๑ คู่สมรส
♪ ฉันอยากจะหยุดเวลานี้ ♪
ตั้งแต่วินาที
ที่ชีวิตมีเธอ เข้ามา
เธอทำให้คนที่เหนื่อยล้า
นั้นกล้า จะเปิดหัวใจ
หยุด หยุดชีวิต
หยุดกับคนนี้
แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรักทั้งหัวใจ
♪ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว ♪
เพลงป๊อปคุ้นหูถูกเปิดขึ้นในงานพิธีมงคลในค่ำคืนนี้และความหมายของมันช่างเป็นความหมายที่ลึกซึ้งที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมากเพียง
แค่คนสองคนเท่านั้นที่เข้าใจมันดีกว่าใครๆ เพลงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆพร้อมมีภาพคู่ชายหญิงที่ถูกฉายบนจอโปรเจ็คเตอร์นั้นคอยส่ง
ยิ้มส่งความสุขให้แก่กันเพราะมันแสดงออกมาทางสายตาของคนทั้งคู่และในตาทั้งสองต่างส่งคำสัญญาให้แก่กันและกันว่าจะอยู่ด้วยกัน
อย่างนี้ตลอดไป
‘ภีมรดา’ หญิงสาวสวยรวยเสน่ห์ หุ่นเธออรชรและสูงเหมือนกับนางแบบก็ไม่ปานด้วยความสูงถึงร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรเลยทำให้
เธอดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ผมของเธอตรงดำยาวถึงกลางหลังราวกับได้รับการดูแลเป็นย่างดี ผิวเธอเนียนและนวลเป็นสีน้ำผึ้งชวนน่า
หลงใหล ใครๆก็รู้จักเธอเป็นอย่างดีเพราะเธออัธยาศัยดี คุยเก่ง มีน้ำใจชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครจะหลงรักเธอ
ผู้ชายมากหน้าหลายตาล้วนสนใจเธอทั้งสิ้น และเธอยังเป็นเจ้าของรีสอร์ท ‘ปลายฟ้า’ ซึ่งชื่อนี้ก็ถูกตั้งขึ้นตามชื่อเล่นของเธอและ
ในวัยเพียงยี่สิบห้าปีเธอก็ต้องรับมรดกสืบต่อจากพ่อและแม่ของเธอให้ดูแลรีสอร์ทแห่งนี้แทนเพราะท่านทั้งสองสุขภาพก็ไม่ค่อย
แข็งแรงนัก ท่านจึงยกทุกสิ่งทุกอย่างให้ลูกสาวคนเดียวของพวกท่านเป็นคนจัดการทั้งหมด
คืนนี้เธอมาร่วมฉลองงานแต่งงานของพี่ชายเธอด้วยชุดเดรสเกาะอกสั้นสีขาวซึ่งเป็นชุดที่เรียบๆไม่ได้ตกแต่งอะไรแต่เครื่องประดับ
หรูราคาแพงที่ถูกแต่งอยู่บนตัวเธอนั้นล้วนเป็นจุดสนใจของใครหลายคน ทั้งสร้อยคอ ต่างหูและนาฬิกาคู่ใจของเธอ ด้วยเธอมีหุ่นที่ลงตัว
ไม่ว่าจะใส่อะไรก็ดูดีและยังเป็นที่สนใจของใครหลายคนโดยเฉพาะเพศตรงข้าม
“อ้าว ฟ้า มาแล้วหรอ เร็วเข้าๆมาถ่ายรูปกัน” เสียงชายหนุ่มเรียกเธออย่างสนิทสนมพร้อมกวักมือเรียกเพื่อแสดงท่าทางว่าตนอยู่ตรงนี้
ภีมรดาเมื่อได้ยินเสียงเรียกเธอสะดุ้งโหยงจนได้สติเพราะเธอกำลังคิดอะไรเพลินๆตั้งแต่เดินเข้ามาในงานและเธออยากจะเข้าไปต่อว่า
คนที่เรียกเธอนักเพรามันทำให้เธอเผลอทำตัวตกใจจนเสียบุคลิกอันน่ารักของเธอไป
“โห เรียกซะตกใจหมดเลยพี่ป้อง” ‘ปรวัตณ์’ บอสหนุ่มไฟแรงเป็นที่หมายปองของสาวๆหลายคนในที่ทำงาน เขาเป็นเจ้าของบริษัท
ส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ที่ถูกส่งต่อมาจากพ่อของเขา และบุคลิกของเขาสูงมาดเท่ห์และดูแลตัวเองเป็นอย่างดีตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า
เพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ แต่วันนี้เป็นงานมงคลสมรสของชายหนุ่มและภรรยาสุดสวยอย่าง ‘สุตรา’ ซึ่งเป็นเลขา
คนสนิทของชายหนุ่มและด้วยความสนิทนี่เองที่ทำให้ทั้งคู่ครองรักกัน และก็เป็นเหตุให้สาวๆหลายคนอกหักกันเป็นแถวๆรวมถึง ‘เพทาย’
ผู้เป็นเพื่อนสนิทของภีมรดาด้วย ที่แอบชอบพี่ชายของเธอเหมือนกับสาวๆเหล่านั้น
“เหม่ออะไรอยู่ล่ะ หรือว่าถูกใจผู้ชายคนไหนในงานนี้แล้ว” ปรวัตณ์ได้ทีพูดแซวภีมรดาใหญ่ เห็นเธอมาตั้งแต่เด็กๆยังไม่เคยเห็นน้องสาว
คนนี้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที ส่วนมากก็มีผู้ชายมาจีบแต่พวกนี้ล้วนมีแฟนกันแล้วหรือก็ไม่ค่อยถูกชะตาอะไรทำนองนั้น เลยทำให้
พักหลังๆเธอเบื่อและไม่อยากสนใจใครเท่าที่ควร
“แหม พี่ป้องก็แซวอยู่นั่นแหละ ระวังปากไว้เถอะ” หญิงสาวพูดแนวเหน็บแนมพร้อมทำไม้ทำมือจะเข้าไปหยิกแขนพี่ชาย ก็เพราะตั้งแต่
เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆนี่แหละเลยทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาก และก็ยังเป็นพี่น้องคู่ไม้เบื่อไม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไร
“คร้าบบบ มาๆถ่ายรูปก่อน เดี๋ยวเจ้าสาวพี่จะหมดสวยซะก่อน” ไม่เพียงแต่พูดเปล่า ปรวัตณ์หันไปจับปลายคางของภรรยาสาวหยอกล้อ
กันอย่างน่ารัก ภีมรดาได้แต่หัวเราะและมองทั้งคู่อย่างชื่นชมด้วยความยินดีอย่างปรี่ล้นที่พี่ชายสุดที่รักของเธอจะมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน
สักทีเพราะปรวัตณ์นั้นเมื่อก่อนเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มากและยังชอบโปรยเสน่ห์ให้สาวๆที่ทำงานไปหลายคนแต่ก็มีสุตราเพียงคนเดียวนี่แหละ
ที่เอาพี่ชายของเธออยู่หมัดจนทำให้ปรวัตณ์ถึงกับเอ่ยปากขอสุตราแต่งงานกันเลยทีเดียว
“วันนี้หล่อนะเนี่ย พี่ใครหว่า” หลังจากถ่ายรูปกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภีมรดาก็เอ่ยแซวพี่ชายเธอบ้าง ไหนๆก็จะแต่งงานไปอยู่กับพี่สุแล้ว
ขอแซวหน่อยละกันเดี๋ยวจะไม่ได้เล่นหยอกล้อกันอย่างเมื่อก่อนแล้ว เพราะพี่ป้องก็โตจนจะมีลูกได้แล้วแถมยังมีหน้าที่การงานที่มั่งคง
เป็นที่นับหน้าถือตาของใครหลายคนอีกด้วย ถ้าเรามัวแต่ไปแกล้งพี่ป้องอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะไม่นับถือพี่ชายเรา เธอคิดในใจ
พร้อมอมยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งพี่ชายเธอ
“พี่แกไงยัยฟ้า วันนี้พี่หล่อที่สุดในงานแล้วนะ” ชายหนุ่มตอบน้องสาวพร้อมเอามือมาลูบหัวอย่างเอ็นดู ปรวัตณ์รักน้องสาวคนนี้มาก
และก็หวงมากด้วย เมื่อมีผู้ชายเข้ามาจีบเธอ เวลาเธอไม่ชอบผู้ชายคนไหนเขามักจะคอยกันท่าให้เธออยู่บ่อยๆและคอยแสกนว่าคนนี้
ผ่านหรือไม่ นับได้ว่าเป็นพ่อคนที่สองก็ไม่ปาน แต่ถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังเป็นห่วงภีมรดาอยู่ เพราะชายหนุ่มจะต้องแต่งงานแล้วย้าย
ไปอยู่บ้านภรรยาซึ่งเขาก็ยังคิดหนักอยู่ว่าใครจะดูแลน้องสาวเขาคนนี้ได้เพราะพ่อและแม่ของเธอซึ่งก็คืออาและอาสะใภ้ของเขา
ตอนนี้ท่านทั้งสองสุขภาพก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงและอีกอย่างภีมรดาก็ได้สืบทอดกิจการดูแลรีสอร์ทของท่านทั้งสองอีกและมันก็ทำให้เธอ
ต้องทำงานหนักถึงเท่าตัว ไหนจะจัดการดูแลเรื่องรีสอร์ทและยังทำงานประจำของเธอซึ่งเป็นฝ่ายออกตระเวนพื้นที่ในเขตชายแดนอีก
เพราะเธอต้องออกไปทำงานลงหน่วยพื้นที่ตั้งแต่เช้ากว่าจะได้กลับก็ตะวันตกดินซะแล้ว เธอจะทำไหวหรือ ตอนแรกชายหนุ่มก็สงสัยอยู่
ว่าทำไมเธอถึงได้เข้าทำงานในกระทรวงสาธารณสุขได้เพราะเธอพึ่งจะจบระดับปริญญาตรีมาได้แค่สามเดือน ทางกระทรวงก็เรียกเธอ
เข้าไปสัมภาษณ์งานทันทีและหลังจากสัมภาษณ์เสร็จเธอก็ผ่านและถูกรับเข้าทำงานในวัยเพียงยี่สิบสามปีเท่านั้น พอถามเธอ
เธอก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบแล้วก็ตอบเพียงว่ามันเป็นความลับ ปรวัตณ์ก็คิดเพียงว่าน้องสาวคนนี้ของเขาคงเก่งไม่เบาทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น
เขาก็ไม่อยากให้ภีมรดาอยู่เพียงลำพังอยากให้เธอมีคู่ครองเหมือนคู่อื่นเขาบ้างจะได้ช่วยกันดูแลเรื่องงานและแบ่งเบาภาระกันบ้าง
เขาจึงคอยพูดเป่าหูให้เธอหาแฟนบ่อยๆและอีกอย่างเขาจะไม่กันท่าผู้ชายที่เข้ามาหาเธออีกต่อไปแล้ว พอเขามาคิดทีหลังก็รู้สึกเสียดาย
คนดีๆบางคนที่เข้ามาในชีวิตเธอ ถึงจะพูดอย่างไรเธอก็ไม่ยอมสักที ด้วยเหตุนี้เขาจึงหนักใจกับน้องสาวคนนี้เป็นอย่างมาก
“พี่เนี่ยนะหล่อที่สุดในงาน ตายๆๆหลงตัวเองเหมือนเดิม เมื่อกี้ฟ้าบอกว่าแค่หล่อนะ ไม่ใช่หล่อที่สุดในงาน” เธอพูดพร้อมหัวเราะออกมา
อย่างมีความสุขที่ถือแต้มเหนือกว่าพี่ชายเธอ
“โถ ชมพี่บ้างก็ไม่ได้หรอ วันนี้พี่เป็นเจ้าบ่าวนะต้องชมๆ” ชายหนุ่มก็ยืนยันที่จะต่อล้อต่อเถียงกับน้องสาวเธออย่างไม่เลิกรา
“โหะๆ หล่อจ้าหล่อ พอใจยังคะ” หญิงสาวพูดประชดใส่พี่ชายตน เธอคิดในใจโตขนาดนี้แล้วยอมน้องบ้างก็ได้
“ดีมากน้องรัก แล้วเมื่อกี้บอกว่าพี่ไม่ได้หล่อที่สุดในงาน แล้วใครล่ะที่หล่อที่สุด อยากเห็นจังหรือว่าจะเป็นน้องเขยพี่ในอนาคตใช่มั้ยเนี่ย”
ปรวัตณ์ได้ทีแซวจนเธอต้องเบือนหน้าหนีพี่ชายเธอด้วยความเหนื่อยหน่าย เพราะเธอไม่อยากให้ใครมาบอกให้เธอหาแฟนสักที
เธออยากอยู่โสดๆแบบนี้ไปก่อนเพียงเพราะยังไม่มีชายใดถูกใจเธอสักคนนั่นเอง
“น้องเขยบ้าอะไรล่ะพี่ป้อง นู่นไงๆคนที่หล่อที่สุดในงาน” พูดเสร็จเธอก็ยกมือชี้ไปยังทางด้านหน้าเวทีของงาน เมื่อกี้ที่เธอหันหน้าหนี
พี่ชายเธอ เธอก็หันไปเห็นชายผู้นี้เข้าพอดี
“พ่อพี่เนี่ยนะ” ชายหนุ่มส่ายหัวพร้อมหัวเราะในความขี้แกล้งของเธอ
“ใช่ไง ถ้าลุงปานไม่หล่อพี่ก็คงออกมาไม่ดูดีขนาดนี้หรอก” เธอแอบชมพี่ชายอย่างอ้อมๆ ถ้าชมตรงๆเดี๋ยวจะลอยกันไปใหญ่
“หล่อก็หล่อ หล่อเหมือนกันแหละเนาะ” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจยกใหญ่ นานๆทีภีมรดาจะชมเขา
“เอ่อพี่ป้อง เดี๋ยวขอตัวไปหายัยพายก่อนนะ ไม่รู้มารึยัง”
“อ่า เมื่อกี้พี่เห็นอยู่แถวๆเครื่องดื่มน่ะ”
“โอเคค่ะ ไปละเดี๋ยวเจอกันนะ”
หน้าผาร้อยรัก... ๑ คู่สมรส
ตั้งแต่วินาที
ที่ชีวิตมีเธอ เข้ามา
เธอทำให้คนที่เหนื่อยล้า
นั้นกล้า จะเปิดหัวใจ
หยุด หยุดชีวิต
หยุดกับคนนี้
แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรักทั้งหัวใจ
♪ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว ♪
เพลงป๊อปคุ้นหูถูกเปิดขึ้นในงานพิธีมงคลในค่ำคืนนี้และความหมายของมันช่างเป็นความหมายที่ลึกซึ้งที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมากเพียง
แค่คนสองคนเท่านั้นที่เข้าใจมันดีกว่าใครๆ เพลงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆพร้อมมีภาพคู่ชายหญิงที่ถูกฉายบนจอโปรเจ็คเตอร์นั้นคอยส่ง
ยิ้มส่งความสุขให้แก่กันเพราะมันแสดงออกมาทางสายตาของคนทั้งคู่และในตาทั้งสองต่างส่งคำสัญญาให้แก่กันและกันว่าจะอยู่ด้วยกัน
อย่างนี้ตลอดไป
‘ภีมรดา’ หญิงสาวสวยรวยเสน่ห์ หุ่นเธออรชรและสูงเหมือนกับนางแบบก็ไม่ปานด้วยความสูงถึงร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรเลยทำให้
เธอดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ผมของเธอตรงดำยาวถึงกลางหลังราวกับได้รับการดูแลเป็นย่างดี ผิวเธอเนียนและนวลเป็นสีน้ำผึ้งชวนน่า
หลงใหล ใครๆก็รู้จักเธอเป็นอย่างดีเพราะเธออัธยาศัยดี คุยเก่ง มีน้ำใจชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครจะหลงรักเธอ
ผู้ชายมากหน้าหลายตาล้วนสนใจเธอทั้งสิ้น และเธอยังเป็นเจ้าของรีสอร์ท ‘ปลายฟ้า’ ซึ่งชื่อนี้ก็ถูกตั้งขึ้นตามชื่อเล่นของเธอและ
ในวัยเพียงยี่สิบห้าปีเธอก็ต้องรับมรดกสืบต่อจากพ่อและแม่ของเธอให้ดูแลรีสอร์ทแห่งนี้แทนเพราะท่านทั้งสองสุขภาพก็ไม่ค่อย
แข็งแรงนัก ท่านจึงยกทุกสิ่งทุกอย่างให้ลูกสาวคนเดียวของพวกท่านเป็นคนจัดการทั้งหมด
คืนนี้เธอมาร่วมฉลองงานแต่งงานของพี่ชายเธอด้วยชุดเดรสเกาะอกสั้นสีขาวซึ่งเป็นชุดที่เรียบๆไม่ได้ตกแต่งอะไรแต่เครื่องประดับ
หรูราคาแพงที่ถูกแต่งอยู่บนตัวเธอนั้นล้วนเป็นจุดสนใจของใครหลายคน ทั้งสร้อยคอ ต่างหูและนาฬิกาคู่ใจของเธอ ด้วยเธอมีหุ่นที่ลงตัว
ไม่ว่าจะใส่อะไรก็ดูดีและยังเป็นที่สนใจของใครหลายคนโดยเฉพาะเพศตรงข้าม
“อ้าว ฟ้า มาแล้วหรอ เร็วเข้าๆมาถ่ายรูปกัน” เสียงชายหนุ่มเรียกเธออย่างสนิทสนมพร้อมกวักมือเรียกเพื่อแสดงท่าทางว่าตนอยู่ตรงนี้
ภีมรดาเมื่อได้ยินเสียงเรียกเธอสะดุ้งโหยงจนได้สติเพราะเธอกำลังคิดอะไรเพลินๆตั้งแต่เดินเข้ามาในงานและเธออยากจะเข้าไปต่อว่า
คนที่เรียกเธอนักเพรามันทำให้เธอเผลอทำตัวตกใจจนเสียบุคลิกอันน่ารักของเธอไป
“โห เรียกซะตกใจหมดเลยพี่ป้อง” ‘ปรวัตณ์’ บอสหนุ่มไฟแรงเป็นที่หมายปองของสาวๆหลายคนในที่ทำงาน เขาเป็นเจ้าของบริษัท
ส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ที่ถูกส่งต่อมาจากพ่อของเขา และบุคลิกของเขาสูงมาดเท่ห์และดูแลตัวเองเป็นอย่างดีตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า
เพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ แต่วันนี้เป็นงานมงคลสมรสของชายหนุ่มและภรรยาสุดสวยอย่าง ‘สุตรา’ ซึ่งเป็นเลขา
คนสนิทของชายหนุ่มและด้วยความสนิทนี่เองที่ทำให้ทั้งคู่ครองรักกัน และก็เป็นเหตุให้สาวๆหลายคนอกหักกันเป็นแถวๆรวมถึง ‘เพทาย’
ผู้เป็นเพื่อนสนิทของภีมรดาด้วย ที่แอบชอบพี่ชายของเธอเหมือนกับสาวๆเหล่านั้น
“เหม่ออะไรอยู่ล่ะ หรือว่าถูกใจผู้ชายคนไหนในงานนี้แล้ว” ปรวัตณ์ได้ทีพูดแซวภีมรดาใหญ่ เห็นเธอมาตั้งแต่เด็กๆยังไม่เคยเห็นน้องสาว
คนนี้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที ส่วนมากก็มีผู้ชายมาจีบแต่พวกนี้ล้วนมีแฟนกันแล้วหรือก็ไม่ค่อยถูกชะตาอะไรทำนองนั้น เลยทำให้
พักหลังๆเธอเบื่อและไม่อยากสนใจใครเท่าที่ควร
“แหม พี่ป้องก็แซวอยู่นั่นแหละ ระวังปากไว้เถอะ” หญิงสาวพูดแนวเหน็บแนมพร้อมทำไม้ทำมือจะเข้าไปหยิกแขนพี่ชาย ก็เพราะตั้งแต่
เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆนี่แหละเลยทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาก และก็ยังเป็นพี่น้องคู่ไม้เบื่อไม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไร
“คร้าบบบ มาๆถ่ายรูปก่อน เดี๋ยวเจ้าสาวพี่จะหมดสวยซะก่อน” ไม่เพียงแต่พูดเปล่า ปรวัตณ์หันไปจับปลายคางของภรรยาสาวหยอกล้อ
กันอย่างน่ารัก ภีมรดาได้แต่หัวเราะและมองทั้งคู่อย่างชื่นชมด้วยความยินดีอย่างปรี่ล้นที่พี่ชายสุดที่รักของเธอจะมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน
สักทีเพราะปรวัตณ์นั้นเมื่อก่อนเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มากและยังชอบโปรยเสน่ห์ให้สาวๆที่ทำงานไปหลายคนแต่ก็มีสุตราเพียงคนเดียวนี่แหละ
ที่เอาพี่ชายของเธออยู่หมัดจนทำให้ปรวัตณ์ถึงกับเอ่ยปากขอสุตราแต่งงานกันเลยทีเดียว
“วันนี้หล่อนะเนี่ย พี่ใครหว่า” หลังจากถ่ายรูปกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภีมรดาก็เอ่ยแซวพี่ชายเธอบ้าง ไหนๆก็จะแต่งงานไปอยู่กับพี่สุแล้ว
ขอแซวหน่อยละกันเดี๋ยวจะไม่ได้เล่นหยอกล้อกันอย่างเมื่อก่อนแล้ว เพราะพี่ป้องก็โตจนจะมีลูกได้แล้วแถมยังมีหน้าที่การงานที่มั่งคง
เป็นที่นับหน้าถือตาของใครหลายคนอีกด้วย ถ้าเรามัวแต่ไปแกล้งพี่ป้องอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะไม่นับถือพี่ชายเรา เธอคิดในใจ
พร้อมอมยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งพี่ชายเธอ
“พี่แกไงยัยฟ้า วันนี้พี่หล่อที่สุดในงานแล้วนะ” ชายหนุ่มตอบน้องสาวพร้อมเอามือมาลูบหัวอย่างเอ็นดู ปรวัตณ์รักน้องสาวคนนี้มาก
และก็หวงมากด้วย เมื่อมีผู้ชายเข้ามาจีบเธอ เวลาเธอไม่ชอบผู้ชายคนไหนเขามักจะคอยกันท่าให้เธออยู่บ่อยๆและคอยแสกนว่าคนนี้
ผ่านหรือไม่ นับได้ว่าเป็นพ่อคนที่สองก็ไม่ปาน แต่ถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังเป็นห่วงภีมรดาอยู่ เพราะชายหนุ่มจะต้องแต่งงานแล้วย้าย
ไปอยู่บ้านภรรยาซึ่งเขาก็ยังคิดหนักอยู่ว่าใครจะดูแลน้องสาวเขาคนนี้ได้เพราะพ่อและแม่ของเธอซึ่งก็คืออาและอาสะใภ้ของเขา
ตอนนี้ท่านทั้งสองสุขภาพก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงและอีกอย่างภีมรดาก็ได้สืบทอดกิจการดูแลรีสอร์ทของท่านทั้งสองอีกและมันก็ทำให้เธอ
ต้องทำงานหนักถึงเท่าตัว ไหนจะจัดการดูแลเรื่องรีสอร์ทและยังทำงานประจำของเธอซึ่งเป็นฝ่ายออกตระเวนพื้นที่ในเขตชายแดนอีก
เพราะเธอต้องออกไปทำงานลงหน่วยพื้นที่ตั้งแต่เช้ากว่าจะได้กลับก็ตะวันตกดินซะแล้ว เธอจะทำไหวหรือ ตอนแรกชายหนุ่มก็สงสัยอยู่
ว่าทำไมเธอถึงได้เข้าทำงานในกระทรวงสาธารณสุขได้เพราะเธอพึ่งจะจบระดับปริญญาตรีมาได้แค่สามเดือน ทางกระทรวงก็เรียกเธอ
เข้าไปสัมภาษณ์งานทันทีและหลังจากสัมภาษณ์เสร็จเธอก็ผ่านและถูกรับเข้าทำงานในวัยเพียงยี่สิบสามปีเท่านั้น พอถามเธอ
เธอก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบแล้วก็ตอบเพียงว่ามันเป็นความลับ ปรวัตณ์ก็คิดเพียงว่าน้องสาวคนนี้ของเขาคงเก่งไม่เบาทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น
เขาก็ไม่อยากให้ภีมรดาอยู่เพียงลำพังอยากให้เธอมีคู่ครองเหมือนคู่อื่นเขาบ้างจะได้ช่วยกันดูแลเรื่องงานและแบ่งเบาภาระกันบ้าง
เขาจึงคอยพูดเป่าหูให้เธอหาแฟนบ่อยๆและอีกอย่างเขาจะไม่กันท่าผู้ชายที่เข้ามาหาเธออีกต่อไปแล้ว พอเขามาคิดทีหลังก็รู้สึกเสียดาย
คนดีๆบางคนที่เข้ามาในชีวิตเธอ ถึงจะพูดอย่างไรเธอก็ไม่ยอมสักที ด้วยเหตุนี้เขาจึงหนักใจกับน้องสาวคนนี้เป็นอย่างมาก
“พี่เนี่ยนะหล่อที่สุดในงาน ตายๆๆหลงตัวเองเหมือนเดิม เมื่อกี้ฟ้าบอกว่าแค่หล่อนะ ไม่ใช่หล่อที่สุดในงาน” เธอพูดพร้อมหัวเราะออกมา
อย่างมีความสุขที่ถือแต้มเหนือกว่าพี่ชายเธอ
“โถ ชมพี่บ้างก็ไม่ได้หรอ วันนี้พี่เป็นเจ้าบ่าวนะต้องชมๆ” ชายหนุ่มก็ยืนยันที่จะต่อล้อต่อเถียงกับน้องสาวเธออย่างไม่เลิกรา
“โหะๆ หล่อจ้าหล่อ พอใจยังคะ” หญิงสาวพูดประชดใส่พี่ชายตน เธอคิดในใจโตขนาดนี้แล้วยอมน้องบ้างก็ได้
“ดีมากน้องรัก แล้วเมื่อกี้บอกว่าพี่ไม่ได้หล่อที่สุดในงาน แล้วใครล่ะที่หล่อที่สุด อยากเห็นจังหรือว่าจะเป็นน้องเขยพี่ในอนาคตใช่มั้ยเนี่ย”
ปรวัตณ์ได้ทีแซวจนเธอต้องเบือนหน้าหนีพี่ชายเธอด้วยความเหนื่อยหน่าย เพราะเธอไม่อยากให้ใครมาบอกให้เธอหาแฟนสักที
เธออยากอยู่โสดๆแบบนี้ไปก่อนเพียงเพราะยังไม่มีชายใดถูกใจเธอสักคนนั่นเอง
“น้องเขยบ้าอะไรล่ะพี่ป้อง นู่นไงๆคนที่หล่อที่สุดในงาน” พูดเสร็จเธอก็ยกมือชี้ไปยังทางด้านหน้าเวทีของงาน เมื่อกี้ที่เธอหันหน้าหนี
พี่ชายเธอ เธอก็หันไปเห็นชายผู้นี้เข้าพอดี
“พ่อพี่เนี่ยนะ” ชายหนุ่มส่ายหัวพร้อมหัวเราะในความขี้แกล้งของเธอ
“ใช่ไง ถ้าลุงปานไม่หล่อพี่ก็คงออกมาไม่ดูดีขนาดนี้หรอก” เธอแอบชมพี่ชายอย่างอ้อมๆ ถ้าชมตรงๆเดี๋ยวจะลอยกันไปใหญ่
“หล่อก็หล่อ หล่อเหมือนกันแหละเนาะ” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจยกใหญ่ นานๆทีภีมรดาจะชมเขา
“เอ่อพี่ป้อง เดี๋ยวขอตัวไปหายัยพายก่อนนะ ไม่รู้มารึยัง”
“อ่า เมื่อกี้พี่เห็นอยู่แถวๆเครื่องดื่มน่ะ”
“โอเคค่ะ ไปละเดี๋ยวเจอกันนะ”