นี่คือเรื่องราวเต็มๆ จาก Info Graphic อันนี้ครับ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1679971782317801.1073741840.1636290850019228&type=1&l=5891703e13
Peter Agre คุณหมอผู้เคยเกือบตกวิชาเคมี แต่ได้รับโนเบลสาขาเคมีซะอย่างงั้น
ปีเตอร์ อกรี เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่มีลูกศิษย์มากมาย เนื่องด้วยความเป็นมิตรและถ่อมตนของเขา เขาไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ที่หมกตัวอยู่แต่ในห้องทดลอง จริงๆแล้วเขาเป็นหมอ แน่นอนไม่ใช่หมอที่ขลุกตัวอยู่แต่ในโรงพยาบาลเช่นกัน เขาชอบท่องเที่ยวไปทั่วโลก ชอบไปเล่นสกีที่ประเทศต่างๆ รวมไปถึงลงแข่งเองในงานแข่งด้วย เป็นหัวหน้ากลุ่มลูกเสือ เป็นอะไรอีกหลายอย่างไม่แปลกเลยที่เขาจะมีลุกศิษย์และเพื่อนมากมายอยู่ทั่วโลก ในด้านงานวิจัยของเขาก็ไม่ได้โดดเด่น เช่น ได้รัรางวัลนักวิจัยเยาวชนครั้งแรกเมื่ออายุ 42 (ลูกของปีเตอร์บอกว่านี่น่าจะเป็นเยาวชนที่อายุมากที่สุดในโลก) งานวิจัยอื่นๆก็ไม่มากนัก ผลงานของเขาส่วนมากจะเกี่ยวกับรณรงค์ปกป้องสิทธิมนุษยชนในต่างแดนมากกว่า
ปีเตอร์เกิดที่รัฐมินิโซต้า เป็นลูกของศาสตราจารย์เคมีผู้เป็นพ่อ และ แม่ที่เป็นลูกชาวสวนทั่วไป วัยเด็กของเขานั้นก็เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ชอบเที่ยวเล่น สนุกไปเรื่อยๆ เพราะพ่อเขาเป็นถึงศาตราจารย์ บางครั้งเขาจึงได้มีโอกาสพบเจอกับนักเคมีดังๆที่บ้านเนื่องจากพ่อเขาได้เชิญมาบรรยายที่มหาวิทยาลัย แน่นอน แม้แต่นักเคมีระดับโลกอย่างไลนัส พอลลิ่ง เขาก็ได้เจอในห้องนั่งเล่นที่บ้านมาแล้ว
ถึงแม้ว่าจะมีพ่อเป็นถึง ศ.จ. ด้านวิชาเคมี แต่เขาก้ไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นนัก ในการเรียนวีชาเคมีปีแรก เขาทำผลงานได้สุดยอดมากคือได้เกรด D หรือเกือบตกทั้งๆที่เป็นลูกของศาตราจารย์ด้านนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะความสนใจเขาอยู่ในด้านอื่นมากกว่าตามภาษาวัยรุ่นทั่วไป
เมื่อจบระดับมัธยม เขาก้ได้ไปเรียนต่อทางด้านการแพทย์ ว่ากันว่าที่เขาเรียนด้านนี้เนื่องจากสนใจเกี่ยวกับเลือด ( แม่ปีเตอร์มีหมู่เลือด RhD Positive) และจบหมอจากสถาบัจอร์น ฮอปกิ้น ซึ่งจัดว่าเป็นสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำของโลกเลยทีเดียว
จากการที่เขาเป็นผู้ชำนาญด้านโลหิตวิทยา ครั้งหนึ่งเมื่อเขาศึกษาเกี่ยวกับ Antigen ของเลือดในกลุ่ม Rh เขาได้พบโปรตีนแปลกๆในตัวอย่างของเขา
ตามปกติแล้วสิ่งนี้จะจัดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม แต่ปีเตอร์ได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าของเขาว่าไอ้เจ้านี่มันก็พบเจอในเซลล์ของไต และเจออะไรที่คล้ายๆแบบนี้ในเซลล์ลูกตา เซลล์ท่อลำเลียงของพืชเช่นกัน
ในเวลาเดียวกันนั้น ความรู้เกี่ยวกับการนำน้ำเข้าออกจากเซลล์ ยังไม่แน่ชัดนัก
ปีเตอร์สังเกตว่า เซลล์ที่เอาไปแช่ในสารละลายความเข้มข้นต่างๆนั้น มันมีอัตราการเสียน้ำและดูดน้ำเร็วเกินกว่าที่จะเกิดจากการออสโมซิสได้
เขาจึงใช้ความชำนาญทางด้านโลหิตวิทยาของเขาศึกษา Antigen เลือดกลุ่ม Rh ต่างๆ พร้อมตั้งคำถามว่า มันมีปั๊มน้ำที่เซลล์หรือไม่ แล้วจากนั้นก็พบโปรตีนที่เรียกกันว่า 28K
จากการศึกษาโครงสร้างของมันผ่านเทคนิค X Ray Crystallography ที่พัฒนาอย่างมากในช่วงนั้นด้วย Direct technique ทำให้เขาทราบโครงสร้างของมันว่ามีลักษณะเป็นท่อ และมักพบโปรตีชนิดนี้ในเซลล์ไต ท่อลำเลียงต่างๆ และโครงสร้างโปรตีนคล้ายๆแบบนี้ก็พบในเซลล์ตา เซลล์เม็ดเลือดด้วย เขาเรียกมันว่า Aquaporin หรือย่อสั้นๆ ว่า AQP
การค้นพบนี้ยิ่งใหญ่มาก เพราะจัดว่าเปลี่ยนแปลงทฤษฎีเดิม ๆที่เคยเชื่อกันมานานว่าเซลล์นำน้ำเข้าโดยการออสโมซิสส์เลยทีเดียว จาการค้นพบนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2003 แบบงงๆ โดยรับร่วมกับรอดเดอร์ริก แมคคินนอน ( ผู้ค้นพบท่อส่งโปแตสเซียมของเซลล์) เขาเล่าว่าวันนั้นเขานอนอยู่ในบ้าน แล้วอยู่ๆแม่เขาก็เรียกไปทานข้าวเช้าพร้อมบอกอย่างเนิบๆว่า ลูกได้รางวัลโนเบล
ปีเตอร์ อกรี จัดเป็นนักวิทยาศาสตร์ตัวอย่างคนหนึ่ง เป็นคนที่ไม่ถือตน อัธยาศัยดี มีเพื่อนมากมาย มีอารมณ์ขัน ความสำเร็จของเขายิ่งใหญ่มาก แต่สิ่งที่เขากล่าวก็คือ เขาไม่ได้เก่งอะไร ความสำเร็จนี้ มันเกิดขึ้นจากความบังเอิญ ที่ประจวบเหมาะมาพอดี
ฝากเพจด้วยนะครับถ้าชอบ แฮ่!
เพจ สื่อวิทย์ก็อย่างนี้แหละ !
https://www.facebook.com/scienceclife/
มีอะไรติชมได้นะครับ ขอบคุณมากครับ
นายแพทย์ Perter Agre : ผู้ซึ่งเกือบตกเคมีแท้ๆ แต่ดันได้โนเบลเคมี
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1679971782317801.1073741840.1636290850019228&type=1&l=5891703e13
Peter Agre คุณหมอผู้เคยเกือบตกวิชาเคมี แต่ได้รับโนเบลสาขาเคมีซะอย่างงั้น
ปีเตอร์ อกรี เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่มีลูกศิษย์มากมาย เนื่องด้วยความเป็นมิตรและถ่อมตนของเขา เขาไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ที่หมกตัวอยู่แต่ในห้องทดลอง จริงๆแล้วเขาเป็นหมอ แน่นอนไม่ใช่หมอที่ขลุกตัวอยู่แต่ในโรงพยาบาลเช่นกัน เขาชอบท่องเที่ยวไปทั่วโลก ชอบไปเล่นสกีที่ประเทศต่างๆ รวมไปถึงลงแข่งเองในงานแข่งด้วย เป็นหัวหน้ากลุ่มลูกเสือ เป็นอะไรอีกหลายอย่างไม่แปลกเลยที่เขาจะมีลุกศิษย์และเพื่อนมากมายอยู่ทั่วโลก ในด้านงานวิจัยของเขาก็ไม่ได้โดดเด่น เช่น ได้รัรางวัลนักวิจัยเยาวชนครั้งแรกเมื่ออายุ 42 (ลูกของปีเตอร์บอกว่านี่น่าจะเป็นเยาวชนที่อายุมากที่สุดในโลก) งานวิจัยอื่นๆก็ไม่มากนัก ผลงานของเขาส่วนมากจะเกี่ยวกับรณรงค์ปกป้องสิทธิมนุษยชนในต่างแดนมากกว่า
ปีเตอร์เกิดที่รัฐมินิโซต้า เป็นลูกของศาสตราจารย์เคมีผู้เป็นพ่อ และ แม่ที่เป็นลูกชาวสวนทั่วไป วัยเด็กของเขานั้นก็เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ชอบเที่ยวเล่น สนุกไปเรื่อยๆ เพราะพ่อเขาเป็นถึงศาตราจารย์ บางครั้งเขาจึงได้มีโอกาสพบเจอกับนักเคมีดังๆที่บ้านเนื่องจากพ่อเขาได้เชิญมาบรรยายที่มหาวิทยาลัย แน่นอน แม้แต่นักเคมีระดับโลกอย่างไลนัส พอลลิ่ง เขาก็ได้เจอในห้องนั่งเล่นที่บ้านมาแล้ว
ถึงแม้ว่าจะมีพ่อเป็นถึง ศ.จ. ด้านวิชาเคมี แต่เขาก้ไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นนัก ในการเรียนวีชาเคมีปีแรก เขาทำผลงานได้สุดยอดมากคือได้เกรด D หรือเกือบตกทั้งๆที่เป็นลูกของศาตราจารย์ด้านนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะความสนใจเขาอยู่ในด้านอื่นมากกว่าตามภาษาวัยรุ่นทั่วไป
เมื่อจบระดับมัธยม เขาก้ได้ไปเรียนต่อทางด้านการแพทย์ ว่ากันว่าที่เขาเรียนด้านนี้เนื่องจากสนใจเกี่ยวกับเลือด ( แม่ปีเตอร์มีหมู่เลือด RhD Positive) และจบหมอจากสถาบัจอร์น ฮอปกิ้น ซึ่งจัดว่าเป็นสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำของโลกเลยทีเดียว
จากการที่เขาเป็นผู้ชำนาญด้านโลหิตวิทยา ครั้งหนึ่งเมื่อเขาศึกษาเกี่ยวกับ Antigen ของเลือดในกลุ่ม Rh เขาได้พบโปรตีนแปลกๆในตัวอย่างของเขา
ตามปกติแล้วสิ่งนี้จะจัดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม แต่ปีเตอร์ได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าของเขาว่าไอ้เจ้านี่มันก็พบเจอในเซลล์ของไต และเจออะไรที่คล้ายๆแบบนี้ในเซลล์ลูกตา เซลล์ท่อลำเลียงของพืชเช่นกัน
ในเวลาเดียวกันนั้น ความรู้เกี่ยวกับการนำน้ำเข้าออกจากเซลล์ ยังไม่แน่ชัดนัก
ปีเตอร์สังเกตว่า เซลล์ที่เอาไปแช่ในสารละลายความเข้มข้นต่างๆนั้น มันมีอัตราการเสียน้ำและดูดน้ำเร็วเกินกว่าที่จะเกิดจากการออสโมซิสได้
เขาจึงใช้ความชำนาญทางด้านโลหิตวิทยาของเขาศึกษา Antigen เลือดกลุ่ม Rh ต่างๆ พร้อมตั้งคำถามว่า มันมีปั๊มน้ำที่เซลล์หรือไม่ แล้วจากนั้นก็พบโปรตีนที่เรียกกันว่า 28K
จากการศึกษาโครงสร้างของมันผ่านเทคนิค X Ray Crystallography ที่พัฒนาอย่างมากในช่วงนั้นด้วย Direct technique ทำให้เขาทราบโครงสร้างของมันว่ามีลักษณะเป็นท่อ และมักพบโปรตีชนิดนี้ในเซลล์ไต ท่อลำเลียงต่างๆ และโครงสร้างโปรตีนคล้ายๆแบบนี้ก็พบในเซลล์ตา เซลล์เม็ดเลือดด้วย เขาเรียกมันว่า Aquaporin หรือย่อสั้นๆ ว่า AQP
การค้นพบนี้ยิ่งใหญ่มาก เพราะจัดว่าเปลี่ยนแปลงทฤษฎีเดิม ๆที่เคยเชื่อกันมานานว่าเซลล์นำน้ำเข้าโดยการออสโมซิสส์เลยทีเดียว จาการค้นพบนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2003 แบบงงๆ โดยรับร่วมกับรอดเดอร์ริก แมคคินนอน ( ผู้ค้นพบท่อส่งโปแตสเซียมของเซลล์) เขาเล่าว่าวันนั้นเขานอนอยู่ในบ้าน แล้วอยู่ๆแม่เขาก็เรียกไปทานข้าวเช้าพร้อมบอกอย่างเนิบๆว่า ลูกได้รางวัลโนเบล
ปีเตอร์ อกรี จัดเป็นนักวิทยาศาสตร์ตัวอย่างคนหนึ่ง เป็นคนที่ไม่ถือตน อัธยาศัยดี มีเพื่อนมากมาย มีอารมณ์ขัน ความสำเร็จของเขายิ่งใหญ่มาก แต่สิ่งที่เขากล่าวก็คือ เขาไม่ได้เก่งอะไร ความสำเร็จนี้ มันเกิดขึ้นจากความบังเอิญ ที่ประจวบเหมาะมาพอดี
ฝากเพจด้วยนะครับถ้าชอบ แฮ่!
เพจ สื่อวิทย์ก็อย่างนี้แหละ !
https://www.facebook.com/scienceclife/
มีอะไรติชมได้นะครับ ขอบคุณมากครับ