่อชีวิตกินอยู่ อีกงานหนึ่งช่วยต่อความสุข ...
ทำให้ผู้เขียนในขณะนั้น คิดไม่ต่างจาก จขกท. ว่าจะทำอย่างไร ที่จะไปถึงจุดนั้นให้ได้ โดยที่งานประจำก็ยังทำอยู่
ผู้เขียนชอบเขียน นวนิยายเรื่องสั้น เป็นสมัครเล่น (ใจอยากเป็นนักเขียนอาชีพ) แต่ส่วนใหญ่อยู่ในเครือบันลือกรุ๊ป และสำนักพิมพ์อื่น 2-3 แห่ง ได้ลงเป็นครั้งเป็นคราว จนบัดนี้สำนักพิมพ์บางแห่ง ก็ปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วก็มี งานเขียนส่วนใหญ่มีค่าทางจิตใจ บางเรื่องที่เราชอบ ใฝ่ฝัน ให้เขาเอาไปทำละครก็เคยคิด หรือติดโผเอาไปทำรวมเล่ม year book แห่งปี ได้แต่นึก.....
ปัจจุบันผู้เขียน หยุดเขียนไปนานแล้ว เพราะเนื่องจากงานประจำที่ทำอยู่ไม่เอื้ออำนวยให้กับงานเขียนนวนิยาย อย่างที่ จขกท. ว่า ซึ่งต้องใช้เวลา จินตนาการ บวกกับ บรรยากาศ ในระหว่างการเขียน ซึ่งล้วนแต่เป็นอุปสรรคทั้งสิ้น
จขกท.คงต้องใช้ประโยชน์เวลาในวันหยุด อย่างเต็มที่ และสนุกกับงานเขียน กลั่นกรอง หรือไม่ก็ต้องหางานประจำที่มีเวลาว่างมากๆ ซึ่งคงไม่มีที่ไหนหรือบริษัทฯ จ้างให้อยู่ว่างๆ (ผู้เขียนเคยลอวแอบเขียนมาแล้ว ก็ลุ้นๆดี)
แม้ผู้เขียนจะหยุดเขียนไปแล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยลืม ความฝันการเป็นนักเขียน ขอเป็นนักเขียนสมัครเล่นก็ยังดี เพราะ ผลงานเขียนที่ออกมาเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ว่าแล้วคืนนี้จะลองเขียนเรื่องสั้นสักเรื่องหนึ่ง เผื่อจะได้ค่าขนม ค่ากาแฟ
จขกท.สู้ๆ นะครับ อดทนทำทั้งสองอย่างนั่นแหละ เพราะงานหนึ่งช่วยต่อชีวิตกินอยู่ อีกงานหนึ่งช่วยต่อความสุข ...
แสดงความคิดเห็น
เงินเก็บหนึ่งแสน มีอาชีพที่เหมาะกับงานเขียนแนะนำบ้างมั้ยคะ?
เรื่องครอบครัวนี่แหละค่ะที่ทำให้เราหนักใจ เพราะเราเป็นพี่คนโต คือคิดเองว่าต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่น การออกจากงานมาเขียนนิยายอย่างเดียวจึงเป็นเรื่องยาก และคิดว่าพ่อกับแม่คงไม่เห็นด้วย (เคยเกริ่นไปแล้ว แต่พวกท่านคงนึกว่าล้อเล่น เพราะเราไม่เคยเล่าปัญหาหรือเรื่องไม่สบายใจอะไรให้ฟังเลย ยิ่งเรื่องที่ทำงานก็ยิ่งพูดแต่สิ่งดีๆ ให้ฟัง เพราะไม่อยากให้พวกท่านไม่สบายใจ กลายเป็นว่าขุดหลุมดักตัวเองยังไงก็ไม่รู้ 555)
ความจริงเรารู้สึกอย่างนี้มาสักพักแล้ว แต่คิดว่าพอทนได้ ก็ทนมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ได้แล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ งานประจำก็เครียด เขียนนิยายก็ไม่ออก กลัวจิตตกด้วย เลยมานั่งคิดว่าตัวเองก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง อยากทำอาชีพเสริมพร้อมทั้งสนับสนุนความฝันของตัวเองด้วย แต่ก็ยังคิดไอเดียไม่ออก อยากลงทุนให้ครอบครัวด้วย มีใครพอจะแนะนำทางสว่างให้ได้บ้างมั้ยคะ
ปล.1 เราอายุ 27 ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับการตรวจประเมิน ได้เงินเดือน 17k
ปล.2 ตอนนี้เราเขียนนิยายขายอีบุ๊คอยู่ 1 เรื่อง และทำหนังสือทำมือแบบพรีออเดอร์ มีความสุขกับงานเขียน แต่เงินที่ได้จากงานประจำยังรั้งไว้ไม่ให้ลาออก