สวัสดีค่าา วันนี้ว่างจัดเกิดอารมณ์อยากสถาปนาตัวเองเป็นบล็อกเกอร์มารีวิวของดีๆกับเขาบ้าง เลยขอมารีวิวครีมที่เราเคยใช้ทุกตัว รวมถึงตัวใช้อยู่ด้วย มีทั้งแบบมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ครีม ฟลูอิด จะมีของอะไรบ้างไปดูกันเลยยยย!

ตัวที่จะมารีวิววันนี้ มีตามนี้เลยค่าา ใครกำลังสนๆตัวไหน วันนี้มาดูพร้อมๆกัน ^^

เวลาเลือกครีมเราจะเลือกที่เหมาะกับผิวค่ะ สภาพผิวหน้าเราจะมีรูขุมขนกว้าง ริ้วรอยยังไม่มี ส่วนตัวเวลาซื้อครีมบำรุง เราจะเน้น ครีมที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายกับที่ใช้แล้วเห็นผล คือเราเป็นคนหน้าบางค่ะเลยต้องหาซื้อครีมที่ใช้แล้วต้องไม่แพ้ เพราะนอกจากปัญหาหลักของเราจะเป็นคนผิวแพ้ง่ายมากๆๆ แล้วยังมีความแห้งเข้ามาอีก แก้ม จมูก นี่ลอกเป็นขุยเลย แถมยังทำงานหนัก นอนดึกบ่อยๆ
โอ้ยยยย มีอะไรดีบ้างเนี่ย เลือกครีมทั้งทีเลยconditionเยอะมากทั้งบำรุงด้วย ฟื้นฟูผิวไม่ให้โทรมด้วย เพลียค่ะ
ว่าแล้วก็เริ่มเลยดีกว่า ว่าแต่ละตัวใช้แล้วจะเป็นยังไงบ้าง ลุย!
Physiogel Soothing Care AI Cream
ตัวนี้เป็นตัวแรกที่เราเริ่มหาซื้อครีมบำรุงค่ะ เมื่อก่อนจัดได้ว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย ติดเล่นเน้นกิจกรรม แต่มาเจอวิกฤตตอนช่วงเริ่มทำงานค่าา เพราะงานของเราต้องออกไปข้างนอกบ่อยๆ เลี่ยงแดดไม่ได้เลย แล้วยังมีผื่นแดงๆขึ้นอีก ขนาดเราไม่ค่อยสนใจยังคิดหนักเลย เลยได้รู้จักกับตัวนี้ตัวแรกค่ะเพราะคนขายบอกว่าเหมาะกับผิวแห้งมากหรือผิวแพ้ง่าย แพ้อะไรมาตัวนี้เอาอยู่หมด เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยน
ช่วยป้องกันการระคายเคือง คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ เนื้อครีมสีขาวไม่มีกลิ่น เราใช้มาได้ 1 หลอด เรื่องรอยแดงที่เป็น ก็เอาอยู่จริงค่ะ ดูจางกว่าเดิมมาก และผิวที่เคยแห้งมากๆ ก็ดีขึ้น ขูดอะไรก็ไม่เป็นรอย ไม่เห็นชัดเท่าก่อนหน้านี้ ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หน้าดูชุ่มชื่นขึ้น แต่เรื่องขาวมั้ย ตัวนี้ไม่ได้ช่วยเรื่องขาวค่ะ หน้ายังไม่ไบรท์เท่าไหร่ ส่องกระจกละยังรู้สึกหน้ายังหมองๆอยู่บ้างแต่อาจจะต้องใช้หลายหลอดเผื่อจะเห็นผล
ซื้อจากWatson ปริมาณ 50 มล. ราคาประมาณ 1,120 กว่าบาท
เราให้คะแนน 9/10 ค่ะตัวนี้
La roche posay toleriane ultra light
ตอนแรกตั้งใจจะต่อฟิสิโอเจลต่อค่ะ แต่ช่วงนั้นหาซื้อต่อไม่ได้ เลยลองเปลี่ยนมาลองยี่ห้ออื่นบ้าง ซึ่งตัวต่อไปของเราก็คือ ลาโรช โพเซย์ นั่นเอง ตัวนี้เป็นแบบฟลูอิดคือ จะเข้มข้นแต่เหลวกว่าเนื้อครีมทั่วไป ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและบำรุงรอบดวงตาได้ แพ็กเกจเป็นขวดหัวปั้ม เนื้อครีมสีขาวมุก
เนื้อครีมบางๆ เกลี่ยง่าย ซึมเร็วดีค่ะ ใช้แล้วไม่แพ้ แต่ตัวนี้เราใช้ได้ไม่นานเพราะส่วนตัวไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ ให้ความชุ่มชื้นในระดับนึง แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับเรา รู้สึกหน้ายังแห้งเหมือนเดิม คิดว่าน่าจะเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า เราเลยส่งต่อให้น้องสาวใช้ค่ะ
เราซื้อจาก LAB Pharmacy ที่พารากอน ปริมาณ 40 ml. ราคา 864 บาท
คะแนน 7.5 / 10 ขอหักแพ็กเก็จนิดนึงค่ะ แอบกดยากไปนิด
Origins mega-mushroom skin relief soothing face cream
หลังจากส่งต่อลาโรชให้น้องใช้ไป เราก็ถึงเวลาหาครีมใหม่ค่ะ ตัวต่อไปของเราก็คือ ออริจินส์ เมก้า-มัชรูม สกินรีลีฟ ตัวนี้เลอค่ามากก แพงที่สุดตั้งแต่ใช้มา(พอดีช่วงนั้นแอบมีตัง เลยอยากลองของแพงบ้าง)แพ็กเกจเป็นกระปุกแบบฝาเปิดค่ะ เนื้อครีมเป็นสีขาวออกครีมๆ กลิ่นเห็ดๆ ^^ เนื้อครีมทาละหนักหน้า เหลือบมันนิดหน่อย แต่ก็จัดว่าเข้มข้นดีค่ะ
เหมาะกับคนหน้าแห้งมาก รู้สึกหน้าไม่แห้งเหมือนที่ผ่านมา จมูกที่เคยลอก ที่ชอบเป็นขุยๆก็หาย ใช้ไปสักพักหน้าดูใสขึ้นด้วย เรื่องผื่นแพ้ก็ช่วยได้นิดหน่อย ไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่เราใช้ไม่ทันหมดกระปุก เพราะมันข้นจนหนักหน้าเกินไปอาจจะเหมาะกับเมืองหนาว แต่เราเมืองร้อนขอผ่านค่ะ
เราซื้อจากเคาน์เตอร์ Origins (สาขาพารากอน)ค่ะ ปริมาณ 50 ml. ราคา 3,500 บาท
คะแนน 8.5/10 ก็รักนะคะ แต่ราคาแรงไปนิด น่าจะมีไซส์เล็กราคาย่อมเยาว์ ตอนนี้สู้ต่อไม่ไหวค่ะ TT
Sanzio advanced skin recharger
เริ่มหาครีมใช้ใหม่อีกครั้ง จนมาถึงคิวของ แซนซิโอ้ มีเพื่อนแนะนำว่า "ลองแล้ว เจ๋งดี ผิวแพ้ง่ายก้ใช้ได้" เลยไปสอยมา แพ็กเกจจิ้งเป็นแบบกระปุก ลักษณะฝาแบบล็อคหัวปั้ม ทำให้เนื้อครีมไม่หกง่าย กดแล้วครีมขึ้นมาตรงกลาง เนื้อครีมจะมีสีขาวขุ่นหน่อย ไม่ข้นไม่เหลวเกินไป เลยเกลี่ยง่าย ไม่ต้องบีบเยอะก็ทาได้ทั่วหน้า ใช้แล้วชอบนะ อย่างแรกคือไม่แพ้จริงอ่ะ ใช้ไปไม่ถึงอาทิตย์ก้เริ่มรุ้สึกละ สิวผดลดลง แล้วก็ช่วยเรื่องผิวแห้งด้วย จิงๆก็รู้สึกตั้งแต่วันสองวันแรกแล้วละ แต่ที่ชอบที่สุดคือ "หน้าไม่โทรม" (ที่บอกเป็นคนนอนดึกมว้ากกกกกกก ตื่นมาเจอหมีแพนด้าตลอด)
พอใช้แล้ว ไม่โทรม ไม่แพนด้า 1 กระปุกใช้ได้ เดือนกว่าๆ ยิ่งเวลาถ่ายรูปกับเพื่อนละหน้าผ่องมากกก ใช้กลางคืนก่อนไปออกงานได้สบายยเลยยย จุดด่างดำที่เคยเป็นสิวดูจางลง ใช้มาหลายตัวรู้สึกมาเห็นผลที่ตัวนี้ หน้าเนียนขึ้น แต่งหน้าง่ายกว่าเดิมมาก เอาใจไปเลย ชอบมากกก พรีเมี่ยมดี^^
ราคา(ซื้อตอนจัดโปร) 1,450 บาท ปริมาณ 15 กรัม พิกัดที่ Watsons ค่ะ
คุณภาพสมราคา อยู่กันยาวๆเลยค่าพอจ่ายได้ ขอให้ 9.5/10 ^^
ละนี่ก็เป็นครีมที่เราเคยใช้และใช้อยู่ค่ะ ในฐานะที่เคยเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง พอต้องมาดูแลมันจริงจัง รู้สึกแตกต่างกันจริงๆ ถ้าไม่เริ่มดูแลผิวสักที ป่านนี้คงแย่กว่านี้เยอะเลย (รู้สึกผิดกับตัวเองจริง555) เราว่าครีมแต่ละยี่ห้อช่วยบำรุงได้ดีหมด ขึ้นอยู่กับว่าจะสภาพผิวใครเหมาะกับตัวไหน
แนะนำว่าก่อนซื้อควรศึกษาแต่ละยี่ห้อกันก่อน การดูแลผิวก็เหมือนเป็นการให้อาหารผิว เลือกครีมดีก็เหมือนเลือกอาหารดีให้ผิว วันนี้บล็อกเกอร์จำเป็นขอจบรีวิวไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ไว้ว่างๆจะมารีวิวอย่างอื่นใหม่ บ๊ายบายค่าาา
รวมเด็ด skincare ที่เคยใช้... ผิวแห้งกร้านหน้าโทรมแค่ไหน ก็เอาอยู่!!!
ตัวที่จะมารีวิววันนี้ มีตามนี้เลยค่าา ใครกำลังสนๆตัวไหน วันนี้มาดูพร้อมๆกัน ^^
เวลาเลือกครีมเราจะเลือกที่เหมาะกับผิวค่ะ สภาพผิวหน้าเราจะมีรูขุมขนกว้าง ริ้วรอยยังไม่มี ส่วนตัวเวลาซื้อครีมบำรุง เราจะเน้น ครีมที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายกับที่ใช้แล้วเห็นผล คือเราเป็นคนหน้าบางค่ะเลยต้องหาซื้อครีมที่ใช้แล้วต้องไม่แพ้ เพราะนอกจากปัญหาหลักของเราจะเป็นคนผิวแพ้ง่ายมากๆๆ แล้วยังมีความแห้งเข้ามาอีก แก้ม จมูก นี่ลอกเป็นขุยเลย แถมยังทำงานหนัก นอนดึกบ่อยๆ
โอ้ยยยย มีอะไรดีบ้างเนี่ย เลือกครีมทั้งทีเลยconditionเยอะมากทั้งบำรุงด้วย ฟื้นฟูผิวไม่ให้โทรมด้วย เพลียค่ะ
ว่าแล้วก็เริ่มเลยดีกว่า ว่าแต่ละตัวใช้แล้วจะเป็นยังไงบ้าง ลุย!
Physiogel Soothing Care AI Cream
ตัวนี้เป็นตัวแรกที่เราเริ่มหาซื้อครีมบำรุงค่ะ เมื่อก่อนจัดได้ว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย ติดเล่นเน้นกิจกรรม แต่มาเจอวิกฤตตอนช่วงเริ่มทำงานค่าา เพราะงานของเราต้องออกไปข้างนอกบ่อยๆ เลี่ยงแดดไม่ได้เลย แล้วยังมีผื่นแดงๆขึ้นอีก ขนาดเราไม่ค่อยสนใจยังคิดหนักเลย เลยได้รู้จักกับตัวนี้ตัวแรกค่ะเพราะคนขายบอกว่าเหมาะกับผิวแห้งมากหรือผิวแพ้ง่าย แพ้อะไรมาตัวนี้เอาอยู่หมด เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยน
ช่วยป้องกันการระคายเคือง คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ เนื้อครีมสีขาวไม่มีกลิ่น เราใช้มาได้ 1 หลอด เรื่องรอยแดงที่เป็น ก็เอาอยู่จริงค่ะ ดูจางกว่าเดิมมาก และผิวที่เคยแห้งมากๆ ก็ดีขึ้น ขูดอะไรก็ไม่เป็นรอย ไม่เห็นชัดเท่าก่อนหน้านี้ ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หน้าดูชุ่มชื่นขึ้น แต่เรื่องขาวมั้ย ตัวนี้ไม่ได้ช่วยเรื่องขาวค่ะ หน้ายังไม่ไบรท์เท่าไหร่ ส่องกระจกละยังรู้สึกหน้ายังหมองๆอยู่บ้างแต่อาจจะต้องใช้หลายหลอดเผื่อจะเห็นผล
ซื้อจากWatson ปริมาณ 50 มล. ราคาประมาณ 1,120 กว่าบาท
เราให้คะแนน 9/10 ค่ะตัวนี้
La roche posay toleriane ultra light
ตอนแรกตั้งใจจะต่อฟิสิโอเจลต่อค่ะ แต่ช่วงนั้นหาซื้อต่อไม่ได้ เลยลองเปลี่ยนมาลองยี่ห้ออื่นบ้าง ซึ่งตัวต่อไปของเราก็คือ ลาโรช โพเซย์ นั่นเอง ตัวนี้เป็นแบบฟลูอิดคือ จะเข้มข้นแต่เหลวกว่าเนื้อครีมทั่วไป ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและบำรุงรอบดวงตาได้ แพ็กเกจเป็นขวดหัวปั้ม เนื้อครีมสีขาวมุก
เนื้อครีมบางๆ เกลี่ยง่าย ซึมเร็วดีค่ะ ใช้แล้วไม่แพ้ แต่ตัวนี้เราใช้ได้ไม่นานเพราะส่วนตัวไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ ให้ความชุ่มชื้นในระดับนึง แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับเรา รู้สึกหน้ายังแห้งเหมือนเดิม คิดว่าน่าจะเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า เราเลยส่งต่อให้น้องสาวใช้ค่ะ
เราซื้อจาก LAB Pharmacy ที่พารากอน ปริมาณ 40 ml. ราคา 864 บาท
คะแนน 7.5 / 10 ขอหักแพ็กเก็จนิดนึงค่ะ แอบกดยากไปนิด
Origins mega-mushroom skin relief soothing face cream
หลังจากส่งต่อลาโรชให้น้องใช้ไป เราก็ถึงเวลาหาครีมใหม่ค่ะ ตัวต่อไปของเราก็คือ ออริจินส์ เมก้า-มัชรูม สกินรีลีฟ ตัวนี้เลอค่ามากก แพงที่สุดตั้งแต่ใช้มา(พอดีช่วงนั้นแอบมีตัง เลยอยากลองของแพงบ้าง)แพ็กเกจเป็นกระปุกแบบฝาเปิดค่ะ เนื้อครีมเป็นสีขาวออกครีมๆ กลิ่นเห็ดๆ ^^ เนื้อครีมทาละหนักหน้า เหลือบมันนิดหน่อย แต่ก็จัดว่าเข้มข้นดีค่ะ
เหมาะกับคนหน้าแห้งมาก รู้สึกหน้าไม่แห้งเหมือนที่ผ่านมา จมูกที่เคยลอก ที่ชอบเป็นขุยๆก็หาย ใช้ไปสักพักหน้าดูใสขึ้นด้วย เรื่องผื่นแพ้ก็ช่วยได้นิดหน่อย ไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่เราใช้ไม่ทันหมดกระปุก เพราะมันข้นจนหนักหน้าเกินไปอาจจะเหมาะกับเมืองหนาว แต่เราเมืองร้อนขอผ่านค่ะ
เราซื้อจากเคาน์เตอร์ Origins (สาขาพารากอน)ค่ะ ปริมาณ 50 ml. ราคา 3,500 บาท
คะแนน 8.5/10 ก็รักนะคะ แต่ราคาแรงไปนิด น่าจะมีไซส์เล็กราคาย่อมเยาว์ ตอนนี้สู้ต่อไม่ไหวค่ะ TT
Sanzio advanced skin recharger
เริ่มหาครีมใช้ใหม่อีกครั้ง จนมาถึงคิวของ แซนซิโอ้ มีเพื่อนแนะนำว่า "ลองแล้ว เจ๋งดี ผิวแพ้ง่ายก้ใช้ได้" เลยไปสอยมา แพ็กเกจจิ้งเป็นแบบกระปุก ลักษณะฝาแบบล็อคหัวปั้ม ทำให้เนื้อครีมไม่หกง่าย กดแล้วครีมขึ้นมาตรงกลาง เนื้อครีมจะมีสีขาวขุ่นหน่อย ไม่ข้นไม่เหลวเกินไป เลยเกลี่ยง่าย ไม่ต้องบีบเยอะก็ทาได้ทั่วหน้า ใช้แล้วชอบนะ อย่างแรกคือไม่แพ้จริงอ่ะ ใช้ไปไม่ถึงอาทิตย์ก้เริ่มรุ้สึกละ สิวผดลดลง แล้วก็ช่วยเรื่องผิวแห้งด้วย จิงๆก็รู้สึกตั้งแต่วันสองวันแรกแล้วละ แต่ที่ชอบที่สุดคือ "หน้าไม่โทรม" (ที่บอกเป็นคนนอนดึกมว้ากกกกกกก ตื่นมาเจอหมีแพนด้าตลอด)
พอใช้แล้ว ไม่โทรม ไม่แพนด้า 1 กระปุกใช้ได้ เดือนกว่าๆ ยิ่งเวลาถ่ายรูปกับเพื่อนละหน้าผ่องมากกก ใช้กลางคืนก่อนไปออกงานได้สบายยเลยยย จุดด่างดำที่เคยเป็นสิวดูจางลง ใช้มาหลายตัวรู้สึกมาเห็นผลที่ตัวนี้ หน้าเนียนขึ้น แต่งหน้าง่ายกว่าเดิมมาก เอาใจไปเลย ชอบมากกก พรีเมี่ยมดี^^
ราคา(ซื้อตอนจัดโปร) 1,450 บาท ปริมาณ 15 กรัม พิกัดที่ Watsons ค่ะ
คุณภาพสมราคา อยู่กันยาวๆเลยค่าพอจ่ายได้ ขอให้ 9.5/10 ^^
ละนี่ก็เป็นครีมที่เราเคยใช้และใช้อยู่ค่ะ ในฐานะที่เคยเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง พอต้องมาดูแลมันจริงจัง รู้สึกแตกต่างกันจริงๆ ถ้าไม่เริ่มดูแลผิวสักที ป่านนี้คงแย่กว่านี้เยอะเลย (รู้สึกผิดกับตัวเองจริง555) เราว่าครีมแต่ละยี่ห้อช่วยบำรุงได้ดีหมด ขึ้นอยู่กับว่าจะสภาพผิวใครเหมาะกับตัวไหน
แนะนำว่าก่อนซื้อควรศึกษาแต่ละยี่ห้อกันก่อน การดูแลผิวก็เหมือนเป็นการให้อาหารผิว เลือกครีมดีก็เหมือนเลือกอาหารดีให้ผิว วันนี้บล็อกเกอร์จำเป็นขอจบรีวิวไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ไว้ว่างๆจะมารีวิวอย่างอื่นใหม่ บ๊ายบายค่าาา