[CR] BF Goodrich Advantage SUV ยางคุณภาพ จาก แบรนด์ระดับโลก ที่ราคาไม่รุนแรง (ในตอนนี้)

สำหรับการ review นี้ อาจจะ ไม่ครบถ้วนเท่าไหร่ ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ เพราะ ไม่เคยเขียน review สินค้ามาก่อนเลย
สำหรับครั้งนี้ทำด้วยใจฟรี ไม่มี สปอนเซอร์ ครับ

เหตุเกิดจาก ตั้งแต่ วันที่ 15/9/2016  ผมมีแพลนว่าจะเปลี่ยนยางรถ ซึ่งยางเก่าคือ Michellin Latitute Cross  ที่อายุอานาม ก็
ปาเข้ามาปีที่ 3 ครึ่ง แล้ว วิ่งไป 9 หมื่นกว่ากิโลแล้ว สภาพยางมีแตกลายงา ตรงล่องดอกยาง หากวิ่งเร็ว แล้วเบรค
จะมีเสียงยางดัง เอี๊ยดดดดดดด แต่ก็ยังอยู่นะ ไม่ไถลแถด ๆ ไป แต่ด้วยนิสัยการขับรถส่วนตัว ขับรถค่อนข้างเร็ว กังวลเรื่องความปลอดภัย
เลยทำการ เขียน proposal ของบจาก ภรรยา ว่าจะขอตังเปลี่ยนยางหน่อย ซึ่งภรรยา บอก Ok ตามใจแต่ ต้องไม่แพง (ได้งบแล้ววว ^^) ซึ่งในใจมีตัวเลือกอยู่
โดยขนาดยาง ติดรถผมจะเป็น 265 65 r17 ซึ่งราคา ณ วันที่ 20 / 10 /2016 คือ
1. BF goodrich Advantage ค่าตัว 4200 ต่อเส้น
2. Dunlop PT2 ค่าตัว 4000 ต่อเส้น
3. Bridgestone Dueler 684 II ค่าตัว 5200 ต่อเส้น
4. Goodyear wranger HP AW ค่าตัว 4700 ต่อเส้น
ซึ่ง หลาย ๆ คนถามว่าราคานี้ทำไมไม่เล่น ยางจีน ยางเกาหลี ถูกกว่าตั้งเยอะ ครึ่ง ๆ เลยมั้ง ต้องบอกว่าไว้ก่อน ผม รักชีวิตลูกเมียครับ
ขยันหาเงินเพิ่มอีกหน่อย ได้ยางคุณภาพ ที่จะพาเรากับลูกเมียไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยดีกว่า

ดูเรื่องค่างวด แล้ว มาดูเรื่องรับประกันต่อ
1. BF goodrich Advantage รับประกัน 6 ปี หรือ 1 แสนกิโล
2. Dunlop PT2 รับประกัน 4 ปี หรือ 40,000 โล
3. Bridgestone Dueler 684 II รับประกัน 5 ปี หรือ 60 ,000 โล
4. Goodyear wranger HP AW รับประกัน 4 ปี หรือ 40 ,000 โล

แล้วทำไมต้อง BF goodrich Advantage หละ
1. ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังให้เปลี่ยนยางบ่อย ๆ ฉนั้น ถ้า ใช้งานก็กะว่าจะใช้ขั้นต่ำเลยคือ 8 หมื่นกิโล
2. เนื่องจาก BF goodrich ผลิต โรงงานเดียวกับ michellin ตัวเก่าผม เลยค่อนข้างมั่นใจ ว่าจะใช้งานได้ถึง 8 หมื่นกิโลแน่นอน  
( continental ของน้องสาวผม 2 ปี แข็งและบวม เป่ง เลย ขนาดรถวิ่งน้อยจอดในร่มตลอด เลย)
3. Dunlop PT2 อ่าน review บางรายใช้ 2 หมื่นกิโล จะมีรอย แตกลายง ตรงแก้มยาง เลยตัดออก
4. Bridgestone Dueler 684 II อ่านเจอว่า เวลา วิ่งทางเปียก ไปไม่ค่อยจะเป็น ลื่น พลืด ๆ
5. Goodyear wranger รับประกันแค่ 4 ปีเอง = ='

หลังจากเปลี่ยนมาแล้ว มาดู spec ของ ยาง BF goodrich Advantage SUV กัน
treadeware = 420 แข็งเป๊กกก น่าจะทนเนอะ
traction = A control ง่ายเกาะถนน ดีนะเรา ^^
Temperature = A  ทนร้อนเก่งนะเรา

มาดูดอกยางกัน

logo สีดำ ไม่สะดุดตา ดอกยางค่อนข้างใหญ่

ใครกลัวเรื่องเสียงยาง ที่จะเข้าห้องโดยสารแล้วต้องบอกว่า
ตัวนี้เสียงยาง ดังกว่า Michellin Latitute Cross ตอนออกใหม่ ๆ หน่อยนึงเอง

มีเอกสารยืนยันด้วยว่า เค้ารับประกัน 6 ปี หรือ 1 แสนกิโล จริง ๆ นะ ด้วย


สำหรับ Feeling การขับขี่ เมื่อครบ 1000 กิโล
1. เสียง ดังกว่า Michellin Latitute Cross ตอนออกใหม่ ๆ หน่อยนึงเอง
2. ระยะเบรค ค่อนข้างสั้น พอ ๆ กับ Michellin Latitute Cross
3. การเข้าโค้ง ด้วยความเร็ว ค่อนข้างมั่นใจกว่า Michellin Latitute Cross ซึ่ง หากเข้าโค้งแรง ๆ ชอบวูบ
แต่เจ้านี้ เข้าโค้ง ด้วยความเร็ว เปะ ใช้ได้
4. นิ่มไหม ต้องบอกว่า ด้วย ลม 35 ปอนด์ กับเจ้ายางตัวนี้ ด้วยเส้นทางเดิม ๆ ของผม มันทำได้ดีมากเลยทีเดียว
โดยไม่กระโดดโหยงเหยง ข้อต่อ สะพาน ไม่โวยวาย ไม่สะบัด
5. ทางเปียก อันนี้ยังไม่เคยลอง ต้องขอเวลาอีกซักแป็บ ให้เจอ ทางเปียกก่อน ผมได้ลองมา เส้น กาญจนาภิเษก ตัด บางบอน 3
ซึ่งเป็นทางค่อนข้างคดเคี้ยว ใช่เล่น ด้วยความเร็ว 60 Km/h  พร้อมฝนกำลังตก แบบพอเปียก ให้ลื่นเล่น ๆ
จากที่ลอง การเบรค การเข้าโค้ง เรียกได้ว่ามั่นใจ ได้ในประสิทธิภาพ ชิว ๆ เลยทีเดียวครับ
6. ทางรุกรัง อันนี้ยังไม่เอาไปลุย รอเชงเม๊ง ก่อน
7. ทนทานตามที่หวังไว้ไหม ต้องรออีก หน่อย อันนี้พึ่งออกมาบอกไรไม่ได้มาก ต้องรอ อย่างน้อยครบ 10,000 กิโลก่อน

สุดท้าย หวังว่าข้อมูลของเจ้า BF Goodrich Advantage SUV ของผมจะมีประโยชน์กับใครที่กำลังเลือกซื้อ ยาง กันนะครับ
ปล. ครบ 10,000 กิโล  จะ มากบอกกล่าวอีกว่ามันเป็นไงบ้าง อาจจะมาด่าหรือชม อันนี้ขึ้นกับ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ล้วน ๆ

**แก้ไข update เรื่อง ประสิทธิภาพในการวิ่งบนพื้นเปียก
ชื่อสินค้า:   BF Goodrich Advantage SUV
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่