สวัสดีค่า วันนี้ตั้งใจจะมาแชร์ประสบการณ์ศัลยกรรมของเราเอง เผื่อใครที่สนใจอยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองให้สวยขึ้นจะได้มีกำลังใจ เพราะเราเองก็เคยเจอความผิดพลาดตอนทำจมูกครั้งแรกซึ่งก็ทำให้ใจเสียไปบ้าง แต่ก็ไม่ยอมแพ้จนกระทั่งเปลี่ยนตัวเองได้สวยสมใจอย่างทุกวันนี้ เรียกได้ว่าถ้ายังไม่สวยเราจะไม่หยุดค่ะ ^^
เกริ่นมาเยอะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ลืมแนะนำตัว ชื่อเมย์นะคะ เดิมเมย์ก็เป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ ม๊ากมาก คนนึง ส่องกระจกดูตัวเองบ่อยๆ แล้วก็รู้สึกว่าอยากจะสวย เริ่มต้นก็อยากทำจมูกเพราะดั้งของเดิมมีน้อยไปหน่อย55 ซึ่งครั้งแรกที่ทำก็เจอแจ็คพอตเลยจ้าเพราะทำออกมาแล้วไม่สวยเลย ปลายจมูกเอียงและสั้น ทำเอาใจเสียไปไม่น้อย
มาดูภาพกันก่อนดีกว่า ภาพก่อนทำค่ะ วัยใสๆ จะเห็นว่าแทบไม่มีดั้งเลย ^^ อีกทั้งโหนกแก้มเยอะ แต่แก้มตอบ ร่องแก้มลึก หน้าล้ำอายุไปมากเลยค่ะ เท่านั้นยังไม่พอ เมย์ยังหน้าผากแบนอีกด้วย โอ้ว ชีวิต T-T เวลาถ่ายรูปเลยต้องเอาผมปิดๆ พร้อมด้วยมุมถ่ายรูปเดิมๆที่ทำให้มั่นใจมากที่สุด
พอคิดว่าอยากจะเปลี่ยนตัวเองให้สวยก็เริ่มด้วยการทำจมูกก่อน แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ ทำแล้วพลาด จมูกเบี้ยว T-T ปลายซิลิโคนก็สั้นไป
ดูแล้วมีดั้งค่ะ แต่ปลายจมูกก็ยังคนสั้น มองด้านข้างแล้วยิ่งเซงค่ะ ดูแปลกๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ ตั้งใจเอาไว้แล้วว่ายังไงชั้นก็ต้องสวย เลยปรึกษากับเพื่อนว่าจะหาหมอที่รับแก้จมูกที่ไหนดี ซึ่งเพื่อนก็แนะนำว่าให้มาทำกับหมอศรัณย์ที่ตอนแรกเมย์ก็ยังไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะจิตตกมาจากการทำจมูกครั้งแรก แต่พอมาคุยกับคุณหมอจริงๆ แล้วก็ผิดคาดค่ะเพราะคุณหมอคุยสนุก แนะนำดีมาก ตอนแรกกะว่าจะให้คุณหมอแก้จมูกอย่างเดียวแต่คุณหมอก็แนะนำให้แก้จมูก กรอโหนกแก้ม ทำตา 2 ชั้น เสริมคาง ทำจมูกโอเพ่น
ฉีด Fat ปรับรูปหน้า (คิดในใจ ^^ ให้หนูทำทั้งหน้าเลยใช่มั้ยคะ)
ทำไมทำเยอะจัง??? หนูตั้งใจมาแก้จมูกนะคะหมอ
คุณหมอศรัณย์อธิบายว่า หนูเป็นคนโหนกแก้มสูง ดูแก้มตอบ ร่องแก้มลึก หน้าผากแบน แถมเป็นแอ่งตรงกลางหน้าผากอีกต่างหาก ส่วนตา 2 ชั้น หลบใน และหนังตาเยอะ ถ้าแก้แค่จมูกที่สั้นและเอียงก็ไม่จบค่ะ ยังไม่สวย ก็ยังดูหน้าเหนื่อยๆ ต้องวางแผนการศัลยกรรมที่คุณหมอศรัณย์เรียกว่า การดีไซน์รูปหน้าค่ะ
ถ้าโหนกแก้มสูง หน้าผากแบน เสริมจมูกมาสวยเลยก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะว่าแต่ละส่วนไม่ได้ถูกออกแบบให้รับกัน
คุณหมอศรัณย์เลยดีไซน์หน้าให้เมย์ใหม่ค่ะ รายละเอียดมากค่ะ แต่ขออธิบายคร่าวๆ แล้วกันน่ะคะ ว่าคุณหมอศรัณย์ดีไซน์ใบหน้าเมย์ยังไงบ้าง
เริ่มจากปัญหาหลักค่ะ โหนกแก้มเลย ตอนนี้โหนกแก้มสูงมาก ต้นเหตุที่ทำให้ร่องแก้มลึก และดูแก้มตอบ ทั้งๆ ที่เนื้อที่แก้มก็ไม่น้อยมาก คุณหมอศรัณย์แนะว่าถ้ากรอโหนกแก้มแล้ว ใบหน้าจะดูเรียวขึ้น ร่องแก้มที่เคยลึกก็จะดูตื้นขึ้นอัตโนมัติ และและแก้มก็จะดูไม่ตอบ แต่ผลพลอยได้ก็คือ ปากค่ะ ปากก็จะดูเล็กลงทันที เพราะว่าถ้าแก้มหายตอบ ปากก็จะดูเล็กลงค่ะ
ต่อมาแก้จมูกให้ตรง เนื่องจากหมอคนเก่าใช้ซิลิโคนที่สั้นเกินไปและวางเบี้ยว คุณหมอศรัณย์ก็บอกว่าจมูกเมย์ควรแก้ดูวิธีโอเพ่นโดยใช้กระดูกซี่โครง ให้จมูกที่สั้นมากดูยาวขึ้น และมีปลายหยดน้ำนิดหน่อยก็พอค่ะ หน้าจะได้ดูมีมิติขึ้น ไหนๆ ก็ไหน เมย์ขอตัดปีกจมูกด้วย แต่คุณหมอไม่ให้ค่ะ
คุณหมอบอกว่าเสริมจมูกให้โด่งยาวเรียวแล้ว จมูกก็จะดึงปีกจมูกให้ดูเล็กลงเอง ไม่ต้องไปเสียงตังเพิ่ม
คุณหมอบอกว่าถ้าปรับหน้าให้ดูเรียวแล้ว แต่ถ้าคางกลมๆ ก็จะดูไม่รับกัน ต้องเสริมปลายคางนิดนึงเพื่อให้ดูหน้าเรียวขึ้น รับกับแก้มและจมูกค่ะ
สุดท้ายคุณหมอศรัณย์บอกว่าเมย์เป็นคนที่ไขมันที่หนังตาเยอะ เป็นตา 2 ชั้นหลบใน เมย์ต้องเขียนอายไลน์เนอร์แต่ละครั้งนี้เส้นใหญ่ๆ ยังมองไม่ค่อยเห็น คุณหมอเลยแนะนำว่าควรทำตา 2 ชั้นด้วย เพื่อให้ดูตาบลิ้งขึ้น จะได้สวยครบสูตรเลยค่ะ อะไรที่เป็นปัญหา คุณหมอก็แนะนำที่ทำพร้อมกันได้ก็ให้แก้ไขไปเลย
ส่วนหน้าผากที่แบนและเป็นแอ่งตรงกลาง คุณหมอก็แนะนำว่าควรจะทำให้มีโหนกหน้าผากนิดนึง จะได้รับกับจมูก เพราะว่าเวลามองจากด้านข้างแล้วจมูกโด่งสวยงาม แต่หน้าผากแบน ก็จะดูแปลกๆ จะต้องเสริมให้มีโหนกหน้าผากและให้มีแอ่งกลางหน้าผากที่ตื้นขึ้น ไม่ได้ใช้ซิลิโคนนะคะ แต่ใช้วิธีฉีด Fat เอาไขมันของเมย์เองมาฉีดที่หน้าผากแทนค่ะ ธรรมชาติปลอดภัยด้วย
ป.ล. ใครสนใจปรึกษาคุณหมอก็ลองโทรไปนัดที่คลีนิกดูนะคะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ
ตอนฟังคุณหมออธิบายเมย์ก็ฟังเพลินไปเลย ก็นั่งนึกภาพตามว่าทำออกมาแล้วจะสวยงั้นงี้
คุณหมอศรัณย์แบ่งการศัลยกรรมเป็น 2 ครั้งค่ะ ครั้งแรกให้แก้จมูก กรอโหนกแก้ม เสริมคาง และทำตา 2 ชั้น หลังจากหายดีแล้วค่อยมาฉีด Fat เพราะจะได้รู้ว่าหน้าใหม่ที่ดีไซน์รูปหน้าออกมาแล้ว ควรฉีดมากน้อยแค่ไหนค่ะ
แต่ถ้าถามความรู้สึกจริงๆ ก็กล้าๆ กลัวๆ นะคะ เพราะดูเป็นการผ่าตัดงานใหญ่และทำเยอะ ทำหลายอย่าง กังวลอยู่เหมือนกัน แต่คุณหมอคุณหมอคุยสนุก แนะนำดีมาก เลยสบายใจ และ มีความเชื่อมั่นในตัวคุณหมอ และเชื่อใจฝีมือคุณหมอด้วย ก็ตัดสินใจทำตั้งแต่ครั้งแรก เพราะคิดว่าไหนๆเราก็มาทางนี้แล้วเนอะ ก็ต้องเดินหน้ากันแบบสุดๆไปเลย ^^
ตัดภาพมาวันผ่าตัดกันเลยดีกว่า ก่อนผ่าก็ถ่ายรูปเล่นลั้ลลา แต่ในใจลึกๆก็รู้สึกกังวล แต่ก็เอาวะ คิดว่าเดี๋ยวชั้นก็จะสวยละ ให้กำลังใจตัวเองกันไป
หลังผ่าตัดเสร็จ ต้องใส่เฝือกที่จมูกก่อนค่ะ บวมน้อยมาก หมอมือเบามากค่ะ
วันที่ 5 หลังผ่าตัด ถอดเฝือกอกแล้ว หน้ายังดูบวมๆอยู่ค่ะ แต่ก็พอเห็นรูปทรงจมูกว่าดูดีขึ้นกว่าเดิมนะ
เดือนครึ่งหลังผ่าตัด จมูกเริ่มพุ่งแล้ว ไม่เบี้ยวแล้วค่า ดีใจมากๆ กล้าถ่ายรูปในมุมใหม่ๆ 555
มาตอนนี้มีแต่คนมาถามว่าไปทำปากมารึเปล่า ตอบเลยว่าไม่ได้ทำค่ะ เป็นอย่างที่คุณหมอศรัณย์บอกจริงๆ ค่ะ พอโหนกหาย แก้มดูตอบลดลง ร่องแก้มตื้น ที่สำคัญ ปากดูเล็กลงทันที่ เมยย์อเมซิ่งตรงนี้จริงๆ ค่ะ ดีน่ะ ไม่ได้ไปเสียเงินทำปากกระจับเพิ่ม
2 เดือน หลังทำจมูก คือดีมากค่ะ หน้าเริ่มเปลี่ยนแล้ว เริ่มฉายแวว อิอิ
ผลออกมาเมย์แฮปปี้มากเลยค่ะ เลยเข้ามานัดคุณหมอเพื่อฉีด Fat ที่หน้าผาก แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เลยปรึกษาคุณหมอศรัณย์ว่าอยากทำนมด้วยค่ะ
เมย์ไม่มีหน้าอกเลยค่ะ เพื่อนชอบล้ออยู่บ่อยๆว่าเป็นกระดานโต้คลื่น ใส่บราคัพเล็กสุดที่มีฟองน้ำ แบบว่าซักไป 3 วันยังไม่แห้ง แบนได้ถึงขนาดนั้น ><
หากนึกไม่ออกว่าแบนขนาดไหน เอาภาพมาให้ดูกันก่อนค่ะ อันนี้เป็นภาพหลังเสริมจมูก แต่ยังไม่ได้ทำหน้าอกค่ะ ดั้งพุ่งแต่นมแบนมาก 555
คุณหมอศรัณย์แนะนำว่าจะเสริมหน้าอก 500 cc.พร้อมกับฉีด fat เติมหน้าไปด้วยกันทีเดียวเลย จริงๆ จะเสริมใหญ่กว่านี้ก็ได้ค่ะ แต่คุณหมอบอกว่าเมย์ตัวเล็กมาก ถ้าใหญ่มากเกินไปอาจจะดูไม่ดี ส่วนซิลิโคนเมย์เลือกซิลิโคนของฝรั้งเศส นิ่มพิเศษ เวลาใส่แล้วเหมือนธรรมชาติค่ะ
ภาพนี้เมย์ถ่ายหลังจากออกห้องผ่าตัดเสริมหน้าอกพร้อมกับฉีด fat ค่ะ ดูโทรมแต่ก็อยากเก็บเอาไว้ดู เพราะเห็นหน้าตัวเองแล้วแบบ เฮ้ย! ร่องแก้มชั้นหายไปแล้ว หน้าดูอิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดูกันชัดๆหลังฉีด fat แล้วค่า ร่องแก้มกับหน้าตอบๆ หายไปแล้ว หน้าดูเด็กลง ส่องกระจกหรือถ่ายรูปออกมาทีไรก็ปลื้มมากๆ ^^
หน้าอกหน้าใจก็ไม่แบนเหมือนเดิมแล้วนะ ใส่บิกินี่ก็มั่นใจมากขึ้น ซึ่งก็ต้องขอบคุณฝีมือของคุณหมอศรัณย์ที่ทำออกมาเนี้ยบมากๆ เป็นธรรมชาติ และที่สำคัญเวลาดันขึ้นมาก็ไม่ได้ดูเป็นก้อนซิลิโคนนะคะ แต่ดูเป็นหน้าอกจริงๆ ขึ้นมา และเวลานอนหน้าอกก็ที่เสริมมาก็เคลื่อนที่เหมือนหน้าอกธรรมชาติ ไม่ได้แข็งทื่อเหมือนที่เคยได้ยินจากที่อื่นมาค่ะ
ตอนแรกตัวบางๆ ว่าหุ่นดีแล้ว พอมีหน้าอกดูมีโค้งเว้าขึ้น ใส่เสื้อผ้าอะไรก็สวยค่ะ ชอบฝุดๆ
ส่วนของใบหน้าและรูปร่างเมย์ก็ค่อนข้างพอใจมากๆ แล้วค่ะ ที่เหลือก็คือเรื่องของผิวพรรณ ซึ่งแต่เดิมผิวเมย์ก็ค่อนข้างคล้ำนิดนึง ไม่ค่อยมีออร่า ไหนๆ ก็จะอัพลุคส์ทั้งทีก็ต้องดูแลกันให้ครบสูตร เมย์เลือกดูแลผิวด้วยการฉีด Superblink ที่คลีนิกคุณหมอศรัณย์ค่ะ ซึ่งเป็นคอร์สของทางคลินิกที่ทำให้ผิวดูใสมีออร่าและเนียนขึ้นมาก เปรียบเทียบกับเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้ดูแลตัวเองจะเห็นว่าต่างกันชัดมาก
ผิวปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้เมย์รู้สึกพอใจกับตัวเองมากๆ เพราะรู้สึกว่าได้เปลี่ยนตัวเองจากผู้หญิงบ้านๆ ให้ดูดีขึ้น และมีความมั่นใจมากขึ้น รู้สึกว่าคุ้มค่ามากค่ะที่ตัดสินใจทำศัลยกรรม
ภาพปัจจุบันที่เปลี่ยนจากเดิมไปเยอะมากๆ แต่ก็ชอบมากเช่นเดียวกันค่ะ ^^
หวังว่าประสบการณ์ที่เมย์นำมาแชร์ให้อ่านนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ให้สวยขึ้นได้นะคะ เพราะหากสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขและมีความมั่นใจมากขึ้น ก็เดินหน้าลุยไปเลยเพราะไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ และที่สำคัญต้องเลือกหมอที่เชี่ยวชาญและมีฝีมือดีด้วย จะทำให้เราสวยขึ้นได้โดยไม่มีอันตรายและไม่มีข้อผิดพลาดค่ะ และขอบคุณเทคนิคดีไซน์รูปหน้าของคุณหมอศรัณย์ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ ^^
[SR] รีวิว (มีรูป) มหากาพย์ศัลยกรรม กับหมอศรัณย์ อินทามระ 43 มาไกลมากจิงๆ
เกริ่นมาเยอะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ลืมแนะนำตัว ชื่อเมย์นะคะ เดิมเมย์ก็เป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ ม๊ากมาก คนนึง ส่องกระจกดูตัวเองบ่อยๆ แล้วก็รู้สึกว่าอยากจะสวย เริ่มต้นก็อยากทำจมูกเพราะดั้งของเดิมมีน้อยไปหน่อย55 ซึ่งครั้งแรกที่ทำก็เจอแจ็คพอตเลยจ้าเพราะทำออกมาแล้วไม่สวยเลย ปลายจมูกเอียงและสั้น ทำเอาใจเสียไปไม่น้อย
มาดูภาพกันก่อนดีกว่า ภาพก่อนทำค่ะ วัยใสๆ จะเห็นว่าแทบไม่มีดั้งเลย ^^ อีกทั้งโหนกแก้มเยอะ แต่แก้มตอบ ร่องแก้มลึก หน้าล้ำอายุไปมากเลยค่ะ เท่านั้นยังไม่พอ เมย์ยังหน้าผากแบนอีกด้วย โอ้ว ชีวิต T-T เวลาถ่ายรูปเลยต้องเอาผมปิดๆ พร้อมด้วยมุมถ่ายรูปเดิมๆที่ทำให้มั่นใจมากที่สุด
พอคิดว่าอยากจะเปลี่ยนตัวเองให้สวยก็เริ่มด้วยการทำจมูกก่อน แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ ทำแล้วพลาด จมูกเบี้ยว T-T ปลายซิลิโคนก็สั้นไป
ดูแล้วมีดั้งค่ะ แต่ปลายจมูกก็ยังคนสั้น มองด้านข้างแล้วยิ่งเซงค่ะ ดูแปลกๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ ตั้งใจเอาไว้แล้วว่ายังไงชั้นก็ต้องสวย เลยปรึกษากับเพื่อนว่าจะหาหมอที่รับแก้จมูกที่ไหนดี ซึ่งเพื่อนก็แนะนำว่าให้มาทำกับหมอศรัณย์ที่ตอนแรกเมย์ก็ยังไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะจิตตกมาจากการทำจมูกครั้งแรก แต่พอมาคุยกับคุณหมอจริงๆ แล้วก็ผิดคาดค่ะเพราะคุณหมอคุยสนุก แนะนำดีมาก ตอนแรกกะว่าจะให้คุณหมอแก้จมูกอย่างเดียวแต่คุณหมอก็แนะนำให้แก้จมูก กรอโหนกแก้ม ทำตา 2 ชั้น เสริมคาง ทำจมูกโอเพ่น
ฉีด Fat ปรับรูปหน้า (คิดในใจ ^^ ให้หนูทำทั้งหน้าเลยใช่มั้ยคะ)
ทำไมทำเยอะจัง??? หนูตั้งใจมาแก้จมูกนะคะหมอ
คุณหมอศรัณย์อธิบายว่า หนูเป็นคนโหนกแก้มสูง ดูแก้มตอบ ร่องแก้มลึก หน้าผากแบน แถมเป็นแอ่งตรงกลางหน้าผากอีกต่างหาก ส่วนตา 2 ชั้น หลบใน และหนังตาเยอะ ถ้าแก้แค่จมูกที่สั้นและเอียงก็ไม่จบค่ะ ยังไม่สวย ก็ยังดูหน้าเหนื่อยๆ ต้องวางแผนการศัลยกรรมที่คุณหมอศรัณย์เรียกว่า การดีไซน์รูปหน้าค่ะ
ถ้าโหนกแก้มสูง หน้าผากแบน เสริมจมูกมาสวยเลยก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะว่าแต่ละส่วนไม่ได้ถูกออกแบบให้รับกัน
คุณหมอศรัณย์เลยดีไซน์หน้าให้เมย์ใหม่ค่ะ รายละเอียดมากค่ะ แต่ขออธิบายคร่าวๆ แล้วกันน่ะคะ ว่าคุณหมอศรัณย์ดีไซน์ใบหน้าเมย์ยังไงบ้าง
เริ่มจากปัญหาหลักค่ะ โหนกแก้มเลย ตอนนี้โหนกแก้มสูงมาก ต้นเหตุที่ทำให้ร่องแก้มลึก และดูแก้มตอบ ทั้งๆ ที่เนื้อที่แก้มก็ไม่น้อยมาก คุณหมอศรัณย์แนะว่าถ้ากรอโหนกแก้มแล้ว ใบหน้าจะดูเรียวขึ้น ร่องแก้มที่เคยลึกก็จะดูตื้นขึ้นอัตโนมัติ และและแก้มก็จะดูไม่ตอบ แต่ผลพลอยได้ก็คือ ปากค่ะ ปากก็จะดูเล็กลงทันที เพราะว่าถ้าแก้มหายตอบ ปากก็จะดูเล็กลงค่ะ
ต่อมาแก้จมูกให้ตรง เนื่องจากหมอคนเก่าใช้ซิลิโคนที่สั้นเกินไปและวางเบี้ยว คุณหมอศรัณย์ก็บอกว่าจมูกเมย์ควรแก้ดูวิธีโอเพ่นโดยใช้กระดูกซี่โครง ให้จมูกที่สั้นมากดูยาวขึ้น และมีปลายหยดน้ำนิดหน่อยก็พอค่ะ หน้าจะได้ดูมีมิติขึ้น ไหนๆ ก็ไหน เมย์ขอตัดปีกจมูกด้วย แต่คุณหมอไม่ให้ค่ะ
คุณหมอบอกว่าถ้าปรับหน้าให้ดูเรียวแล้ว แต่ถ้าคางกลมๆ ก็จะดูไม่รับกัน ต้องเสริมปลายคางนิดนึงเพื่อให้ดูหน้าเรียวขึ้น รับกับแก้มและจมูกค่ะ
สุดท้ายคุณหมอศรัณย์บอกว่าเมย์เป็นคนที่ไขมันที่หนังตาเยอะ เป็นตา 2 ชั้นหลบใน เมย์ต้องเขียนอายไลน์เนอร์แต่ละครั้งนี้เส้นใหญ่ๆ ยังมองไม่ค่อยเห็น คุณหมอเลยแนะนำว่าควรทำตา 2 ชั้นด้วย เพื่อให้ดูตาบลิ้งขึ้น จะได้สวยครบสูตรเลยค่ะ อะไรที่เป็นปัญหา คุณหมอก็แนะนำที่ทำพร้อมกันได้ก็ให้แก้ไขไปเลย
ส่วนหน้าผากที่แบนและเป็นแอ่งตรงกลาง คุณหมอก็แนะนำว่าควรจะทำให้มีโหนกหน้าผากนิดนึง จะได้รับกับจมูก เพราะว่าเวลามองจากด้านข้างแล้วจมูกโด่งสวยงาม แต่หน้าผากแบน ก็จะดูแปลกๆ จะต้องเสริมให้มีโหนกหน้าผากและให้มีแอ่งกลางหน้าผากที่ตื้นขึ้น ไม่ได้ใช้ซิลิโคนนะคะ แต่ใช้วิธีฉีด Fat เอาไขมันของเมย์เองมาฉีดที่หน้าผากแทนค่ะ ธรรมชาติปลอดภัยด้วย
ป.ล. ใครสนใจปรึกษาคุณหมอก็ลองโทรไปนัดที่คลีนิกดูนะคะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ
ตอนฟังคุณหมออธิบายเมย์ก็ฟังเพลินไปเลย ก็นั่งนึกภาพตามว่าทำออกมาแล้วจะสวยงั้นงี้
คุณหมอศรัณย์แบ่งการศัลยกรรมเป็น 2 ครั้งค่ะ ครั้งแรกให้แก้จมูก กรอโหนกแก้ม เสริมคาง และทำตา 2 ชั้น หลังจากหายดีแล้วค่อยมาฉีด Fat เพราะจะได้รู้ว่าหน้าใหม่ที่ดีไซน์รูปหน้าออกมาแล้ว ควรฉีดมากน้อยแค่ไหนค่ะ
แต่ถ้าถามความรู้สึกจริงๆ ก็กล้าๆ กลัวๆ นะคะ เพราะดูเป็นการผ่าตัดงานใหญ่และทำเยอะ ทำหลายอย่าง กังวลอยู่เหมือนกัน แต่คุณหมอคุณหมอคุยสนุก แนะนำดีมาก เลยสบายใจ และ มีความเชื่อมั่นในตัวคุณหมอ และเชื่อใจฝีมือคุณหมอด้วย ก็ตัดสินใจทำตั้งแต่ครั้งแรก เพราะคิดว่าไหนๆเราก็มาทางนี้แล้วเนอะ ก็ต้องเดินหน้ากันแบบสุดๆไปเลย ^^
ตัดภาพมาวันผ่าตัดกันเลยดีกว่า ก่อนผ่าก็ถ่ายรูปเล่นลั้ลลา แต่ในใจลึกๆก็รู้สึกกังวล แต่ก็เอาวะ คิดว่าเดี๋ยวชั้นก็จะสวยละ ให้กำลังใจตัวเองกันไป
หลังผ่าตัดเสร็จ ต้องใส่เฝือกที่จมูกก่อนค่ะ บวมน้อยมาก หมอมือเบามากค่ะ
วันที่ 5 หลังผ่าตัด ถอดเฝือกอกแล้ว หน้ายังดูบวมๆอยู่ค่ะ แต่ก็พอเห็นรูปทรงจมูกว่าดูดีขึ้นกว่าเดิมนะ
เดือนครึ่งหลังผ่าตัด จมูกเริ่มพุ่งแล้ว ไม่เบี้ยวแล้วค่า ดีใจมากๆ กล้าถ่ายรูปในมุมใหม่ๆ 555
มาตอนนี้มีแต่คนมาถามว่าไปทำปากมารึเปล่า ตอบเลยว่าไม่ได้ทำค่ะ เป็นอย่างที่คุณหมอศรัณย์บอกจริงๆ ค่ะ พอโหนกหาย แก้มดูตอบลดลง ร่องแก้มตื้น ที่สำคัญ ปากดูเล็กลงทันที่ เมยย์อเมซิ่งตรงนี้จริงๆ ค่ะ ดีน่ะ ไม่ได้ไปเสียเงินทำปากกระจับเพิ่ม
2 เดือน หลังทำจมูก คือดีมากค่ะ หน้าเริ่มเปลี่ยนแล้ว เริ่มฉายแวว อิอิ
ผลออกมาเมย์แฮปปี้มากเลยค่ะ เลยเข้ามานัดคุณหมอเพื่อฉีด Fat ที่หน้าผาก แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เลยปรึกษาคุณหมอศรัณย์ว่าอยากทำนมด้วยค่ะ
เมย์ไม่มีหน้าอกเลยค่ะ เพื่อนชอบล้ออยู่บ่อยๆว่าเป็นกระดานโต้คลื่น ใส่บราคัพเล็กสุดที่มีฟองน้ำ แบบว่าซักไป 3 วันยังไม่แห้ง แบนได้ถึงขนาดนั้น ><
หากนึกไม่ออกว่าแบนขนาดไหน เอาภาพมาให้ดูกันก่อนค่ะ อันนี้เป็นภาพหลังเสริมจมูก แต่ยังไม่ได้ทำหน้าอกค่ะ ดั้งพุ่งแต่นมแบนมาก 555
คุณหมอศรัณย์แนะนำว่าจะเสริมหน้าอก 500 cc.พร้อมกับฉีด fat เติมหน้าไปด้วยกันทีเดียวเลย จริงๆ จะเสริมใหญ่กว่านี้ก็ได้ค่ะ แต่คุณหมอบอกว่าเมย์ตัวเล็กมาก ถ้าใหญ่มากเกินไปอาจจะดูไม่ดี ส่วนซิลิโคนเมย์เลือกซิลิโคนของฝรั้งเศส นิ่มพิเศษ เวลาใส่แล้วเหมือนธรรมชาติค่ะ
ภาพนี้เมย์ถ่ายหลังจากออกห้องผ่าตัดเสริมหน้าอกพร้อมกับฉีด fat ค่ะ ดูโทรมแต่ก็อยากเก็บเอาไว้ดู เพราะเห็นหน้าตัวเองแล้วแบบ เฮ้ย! ร่องแก้มชั้นหายไปแล้ว หน้าดูอิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดูกันชัดๆหลังฉีด fat แล้วค่า ร่องแก้มกับหน้าตอบๆ หายไปแล้ว หน้าดูเด็กลง ส่องกระจกหรือถ่ายรูปออกมาทีไรก็ปลื้มมากๆ ^^
หน้าอกหน้าใจก็ไม่แบนเหมือนเดิมแล้วนะ ใส่บิกินี่ก็มั่นใจมากขึ้น ซึ่งก็ต้องขอบคุณฝีมือของคุณหมอศรัณย์ที่ทำออกมาเนี้ยบมากๆ เป็นธรรมชาติ และที่สำคัญเวลาดันขึ้นมาก็ไม่ได้ดูเป็นก้อนซิลิโคนนะคะ แต่ดูเป็นหน้าอกจริงๆ ขึ้นมา และเวลานอนหน้าอกก็ที่เสริมมาก็เคลื่อนที่เหมือนหน้าอกธรรมชาติ ไม่ได้แข็งทื่อเหมือนที่เคยได้ยินจากที่อื่นมาค่ะ
ตอนแรกตัวบางๆ ว่าหุ่นดีแล้ว พอมีหน้าอกดูมีโค้งเว้าขึ้น ใส่เสื้อผ้าอะไรก็สวยค่ะ ชอบฝุดๆ
ส่วนของใบหน้าและรูปร่างเมย์ก็ค่อนข้างพอใจมากๆ แล้วค่ะ ที่เหลือก็คือเรื่องของผิวพรรณ ซึ่งแต่เดิมผิวเมย์ก็ค่อนข้างคล้ำนิดนึง ไม่ค่อยมีออร่า ไหนๆ ก็จะอัพลุคส์ทั้งทีก็ต้องดูแลกันให้ครบสูตร เมย์เลือกดูแลผิวด้วยการฉีด Superblink ที่คลีนิกคุณหมอศรัณย์ค่ะ ซึ่งเป็นคอร์สของทางคลินิกที่ทำให้ผิวดูใสมีออร่าและเนียนขึ้นมาก เปรียบเทียบกับเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้ดูแลตัวเองจะเห็นว่าต่างกันชัดมาก
ผิวปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้เมย์รู้สึกพอใจกับตัวเองมากๆ เพราะรู้สึกว่าได้เปลี่ยนตัวเองจากผู้หญิงบ้านๆ ให้ดูดีขึ้น และมีความมั่นใจมากขึ้น รู้สึกว่าคุ้มค่ามากค่ะที่ตัดสินใจทำศัลยกรรม
ภาพปัจจุบันที่เปลี่ยนจากเดิมไปเยอะมากๆ แต่ก็ชอบมากเช่นเดียวกันค่ะ ^^
หวังว่าประสบการณ์ที่เมย์นำมาแชร์ให้อ่านนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ให้สวยขึ้นได้นะคะ เพราะหากสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขและมีความมั่นใจมากขึ้น ก็เดินหน้าลุยไปเลยเพราะไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ และที่สำคัญต้องเลือกหมอที่เชี่ยวชาญและมีฝีมือดีด้วย จะทำให้เราสวยขึ้นได้โดยไม่มีอันตรายและไม่มีข้อผิดพลาดค่ะ และขอบคุณเทคนิคดีไซน์รูปหน้าของคุณหมอศรัณย์ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ ^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น