Train to Beijing
April 2010
...
" จะไปปักกิ่งแต่ซื้อตั๋วเครื่องบินไปกวางโจว "
ตั๋วกลับก็ไม่มี วันเวย์ทิคเค่ท



" ก็มันถูกกว่านี่นา "เดี๋ยวพอไปถึงนู่นเราก็จะไป นั่งรอนอนรอเวลาขึ้นรถไฟแถวชานชาลา เหมือนที่คนเค้าทำกันที่หัวลำโพงไงแก นี่คืออาการคิดไปเองที่เกิดขึ้นได้เรื่อยๆ ของฉันกับเพื่อนร่วมทางอีกคน เมื่อหกเจ็ดปีที่แล้วแบกแพ้คเก้อร์อย่างเราๆ นี่มีเรื่องให้ตื่นเต้นกันตลอดเลยนะ เพราะข้อมูลสำหรับพวกชอบออกนอกลู่นอกทางมันน้อยกว่านี้เยอะ ตกลงคืนนั้นหลังจากเครื่องแลนดิ้งเวลาก็ล่วงไปสามทุ่มกว่าถึงจะออกจากสนามบินได้ แถมแท็กซี่ก็มาบอกข่าวดีว่าสถานีรถไฟปิดแล้ว เค้าห้ามนอนแก พวกแกจะไปนอนที่ไหน จะเปิดอโกด้าก็ไม่ได้สมัยนั้นยังไม่มีไอโฟนใช้เลย

มองหน้ากันสองคน แล้วบอก พี่แท็กซี่พาไปโรงแรมหน่อยสิ พี่แท็กซี่ก็ดีใจหายพูดอังกฤษก็ไม่ได้ แต่พาขับวนไปสามสี่โรงแรมจนได้ที่นอน
"แล้วตั๋วรถไฟเอาไงดีแก"
"จองที่ล้อบบี้โรงแรมนี่แหละ ให้เค้าหาให้"
รู้มั้ยว่ากวางโจวห่างจากปักกิ่งกี่กิโล ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ เหมือนจากเชียงใหม่ไปนราธิวาสมั้ง
แบบนั้นแหละ แต่ประเทศจีนใหญ่กว่าเราประมาณ 19 เท่าน่ะ

บรรยากาศแบบเหมาๆ

ก็นั่งรถไฟกันเป็นวัน ดูวิวภูเขา วิวเหมือง อะไรไปเรื่อย กว่าจะอพยพมาถึงปักกิ่ง เพื่อเป็นภาระให้กับเฮียต้นพี่เจ้าบ้านชาวปักกิ่งในเวลานั้น ซึ่งอุทิศที่นอนให้เรามาเบียดเบียนและปวดหัวกับเราไปอีกสิบกว่าวัน เฮียต้นช่วงนั้นแกทำงานเป็นนักข่าวภาคภาษไทยของสำนักข่าวจีนแห่งหนึ่งที่ปักกิ่ง และก็เช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่หลังคาเดียวกันกับประชาชนชาวจีนแถบชานเมือง ซึ่งเป็นช่องทางอันดีในการทำเนียนหิ้วแสงโสมไปฝากแก จริงๆคือจะมาขอนอนฟรี แถมกินฟรีอีกหลายมื้อ


" ผิงเหยา "เฮียต้นพาพวกเราไปเที่ยว ประทับใจเพราะตีรถไฟตั๋วยืนไปสามสี่ชั่วโมงจากปักกิ่ง พวกคนจีนก็เปิดลำโพงฟังเพลงกัน เฮียต้นก็เปิดเพลงไทยจากมือถือแข่งกัน เวลายืนเมื่อยๆก็เอาตูดไปเบียดเบาะคนจีนข้างๆนั่นแหละ เห็นคนจีนเค้าทำกันเราก็ทำมั่ง

[img]








สุดท้ายพอมานั่งรวมค่าตั๋วเครื่องบินกับรถไฟแล้วราคาก็เท่ากับบินตรงมาปักกิ่งเลยแก




ว่าไปแล้วเดินทางอ้อมๆแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน เพราะบนเครื่องบินไม่มีข้างทางและเรื่องยาวๆให้จำขึ้นใจแบบนี้หรอก

ว่าแต่มีเรื่องอะไรบ้างนะ
ไปติดตาม ดูรูป ถามทาง หลงทาง กันต่อได้นะจ้ะที่
https://www.facebook.com/rateeteerak
https://www.instagram.com/rateeteerak
[CR] Train to Beijing
April 2010
...
" จะไปปักกิ่งแต่ซื้อตั๋วเครื่องบินไปกวางโจว "
ตั๋วกลับก็ไม่มี วันเวย์ทิคเค่ท
" ก็มันถูกกว่านี่นา "เดี๋ยวพอไปถึงนู่นเราก็จะไป นั่งรอนอนรอเวลาขึ้นรถไฟแถวชานชาลา เหมือนที่คนเค้าทำกันที่หัวลำโพงไงแก นี่คืออาการคิดไปเองที่เกิดขึ้นได้เรื่อยๆ ของฉันกับเพื่อนร่วมทางอีกคน เมื่อหกเจ็ดปีที่แล้วแบกแพ้คเก้อร์อย่างเราๆ นี่มีเรื่องให้ตื่นเต้นกันตลอดเลยนะ เพราะข้อมูลสำหรับพวกชอบออกนอกลู่นอกทางมันน้อยกว่านี้เยอะ ตกลงคืนนั้นหลังจากเครื่องแลนดิ้งเวลาก็ล่วงไปสามทุ่มกว่าถึงจะออกจากสนามบินได้ แถมแท็กซี่ก็มาบอกข่าวดีว่าสถานีรถไฟปิดแล้ว เค้าห้ามนอนแก พวกแกจะไปนอนที่ไหน จะเปิดอโกด้าก็ไม่ได้สมัยนั้นยังไม่มีไอโฟนใช้เลย
มองหน้ากันสองคน แล้วบอก พี่แท็กซี่พาไปโรงแรมหน่อยสิ พี่แท็กซี่ก็ดีใจหายพูดอังกฤษก็ไม่ได้ แต่พาขับวนไปสามสี่โรงแรมจนได้ที่นอน
"แล้วตั๋วรถไฟเอาไงดีแก"
"จองที่ล้อบบี้โรงแรมนี่แหละ ให้เค้าหาให้"
รู้มั้ยว่ากวางโจวห่างจากปักกิ่งกี่กิโล ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ เหมือนจากเชียงใหม่ไปนราธิวาสมั้ง
แบบนั้นแหละ แต่ประเทศจีนใหญ่กว่าเราประมาณ 19 เท่าน่ะ
บรรยากาศแบบเหมาๆ
ก็นั่งรถไฟกันเป็นวัน ดูวิวภูเขา วิวเหมือง อะไรไปเรื่อย กว่าจะอพยพมาถึงปักกิ่ง เพื่อเป็นภาระให้กับเฮียต้นพี่เจ้าบ้านชาวปักกิ่งในเวลานั้น ซึ่งอุทิศที่นอนให้เรามาเบียดเบียนและปวดหัวกับเราไปอีกสิบกว่าวัน เฮียต้นช่วงนั้นแกทำงานเป็นนักข่าวภาคภาษไทยของสำนักข่าวจีนแห่งหนึ่งที่ปักกิ่ง และก็เช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่หลังคาเดียวกันกับประชาชนชาวจีนแถบชานเมือง ซึ่งเป็นช่องทางอันดีในการทำเนียนหิ้วแสงโสมไปฝากแก จริงๆคือจะมาขอนอนฟรี แถมกินฟรีอีกหลายมื้อ
" ผิงเหยา "เฮียต้นพาพวกเราไปเที่ยว ประทับใจเพราะตีรถไฟตั๋วยืนไปสามสี่ชั่วโมงจากปักกิ่ง พวกคนจีนก็เปิดลำโพงฟังเพลงกัน เฮียต้นก็เปิดเพลงไทยจากมือถือแข่งกัน เวลายืนเมื่อยๆก็เอาตูดไปเบียดเบาะคนจีนข้างๆนั่นแหละ เห็นคนจีนเค้าทำกันเราก็ทำมั่ง
สุดท้ายพอมานั่งรวมค่าตั๋วเครื่องบินกับรถไฟแล้วราคาก็เท่ากับบินตรงมาปักกิ่งเลยแก
ว่าไปแล้วเดินทางอ้อมๆแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน เพราะบนเครื่องบินไม่มีข้างทางและเรื่องยาวๆให้จำขึ้นใจแบบนี้หรอก
ว่าแต่มีเรื่องอะไรบ้างนะ
ไปติดตาม ดูรูป ถามทาง หลงทาง กันต่อได้นะจ้ะที่
https://www.facebook.com/rateeteerak
https://www.instagram.com/rateeteerak