14 ตุลาคม 2559 ผมตื่นขึ้นมากับฝันร้าย ฝันร้ายบนโลกเเห่งความจริง ในหลวงที่คนไทยรักจากเราไปเเล้ว ผมนอนมองเพดานห้องอย่างเคว้ง ไถจอมือถือไปเรื่อย พบทั้งข้อความสดุดี ไว้อาลัย ไม่เว้นเเม้เเต่เเซะฝ่ายที่มีทัศนคติไม่เหมือนตน แต่ดันไปสะดุดกับ ข้อความหนึ่งที่มีเนื้อหา ว่า ทำให้พ่อภูมิใจ นั่นสินะ สำหรับมนุษย์ อ่อนด๋อยเเบบผม สิ่งที่ผมรัเเละคิดไปเองว่าทำได้ดี คือ การเก็บความทรงจำในรูปนี่เเหละ ผมปาดน้ำตาที่หยดลงมา ล้างหน้า อาบน้ำ แล้วเเบกเจ้ากล้องคู่ใจออกไป วันนี้หน้าที่ของผมคือ ถ่ายทอดสิ่งที่ผมเห็น ภาพของผู้คนที่มาส่งเสด็จ บุคคลอันเป็นที่รักของเขา "กษัตริย์เเห่งแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ"
"คุณเเม่ครับ น้าเค้ามาถอดธงของคุณยายออกไปทำไม"
เสียงเด็กหน้าร้านขายพระพุทธรูป หันไปถามคุณเเม่ของเขาที่กำลังนั่งมองไปยังคุณยายคนหนึ่งที่นั่งเหม่อลอยอยู่หน้าจอโทรทัศน์ คุณยายจะรู้ไหมนะว่า ต่อไปเราคงได้เห็นธงสีเหลืองนี้เเค่ในภาพถ่ายเเละพิพิฑธภัณฑ์ ผมตัดสินใจหันไปถ่ายรูปอีกฝากหนึ่งของถนน ภาพที่ยังมีธงตัวเเทนเเห่งความรักเเละความศรัทธาของผุ้คนสถิตย์อยู่ในนั้น
ธงสีเหลืองที่จะเตือนให้รู้ถึงเจ้าของพระปรมาภิไธย บนนั้น ว่าพระองค์ทรงเคยยิ่งใหญ่เพียงใด
ทุกคนมุ่งหน้าไปที่จุดมายเดียว
ไปส่งคนที่เขารัก ไปส่ง "พ่อ"
กลับขึ้นไปบนฟ้า
ถนนคราคร่ำไปด้วยผู้คน เสียงร้องบอกทาง
ของทหารยามดังออกมาว่าให้ทุกคนเบี่ยงออกไปทางขวาเพราะรอบสนามหลวงนั้นเต็มเเล้ว
ฉันเดินเบียดกับผู้คนออกไป
ไม่มีใครโวยวายว่าร้อน ไม่มีใครท้อเเท้เเล้วบ่น
แต่บางคนมีน้ำตา
น้ำตาที่ไหลออกมาเรื่อยๆ ราวกับว่าทุกข์โศกของเขาไม่มีที่สิ้นสุด
ผมยังทนได้อยู่ ผมจะไม่ร้องไห้
"ผมจะเข้มเเข็งเพื่อให้เขาคนนั้นภูมิใจ"
ผมสัญญากับตัวเองเบาๆ
เเสงไม่เป็นใจเลย
ผมรำพึงในใจ
เเต่เอาเข้าจริง
ในวันที่มันโศกเศร้าเเบบนี้
ฟ้าเองก็คงไม่มีอารมณ์มาเปล่งเเสงให้ท้องฟ้าสะท้อนชั้นบรรยากาศเป็นสีสวยงามหรอก
ฟ้าเอง
คงรับรู้ว่า คนสำคัญคนหนึ่งของโลก
จากไปแล้ว ฟ้าจึงเป็นสีหม่นหมอง ราวกับเเต้มสีเหล่านั้นขึ้นมาเพื่อเเสดงออกถึงความเศร้าของฟ้าเหมือนกัน
"ขอบคุณนะฟ้า อย่างน้อยเธอก็อดทนมากพอที่จะไม่ร้องไห้ลงมา"
พี่คนหนึ่งเดินแบกรูปในฝูงชน แกพูดติดตลกเมื่อเห็นผมถ่ายรูป เอ้าๆ เค้าถ่ายรูปเรา เดินดีๆสิ
ผมยิ้มให้เขาเบาๆ
ผมไม่รู้ว่าใต้เเว่นดำนั้น
พี่เขาซ่อนอะไรเอาไว้
เเต่ผมอยากจะเชื่อเหลือเกินว่า
มันเป็นตาเเดงๆที่ถ่ายรูปออกมาเเล้วไม่น่าดูเเน่ๆ
"ขอบคุณครับพี่ที่รักในหลวง"
ผมได้เเต่ขอบคุณเขาเบาๆเมื่อพี่เขาเดินหายเข้าไปในฝูงชน.....อีกครั้ง
น้องๆร่วมสถาบันของผม ก็มา ทุกคนรู้ดีว่าจะเจอกับอะไรที่นี่ น้องๆไม่กลัวร้อน ไม่ห่วงสวย สิ่งที่พวกเธอเเละเขาหลายๆคนคือ อยากมาให้ใกล้ที่สุด มาเพื่อส่งพ่อไปพร้อมๆกัน
ผมเชื่ออย่างนั้น
ข้ามสะพาน
ผมจำได้ว่าเป็นหนึ่งในพิธีศพของชาวจีนเเละชาวไทยเชื้อสายจีน
ผมจำไม่ได้ว่ากุศโลบายของการทำพิธีคืออะไร เเต่ในเวลานั้นผมกลับรู้สึกเหมือนทำพิธีนี้อยู่
ไม่รู้สิ ผมอาจจะคิดไปเอง
หรือเพราะบรรยากาศอึมครึมรอบตัวก็ไม่รู้เหมือนกัน
"เราไปด้วยกันนะ ไปส่งพ่อด้วยกัน"
คู่รักหลายคู่เดินจูงมือกันมุ่งตรงสู่ใจกลางท้องสนามหลวงเเละถนนราชดำเนิน ไม่มีคำอิดออดจากหญิงวาว ไม่มีคำง้องอนจากฝ่ายชาย
ทุกคนกำมือเเน่นขึ้นทุกที ที่เริ่มเห็นฝูงชนข้างหน้าชัดเจนขึ้น
พวกเขาคงไม่อยากพรากจากกันในวันเเบบนี้ วันที่ต้องเป็นกำลังใจให้กันเเละกัน
ในวินาทีที่ขบวนรถพระบรมศพเคลื่อนผ่าน เพราะนั่นเป็นฝันร้ายที่เป็นจริงอันน่ากลัวที่สุดเเล้วสำหรับพวกเรา
ผมก้มมองมือมี่ว่างเปล่า ไม่มีใครให้กุมมือเดินเข้าไปด้วย
ฮ่ะๆ ผมได้เเต่ยิ้มเเหยๆ เเล้วเดินตามพวกเขาไป
ฝูงชนยังคนเเน่นขนัด ผู้คนเบียดเสียด แสงแดดยามบ่ายเเผดเผาร่างกาย เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมงร่างกายของบางคนถึงกับล้มลงไป นี่คือสิ่งที่พ่อเจอมากว่าครึ่งชีวิตของท่านหรือ ผมได้เเต่ตั้งคำถามในใจ ทำไมคนหนึ่งคนถึงทำเพื่อคนอื่นได้ขนาดนี้ ทำไมท่านต้องรับความลำบากขนาดนี้ทุกวัน
"ท่านทำเพื่ออะไร"
ผมไม่ต้องการคำตอบในเเบบเรียน ผมไม่ต้องการคำตอบเเบบสารคดี
ผมเคยได้ยินท่านตอบฝรั่งเเล้ว
เเละ
"ผมศรัทธาในคำตอบเหล่านั้น"
ไอติมฟรีครับ ต่อเเถวรับได้เลยนะครับ
พี่รถขายไอติม ที่ยืนรวมกลุ่มกับพี่ๆอีกกลุ่มหนึ่ง ตะโกนเรียกให้คนที่ผ่านไปมา รับไอศกรีมของเเกเพื่อคลายร้อน
พี่อาจจะถูกเหมาไอศกรีมมา
แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า
"ลึกๆในใจของพี่ อยากถวายทานครั้งนี้เพื่อพ่อ"
"ยาคูลท์ ฟรี รับหลอดไปด้วยนะครับ "
พี่อีกคนยืนเเจกยาคูลท์ฟรีที่ริมถนน
ผมรักประเทศของเราตรงนี้ ตรงที่มีคนคิดจะให้เเละเผื่อเเผ่คนอื่นตลอดเวลา
ผมรักประเทศของเรา ที่เรารักและแบ่งปันกัน
เเม้จะมีบางคน ขายเเม้กระทั้งสำลีชุบแอมโมเนียในราคาสองบาท โดยหลอกให้หยิบก็ตาม
...เอาเถอนะ พ่อเคยบอก ไม่มีทางทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ ผมเพิ่งเห็นวันนี้เอง
สุดท้าย.....
ผมก็ทำไม่สำเร็จ
ผมเข้าไปได้ไม่ถึงที่ๆเห็นพ่อชัดที่สุด
ผมไม่สามารถส่งพ่อได้ใกล้กว่านี้
พี่ๆทุกคนอยากส่งพ่อ เขาเสียสละตัวเองได้มากกว่าผม พวกเขามารอส่งพ่อกันเเต่เช้า พ่อครับ ทุกคนรักพ่อ
พ่อดูสิครับ
พ่อผ่านมาเเล้ว เเทบจะทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น ไม่มีเสียงกรีดร้อง ไม่มีเสียงเจื้อยเเจ้วของนกกา มีเพียงความเงียบอันเเสนเวิ้งว้าง ความเงียบพร้อมกันของคนนับล้านรอบพระบรมมหาราชวัง เงียบ เงียบเสียจนคิดไปเองว่าได้ยินเสียงเเผ่วเบาของเพลงส่งเสด็จลอยมาจากที่ไกลๆ
เสียงเพลงส่งเสด็จเเว่วมาจริงๆ มีหลายคนเลือกที่จะร้องเพลงเบาๆเพื่อส่งพ่อ บางคนก็ส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมา ไม่มีการโวยวาย ไม่มีความฟูมฟาย มีเพียงเสียงสะอื้นที่ทำให้เรารู้สึกอัดอั้นตันตันใจ
รอบข้างของผมไม่มีใครไม่ร้องไห้
บางคนก็สะอื้นบางคนก็เเค่น้ำตาไหล
ขณะที่รถขนพระบรมศพค่อยๆ ผ่านไปช้าๆ จริงๆเเล้วก็ไม่ได้ช้ามาก ผมมองเห็นเพียงหลังคาของรถเท่านั้น
เเต่ช่วงเวลานั้นนานมากๆ มัน...
เป็นอึดใจที่นานกว่าทุกๆวินาทีใดๆบนโลก
มันเป็นอึดใจ ที่ในสมองต่อสู้กันไปหมด
พ่อยังอยู่ อยู่นั่นไง ในรถคันนั้น ขอเเค่ปาฏิหาริย์ครั้งเดียวพ่อก็จะกลับออกมาจากรถคันนั้นได้ ท่านจะออกมาเเย้มพระโอษฐ์กับเรา กับลูกๆของท่านอีกครั้ง
เเต่ปาฏิหาริย์เหล่านั้นเกิดมาเเล้ว 70 ปี มันเพียงพอแล้วสำหรับพวกเรา ที่จะเอามันมาเป็นเเรงใจให้สู้ต่อ พ่อจากพวกเราไปแล้ว นี่คือความจริงตรงหน้า
"อิจฉาฟ้าจัง....ได้เทวดากลับไป"
ใช่อิจฉาฟ้าจัง
ผมเงยหน้ามองฟ้า..........
เเล้วฝนก็ตกลงมาเป็นสาย
ทั้งๆที่ท้องฟ้าเเจ่มใส
ลาก่อนครับ พ่อ........
ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ผมจะทำให้พ่อภูมิใจ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
So far So Close
"Make Him Proud" 15 ภาพถ่าย cinematic จากลูกของพ่อที่เข้าไปเห็นพระองค์ได้เพียงหลังคารถ
"คุณเเม่ครับ น้าเค้ามาถอดธงของคุณยายออกไปทำไม"
เสียงเด็กหน้าร้านขายพระพุทธรูป หันไปถามคุณเเม่ของเขาที่กำลังนั่งมองไปยังคุณยายคนหนึ่งที่นั่งเหม่อลอยอยู่หน้าจอโทรทัศน์ คุณยายจะรู้ไหมนะว่า ต่อไปเราคงได้เห็นธงสีเหลืองนี้เเค่ในภาพถ่ายเเละพิพิฑธภัณฑ์ ผมตัดสินใจหันไปถ่ายรูปอีกฝากหนึ่งของถนน ภาพที่ยังมีธงตัวเเทนเเห่งความรักเเละความศรัทธาของผุ้คนสถิตย์อยู่ในนั้น
ธงสีเหลืองที่จะเตือนให้รู้ถึงเจ้าของพระปรมาภิไธย บนนั้น ว่าพระองค์ทรงเคยยิ่งใหญ่เพียงใด
ทุกคนมุ่งหน้าไปที่จุดมายเดียว
ไปส่งคนที่เขารัก ไปส่ง "พ่อ"
กลับขึ้นไปบนฟ้า
ถนนคราคร่ำไปด้วยผู้คน เสียงร้องบอกทาง
ของทหารยามดังออกมาว่าให้ทุกคนเบี่ยงออกไปทางขวาเพราะรอบสนามหลวงนั้นเต็มเเล้ว
ฉันเดินเบียดกับผู้คนออกไป
ไม่มีใครโวยวายว่าร้อน ไม่มีใครท้อเเท้เเล้วบ่น
แต่บางคนมีน้ำตา
น้ำตาที่ไหลออกมาเรื่อยๆ ราวกับว่าทุกข์โศกของเขาไม่มีที่สิ้นสุด
ผมยังทนได้อยู่ ผมจะไม่ร้องไห้
"ผมจะเข้มเเข็งเพื่อให้เขาคนนั้นภูมิใจ"
ผมสัญญากับตัวเองเบาๆ
เเสงไม่เป็นใจเลย
ผมรำพึงในใจ
เเต่เอาเข้าจริง
ในวันที่มันโศกเศร้าเเบบนี้
ฟ้าเองก็คงไม่มีอารมณ์มาเปล่งเเสงให้ท้องฟ้าสะท้อนชั้นบรรยากาศเป็นสีสวยงามหรอก
ฟ้าเอง
คงรับรู้ว่า คนสำคัญคนหนึ่งของโลก
จากไปแล้ว ฟ้าจึงเป็นสีหม่นหมอง ราวกับเเต้มสีเหล่านั้นขึ้นมาเพื่อเเสดงออกถึงความเศร้าของฟ้าเหมือนกัน
"ขอบคุณนะฟ้า อย่างน้อยเธอก็อดทนมากพอที่จะไม่ร้องไห้ลงมา"
พี่คนหนึ่งเดินแบกรูปในฝูงชน แกพูดติดตลกเมื่อเห็นผมถ่ายรูป เอ้าๆ เค้าถ่ายรูปเรา เดินดีๆสิ
ผมยิ้มให้เขาเบาๆ
ผมไม่รู้ว่าใต้เเว่นดำนั้น
พี่เขาซ่อนอะไรเอาไว้
เเต่ผมอยากจะเชื่อเหลือเกินว่า
มันเป็นตาเเดงๆที่ถ่ายรูปออกมาเเล้วไม่น่าดูเเน่ๆ
"ขอบคุณครับพี่ที่รักในหลวง"
ผมได้เเต่ขอบคุณเขาเบาๆเมื่อพี่เขาเดินหายเข้าไปในฝูงชน.....อีกครั้ง
น้องๆร่วมสถาบันของผม ก็มา ทุกคนรู้ดีว่าจะเจอกับอะไรที่นี่ น้องๆไม่กลัวร้อน ไม่ห่วงสวย สิ่งที่พวกเธอเเละเขาหลายๆคนคือ อยากมาให้ใกล้ที่สุด มาเพื่อส่งพ่อไปพร้อมๆกัน
ผมเชื่ออย่างนั้น
ข้ามสะพาน
ผมจำได้ว่าเป็นหนึ่งในพิธีศพของชาวจีนเเละชาวไทยเชื้อสายจีน
ผมจำไม่ได้ว่ากุศโลบายของการทำพิธีคืออะไร เเต่ในเวลานั้นผมกลับรู้สึกเหมือนทำพิธีนี้อยู่
ไม่รู้สิ ผมอาจจะคิดไปเอง
หรือเพราะบรรยากาศอึมครึมรอบตัวก็ไม่รู้เหมือนกัน
"เราไปด้วยกันนะ ไปส่งพ่อด้วยกัน"
คู่รักหลายคู่เดินจูงมือกันมุ่งตรงสู่ใจกลางท้องสนามหลวงเเละถนนราชดำเนิน ไม่มีคำอิดออดจากหญิงวาว ไม่มีคำง้องอนจากฝ่ายชาย
ทุกคนกำมือเเน่นขึ้นทุกที ที่เริ่มเห็นฝูงชนข้างหน้าชัดเจนขึ้น
พวกเขาคงไม่อยากพรากจากกันในวันเเบบนี้ วันที่ต้องเป็นกำลังใจให้กันเเละกัน
ในวินาทีที่ขบวนรถพระบรมศพเคลื่อนผ่าน เพราะนั่นเป็นฝันร้ายที่เป็นจริงอันน่ากลัวที่สุดเเล้วสำหรับพวกเรา
ผมก้มมองมือมี่ว่างเปล่า ไม่มีใครให้กุมมือเดินเข้าไปด้วย
ฮ่ะๆ ผมได้เเต่ยิ้มเเหยๆ เเล้วเดินตามพวกเขาไป
ฝูงชนยังคนเเน่นขนัด ผู้คนเบียดเสียด แสงแดดยามบ่ายเเผดเผาร่างกาย เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมงร่างกายของบางคนถึงกับล้มลงไป นี่คือสิ่งที่พ่อเจอมากว่าครึ่งชีวิตของท่านหรือ ผมได้เเต่ตั้งคำถามในใจ ทำไมคนหนึ่งคนถึงทำเพื่อคนอื่นได้ขนาดนี้ ทำไมท่านต้องรับความลำบากขนาดนี้ทุกวัน
"ท่านทำเพื่ออะไร"
ผมไม่ต้องการคำตอบในเเบบเรียน ผมไม่ต้องการคำตอบเเบบสารคดี
ผมเคยได้ยินท่านตอบฝรั่งเเล้ว
เเละ
"ผมศรัทธาในคำตอบเหล่านั้น"
ไอติมฟรีครับ ต่อเเถวรับได้เลยนะครับ
พี่รถขายไอติม ที่ยืนรวมกลุ่มกับพี่ๆอีกกลุ่มหนึ่ง ตะโกนเรียกให้คนที่ผ่านไปมา รับไอศกรีมของเเกเพื่อคลายร้อน
พี่อาจจะถูกเหมาไอศกรีมมา
แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า
"ลึกๆในใจของพี่ อยากถวายทานครั้งนี้เพื่อพ่อ"
"ยาคูลท์ ฟรี รับหลอดไปด้วยนะครับ "
พี่อีกคนยืนเเจกยาคูลท์ฟรีที่ริมถนน
ผมรักประเทศของเราตรงนี้ ตรงที่มีคนคิดจะให้เเละเผื่อเเผ่คนอื่นตลอดเวลา
ผมรักประเทศของเรา ที่เรารักและแบ่งปันกัน
เเม้จะมีบางคน ขายเเม้กระทั้งสำลีชุบแอมโมเนียในราคาสองบาท โดยหลอกให้หยิบก็ตาม
...เอาเถอนะ พ่อเคยบอก ไม่มีทางทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ ผมเพิ่งเห็นวันนี้เอง
สุดท้าย.....
ผมก็ทำไม่สำเร็จ
ผมเข้าไปได้ไม่ถึงที่ๆเห็นพ่อชัดที่สุด
ผมไม่สามารถส่งพ่อได้ใกล้กว่านี้
พี่ๆทุกคนอยากส่งพ่อ เขาเสียสละตัวเองได้มากกว่าผม พวกเขามารอส่งพ่อกันเเต่เช้า พ่อครับ ทุกคนรักพ่อ
พ่อดูสิครับ
พ่อผ่านมาเเล้ว เเทบจะทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น ไม่มีเสียงกรีดร้อง ไม่มีเสียงเจื้อยเเจ้วของนกกา มีเพียงความเงียบอันเเสนเวิ้งว้าง ความเงียบพร้อมกันของคนนับล้านรอบพระบรมมหาราชวัง เงียบ เงียบเสียจนคิดไปเองว่าได้ยินเสียงเเผ่วเบาของเพลงส่งเสด็จลอยมาจากที่ไกลๆ
เสียงเพลงส่งเสด็จเเว่วมาจริงๆ มีหลายคนเลือกที่จะร้องเพลงเบาๆเพื่อส่งพ่อ บางคนก็ส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมา ไม่มีการโวยวาย ไม่มีความฟูมฟาย มีเพียงเสียงสะอื้นที่ทำให้เรารู้สึกอัดอั้นตันตันใจ
รอบข้างของผมไม่มีใครไม่ร้องไห้
บางคนก็สะอื้นบางคนก็เเค่น้ำตาไหล
ขณะที่รถขนพระบรมศพค่อยๆ ผ่านไปช้าๆ จริงๆเเล้วก็ไม่ได้ช้ามาก ผมมองเห็นเพียงหลังคาของรถเท่านั้น
เเต่ช่วงเวลานั้นนานมากๆ มัน...
เป็นอึดใจที่นานกว่าทุกๆวินาทีใดๆบนโลก
มันเป็นอึดใจ ที่ในสมองต่อสู้กันไปหมด
พ่อยังอยู่ อยู่นั่นไง ในรถคันนั้น ขอเเค่ปาฏิหาริย์ครั้งเดียวพ่อก็จะกลับออกมาจากรถคันนั้นได้ ท่านจะออกมาเเย้มพระโอษฐ์กับเรา กับลูกๆของท่านอีกครั้ง
เเต่ปาฏิหาริย์เหล่านั้นเกิดมาเเล้ว 70 ปี มันเพียงพอแล้วสำหรับพวกเรา ที่จะเอามันมาเป็นเเรงใจให้สู้ต่อ พ่อจากพวกเราไปแล้ว นี่คือความจริงตรงหน้า
"อิจฉาฟ้าจัง....ได้เทวดากลับไป"
ใช่อิจฉาฟ้าจัง
ผมเงยหน้ามองฟ้า..........
เเล้วฝนก็ตกลงมาเป็นสาย
ทั้งๆที่ท้องฟ้าเเจ่มใส
ลาก่อนครับ พ่อ........
ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ผมจะทำให้พ่อภูมิใจ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
So far So Close