*** เหตุใดเราจึงไม่ควรตื่นตระหนกกับข่าวสงครามโลกครั้งที่สาม? ***

ช่วงนี้มีแฟนๆจำนวนมากหลังไมค์มาถามผมเรื่องสงครามโลกครั้งที่สาม เพราะข่าวลือหนาหูว่ามีเค้าลางจะเกิดขึ้น ต้นเหตุของข่าวมักมาจากความขัดแย้งระหว่างชาติมหาอำนาจในซีเรีย ยูเครน ทะเลจีนใต้ ฯลฯ

ผมอยากชี้แจงว่าสงครามโลกครั้งที่สามนั้นยากจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยมีเหตุผลดังนี้:

1. ประเทศมหาอำนาจมีผลประโยชน์ร่วมกันมากเกินไป
จีนเป็นประเทศคู่ค้าของอเมริกาที่มีมูลค่าการค้าสูงที่สุด โลกยุคนี้เป็นยุคที่การผลิตสิ่งต่างๆเชื่อมกัน เช่นแล็บทอปที่เราเล่นอยู่นี้ อาจใช้วัตถุดิบจากแอฟริกา ทำเมมโมรีในเกาหลี ทำเซมิคอนดักเตอร์ในเยอรมัน ประกอบในจีนแล้วจึงเอาไปขายทั่วโลก

พวกเขาต้องพึ่งพาอาศัยกันเพื่อความร่ำรวย จีนมีการวางแผนสร้างทางรถไฟเชื่อมจีน รัสเซีย แคนาดา อเมริกา ส่วนรัสเซียมีการวางแผนสร้างไฮเวย์เชื่อมตั้งแต่ลอนดอนไปถึงอเมริกาโดยผ่านรัสเซีย

2. อาวุธที่แต่ละฝ่ายครอบครองนั้นมีอานุภาพมากเกินไป
เวลานี้ชาติมหาอำนาจทุกแห่งมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง เพียงพอบอร์มโลกให้แหลกได้หลายๆครั้ง ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าถ้าเริ่มสงครามนิวเคลียร์ขึ้น ตัวเองก็มีสิทธิบรรลัยตามๆ กันหมด

3. เทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนาขึ้น
เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตทำให้ผู้คนใกล้ชิดกันมากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น คนเยอรมันไม่ได้เห็นคนยิวเป็นปีศาจเหมือนยุคสงครามโลกครั้งที่สอง คนรัสเซียไม่ได้รู้สึกว่าอเมริกาเป็นภูติผีนายทุนเหมือนยุคสงครามเย็น ประชาชนต่างคนต่างมีกระบอกเสียง ไม่ได้ถูกรัฐป้อนโฆษณาชวนเชื่อให้เข้าสู่สงครามได้ง่ายเหมือนยุคก่อน

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นเรื่องมหาอำนาจชิงความเป็นใหญ่กันตามปกติ อาจเรียกมันว่าสงครามเย็นครั้งที่สอง แต่ห่างไกลจากคำว่าสงครามโลกครั้งที่สาม

ที่ผ่านมาโลกผ่านสงครามตัวแทนอย่างสงครามเวียดนาม สงครามเกาหลี สงครามอัฟกานิสถาน หรือแม้แต่วิกฤตคิวบา ล้วนเลวร้ายรุนแรง หลายอันหนักกว่าซีเรียมาก แต่ก็ไม่เกิดสงครามโลก ดังนั้นยากจะบอกว่าความขัดแย้งในปัจจุบันจะทำให้เกิดสิ่งนั้นได้

ถามว่าแล้วทำไมถึงมีข่าวสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้น?
คำตอบคือข่าวพวกนี้มันทำให้คนตกใจ และการตกใจนั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่นรัฐบาลอยากให้คนตกใจ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนจากปัญหาภายในประเทศ หรือคนเขียนข่าวอ้างทฤษฎีสมคบคิดเพราะมันฟังแล้วน่าตื่นเต้น พูดแล้วมีคนสนใจเยอะ
ทุกวันนี้ข่าวลือมีมาก เราท่านก็เสพข่าวด้วยสตินะครับ พยายามอ่านจากหลายๆแหล่ง พิจารณาด้วยเหตุผล

:::  :::  :::

ข้างบนเป็นข้อความที่ผมโพสต์ในเพจของผมเอง https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat ผมเห็นว่าในพันทิปมีคนตกใจเรื่องนี้กันเยอะ เลยเอามาลงกระทู้ไว้ด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่