มาพูดถึงเรื่อง ทีเซอ ก่อนน่ะครับ
มันเป็นหนังที่เริ่มต้นทำ ทีเซอร์ได้บาดใจมาก ซึ่งนั้นทำให้ดึงดูดลูกค้าได้มากที่สุด และตรงนี้ทำให้ขุนพันธ์เป็นหนึ่งในหนังที่อยู่ในลิสของคนไทยเกือบทุกคนที่จะต้องดู เหตุเพราะว่าทีเซอร์ทำได้ดี การตัดต่อ การเริ่ม10วินาทีแรกของทีเซอ มันโชวให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของหนังไทย ที่จะมาขนานข้างแนวหนังฮอลีวู๊ดได้ อย่างไม่น่าเชื่อ การตัดต่อแต่ละฉากมาใส่ อย่างพี่น้อยพูดกับอนันดา หรือจะช่วงที่กรีดร้อง แล้วสลับมาที่ อนันดาเตรียมตัวทำไสยศาสตร์เพื่อไปจัดการกับโจร อันนี้ เป็นถือว่า ดึงดูดคนดูให้อยากรุ้ว่า ถ้าสองตัวมหากาพ มาเจอกัน แล้วจะเกิดอะไรขึ้น! และทีเซอก็ทำออกมาได้ดี.....
มาพูดถึงหนังบ้าง
ถ้าถามถึง หนังที่ออกแนวย้อนอดีตในสมัยก่อน สมัยที่ยังไม่ได้อยู่ในยุคไฮเทค หรือปัจจุบัน สีผิวของหนัง จะออกแนวโทนวินเทจ หรือน้ำตาลๆนิดหน่อย ซึ่งการเลือกสีโทน ก็ทำได้ดี พอรับได้......สิ่งที่ทำให้หนังชูโรงขึ้นมานิดนึง การเล่น close up ของนักสแดงหลัก อย่างอนันดา และน้อย ช่วงเวลาเปิดตัว ของสองคนนี้ทำให้มีความน่าเกรงขามขึ้น เพราะการถ่ายภาพ close up ได้ดี....แต่ทำไม เมื่อเอาหนังทั้งหมด บวกกับเนื้อเรื่อง และ flow ต่างๆ มารวมกัน มันถึงกับขนาด แย่ลงเรื่อยๆ เพราะอะไร.....
1 การเปิดเรื่อง...ถึงแม้จะมีการถ่ายมุมกล้องที่สวย แต่การเรียงลำดับ story line ทำเร็วมาก และเปิดมาแบบงงๆ ซึ้งทำให้เห็นช่องว่างว่า คุณสามารถทำได้ดีกว่านี้
2 การเล่าเรื่อง....แอบดีใจเล็กน้อย ที่ไม่ได้เหมือนกับ หนังอันธพาล ครองเมือง ที่เล่าเรื่องโดย คนมาเล่า และสลับกับหนัง. ถึงแม้หนังจะออกมา โชวแต่ละตัวแสดง โชวความเป็นมาของพระเอกและตัวร้าย พยามแสดงให้เหมือนกาลเล่าเรื่องของหนังบางเรื่อง ที่เคยมีมาในฮอลิวู๊ด แต่กลับกัน มันกลับดูยาก และซับซ้อน สิ่งที่ควรเน้น กลับไม่เน้น สิ่งที่ไม่ควรเน้น กลับเน้น ซึ่งตรงนี้ เหมือนเป็นทั้งหมดของหนัง และได้ทำพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
3 เรียงลำดับความสำคัญ....การทำให้คนดูคล้อยตาม เป็นสิ่งที่ผู้กำกับ ต้องพยายามทำตลอด 1ชั่วโมงกว่าของหนัง ซึ่งตรงนี้ ขุนพันธ์ทำได้มาระดับนึง แต่ถามว่ามันสามารถทำได้กว่านี้ไหม? ขุนพันธ์ เป็นหนังที่สามารถสร้างให้ยิ่งใหญ่ได้กว่านี้ เพราะฉนั้น การรับรู้ถึงจุดที่สำคัญต่างๆ ผกก ต้องเน้นมากกว่านี้ เพราะมันทำได้มากกว่านี้
4 ประเภทของหนัง....หนังที่ดี และมีคุณค่า เป็นหนังที่ประกอบไปด้วยหลากหลายอารมณ์ แต่ในขณะเดียวกันจะไม่ทิ้งอารมณ์หลักของเรื่อง ซึ่งขุนพันธ์ สร้างออกมาให้เห็นว่าเป็นหนัง action, drama และทั้งเรื่องก็มีแค่นี้จริงๆ ไม่มีอารมอื่นเข้ามาทำให้คนดูได้สำผัสเลย จรึงทำให้หนังดู หมอง และยากที่จะดึงคนให้เล่นถึงความรุ้สึกตามเนื่อเรื่อง เพราะว่า จะมีดราม่าทั้งเรื่องจริงๆ มันต้องทำดีจริงๆ ถ้าทำไม่ได้ ก็คงต้องใช้ประเภทอื่นมาช่วย
5 เอฟเฟค.....หนังไทย เป็นหนังที่ทำเอฟเฟคให้เสมือนจริงได้ยาก ผมก็ไม่รุ้เพราะอะไร แต่นั้นก็เป็นปกติของหนังไทย มันไม่สามารถเทียบกับต่างประเทศได้เลย ซึ่งตรงนี้ มีฉากหลักๆ เช่น ฉากรถไฟ ฉาก แทงกันเลือดสาด
6 ตัวละคร....หนังชื่อว่า ขุนพันธ์ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ ปูเรื่องให้ขุนพันธ์ คนอยากรู้เรื่องราวของขุนพันธ์ แต่อย่างที่บอก มันกลับตรงกันข้าม ทำให้ตัวละครพระเอก ดันเป็นที่สนใจน้อยกว่าตัวร้าย ถ้าเรื่อนี้ตั้งชื่อว่า ขุนพันธ์ และจอมโจร จะเห็นภาพกว่านี้ ส่วนตัวอนันดา เป็นพระเอกที่เหมือนจะเก่ง แต่หนังกลับโชวถึงว่า เป็นพระเอกที่ ก็คือเก่งบ้าง และอยู่ดีๆ ก็ไม่เก่งบ้าง และอยุ่ดีๆ ก็บุคลิค ไม่เหมือนผู้นำตำรวจ และอยู่ดีๆ ก็กลับไปเก่งอีกซะงั้น...ทำให้คนดู เห็นว่า ขุนพันธ์ อาจจะไม่ใช่ที่สุด
จากนี้ไปในฐานะคนเรียนด้าน หนัง และสื่อ จะให้ความพยายามไปทั้งหมด 3/10
รีวิว ขุนพันธ์ By Em 3/10 พยายามช่วยเต็มที่ ได้แค่นี้จริงๆ TT
มันเป็นหนังที่เริ่มต้นทำ ทีเซอร์ได้บาดใจมาก ซึ่งนั้นทำให้ดึงดูดลูกค้าได้มากที่สุด และตรงนี้ทำให้ขุนพันธ์เป็นหนึ่งในหนังที่อยู่ในลิสของคนไทยเกือบทุกคนที่จะต้องดู เหตุเพราะว่าทีเซอร์ทำได้ดี การตัดต่อ การเริ่ม10วินาทีแรกของทีเซอ มันโชวให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของหนังไทย ที่จะมาขนานข้างแนวหนังฮอลีวู๊ดได้ อย่างไม่น่าเชื่อ การตัดต่อแต่ละฉากมาใส่ อย่างพี่น้อยพูดกับอนันดา หรือจะช่วงที่กรีดร้อง แล้วสลับมาที่ อนันดาเตรียมตัวทำไสยศาสตร์เพื่อไปจัดการกับโจร อันนี้ เป็นถือว่า ดึงดูดคนดูให้อยากรุ้ว่า ถ้าสองตัวมหากาพ มาเจอกัน แล้วจะเกิดอะไรขึ้น! และทีเซอก็ทำออกมาได้ดี.....
มาพูดถึงหนังบ้าง
ถ้าถามถึง หนังที่ออกแนวย้อนอดีตในสมัยก่อน สมัยที่ยังไม่ได้อยู่ในยุคไฮเทค หรือปัจจุบัน สีผิวของหนัง จะออกแนวโทนวินเทจ หรือน้ำตาลๆนิดหน่อย ซึ่งการเลือกสีโทน ก็ทำได้ดี พอรับได้......สิ่งที่ทำให้หนังชูโรงขึ้นมานิดนึง การเล่น close up ของนักสแดงหลัก อย่างอนันดา และน้อย ช่วงเวลาเปิดตัว ของสองคนนี้ทำให้มีความน่าเกรงขามขึ้น เพราะการถ่ายภาพ close up ได้ดี....แต่ทำไม เมื่อเอาหนังทั้งหมด บวกกับเนื้อเรื่อง และ flow ต่างๆ มารวมกัน มันถึงกับขนาด แย่ลงเรื่อยๆ เพราะอะไร.....
1 การเปิดเรื่อง...ถึงแม้จะมีการถ่ายมุมกล้องที่สวย แต่การเรียงลำดับ story line ทำเร็วมาก และเปิดมาแบบงงๆ ซึ้งทำให้เห็นช่องว่างว่า คุณสามารถทำได้ดีกว่านี้
2 การเล่าเรื่อง....แอบดีใจเล็กน้อย ที่ไม่ได้เหมือนกับ หนังอันธพาล ครองเมือง ที่เล่าเรื่องโดย คนมาเล่า และสลับกับหนัง. ถึงแม้หนังจะออกมา โชวแต่ละตัวแสดง โชวความเป็นมาของพระเอกและตัวร้าย พยามแสดงให้เหมือนกาลเล่าเรื่องของหนังบางเรื่อง ที่เคยมีมาในฮอลิวู๊ด แต่กลับกัน มันกลับดูยาก และซับซ้อน สิ่งที่ควรเน้น กลับไม่เน้น สิ่งที่ไม่ควรเน้น กลับเน้น ซึ่งตรงนี้ เหมือนเป็นทั้งหมดของหนัง และได้ทำพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
3 เรียงลำดับความสำคัญ....การทำให้คนดูคล้อยตาม เป็นสิ่งที่ผู้กำกับ ต้องพยายามทำตลอด 1ชั่วโมงกว่าของหนัง ซึ่งตรงนี้ ขุนพันธ์ทำได้มาระดับนึง แต่ถามว่ามันสามารถทำได้กว่านี้ไหม? ขุนพันธ์ เป็นหนังที่สามารถสร้างให้ยิ่งใหญ่ได้กว่านี้ เพราะฉนั้น การรับรู้ถึงจุดที่สำคัญต่างๆ ผกก ต้องเน้นมากกว่านี้ เพราะมันทำได้มากกว่านี้
4 ประเภทของหนัง....หนังที่ดี และมีคุณค่า เป็นหนังที่ประกอบไปด้วยหลากหลายอารมณ์ แต่ในขณะเดียวกันจะไม่ทิ้งอารมณ์หลักของเรื่อง ซึ่งขุนพันธ์ สร้างออกมาให้เห็นว่าเป็นหนัง action, drama และทั้งเรื่องก็มีแค่นี้จริงๆ ไม่มีอารมอื่นเข้ามาทำให้คนดูได้สำผัสเลย จรึงทำให้หนังดู หมอง และยากที่จะดึงคนให้เล่นถึงความรุ้สึกตามเนื่อเรื่อง เพราะว่า จะมีดราม่าทั้งเรื่องจริงๆ มันต้องทำดีจริงๆ ถ้าทำไม่ได้ ก็คงต้องใช้ประเภทอื่นมาช่วย
5 เอฟเฟค.....หนังไทย เป็นหนังที่ทำเอฟเฟคให้เสมือนจริงได้ยาก ผมก็ไม่รุ้เพราะอะไร แต่นั้นก็เป็นปกติของหนังไทย มันไม่สามารถเทียบกับต่างประเทศได้เลย ซึ่งตรงนี้ มีฉากหลักๆ เช่น ฉากรถไฟ ฉาก แทงกันเลือดสาด
6 ตัวละคร....หนังชื่อว่า ขุนพันธ์ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ ปูเรื่องให้ขุนพันธ์ คนอยากรู้เรื่องราวของขุนพันธ์ แต่อย่างที่บอก มันกลับตรงกันข้าม ทำให้ตัวละครพระเอก ดันเป็นที่สนใจน้อยกว่าตัวร้าย ถ้าเรื่อนี้ตั้งชื่อว่า ขุนพันธ์ และจอมโจร จะเห็นภาพกว่านี้ ส่วนตัวอนันดา เป็นพระเอกที่เหมือนจะเก่ง แต่หนังกลับโชวถึงว่า เป็นพระเอกที่ ก็คือเก่งบ้าง และอยู่ดีๆ ก็ไม่เก่งบ้าง และอยุ่ดีๆ ก็บุคลิค ไม่เหมือนผู้นำตำรวจ และอยู่ดีๆ ก็กลับไปเก่งอีกซะงั้น...ทำให้คนดู เห็นว่า ขุนพันธ์ อาจจะไม่ใช่ที่สุด
จากนี้ไปในฐานะคนเรียนด้าน หนัง และสื่อ จะให้ความพยายามไปทั้งหมด 3/10