ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี...
ชีวิตที่ต้องอยู่ในครอบครัวที่ไม่มีอนาคต ครอบครัวที่ไม่มีความรักต่อกัน มันช่างทรมานจริงๆ ทุกคืนต้องทนฟันเสียงพ่อกับแม่ตัวเองทะเลาะกัน ต้องทนฟังทั้งๆที่ไม่เคยอยากได้ยิน บางคืนโชคดีหน่อยก็หลับไปก่อน บางคืนหลับไปแล้วก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงทะเลาะ 25 ปีที่เกิดมาแทบจะไม่มีคืนไหนที่ไม่ได้ยินมัน ต้องทนฟังจนมันกลายเป็นชินชา แม้ว่ามันจะหนักหรือร้ายแรงแค่ไหน ก็ชิน ไม่มีการลงไปดูไม่มีการลงไปห้าม
ชีวิตตั้งแต่จำความได้ มีแต่ความรุนแรง พ่อขี้เมา แม่โมโหร้าย พ่อเจ้าชู้ แม่ตามอาละวาด ยังโชคดีที่พ่อเกิดมามีสมบัติมาก โชคดีอย่างเดียวในวัยเด็กคือ การได้สิ่งของทุกอย่างที่อยากจะได้ แต่สิ่งเดียวที่ไม่เคยได้รับคือความรักจากพ่อ ตอนยังเป็นเด็กก็ไม่รู้หรอกว่าชีวิตมันแย่แค่ไหน เพราะมันคงเป็นเรื่องปกติของเด็กคนนึงที่เกิดมาแล้วเจอพ่อแม่ทะเลาะกันทุกวันทุกคืน หลายเหตุการณ์ที่จำได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าจะเป็นแม่เอาปืนยิงพ่อ พ่อหลบทัน หรือ พ่อเอาปืนจ่อหัวแม่แล้วเหนี่ยวไกแต่สะบันปืนออกข้าง พ่อเตะแม่เลือดอาบ แม่เอามีดแทงพ่อเข้าไอซียู หรือ แม่เอาขวดตีหัวพ่อ เขวี้ยงจาน เขวี้ยงแก้วใส่กัน ก็เห็นมาและเจอมาหมดแล้ว เรื่องทุกอย่างมันไม่เคยดีขึ้น ยิ่งโตยิ่งแย่ ตั้งแต่พ่อเอาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน(บ้านเดียวกัน). ทำห้องให้ แม่ก็ยอมและเริ่มมีอาการของโรคซึมเศร้า ทุกๆอย่างในครอบครัวเริ่มแย่ เงินที่มีก็ค่อยๆหมด งานที่พ่อทำก็มีปัญหา สุดท้ายต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ต้องขายบ้าน ขายรถ ย้ายไปอยู่บ้านเช่า พ่อก็เลิกกับเมียน้อย แม่บอกเลิกพ่อ เซ็นใบหย่าและขายทุกอย่างที่มี(ของทุกอย่างในบ้าน) เรายอมรับว่าตอนนั้นอายุแค่ 18 ปี กำลังจะจบ ปวช.3 เราไม่เคยเรียนติดอะไร แต่สุดท้ายเราก็เรียนไม่จบ ตอนนั้นมันแค่รู้สึกไม่อยากทำอะไรไม่อยากพูดกับใคร เราคิดและก็อายเพื่อน จากปกติเคยใช้แต่มือถือแพงๆ ก็กลายเป็นไม่มีให้ใช้ จากได้ตังไปเรียนอาทิตย์ละ 1000 ก็เหลือวันละ 50-70 บาท บางวันก็ไม่ได้ตังไป เราไม่ได้ไปเที่ยวไม่ได้โดดเรียน แต่เรานอนอยู่บ้านจนโดนไล่ออก สุดท้ายมันก็ส่งผลมาถึงเราในปัจจุบันนี้ เพราะสุดท้ายแล้วแม่กับพ่อเราก็ไม่เลิกกัน กลับมาอยู่ด้วยกันอีก แต่ก็ยังทะเลาะกันเหมือนเดิมปัญหาเดิม พอเริ่มจะขึ้นมาได้ก็จบลงแบบเดิม คือ เลิกแล้วขายทุกอย่าง(แต่ไม่มีบ้านนะยังอยู่บ้านเช่า) ยิ่งร้ายแรง คือ พ่อเพิ่มจากเมื่อก่อนคือติดการพนันบอล คาสิโนออนไลน์ ตอนเราอายุ 19 ปี ตอนนั้นเราออกรถ 1 คันให้พ่อกับแม่(ใช้แค่ชื่อเราเพราะเรามีชื่อเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนุ)สุดท้ายรถก็ไม่มีตังผ่อน พ่อเลยเอารถไปจำนำ และบอกให้เราออกรถให้อีกคันนึง เดี๋ยวได้ตังแล้วจะไปเอาออก ตอนนั้นเราบอกว่า แค่คันนี้ยังไม่มีปัญญาผ่อนเลย แล้วจะเอาอีกคันจะมีปัญญาหรอ เราบอกเราไม่ใช้ชื่อออกให้ จนพ่อเราต้องให้แม่มาคุย แม่โทรมาด่าเรา ว่าเราอกตัญญู มีปัญญาเลี้ยงดูตัวเองหรอ เราก็เลยยอม เพราะยังไงเราก็คิดว่าเราเป็นลูกเขาคงไม่ยอมให้เราเสียหรอก เพราะเราเพิ่ง 20 ปีเอง(นี่ก็ใช้แค่ชื่อเรา เหตุผลเดิมแต่ครั้งนี้ชื่อเป็นชื่อเราเพราะเราอายุถึงแล้ว) สุดท้ายก็ไปไม่รอด สภาพตอนนั้นที่เราเห็นครอบครัวเรา คือ ไม่มีใครทำงาน เพราะทุกคนทำงานไม่เป็น แม่วันๆได้แต่นอน พ่อก็ขี้เมาเงินจะห้าบาทสิบบาทก็ไม่มี ยังดีที่ป้ายังช่วยเหลือให้ตังครั้งละ 500-1000 บาท มันทุกเรศตัวเองอย่างสุดหัวใจ สมเพศชีวิตครอบครัวตัวเอง ทุกอย่างไม่มีใครช่วยเหลือใครในครอบครัว ยังคงต่างคนต่างนิสัยเหมือนเดิม ทะเลาะกัน แต่ยิ่งจนมากเท่าไหร่ ทุกคนกลับยิ่งเห็นแก่ตัว จนเราทนไม่ไหวยอมทำลายชีวิตตัวเองเพื่อให้แม่ได้มีเงิน ยอมเสียและก็รู้ว่าตลอดชีวิตจะทำอะไรไม่ได้อีก เพราะตอนนั้นเราเองก็ไม่มีปัญญาที่จะทำอะไรได้ไปมากกว่านี้ แต่เราทนเห็นสภาพนี้ต่อไปไม่ได้ แต่สุดท้ายไม่ว่าเงินกี่แสนก็ไม่สามารถทำให้ครอบครัวเรากลับมามีเหมือนเดิม
ทุกวันนี้เราก็ยังต้องทนฟังเสียงนั้นอยู่ แม้แต่ตอนนี้ที่พิมพ์อยู่ หึ บ้านที่ตอนนี้ซื้อมาได้แล้ว ก็กำลังจะโดนยึด พ่อไม่มีงานทำ แม่ไม่ทำงาน น้องอายุ 20 เรียนไม่จบ ไม่ยอมทำงาน ส่วนเราทำงานอยู่คนเดียว เงินฐานเงินเดือน 12000 บาท เราไม่สามารถช่วยเหลือใครได้ เงินเข้าทางเดียวแต่ทุกคนในครอบครัวกลับเกลียดเรา เพราะเราชอบว่า และชอบด่าว่าพวกเขาไม่ยอมทำงาน เราทำงานคนเดียว เราเหนื่อย เราเลี้ยงทุกคนไม่ได้ ตอนนี้เราส่งจัวเองเรียนให้จบป.ตรี เพราะเราอยากมีอนาคต แต่เราจะไม่ไหวอยู่แล้ว ทุกคนคิดว่าเรามีตังในเงินเดือน 12000 บาท ทะเลาะกันทุกครั้งกับแม่ แม่ไล่ออกจากบ้าน แม่บอกเราไม่เคยให้แม่ เราเห็นแก่ตัว คิดว่าตัวเองทำงาน ชอบดูถูกน้อง น้องถึงมันไม่ทำงานแต่มันไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กู เราอยากรู้ว่าเราผิดใช่มั้ย? ที่ด่าที่ว่าให้น้องไปทำงาน วันนี้เมื่อกี้ พ่อกับแม่ทะเลาะกันแค่เพราะ เราลงไปกินข้าวที่เขาทำไว้ ทั้งๆที่เราไม่ค่อยได้กินข้าวบ้าน หรือแทบไม่ได้กินเลยด้วยซ้ำ เค้าทะเลาะกันเพราะเราไปกินของเขาที่เค้าทำไว้กินกัน 3 คน และมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เวลาเขาจะขอให้เราช่วยอะไรเขาจะพูดดีและเราก็ต้อฃช่วยทุกที เรายอมรับว่าเราปากไม่ดีนักหรอก แต่เราก็เหนื่อยก็น้อยใจรึป่าว ตอนเราอดเราไม่เคยบอกใครและทุกครั้งที่กินข้าวบ้านเพราะเราไม่มีตังแล้ว เงินที่เขาเป็นหนี้สินกับมี่บริษัทเรา เราก็ต้องรับผิดชอบ พี่ที่บริษัทถามเราก็บอกว่าพ่อให้มาแล้วแต่เราใช้หมด เราก็รู้ว่าพ่อกับแม่ไม่มีปัญญาจ่ายเราก็ยอมโดนหักตังทุกเดือน ค่าน้ำค่าไฟ เวลาแม่ขอ ค่าอะไรก็ตาม เราก็เบิกล่วงหน้ามาให้ และตอนนี้เราเรียน เราจ่ายเงินที่มีที่เก็บไปหมดแล้ว ค่าใช้จ่ายแต่ละวันก็เยอะ เวลาที่พวกเขาพูด ว่าเราต่างๆนาๆ เราท้อ เราเหนื่อย เราไม่อยากอยูาบนโลกนี้เลย พวกเขาไม่เคยช่วย ไม่เคยให้กำลังใจ มีแต่คอยเหยียบย่ำ จ้องแต่จะเอา เราเพิ่งรู้ว่าความเห็นแก่ตัวของคนเรามันร้ายกาจมากแค่ไหน เราไม่มีปัญญามากพอที่เรสจะทำให้แม่สบาย แต่เราก็พยายามทำอยู่ บาฃทีก็คิดอบากจะหนีออกไปเลยแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเรารักแม่มาก แต่เราไม่รู้ว่าแม่รักเราแค่ไหน ญาติพี่น้องทุกคนบอกเราให้ออกไปเพื่ออนาคนตัวเองเพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนพวกเขสได้แล้ว ออกไปทำอนาคตตัวเองให้ดีก่อนดีกว่า
เรามองไม่เห็นทางที่จะไปเลย มองไม่เห็นอนาคตตัวเองเลย
คุณเคยมองไม่เห็นอนาคตตัวเองรึป่าว??ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไร้ทาง
ชีวิตที่ต้องอยู่ในครอบครัวที่ไม่มีอนาคต ครอบครัวที่ไม่มีความรักต่อกัน มันช่างทรมานจริงๆ ทุกคืนต้องทนฟันเสียงพ่อกับแม่ตัวเองทะเลาะกัน ต้องทนฟังทั้งๆที่ไม่เคยอยากได้ยิน บางคืนโชคดีหน่อยก็หลับไปก่อน บางคืนหลับไปแล้วก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงทะเลาะ 25 ปีที่เกิดมาแทบจะไม่มีคืนไหนที่ไม่ได้ยินมัน ต้องทนฟังจนมันกลายเป็นชินชา แม้ว่ามันจะหนักหรือร้ายแรงแค่ไหน ก็ชิน ไม่มีการลงไปดูไม่มีการลงไปห้าม
ชีวิตตั้งแต่จำความได้ มีแต่ความรุนแรง พ่อขี้เมา แม่โมโหร้าย พ่อเจ้าชู้ แม่ตามอาละวาด ยังโชคดีที่พ่อเกิดมามีสมบัติมาก โชคดีอย่างเดียวในวัยเด็กคือ การได้สิ่งของทุกอย่างที่อยากจะได้ แต่สิ่งเดียวที่ไม่เคยได้รับคือความรักจากพ่อ ตอนยังเป็นเด็กก็ไม่รู้หรอกว่าชีวิตมันแย่แค่ไหน เพราะมันคงเป็นเรื่องปกติของเด็กคนนึงที่เกิดมาแล้วเจอพ่อแม่ทะเลาะกันทุกวันทุกคืน หลายเหตุการณ์ที่จำได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าจะเป็นแม่เอาปืนยิงพ่อ พ่อหลบทัน หรือ พ่อเอาปืนจ่อหัวแม่แล้วเหนี่ยวไกแต่สะบันปืนออกข้าง พ่อเตะแม่เลือดอาบ แม่เอามีดแทงพ่อเข้าไอซียู หรือ แม่เอาขวดตีหัวพ่อ เขวี้ยงจาน เขวี้ยงแก้วใส่กัน ก็เห็นมาและเจอมาหมดแล้ว เรื่องทุกอย่างมันไม่เคยดีขึ้น ยิ่งโตยิ่งแย่ ตั้งแต่พ่อเอาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน(บ้านเดียวกัน). ทำห้องให้ แม่ก็ยอมและเริ่มมีอาการของโรคซึมเศร้า ทุกๆอย่างในครอบครัวเริ่มแย่ เงินที่มีก็ค่อยๆหมด งานที่พ่อทำก็มีปัญหา สุดท้ายต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ต้องขายบ้าน ขายรถ ย้ายไปอยู่บ้านเช่า พ่อก็เลิกกับเมียน้อย แม่บอกเลิกพ่อ เซ็นใบหย่าและขายทุกอย่างที่มี(ของทุกอย่างในบ้าน) เรายอมรับว่าตอนนั้นอายุแค่ 18 ปี กำลังจะจบ ปวช.3 เราไม่เคยเรียนติดอะไร แต่สุดท้ายเราก็เรียนไม่จบ ตอนนั้นมันแค่รู้สึกไม่อยากทำอะไรไม่อยากพูดกับใคร เราคิดและก็อายเพื่อน จากปกติเคยใช้แต่มือถือแพงๆ ก็กลายเป็นไม่มีให้ใช้ จากได้ตังไปเรียนอาทิตย์ละ 1000 ก็เหลือวันละ 50-70 บาท บางวันก็ไม่ได้ตังไป เราไม่ได้ไปเที่ยวไม่ได้โดดเรียน แต่เรานอนอยู่บ้านจนโดนไล่ออก สุดท้ายมันก็ส่งผลมาถึงเราในปัจจุบันนี้ เพราะสุดท้ายแล้วแม่กับพ่อเราก็ไม่เลิกกัน กลับมาอยู่ด้วยกันอีก แต่ก็ยังทะเลาะกันเหมือนเดิมปัญหาเดิม พอเริ่มจะขึ้นมาได้ก็จบลงแบบเดิม คือ เลิกแล้วขายทุกอย่าง(แต่ไม่มีบ้านนะยังอยู่บ้านเช่า) ยิ่งร้ายแรง คือ พ่อเพิ่มจากเมื่อก่อนคือติดการพนันบอล คาสิโนออนไลน์ ตอนเราอายุ 19 ปี ตอนนั้นเราออกรถ 1 คันให้พ่อกับแม่(ใช้แค่ชื่อเราเพราะเรามีชื่อเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนุ)สุดท้ายรถก็ไม่มีตังผ่อน พ่อเลยเอารถไปจำนำ และบอกให้เราออกรถให้อีกคันนึง เดี๋ยวได้ตังแล้วจะไปเอาออก ตอนนั้นเราบอกว่า แค่คันนี้ยังไม่มีปัญญาผ่อนเลย แล้วจะเอาอีกคันจะมีปัญญาหรอ เราบอกเราไม่ใช้ชื่อออกให้ จนพ่อเราต้องให้แม่มาคุย แม่โทรมาด่าเรา ว่าเราอกตัญญู มีปัญญาเลี้ยงดูตัวเองหรอ เราก็เลยยอม เพราะยังไงเราก็คิดว่าเราเป็นลูกเขาคงไม่ยอมให้เราเสียหรอก เพราะเราเพิ่ง 20 ปีเอง(นี่ก็ใช้แค่ชื่อเรา เหตุผลเดิมแต่ครั้งนี้ชื่อเป็นชื่อเราเพราะเราอายุถึงแล้ว) สุดท้ายก็ไปไม่รอด สภาพตอนนั้นที่เราเห็นครอบครัวเรา คือ ไม่มีใครทำงาน เพราะทุกคนทำงานไม่เป็น แม่วันๆได้แต่นอน พ่อก็ขี้เมาเงินจะห้าบาทสิบบาทก็ไม่มี ยังดีที่ป้ายังช่วยเหลือให้ตังครั้งละ 500-1000 บาท มันทุกเรศตัวเองอย่างสุดหัวใจ สมเพศชีวิตครอบครัวตัวเอง ทุกอย่างไม่มีใครช่วยเหลือใครในครอบครัว ยังคงต่างคนต่างนิสัยเหมือนเดิม ทะเลาะกัน แต่ยิ่งจนมากเท่าไหร่ ทุกคนกลับยิ่งเห็นแก่ตัว จนเราทนไม่ไหวยอมทำลายชีวิตตัวเองเพื่อให้แม่ได้มีเงิน ยอมเสียและก็รู้ว่าตลอดชีวิตจะทำอะไรไม่ได้อีก เพราะตอนนั้นเราเองก็ไม่มีปัญญาที่จะทำอะไรได้ไปมากกว่านี้ แต่เราทนเห็นสภาพนี้ต่อไปไม่ได้ แต่สุดท้ายไม่ว่าเงินกี่แสนก็ไม่สามารถทำให้ครอบครัวเรากลับมามีเหมือนเดิม
ทุกวันนี้เราก็ยังต้องทนฟังเสียงนั้นอยู่ แม้แต่ตอนนี้ที่พิมพ์อยู่ หึ บ้านที่ตอนนี้ซื้อมาได้แล้ว ก็กำลังจะโดนยึด พ่อไม่มีงานทำ แม่ไม่ทำงาน น้องอายุ 20 เรียนไม่จบ ไม่ยอมทำงาน ส่วนเราทำงานอยู่คนเดียว เงินฐานเงินเดือน 12000 บาท เราไม่สามารถช่วยเหลือใครได้ เงินเข้าทางเดียวแต่ทุกคนในครอบครัวกลับเกลียดเรา เพราะเราชอบว่า และชอบด่าว่าพวกเขาไม่ยอมทำงาน เราทำงานคนเดียว เราเหนื่อย เราเลี้ยงทุกคนไม่ได้ ตอนนี้เราส่งจัวเองเรียนให้จบป.ตรี เพราะเราอยากมีอนาคต แต่เราจะไม่ไหวอยู่แล้ว ทุกคนคิดว่าเรามีตังในเงินเดือน 12000 บาท ทะเลาะกันทุกครั้งกับแม่ แม่ไล่ออกจากบ้าน แม่บอกเราไม่เคยให้แม่ เราเห็นแก่ตัว คิดว่าตัวเองทำงาน ชอบดูถูกน้อง น้องถึงมันไม่ทำงานแต่มันไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กู เราอยากรู้ว่าเราผิดใช่มั้ย? ที่ด่าที่ว่าให้น้องไปทำงาน วันนี้เมื่อกี้ พ่อกับแม่ทะเลาะกันแค่เพราะ เราลงไปกินข้าวที่เขาทำไว้ ทั้งๆที่เราไม่ค่อยได้กินข้าวบ้าน หรือแทบไม่ได้กินเลยด้วยซ้ำ เค้าทะเลาะกันเพราะเราไปกินของเขาที่เค้าทำไว้กินกัน 3 คน และมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เวลาเขาจะขอให้เราช่วยอะไรเขาจะพูดดีและเราก็ต้อฃช่วยทุกที เรายอมรับว่าเราปากไม่ดีนักหรอก แต่เราก็เหนื่อยก็น้อยใจรึป่าว ตอนเราอดเราไม่เคยบอกใครและทุกครั้งที่กินข้าวบ้านเพราะเราไม่มีตังแล้ว เงินที่เขาเป็นหนี้สินกับมี่บริษัทเรา เราก็ต้องรับผิดชอบ พี่ที่บริษัทถามเราก็บอกว่าพ่อให้มาแล้วแต่เราใช้หมด เราก็รู้ว่าพ่อกับแม่ไม่มีปัญญาจ่ายเราก็ยอมโดนหักตังทุกเดือน ค่าน้ำค่าไฟ เวลาแม่ขอ ค่าอะไรก็ตาม เราก็เบิกล่วงหน้ามาให้ และตอนนี้เราเรียน เราจ่ายเงินที่มีที่เก็บไปหมดแล้ว ค่าใช้จ่ายแต่ละวันก็เยอะ เวลาที่พวกเขาพูด ว่าเราต่างๆนาๆ เราท้อ เราเหนื่อย เราไม่อยากอยูาบนโลกนี้เลย พวกเขาไม่เคยช่วย ไม่เคยให้กำลังใจ มีแต่คอยเหยียบย่ำ จ้องแต่จะเอา เราเพิ่งรู้ว่าความเห็นแก่ตัวของคนเรามันร้ายกาจมากแค่ไหน เราไม่มีปัญญามากพอที่เรสจะทำให้แม่สบาย แต่เราก็พยายามทำอยู่ บาฃทีก็คิดอบากจะหนีออกไปเลยแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเรารักแม่มาก แต่เราไม่รู้ว่าแม่รักเราแค่ไหน ญาติพี่น้องทุกคนบอกเราให้ออกไปเพื่ออนาคนตัวเองเพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนพวกเขสได้แล้ว ออกไปทำอนาคตตัวเองให้ดีก่อนดีกว่า
เรามองไม่เห็นทางที่จะไปเลย มองไม่เห็นอนาคตตัวเองเลย