ห้องเพลงคนรากหญ้า***รวมใจคนไทยอาลัยพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย*** เฝ้ารับเสด็จ (21/10/2016) PNN




ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 30 กว่าปี ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์  จ. สกลนคร เพื่อทรงออกเยี่ยมเยียนประชาชน และทรงงาน ทรงติดตามความคืบหน้าของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในเขตภาคอีสาน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินออกเยี่ยมเยียนพสกนิกรในชนบทห่างไกลความเจริญ แม้หนทางที่เสด็จจะไกลแค่ไหน จะทุรกันดารแค่ไหน แดดจะร้อน ฝนจะตก ถนนจะขรุขระ ฝุ่นจะตลบอบอวลแค่ไหน พระองค์ก็เสด็จไปอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อยและย่อท้อ ยังความปลื้มปิติและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นแก่พสกนิกร ที่เฝ้ารอรับเสด็จอยู่อย่างมิรู้เสื่อมคลาย



ตอนดิฉันยังเด็ก คุณย่าเคยพาไปเฝ้ารอรับเสด็จในหลวงพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ จำได้คร่าวๆว่า 2 ครั้ง แต่ครั้งที่จำได้ดีก็คือ ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี  และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัคราชกุมารี เสด็จไปเยี่ยมพสกนิกร ที่หมู่บ้านหนึ่งในอำเภอส่องดาว จ. สกลนคร

อำเภอส่องดาวเป็นอำเภอเล็กๆ ตั้งอยู่ด้านในลึกเข้าไป ไม่มีถนนสายหลักตัดผ่าน ติดกับภูเขาและแวดล้อมไปด้วยป่า หนทางที่จะเสด็จนั้นเป็นถนนดินลูกรัง

พอรู้ข่าวว่าในหลวงจะเสด็จ ประชาชนก็พากันตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก ต่างเฝ้ารอคอยวันที่จะเสด็จอย่างใจจดใจจ่อ ผู้เฒ่าผู้แก่ต่างขนขวายหาสิ่งของที่คิดว่าดีที่สุด มีค่าที่สุด สวยงามที่สุด อย่างเช่นผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมมัดหมี่ ที่ถักทอด้วยความปราณีตงดงาม เพื่อนำไปถวายแด่ในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ ด้วยจิตใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความจงรักภักดี บางคนไม่มีสิ่งของมีค่าใดๆ ก็จัดหาดอกไม้ พานพุ่ม หรือร้อยพวงมาลัยดอกไม้สดอย่างปราณีตงดงามไปทูลเกล้าถวย

เมื่อวันเสด็จพระราชดำเนินมาถึง แม้หมายกำหนดการเสด็จจะเป็นในช่วงบ่าย แต่พสกนิกรจำนวนมากต่างหอบลูกจูงหลานกันมาจับจองพื้นที่เฝ้ารอรับเสด็จกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางกันเลยทีเดียว เพราะต่างก็อยากเฝ้าชื่นชมพระบารมีของทุกพระองค์อย่างใกล้ชิดกันทั้งนั้น คุณย่ากับดิฉันก็เช่นกัน ... และก็เป็นบุญของดิฉันที่ได้เฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิดแทบเบื้องพระยุคลบาทในครั้งนั้น

ใกล้ถึงหมายกำหนดการเวลาเสด็จเข้ามาทุกที ๆ ประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จต่างชะเง้อมองไปที่ต้นทางบ่อยๆ หลายคนหวั่นวิตกว่า พระองค์จะไม่เสด็จเพราะพื้นที่กันดารเหลือเกิน อากาศร้อนเหลือเกิน ถนนขรุขระเหลือเกิน (แม้จะพยายามปรับแต่งให้ราบแล้วก็ตาม)

และ แล้วในต้นทางด้านที่จะเสด็จมา ก็ปรากฏกลุ่มควันสีแดงจางๆ ค่อยๆม้วนตัวขึ้นในอากาศ ท่ามกลางเปลวแดดแผดร้อนเต้นระยิบ ยิ่งใกล้เข้ามากลุ่มควันสีแดงก็ยิ่งเข้มขึ้นหนาแน่น ก่อนที่รถนำขบวนจะค่อยๆปรากฏตัวออกมาจากกลุ่มฝุ่นควันของดินลูกรังสีแดงนั้น ในเวลาเดียวกับที่เห็นขบวนรถพระที่นั่งผ่านเข้ามาในบริเวณที่ประทับ เสียงร้องไชโย ทรงพระเจริญ ก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณด้วยความปิติยินดีของเหล่าพสกนิกร



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานที่ประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จอยู่ พระองค์ประทับนั่งลงที่ผ้าผวยที่เหล่าพสกนิกรปูถวาย และทรงมีพระราชปฏิสันถารถามทุกข์ สุข ของประชาชน ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ แม้ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์จะกางร่มถวาย แต่พระองค์ก็ทรงห้ามไว้ แม้พระเสโทจะไหลโชลมพระวรกายจนเปียกชื้น พระพักตร์แดงก่ำก็ตาม

ด้วยพระราชหฤทัยเปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตากรุณาต่อเหล่าพสกนิกรยิ่งนัก สิ่งของที่ประชาชนนำไปทูลเกล้าถวาย หากเป็นสิ่งของมีค่ามากๆ อย่างเครื่องเงิน เครื่องทอง พระองค์ก็ทรงรับเอามาถือแล้วก็มอบกลับคืนไป และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้กับเหล่าพสกนิกรนั้น

ทุกพระองค์ได้เสด็จมาประทับนั่งยังผ้าแพรไหมที่คุณย่าของดิฉันปูถวาย ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับคุณย่ากับดิฉันด้วย พระองค์ท่านทรงถามว่า กี่ขวบแล้ว เรียนชั้นไหน ดิฉันก้มลงกราบพระบาทพระองค์ท่าน คุณย่าให้ตอบว่า 6 ขวบ ดิฉันก็ตอบว่า 6 ขวบค่ะ เรียนอยู่ชั้น ป. 1 แล้วค่ะ แล้วคุณย่าก็ถวายพวงมาลัยแด่พระองค์ท่าน กับ สมเด็จพระราชินี แล้ว สมเด็จพระราชินี ก็พระราชทานขนม (คล้ายๆคุ๊กกี้) กับ ของเล่นเป็นลูกบอลเล็กๆสีแดงให้กับดิฉัน



ดิฉันเห็นคุณย่าน้ำตาไหลด้วยความปลื้มปิติในพระมหากรุณาธิคุณของทุกพระองค์ ดิฉันก็น้ำตาไหลไปกับคุณย่าด้วย ผ้าแพรไหมผืนที่คุณย่าปูถวายนั้น คุณย่าหวงแหนมากได้เก็บเอาไว้เป็นอย่างดี จนกระทั่งคุณย่าเสีย คุณย่าได้สั่งให้ห่มศพคุณย่าด้วยผ้าแพรไหมนี้  ส่วนขนมที่ดิฉันได้รับพระราชทาน คุณย่าให้นำมาแบ่งพี่ๆน้องๆกิน เพื่อความเป็นสิริมงคลกับทุกคน ลูกบอลก็แบ่งกันเล่น ปีต่อมา ด้วยความไม่เดียงสา ก็เล่นแย่งกันกับน้องชายและตกน้ำลอยไป ดิฉันกับน้องได้แต่ยืนมองลูกบอลที่ลอยลับไปกับสายน้ำด้วยตาละห้อยอย่างเสียดาย ....


ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า เพชรน้ำนิล
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่