เป็นทริปที่ตั้งใจมากกกก ที่จะไปดูซากุระที่ญี่ปุ่น เราเลยส่องๆ หาข้อมูลว่าซากุระบานช่วงไหน ก็ดูจากพยากรณ์แล้ว ปี 2559 ฝั่งโตเกียวน่าจะบานสุดๆ ช่วงปลายเดือน มีนาคม ถึง ต้นเมษายน พอดีดูจากข้อมูลลานสกีก็ยังเปิดช่วงนั้นพอดี เราเลยใส่แพลนไปดูหิมะไว้ในโปรแกรม และที่พลาดไม่ได้เราก็เลือกไปดูฟูจิซังโดยเลือกไปที่ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ ก็ลุ้นๆ ว่าจะได้เจอฟูจิซังมั้ย เพราะฟูจิซังขี้อายมากๆ
ทริปนี้เดินทาง 27 มีนาคม – 2 เมษายน 2559 (7 วัน 6 คืน) ครั้งนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ของเราค่ะ ครั้งแรกไปฝั่งคันไซ โอซาก้า เกียวโต ครั้งนี้ไปกัน 2 คนกับน้องที่ทำงาน พักที่โตเกียว 5 คืน และคาวาคูจิโกะ 1 คืน ค่ะ
ตารางการเที่ยวทั้งหมด 7 วัน
DAY 1_กรุงเทพฯ-นาริตะ BY ANA ชินจูกุ ฮาราจูกุ ชิบูย่า
DAY 2_ Gala-Yuzawa – คามาคุระ - พิพิธภัณฑ์ราเมง โยโกฮาม่า
DAY 3_คาวาคูจิโกะ พัก Sunnide Resorrt
DAY 4_ ขึ้นกระเช้า Kachi Kachi Ropeway - เจดีย์แดง (Chureito pagoda)
DAY 5_ตลาดปลา Tsukiji - พระราชวังอิมพีเรียล - ชินจูกุ
DAY 6_สวนอูเอโนะ - วัดเซนโซจิ - โตเกียวสกายทรี - อากิฮาบาระ
DAY 7_ตลาดอเมโยโก - นาริตะ
รีวิว DAY 1-3 ดูได้ที่
http://pantip.com/topic/35763506
รีวิว Day 4-7 ดูได้ที่
http://pantip.com/topic/35778342
ตั๋วเครื่องบิน ทริปนี้จองตั๋วเครื่องบิน ANA ตอนปลายเดือนมิถุนายน 58 ได้ราคา 17,140 บาทต่อคน จองกับเว็บ ANA ประเทศไทย
https://www.ana.co.jp/asw/wws/th/t/ ก่อนบินเราโทร Confirm กับ ANA ประเทศไทย ALL NIPPON AIRWAYS CO.LTD.ที่เบอร์ 02-134-2403 , 02-134-2404 , 02-134-2406 , 02-2385121 ก่อน ไฟท์ที่ได้เป็นขาไป 27 มีนาคม 59 เวลา 00.30 น. BKK-TokyoNarita ขากลับ 2 เมษายน 59 TokyoNarita-BKK เวลา 18.00 น.
ที่พัก ที่โตเกียว โซเตตซุเฟรซาอินน์นิฮอมบาชิคายาบาโช (Sotetsu Fresa Inn Nihombashi-Kayabacho) จองผ่าน Agoda โดยจองเป็น 2 ช่วง คือ 27 มี.ค. - 28 มี.ค. 2 คืน อันนี้เป็นเวปของโรงแรม
http://fresa-inn.jp/eng/kayabacho/amenity.html เข้าไปดูได้ค่ะว่าโรงแรมมีอะไรให้บ้าง แต่เท่าที่ดูนี่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบมาก นอกจากอุปกรณ์ที่ทุกๆ โรงแรมจะมีแล้ว มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ มีเครื่องซักผ้า มีชุดนอนให้ด้วย อาหารเช้าเป็นเชตขนมปังของ Pronto อร่อยมาก มีให้เลือก 2 เซต เป็นเซต A และ B
จากนั้นก็จะย้ายไปนอนที่คาวาคูจิโกะ 1 คืน โดยจะฝากกระเป๋าไว้กับโรงแรม ก่อนไปเมล์ถามที่โรงแรมก่อนนะคะว่าฝากได้มั้ย ทางโรงแรมตอบเมล์เร็วมาก และ Confirm ว่าได้ ก็จองเลย ส่วนวันที่ 29 มี.ค. จอง Sunnide Resort ผ่าน Janpannican
http://www.japanican.com/th/ แล้วกลับมานอนที่ โซเตตซุเฟรซาอินน์นิฮอมบาชิคายาบาโช อีก 3 คืน
ค่าที่พัก
1. โซเตตซุเฟรซาอินน์นิฮอมบาชิคายาบาโช 27 มี.ค. - 28 มี.ค. 2 คืน คืนละ 2,463 บาท รวม 4,927 บาท
2. Sunnide Resort 29 มี.ค. 1 คืน 38,800 เยน ประมาณ 12,125 บาท
3. โซเตตซุเฟรซาอินน์นิฮอมบาชิคายาบาโช 30 มี.ค. - 1 เม.ย. 3 คืน คืนละ 3,321 บาท รวม 9,963 บาท
การเดินทาง เราใช้ดูจากแผนที่ Tokyo Metro ดาวน์โหลดจากเวปนี้
http://www.tokyometro.jp/th/subwaymap/index.html มีข้อมูลเส้นทาง/สถานีและค้นหาค่าโดยสาร/การเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟโตเกียวเมโทรค่ะ
และแผนที่รถไฟของ JR Line ดาวน์โหลดจากเวปนี้ค่ะ
http://www.jp-rail-th.com/download/jr-east-railway-lines-map/
เราวางแผนการเดินทาง โดยเปิดตารางรถไฟจากเวป
http://www.hyperdia.com/en/ ซึ่งช่วยเราได้มากเลย แล้วรถไฟของญี่ปุ่นนี่ตรงเวลาเป๊ะสุดๆ
DAY 1_กรุงเทพฯ-นาริตะ BY ANA ชินจูกุ ฮาราจูกุ ชิบูย่า
วันเดินทาง ไฟท์ขาไปเวลา 00.30 น. ของวันที่ 27 มีนาคม ดังนั้นเราต้องมา Check in ที่สุวรรณภูมิเวลาประมาณ 22.00 น. ของในวันที่ 26 มีนาคม อันนี้ต้องดูดีๆ นะคะ เพราะไฟท์บินเวลานี้มีคนตกเครื่องเพราะดูวันผิดมาเยอะแล้ว วันเดินทางเรามาถึงก่อนเวลานานเลย ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อาคารขาออก เข้าประตูทางเข้าหมายเลข 4 หรือ 5 เคาน์เตอร์เช็คอินของ ANA อยู่ที่แถว L ค่ะ ตอนที่เรากำลังอยู่เคาน์เตอร์ พนักงานของ ANA มาบอกเราว่าอยากเลื่อนไฟท์เร็วขึ้นมั้ย ออกเดินทางตอน 22.45 น. แต่ไปลงฮานาดะแทน ทางสายการบินจะคืนเงินให้ 10,000 เยน ระหว่างเรากำลังปรึกษากัน แล้วหันไปบอกว่า “ตกลงค่ะ” เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ทันแล้วค่ะ ผู้โดยสารท่านอื่นเอาไปแล้ว รู้สึกเสียดายมาก ตั้ง 10,000 เยนๆๆๆๆ คือเร็วมากอ่ะ
จาก BKK To Tokyo Narita By ANA NH808 เกท D3

มีจอดูหนัง และดูเส้นทางการบิน มีช่องเสียบชาร์ทแบต

อาหารว่างแจกตอนขึ้นเครื่อง

อาหารเช้าของเราเป็นออมเล็ต ของน้องเป็นข้าวต้ม อร่อยดีค่ะ
เมื่อถึง Tokyo Narita Terminal 1 ฝั่ง South Wing พอลงจากเครื่อง ก็เดินตามป้าย Arrivals ถึง Immigration ยื่น passport ให้เจ้าหน้าที่ มองกล้อง เอานิ้วชี้ 2 ข้างวางทาบเครื่อง ไม่ถามอะไรสักคำเลย จากนั้นเดินไปรับกระเป๋า ลงบันไดเลื่อนตามป้าย Railways สักไม่เกินสามร้อยเมตร ก็เจอกับเคาน์เตอร์ขายตั๋วเดินทางของบริษัท Keisei อยู่ทางซ้ายมือ
ข้อมูลการซื้อตั๋ว Keisei Skyliner ดูที่
http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/index.php
Keisei Skyliner – เส้นสีน้ำเงิน รถด่วนของฝั่ง Keisei เดินทางจากสนามบินนานาชาตินาริตะ ผ่านสถานีนิปโปริ สุดปลายทางที่อุเอโนะ ใช้เวลาเพียง 41 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,470
Access Express – เส้นสีส้ม เป็นรถด่วนพิเศษของสาย Keisei ปลายทางอยู่ที่สถานีอุเอโนะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารเที่ยวละ 1,240 เยน
Keisei main line – เส้นสีฟ้า เป็นรถไฟแบบด่วน (Rapid Service) วิ่งจากสนามบินไปสุดปลายทางที่อุเอโนะ แต่สามารถแยกขบวนมาต่อ Toei Asakusa Line ได้ที่สถานี Aoto ใช้เวลาตั้งแต่ 60 – 90 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 1,030 เยน
แต่ถ้าใครพักแถว Shibuya, Shinjuku นั่ง N'EX จะสะดวกกว่าถ้าใครพักแถว Asakusa , ueno นั่งของบริษัท Keise จะสะดวกกว่า
เราเลือกซื้อตั๋ว Skyliner ขาไปและขากลับ + บัตร Tokyo Metro Pass แบบ 1 วัน ¥4,700 ตอนซื้อโชว์พาสปอร์ตและเลือกเวลาออกเดินทางขาไป จะได้ตั๋วเดินทางใบแข็งๆ เล็กๆ มา ในใบนั้นจะบอกเลขตู้ เลขที่นั่ง ก็เดินไปรอที่ตู้ที่ระบุในตั๋วได้เลย ส่วนขากลับยังไม่จองเวลาและที่นั่ง รอจองตอนวันกลับเลย

ภายใน Keisei Skyliner คนน้อยมาก

บรรยากาศระหว่างเดินทางจากนาริตะเข้าเมืองโตเกียว
วิธีการเดินทางด้วย Keisei Skyliner โดยละเอียด ดูจากเวปนี้ได้เลยค่ะ บอกไว้ละเอียดมากๆ
https://tictokyoth.wordpress.com/2016/03/23/keisei-skyliner-ticket/
ที่สนามบินเราแวะที่เคาน์เตอร์ JR east travel service center ด้วยค่ะ อยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ของ Keisei ซื้อบัตร JR TOKYO Wide Pass ราคา 10,000 เยน ใช้ได้ 3 วันโดยต้องใช้ติดกัน ตอนซื้อโชว์พาสปอร์ตและเลือกเวลา จองที่นั่ง เพื่อใช้เดินทางเพื่อไป GALA Yuzawa ในวันพรุ่งนี้ และจองที่นั่ง ไว้เลย และซื้อบัตร Suica ซึ่งเป็นบัตรแทนเงินสด ใช้ขึ้นรถไฟได้ทุกบริษัท รวมทั้งใช้ซื้อของใน 7-11 ได้ด้วย ซื้อไว้ 2,000 เยน ราคาได้รวมค่ามัดจำ 500 เยนแล้ว ถ้าเงินหมดสามารถเติมได้ที่ตู้ และตอนกลับสามารถขอเงินคืนทั้งหมดได้ที่เค้าท์เตอร์ JR ที่สนามบินค่ะ
ข้อมูลซื้อบัตร JR TOKYO Wide Pass ดูที่
http://www.jreast.co.jp/e/customer_support/service_center.html
ถึงสถานี Keisei Ueno เดินตามป้าย JR Ueno มีทางเชื่อมใต้ดิน เมื่อถึงสถานี Ueno เราใช้บัตร Tokyo Metro Pass 1 Day ขึ้นรถสาย Tokyo Metro Hibiya Line ไป KAYABACHO (คำนวณจากค่าโดยสารแล้ววันนี้จะเดินทางเยอะ เลยใช้บัตร Tokyo Metro Pass เลย วันอื่นๆจะออกนอกเมืองเป็นส่วนใหญ่) ออกจากสถานีเดินแป้บนึงก็ถึงที่พักแล้ว ที่พักใกล้สถานีมาก แต่ที่น่าเศร้าคือสถานีไม่มีลิฟท์ ไม่มีบันไดเลื่อน เราสองคนยกกระเป๋า 28 นิ้ว 2 ใบ ขึ้นบันไดสูงมากๆ อากาศหนาวๆ แต่เราเหงื่อตก แต่มีคนญี่ปุ่นใจดีมาช่วยด้วย น่ารักมากๆ
ทางเดินจากสถานีมาที่พัก ไม่ไกลเลย
เราเลือกพักที่โรงแรมนี้เพราะดูจากรีวิวแล้วค่อนข้างโอเคเลย โรงแรมสะอาด การบริการก็ดี ราคาไม่สูงมาก มีอาหารเช้าให้ด้วย สถานที่ก็ไม่พลุกพล่านมาก เป็นย่านธุรกิจ จะเจอกับคนทำงานซะส่วนใหญ่ มีร้านอาหาร มี 7-11 ใกล้ๆ ซึ่งช่วงเช้ามืดหรือดึกๆ ที่เดินเข้าออกโรงแรมก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก
พอ Check In ล้างหน้าแปรงฟัน ฝากกระเป๋า มื้อเที่ยงเราฝากท้องที่ Yoshinoya Kayabacho ซึ่งอยู่ใกล้โรงแรมและใกล้สถานี KAYABACHO

ข้าวหน้าเนื้อ ราคาไม่แพง 760 เยน
ทานข้าวเสร็จแล้วเราใช้บัตร Tokyo Metro Pass 1 Day ขึ้นรถสาย Tokyo Metro Tozai Line จาก KAYABACHO ไป KUDANSHITA Station ออกจากสถานี คุดันชิตะ KUDANSHITA Station ทางออก 1 เพื่อเดินชมซากุระบานรอบๆคลอง

ทางเดินหลังจากข้ามสะพานลอยมาแล้ว เพื่อไปชมซากุระริมคลอง
ชิโดริงาฟุจิ (Chidorigafuchi) เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามมาก แต่วันนี้ซากุระยังบานไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก แต่ก็สวยมากๆ แล้วสำหรับเรา
[CR] รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน ไปดูซากุระบานที่โตเกียว ไปเล่นหิมะ GALA YUZAWA และไปดูฟูจิซังแบบเต็มๆ ตาที่ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ
เป็นทริปที่ตั้งใจมากกกก ที่จะไปดูซากุระที่ญี่ปุ่น เราเลยส่องๆ หาข้อมูลว่าซากุระบานช่วงไหน ก็ดูจากพยากรณ์แล้ว ปี 2559 ฝั่งโตเกียวน่าจะบานสุดๆ ช่วงปลายเดือน มีนาคม ถึง ต้นเมษายน พอดีดูจากข้อมูลลานสกีก็ยังเปิดช่วงนั้นพอดี เราเลยใส่แพลนไปดูหิมะไว้ในโปรแกรม และที่พลาดไม่ได้เราก็เลือกไปดูฟูจิซังโดยเลือกไปที่ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ ก็ลุ้นๆ ว่าจะได้เจอฟูจิซังมั้ย เพราะฟูจิซังขี้อายมากๆ
ทริปนี้เดินทาง 27 มีนาคม – 2 เมษายน 2559 (7 วัน 6 คืน) ครั้งนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ของเราค่ะ ครั้งแรกไปฝั่งคันไซ โอซาก้า เกียวโต ครั้งนี้ไปกัน 2 คนกับน้องที่ทำงาน พักที่โตเกียว 5 คืน และคาวาคูจิโกะ 1 คืน ค่ะ
ตารางการเที่ยวทั้งหมด 7 วัน
DAY 1_กรุงเทพฯ-นาริตะ BY ANA ชินจูกุ ฮาราจูกุ ชิบูย่า
DAY 2_ Gala-Yuzawa – คามาคุระ - พิพิธภัณฑ์ราเมง โยโกฮาม่า
DAY 3_คาวาคูจิโกะ พัก Sunnide Resorrt
DAY 4_ ขึ้นกระเช้า Kachi Kachi Ropeway - เจดีย์แดง (Chureito pagoda)
DAY 5_ตลาดปลา Tsukiji - พระราชวังอิมพีเรียล - ชินจูกุ
DAY 6_สวนอูเอโนะ - วัดเซนโซจิ - โตเกียวสกายทรี - อากิฮาบาระ
DAY 7_ตลาดอเมโยโก - นาริตะ
รีวิว DAY 1-3 ดูได้ที่ http://pantip.com/topic/35763506
รีวิว Day 4-7 ดูได้ที่ http://pantip.com/topic/35778342
ตั๋วเครื่องบิน ทริปนี้จองตั๋วเครื่องบิน ANA ตอนปลายเดือนมิถุนายน 58 ได้ราคา 17,140 บาทต่อคน จองกับเว็บ ANA ประเทศไทย https://www.ana.co.jp/asw/wws/th/t/ ก่อนบินเราโทร Confirm กับ ANA ประเทศไทย ALL NIPPON AIRWAYS CO.LTD.ที่เบอร์ 02-134-2403 , 02-134-2404 , 02-134-2406 , 02-2385121 ก่อน ไฟท์ที่ได้เป็นขาไป 27 มีนาคม 59 เวลา 00.30 น. BKK-TokyoNarita ขากลับ 2 เมษายน 59 TokyoNarita-BKK เวลา 18.00 น.
ที่พัก ที่โตเกียว โซเตตซุเฟรซาอินน์นิฮอมบาชิคายาบาโช (Sotetsu Fresa Inn Nihombashi-Kayabacho) จองผ่าน Agoda โดยจองเป็น 2 ช่วง คือ 27 มี.ค. - 28 มี.ค. 2 คืน อันนี้เป็นเวปของโรงแรม http://fresa-inn.jp/eng/kayabacho/amenity.html เข้าไปดูได้ค่ะว่าโรงแรมมีอะไรให้บ้าง แต่เท่าที่ดูนี่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบมาก นอกจากอุปกรณ์ที่ทุกๆ โรงแรมจะมีแล้ว มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ มีเครื่องซักผ้า มีชุดนอนให้ด้วย อาหารเช้าเป็นเชตขนมปังของ Pronto อร่อยมาก มีให้เลือก 2 เซต เป็นเซต A และ B
จากนั้นก็จะย้ายไปนอนที่คาวาคูจิโกะ 1 คืน โดยจะฝากกระเป๋าไว้กับโรงแรม ก่อนไปเมล์ถามที่โรงแรมก่อนนะคะว่าฝากได้มั้ย ทางโรงแรมตอบเมล์เร็วมาก และ Confirm ว่าได้ ก็จองเลย ส่วนวันที่ 29 มี.ค. จอง Sunnide Resort ผ่าน Janpannican http://www.japanican.com/th/ แล้วกลับมานอนที่ โซเตตซุเฟรซาอินน์นิฮอมบาชิคายาบาโช อีก 3 คืน
ค่าที่พัก
1. โซเตตซุเฟรซาอินน์นิฮอมบาชิคายาบาโช 27 มี.ค. - 28 มี.ค. 2 คืน คืนละ 2,463 บาท รวม 4,927 บาท
2. Sunnide Resort 29 มี.ค. 1 คืน 38,800 เยน ประมาณ 12,125 บาท
3. โซเตตซุเฟรซาอินน์นิฮอมบาชิคายาบาโช 30 มี.ค. - 1 เม.ย. 3 คืน คืนละ 3,321 บาท รวม 9,963 บาท
การเดินทาง เราใช้ดูจากแผนที่ Tokyo Metro ดาวน์โหลดจากเวปนี้ http://www.tokyometro.jp/th/subwaymap/index.html มีข้อมูลเส้นทาง/สถานีและค้นหาค่าโดยสาร/การเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟโตเกียวเมโทรค่ะ
และแผนที่รถไฟของ JR Line ดาวน์โหลดจากเวปนี้ค่ะ http://www.jp-rail-th.com/download/jr-east-railway-lines-map/
เราวางแผนการเดินทาง โดยเปิดตารางรถไฟจากเวป http://www.hyperdia.com/en/ ซึ่งช่วยเราได้มากเลย แล้วรถไฟของญี่ปุ่นนี่ตรงเวลาเป๊ะสุดๆ
DAY 1_กรุงเทพฯ-นาริตะ BY ANA ชินจูกุ ฮาราจูกุ ชิบูย่า
วันเดินทาง ไฟท์ขาไปเวลา 00.30 น. ของวันที่ 27 มีนาคม ดังนั้นเราต้องมา Check in ที่สุวรรณภูมิเวลาประมาณ 22.00 น. ของในวันที่ 26 มีนาคม อันนี้ต้องดูดีๆ นะคะ เพราะไฟท์บินเวลานี้มีคนตกเครื่องเพราะดูวันผิดมาเยอะแล้ว วันเดินทางเรามาถึงก่อนเวลานานเลย ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อาคารขาออก เข้าประตูทางเข้าหมายเลข 4 หรือ 5 เคาน์เตอร์เช็คอินของ ANA อยู่ที่แถว L ค่ะ ตอนที่เรากำลังอยู่เคาน์เตอร์ พนักงานของ ANA มาบอกเราว่าอยากเลื่อนไฟท์เร็วขึ้นมั้ย ออกเดินทางตอน 22.45 น. แต่ไปลงฮานาดะแทน ทางสายการบินจะคืนเงินให้ 10,000 เยน ระหว่างเรากำลังปรึกษากัน แล้วหันไปบอกว่า “ตกลงค่ะ” เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ทันแล้วค่ะ ผู้โดยสารท่านอื่นเอาไปแล้ว รู้สึกเสียดายมาก ตั้ง 10,000 เยนๆๆๆๆ คือเร็วมากอ่ะ
มีจอดูหนัง และดูเส้นทางการบิน มีช่องเสียบชาร์ทแบต
อาหารว่างแจกตอนขึ้นเครื่อง
อาหารเช้าของเราเป็นออมเล็ต ของน้องเป็นข้าวต้ม อร่อยดีค่ะ
ถึงนาริตะตอน 8 โมงเช้า
เมื่อถึง Tokyo Narita Terminal 1 ฝั่ง South Wing พอลงจากเครื่อง ก็เดินตามป้าย Arrivals ถึง Immigration ยื่น passport ให้เจ้าหน้าที่ มองกล้อง เอานิ้วชี้ 2 ข้างวางทาบเครื่อง ไม่ถามอะไรสักคำเลย จากนั้นเดินไปรับกระเป๋า ลงบันไดเลื่อนตามป้าย Railways สักไม่เกินสามร้อยเมตร ก็เจอกับเคาน์เตอร์ขายตั๋วเดินทางของบริษัท Keisei อยู่ทางซ้ายมือ
ข้อมูลการซื้อตั๋ว Keisei Skyliner ดูที่ http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/index.php
Keisei Skyliner – เส้นสีน้ำเงิน รถด่วนของฝั่ง Keisei เดินทางจากสนามบินนานาชาตินาริตะ ผ่านสถานีนิปโปริ สุดปลายทางที่อุเอโนะ ใช้เวลาเพียง 41 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,470
Access Express – เส้นสีส้ม เป็นรถด่วนพิเศษของสาย Keisei ปลายทางอยู่ที่สถานีอุเอโนะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารเที่ยวละ 1,240 เยน
Keisei main line – เส้นสีฟ้า เป็นรถไฟแบบด่วน (Rapid Service) วิ่งจากสนามบินไปสุดปลายทางที่อุเอโนะ แต่สามารถแยกขบวนมาต่อ Toei Asakusa Line ได้ที่สถานี Aoto ใช้เวลาตั้งแต่ 60 – 90 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 1,030 เยน
แต่ถ้าใครพักแถว Shibuya, Shinjuku นั่ง N'EX จะสะดวกกว่าถ้าใครพักแถว Asakusa , ueno นั่งของบริษัท Keise จะสะดวกกว่า
เราเลือกซื้อตั๋ว Skyliner ขาไปและขากลับ + บัตร Tokyo Metro Pass แบบ 1 วัน ¥4,700 ตอนซื้อโชว์พาสปอร์ตและเลือกเวลาออกเดินทางขาไป จะได้ตั๋วเดินทางใบแข็งๆ เล็กๆ มา ในใบนั้นจะบอกเลขตู้ เลขที่นั่ง ก็เดินไปรอที่ตู้ที่ระบุในตั๋วได้เลย ส่วนขากลับยังไม่จองเวลาและที่นั่ง รอจองตอนวันกลับเลย
ภายใน Keisei Skyliner คนน้อยมาก
บรรยากาศระหว่างเดินทางจากนาริตะเข้าเมืองโตเกียว
วิธีการเดินทางด้วย Keisei Skyliner โดยละเอียด ดูจากเวปนี้ได้เลยค่ะ บอกไว้ละเอียดมากๆ https://tictokyoth.wordpress.com/2016/03/23/keisei-skyliner-ticket/
ที่สนามบินเราแวะที่เคาน์เตอร์ JR east travel service center ด้วยค่ะ อยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ของ Keisei ซื้อบัตร JR TOKYO Wide Pass ราคา 10,000 เยน ใช้ได้ 3 วันโดยต้องใช้ติดกัน ตอนซื้อโชว์พาสปอร์ตและเลือกเวลา จองที่นั่ง เพื่อใช้เดินทางเพื่อไป GALA Yuzawa ในวันพรุ่งนี้ และจองที่นั่ง ไว้เลย และซื้อบัตร Suica ซึ่งเป็นบัตรแทนเงินสด ใช้ขึ้นรถไฟได้ทุกบริษัท รวมทั้งใช้ซื้อของใน 7-11 ได้ด้วย ซื้อไว้ 2,000 เยน ราคาได้รวมค่ามัดจำ 500 เยนแล้ว ถ้าเงินหมดสามารถเติมได้ที่ตู้ และตอนกลับสามารถขอเงินคืนทั้งหมดได้ที่เค้าท์เตอร์ JR ที่สนามบินค่ะ
ข้อมูลซื้อบัตร JR TOKYO Wide Pass ดูที่ http://www.jreast.co.jp/e/customer_support/service_center.html
ถึงสถานี Keisei Ueno เดินตามป้าย JR Ueno มีทางเชื่อมใต้ดิน เมื่อถึงสถานี Ueno เราใช้บัตร Tokyo Metro Pass 1 Day ขึ้นรถสาย Tokyo Metro Hibiya Line ไป KAYABACHO (คำนวณจากค่าโดยสารแล้ววันนี้จะเดินทางเยอะ เลยใช้บัตร Tokyo Metro Pass เลย วันอื่นๆจะออกนอกเมืองเป็นส่วนใหญ่) ออกจากสถานีเดินแป้บนึงก็ถึงที่พักแล้ว ที่พักใกล้สถานีมาก แต่ที่น่าเศร้าคือสถานีไม่มีลิฟท์ ไม่มีบันไดเลื่อน เราสองคนยกกระเป๋า 28 นิ้ว 2 ใบ ขึ้นบันไดสูงมากๆ อากาศหนาวๆ แต่เราเหงื่อตก แต่มีคนญี่ปุ่นใจดีมาช่วยด้วย น่ารักมากๆ
เราเลือกพักที่โรงแรมนี้เพราะดูจากรีวิวแล้วค่อนข้างโอเคเลย โรงแรมสะอาด การบริการก็ดี ราคาไม่สูงมาก มีอาหารเช้าให้ด้วย สถานที่ก็ไม่พลุกพล่านมาก เป็นย่านธุรกิจ จะเจอกับคนทำงานซะส่วนใหญ่ มีร้านอาหาร มี 7-11 ใกล้ๆ ซึ่งช่วงเช้ามืดหรือดึกๆ ที่เดินเข้าออกโรงแรมก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก
พอ Check In ล้างหน้าแปรงฟัน ฝากกระเป๋า มื้อเที่ยงเราฝากท้องที่ Yoshinoya Kayabacho ซึ่งอยู่ใกล้โรงแรมและใกล้สถานี KAYABACHO
ข้าวหน้าเนื้อ ราคาไม่แพง 760 เยน
ทานข้าวเสร็จแล้วเราใช้บัตร Tokyo Metro Pass 1 Day ขึ้นรถสาย Tokyo Metro Tozai Line จาก KAYABACHO ไป KUDANSHITA Station ออกจากสถานี คุดันชิตะ KUDANSHITA Station ทางออก 1 เพื่อเดินชมซากุระบานรอบๆคลอง
ทางเดินหลังจากข้ามสะพานลอยมาแล้ว เพื่อไปชมซากุระริมคลอง
ชิโดริงาฟุจิ (Chidorigafuchi) เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามมาก แต่วันนี้ซากุระยังบานไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก แต่ก็สวยมากๆ แล้วสำหรับเรา